Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
18 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
JinMae : ความหวังดีบทที่ 8

อรุณสวัสดิ์จิน อรุณสวัสดิ์คาเมะ” เสียงสดใสของยามะพีดังมาจากห้องครัว
ทั้งจินและคาเมะได้แต่ งง
รอยยิ้มที่สดใสตอนเช้าดูเหมือนจะหายไปทันตา
“กินอะไรกันก่อนสิ ฉันเตรียมไว้ให้แล้ว” พีพูดพร้อมกับเดินเอาอาหารขึ้นโต๊ะ
“เอ๊ะ เป็นอะไรหรอคาเมะ”เหมือนพีจะเพิ่งสังเกตเห็นว่าคาเมะนั่งเก้าอี้ที่จินเข็น
“พลิก นิดหน่อย”คาเมะยิ้มแห้งๆ

“กินอะไรก่อนแล้วกัน แล้วจะได้กินยา ทั้งสองคน” ยามะพีพูด
พร้อมกับเดินมาช่วยดันเก้าอี้แทนจิน
“วันนี้นายไปไม๊จิน” พีหันไปถามจินที่กำลังจะยกพิซซ่าเข้าปาก
“อือ” จิน ตอบ
“แล้วนายล่ะ เมะ .....” ไม่ทันที่เมะจะได้ตอบ
“ฉันว่านายหยุดสักวันดีกว่า จริงไม๊จิน” พีหันมาถามความเห็นจิน
จินมองหน้าเมะนิดนึงก่อนที่จะสนใจกับพิซ่าตามเดิม
“หน้ายังดูซีด ๆ อยู่เลย” ยามะพีบอกพร้อมกับลุกขึ้นเอื้อมมือไปลูบหน้าเมะ
จินเหลือบตามอง “นายก็เว่อร์ เมะเจ็บที่ขา ไม่ได้เป็นไข้ซะหน่อย”
จินทำหน้าเอือม ส่ายหัวเบา ๆ
“จริง ๆ นะ”ยามะพีลุกไปนั่งลงข้าง ๆ คาเมะ ก่อนที่
“นี่ไง จริง ๆ ตัว รุม ๆ ด้วย” ตอนนี้คาเมะทำปั้นหน้าไม่ถูก
เพราะสายตาของจินที่กำลังมองมา
ยามะพีเอาหน้าผากชนเบา ๆ ที่หน้าผากของคาเมะ มือสองข้างประคองหน้าไว้
“กินซะก่อน ดีกว่า เดี๋ยวจะเย็นหมด”
พีบรรจงเยาะพริกไทย เบา ๆ ลงบนอาหารที่อยู่ตรงหน้า
“ฮัด เช่ย ...ๆ ........ฮัด เช่ย ...ๆ”จมูกของคาเมะแดงขึ้น ๆ พร้มอกับเสียงจามถี่ ๆ
“นายทำบ้าอะไรของนาย”
จินฉวยเอาขวดพริกไทยออกจากมือพี พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“อุ๊ย ...ฉันลืม ว่า นายแพ้พริกไทย”
ยามะพี ส่งกระดาษมาซับจมูกของเมะที่แดงขึ้นเรื่อย ๆ
“ฮัด เช่ย ...ๆ ... ไม่เป็นไร ๆ ฉันทำเองดีกว่า”
เมะยังคงจามไม่หยุด น้ำหูน้ำตาไหล รับเอากระดาษจากยามะพี
“มือนาย เลอะพริกไทยรึเปล่า” จิน หันไปพูดกับยามะพีเสียงขุ่น
ก่อนที่จะยื่น กระดาษแผ่นใหม่ให้คาเมะ
“ก็ไม่นะ ใช่ไม๊เมะ” ยามะยกมือขึ้นมาดม ก่อนที่จะหันไปขอความเห็นกับคาเมะ

“พีฉันอยากได้น้ำส้ม” จินพูดเสียงเรียบ
“นายก็เดินไปเอาดิ อยู่ในตู้เย็นไง” ยามะหัวเราะ
“แต่ฉันแขนเจ็บ”น้ำเสียงจินไม่สบอารมณ์
“แหม แค่นี้ก็ต้องทำเสียงแบบนี้ โอเค เดี๋ยวไปหยิบให้ก็ได้”
ยามะพี่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะลุกไป
“เป็นยังไงบ้าง” จินถามคาเมะที่ก้มหน้าก้มตา
“ไม่ เป็น ไร” คาเมะส่ายหัวเบา ๆ มือยังคงใช้กระดาษซับน้ำตาและจมูกที่ยังไหลอยู่
“เงยหน้ามาดูหน่อย”จินเชยคางคาเมะขึ้นเบา ๆ
“เนี่ยนะที่ว่าไม่เป็นอะไร จมูกแดง ตาบวมอย่างนี้อะนะ” จินสบถอย่างหัวเสีย

จินเดินกลับเข้าไปเข้าไปที่ห้อง
ก่อนที่จะเดินออกมาพรอ้มกับผ้าขนหนูชุบน้ำหมาด ๆ
เห็นสภาพจินตอนนี้ไม่บอกก็รู้ว่า กว่าผ้าจะหมาด จินคงลำบากหน้าดู
“ อะ”จินยื่นผ้าให้คาเมะ
“แหม ถ้าฉันเป็นบ้างนายจะทำขนาดนี้ไม๊นะ ดูสิตัวเปียกหมด”
ยามะฉวยผ้าจากมือจินมาให้คาเมะ ก่อนที่จะเข้าไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดให้จิน
หากคาเมะหายตัวไปจากตรงได้ก็คงดี
ภาพที่ยามะพีไล้มือไปตามหน้า คอ จนถึงแผงอกของจิน
แล้วบรรจงใช้ผ้าขนหนูซับให้อย่างเบามือ
“เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำดีกว่า” จินจับมือยามะพีให้หยุด
ก่อนที่จะเดินกลับเข้าห้องไปอีกครั้ง
“เดี๋ยวฉันช่วยแล้วกัน” ยามะพีเดินตามหลังไป
เหลือเพียงคาเมะที่มองตาม สองคนเดินลับไป

บรรยากาศภายนอกเงียบสนิท
แต่บรรยากาศในห้องเป็นอย่างไร คาเมะไม่สามารถรู้ได้
ประตูห้องนอนเปิดออกอีกครั้ง
คาเมะสะบัดหัวเล็กน้อยเรียกสติที่ดูเหมือนจะล่องลอยไปไกลให้กลับมาอีกครั้ง
“เดี๋ยวนายนอนพักนะ ฉันกับจินจะไปละ ตอนเที่ยงอยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวฉันจะเข้ามา”
ยามะพีผละจากจินมาประคองคาเมะ
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวยูก็มารับแล้ว” คาเมะบอกอย่างเกรงใจ
“ไปกันเถอะ” จินบอกแล้วเดินนำออกไป
“เมะแล้วนายจะนอนตรงไหน เดี๋ยวฉันพานายไป”
“ไม่เป็นไร หรอก เดี๋ยวนั่งที่โซฟานี้ก็ได้” ยามะพีประคองคาเมะไปยังโซฟา

“ อยากได้อะไรเพิ่มมั้ย เดี๋ยวฉันหยิบมาวางไว้ให้” ยามะถาม
หลังจากที่เก็บจานชามไปกองไว้ในครัว
“ไม่เป็นไร ขอบใจ” คาเมะตอบเสียงเบา ๆ ทำท่าว่าจะล้มตัวลงนอน
“โอเค งั้นฉันไปนะ… หลับให้สบายนะ” ยามะพี หันมาบอก ด้วยรอยยิ้ม

“จิน เป็นอะไรไป” ยามะพี ถามคนข้าง ๆด้วยอารมณ์ขุ่น ๆ ตลอดทางจินไม่พูดไม่จา
“เปล่า” น้ำเสียงของจินราวกับจะบอกให้รู้ว่า ไม่ต้องการให้เซ้าซี้
“งั้นเย็นนี้ฉันมารับนะ” น้ำเสียงยะมาพี ดูสดใส
ต่างกับจินที่ตอนนี้ดูเหมือนใจไม่อยู่กับตัว
“จิน”
“จิน!!!” เสียงเรียกของยามะพีดังจนทำให้จินสะดุ้ง
“ว่าไง”
“ถึงแล้ว ตกลงเย็นนี้ฉันมารับนะ”ยามะบอกจินก่อนที่จะเคลื่อนรถออกไป

จินตรงไปยังตู้โทรศัพท์ กดหมายเลขปลายทางอย่างรวดเร็ว
“รับสิ รับ ทำไมไม่รับนะ”จินพึมพำอย่างร้อนรน
ก่อนที่จะกระแทกหูโทรศัพท์อย่างแรง แล้ววิ่งมาที่ถนน
“แท็กซี่” รถออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับไฟที่กำลังลุกในใจของจิน

กลุ่มคนที่มุงกันอยู่ตรงหน้า
ทำให้จินร้อนใจถลาลงมาจากแท็กซี่อย่างรวดเร็ว
เสียงคนที่พูดคุยกันและกลิ่นแก๊สจาง ๆ ที่ยังคงอบอวลอยู่
ทำเอาใจของจินเต้นระส่ำ
แต่แล้วเหมือนทุกอย่างรอบข้างหยุดไปชั่วขณะ
เมื่อจินได้เห็นภาพนที่คุ้นตานอนไม่ได้สติ
พร้อมกับเครื่องช่วยหายใจกำลังถูกเข็นขึ้นรถพยาบาล
“คาเมะ” เสียงจินครางชื่อคาเมะเบา ๆ พร้อมกับถลาเข้าไป
แต่แล้วหมัดหนัก ๆ ก็กระแทกเข้าที่หน้าของจินอย่างแรงจนล้มลง
“พอกันที” เสียงของยูดังและหนักแน่น
พอ ๆ กับกำปั้นที่ฟาดลงที่หน้าของจิน

ที่หน้าห้องฉุกเฉิน
หมัดหนัก ๆ ของยูกระแทกมาที่หน้าของจินนับครั้งไม่ถ้วน พร้อมกับเสียงของยู
“นายทำอะไร ทำไมไม่ดูแลเมะ แย่ ห่วยแตก บัดซบ
ดูซิ ดู มันเป็นเพราะนาย เพราะนาย เสียแรง เสียแรงจริง ๆ”

ไม่มีเสียงใดๆ จากจิน
อาการสงบนิ่งหมือนไม่มีชีวิตของจินยิ่งทำให้ยูมีน้ำโหมากขึ้น
“ ออกไปจากชีวิตคาเมะซะ อย่ามายุ่งกับคาเมะอีก พอกันที”
แต่ดูเหมือนจินจะไม่ได้สนใจกับคำพูดของยูเพราะประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก
“คาเมะ เป็นยังไงบ้างครับ”ยูเสียงสั่น รอฟังคำตอบ
ปลอดภัยดีครับ แต่คงต้องให้พักที่นี่ซัก สอง สามวัน เพื่อดูบาดแผลที่ศรีษะ
ถ้าไม่มีอะไรก็คงกลับบ้านได้" คำตอบของแพทย์ทำเอายูผ่อนลมหายใจ และคลายกังวล
อย่างเห็นได้ชัด ต่างกับจิน
รถเข็นค่อยๆ เคลื่อนผ่านหน้าจินไป โ
ดยที่ยูอยู่ข้าง ๆไม่ห่าง จินได้แต่มองก่อนที่จะหันหลังออกไป

“ปล่อย นายจะทำอะไรฉันเจ็บ” ยามะพีร้องเสียงหลง
จินบีบข้อมือของยามะอย่างแรง ลากให้เดินตามมา
“ฉันควรจะถามนายมากกว่า” จินตะคอก
“ถามฉัน ฉันทำไร” ยามะยักไหล่ ทำหน้างง
“นายเอาอะไรให้คาเมะกินเมื่อเช้า” จินพยายามข่มอารมณ์
“ก็ นายก็เห็น” ยามะตอบ
“แล้วที่ฉันไม่เห็น” จินพยายามข่มอารมณ์
“อะไรของนาย” ยามะพีตัดบท จะเดินหนี
“จะไปไหน ฉันเคยเตือนนายแล้วใช่ไม๊ ว่าอย่ายุ่งกับคาเมะ”
“แต่ฉันก็เคยเตือนนายแล้วไม่ใช่หรอจิน” ยามะพีหันมาหาจิน ด้วยแววตาเย็นชา
“นายไม่ฟังฉันเองนะ” ยามะพี เดินจากไป
“โธ่เว้ย”เสียงจินสบถ ตามด้วยเสียงจากหมัดของจินที่กระแทกเข้ากับกำแพง
รอยเลือดซึมติดผนัง
ยามะมองหยัน ๆ ตามด้วยเสียงหัวเราะที่ค่อย ๆห่างออกไป


มือของจินที่พันด้วยผ้าพันแผล ค่อย ๆ ไล้ไปตามใบหน้าของคาเมะที่กำลังหลับเบา ๆ
ราว กับว่าถ้าสัมผัสแรงกว่านี้คาเมะจะตื่น
“ ฉันขอโทษ” เป็นอีกครั้งแล้วที่จินพูดคำนี้
เหมือนคาเมะจะรับรู้ได้ คาเมะลืมตาขึ้นช้า ๆ
“ หิวไม๊” จินถามอย่างห่วงใย คาเมะส่ายหน้าช้าๆ
“ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ไม่มีเสียงตอบจากคาเมะ
มีเพียงสายตาที่มีน้ำตาคลอในแววตาคู่นั้น
“ปวดหัวหรอ”จินถามอย่างร้อนรน
เมื่อเห็นน้ำตาคลอ ๆ คาเมะส่ายหน้าช้า ๆ อีกครั้ง
จินลูบผมที่ปรกหน้าคาเมะออกเบา ๆ
ตามด้วยริมฝีปากที่อ่อนโยนประทับลงบนหน้าผาก
“พักผ่อนเยอะ ๆ นะ” น้ำเสียงของจินเต็มไปด้วยความอาทร
“นายไปทำอะไรมา จิน” คาเมะจับมือจินเบา ๆ ด้วยความห่วงใยไม่แพ้กัน
“ ...”จินไม่ตอบ “พักผ่อนซะ”
“นายไปทำอะไรมา จิน” คาเมะยังคงคาดคั้นเอาคำตอบ
แต่ดูเหมือนคาเมะจะถูกหลืนหายไปลำคอ เพราะจิน
จินถอนริมฝีปากออกช้า ๆ ก่อนพูดเบาราวกับกระซิบ
“นอนซะ หรืออยากจะโดนอีก” คาเมะหลับตาลงช้า ๆ
แววตาอาทรของจินเมื่อครู่เปลี่ยนไปทันที

“นายมาที่นี่อีกทำไม” ยูถามอย่างฉุนเฉียว เมื่อเห็นจินอยู่ในห้อง
“ไปคุยข้างนอกดีกว่า”จินเดินนำออกไป

“ฉันถามว่านายมาทำไมที่นี่อีก”ยูเสียงดัง
เมื่อออกมาพ้อจากห้องของคาเมะ ไม่มีเสียงตอบจากจิน
“ฉันถามไม่ได้ยินหรอไง นายยังทำให้เมะเจ็บไม่พอรึไง”
ยูจับไหล่จินให้หัหน้ามาคุยกัน
“ทำไม เจ็บตัว เจ็บใจ เกือบตายยังไม่พอ
หรือว่าต้องให้ตายไปเลย ถึงจะพอใจ” ยูกระชากคอเสื้อจินอย่างโมโห
“ฉัน....” จินพูดได้แค่นั้น
“ฉันอะไร ฉันไม่รู้ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันขอโทษ นายมัน...... โธ่เว้ย”
ยูระเบิดอารมณ์อย่างแรง ยกหมัดขึ้นสูง
แต่แล้วก็ผลักจินออกอย่างแรง จนจินล้มลง
“ปล่อยคาเมะไปเถอะ เค้าทำทุกอย่างเพื่อนายมา
จินนิ่งราวกับต้องการทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา
“ชีวิตของคาเมะกำลังไปได้ดี ถ้าไม่มีนาย เค้าคงได้ทำอะไรอย่างที่เค้าฝัน”
“ ฝันที่จะได้เป็นนักเต้น ที่ดีกว่าการเต้นเคียงข้างกับนักร้องห่วย ๆ อย่างนาย”
ยูนิ่งไปสักพักก่อนที่จะพูดต่ออย่างยากเย็น
“ ทั้งที่จริง ๆ คาเมะไปได้ไกลกว่านั้น แต่คาเมะยอมทิ้งทุกอย่างทั้งที่มีสิทธิ์จะไปได้ไกล ไกล ถึงระดับที่เรียกได้ว่าคนอย่างนายเองนึกไม่ถึง” สายตาของจินจินเงยหน้าขึ้น
เหมือนอยากให้น้ำตาที่กำลังจะไหล ย้อนกลับคืนไปเหมือนเดิม
“จะมีการแข่งขันในเดือนหน้า คาเมะฝันว่าจะได้เข้าแข่งขันครั้งนี้
ฉันหวังว่านายคงจะทำอะไรเพื่อคาเมะบ้าง” ยูหันหลังเดินจากไป
“ฉันขอแค่อีกครั้งเดียว” เสียงของจิน แหบพร่า
ยูหันมามองเล็กน้อยก่อนที่จะเปิดประตูห้องลับไป

บทสนทนาเมื่อครู่ มันคงดีหากมีเพียงแค่ คนสองคนเท่านั้นที่รู้

“พักนี้มีแต่เรื่องร้าย ๆ จินแขนเจ็บ ส่วนนายก็ ขาเจ็บ
ล่าสุดนายเกือบตายเพราะแก๊สรั่ว ฉันว่าออกจากโรงพยาบาลคราวน
ี้เราไปเที่ยวไปเปลี่ยนบรยากาศดีกว่า เผื่อจะมีอะไรดี ๆ บ้าง โอเคไม๊”
ยามะพีถาม มือปลอกลูกแพร์ส่งให้คาเมะ
“อืม ขอบคุณนะ”
“แต่ว่า ...” ยามะพูดได้แค่นั้นก็หยุดไป
“หืม มีอะไรหรือเปล่า” ทำไมคาเมะจะไม่เห็น สีหน้าของยามะที่ดูไม่สดใสเหมือนเคย
“ไม่รู้ว่าจินจะไปหรือเปล่าสิ” เสียงยามะพีดูเหมือนกังวล
“ ถ้านายชวน ทำไมจินจะไม่ไป” แววตาคนพูดหม่นลง
แต่คนฟัง ดูเหมือนจะเกร็งจนมีดบาดลึกจนเลือดแดงไหลอาบลูกแพร์ในมือ
“พี เลือดไหลใหญ่แล้ว ยามะพี” คาเมะคว้ากระดาษซับเลือดแดงสดที่ไหลออกมาเรื่อย ๆ
“ ไม่เป็นไร ๆ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ยามะพีปัดมือคาเมะออก ยิ้มเย็น จนคาเมะใจหาย

ตั้งแต่วันนั้นที่จินออกไปกับยู คาเมะก็ไม่ได้เห็นจินอีกเลย
เกิดอะไรขึ้นกับจินนะ ไหนจะยามะพี แล้วก็
“ไง คาเมะ” เสียงของยูดังมาตั้งแต่ประตูเปิด
“ อย่างที่เห็น” คาเมะยิ้มรับ
“ หน้าตาแบบนี้ งั้นพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วสิ” ยูโยกหัวคาเมะเบา ๆ
“อยากจะกลับใจจะขาด อยู่โรงพยาบาลเบื่อจะแย่” คาเมะบ่นกระปอดกระแปด
“งั้นฉันว่าอยู่ต่ออีกสักอาทิตย์ ดีกว่า อยากเห็นนายขาดใจ” ยูหัวเราะ
“ยู ถามหมอให้หน่อยนะ ว่าฉันจะกลับบ้านได้เมื่อไร
ฉันไม่เป็นอะไรแล้วอยากกลับบ้าน นะยูนะ” คาเมะอ้อน โยกแขนยูไปมา
“โอเค ๆ แต่ว่า .....”ยูชี้ไปที่แก้มอย่างมีเจ้าเล่ห์
คาเมะส่ายหน้า
ยูเลื่อนปลายนิ้วจากผมมาเป็นหน้าผาก
คาเมะส่ายหน้าแรงว่าเดิม
“จะทำไม่ทำ” ยูเสียงแข็งก่อนค่อยๆ ลากปลายนิ้วจากหน้าผากผ่านหว่างคิ้ว
มาที่ปลายจมูก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปลายนิ้วจะไปหยุดที่ตรงไหน
“โอเค ๆ” คาเมะทำตามคำขอแรก
ประทับริมฝีปากลงตามคำขอแรกของยู แล้วผละออกอย่างรวดเร็ว
“อะไรอะ นายทำอะไร” ยูแหย่ ก็นะ.... สัมผัสเมื่อครู่เร็วจนแทบไม่รู้สึก
“ยู” คาเมะเสียงดัง
“โอเค ๆ ฉันถามแล้วหมอบอกว่าพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้ แล้วอาทิตย์หน้าให้มาเช็คอาการที่ขาอีกที”
“แล้วไมนายไม่บอก แต่แรก” คาเมะเริ่มโวยวายเมื่อรู้ว่าเสียท่า
“อ้าว” ยูทำหน้าเหวอ ล้อเลียน
“ว่าแต่ขานายยังเจ็บไม๊” ยูถามพร้อมกับเลิกผ้าห่มออกให้เห็นปลายเท้า
“ก็จะแปลบ ๆ เวลาที่เดินนาน ๆ” คาเมะตอบสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก” ยูปรับเสียงให้ร่าเริงเหมือนปกติ
“นายจะเก็บของเลยไม๊ ฉันจะได้ช่วย”
“อืม ก็ดีนะ” คาเมะขยับตัวมานั่งห้อยเท้าเล่นที่ปลายเตียง
“คิดอะไรอยู่หรอคาเมะ” ยูถามเห็นคาเมะเงียบไป
“เปล่า” คำตอบดูจะขัดกับสภาพที่เป็น
“ได้เจอจินบ้างรึเปล่า” ยูถามมือก็เก็บเสื้อผ้าออกจากตู้
มีเพียงเสียงผ่อนลมหายใจช้า ๆ เท่านั้นที่เป็นคำตอบ
“ฉันว่าออกจากโรงพยาบาลคราวนี้เราไปเที่ยวไปเปลี่ยนบรยากาศดีกว่า”
คาเมะเลิกคิ้ว คำพูดนี้เหมือนเพิ่งจะได้ยิน
“เอาสิ ชวนยามะพีไปด้วยนะ เมื่อวานพีก็พูด ๆ อยู่เหมือนกัน”
คาเมะพับผ้าลงใส่กระเป๋าไม่เห็นอาการผิดปกติของยู




Create Date : 18 พฤษภาคม 2551
Last Update : 18 พฤษภาคม 2551 1:50:39 น. 0 comments
Counter : 214 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

salanare
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add salanare's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.