No matter what,I'll be with you... No matter how, i will be loving you...
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2548
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
9 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
ถักฟ้าทอฝัน




บทที่ 1
ดวงอาทิตย์กลมโตกำลังจะลาลับขอบฟ้าก่อให้เกิดสีแดงอมส้มทาทาบท้องฟ้าในยามเย็น ช่วงที่เป็นเวลารอยต่อระหว่างกลางวันและกลางคืน บรรยากาศแบบนี้ทำให้อารมณ์เหงาเศร้าเอ่อขึ้นมา ฐานิตยืนมองท้องฟ้าจากระเบียงคอนโดหรูย่านใจกลางกรุง ถนนข้างล่างยังจอแจไปด้วยรถราและผู้คนมากมายที่ต่างก็รีบเร่งด้วยจุดประสงค์ต่างกัน ความจอแจเหล่านั้นไม่ได้ช่วยบรรเทาความว้าเหว่ที่ก่อขึ้นกลางใจของชายหนุ่มได้เลย
ใครจะคิดว่าดาราหนุ่มอนาคตไกลที่มีผู้คนแวดล้อมมากมายเขากลับไม่สามารถมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่เลยแม้แต่น้อย ข่าวของเขาเป็นข่าวที่ ‘ขายได้’ มีคนให้ความสนใจมากมายโดยเฉพาะข่าวคาวที่คนจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกับเป็นมหกรรมบันเทิงอะไรสักอย่างหนึ่งโดยไม่มีใครคิดที่จะวิเคราะห์หาความจริงจากในข่าว หนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่งนอนสงบอยู่บนโต๊ะกระจกกลางห้อง ที่หน้าปกของหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นมีรูปของชายหนุ่มกำลังโอบประคองเด็กสาวในชุดนิสิตเข้าไปนั่งในรถยนต์ใบหน้าของฝ่ายหญิงมองเห็นไม่ถนัดเพราะเขาไปนั่งในรถแล้วแต่ฝ่ายชายยังอยู่ภายนอกรถมองเห็นหน้าถนัดถนี่ สายตาที่ทอดมองไปยังเด็กสาวผู้นั้นแสดงความห่วงหาอย่างชัดแจ้ง ภาพภาพหนึ่งอาจแทนคำพูดได้เป็นพันคำแต่ในอีกทางหนึ่งสิ่งที่แสดงออกมาจากภาพหนึ่งภาพอาจบิดเบือนไปจากความจริงคนชนิดดำเป็นขาวเลยก็ได้ คำบรรยายใต้ภาพเขียนว่า ‘สาวปริศนากับพระเอกหนุ่มที่หน้าคอนโดหรูใจกลางกรุงในตอนเช้าตรู่’ ตัวอักษรเป็นพรืดใต้ภาพนั้นส่อให้ผู้อ่านคิดไปในแง่ลบ ชายหนุ่มในภาพคือคนคนเดียวกับผู้ที่ยืนอยู่ที่ริมระเบียบคอนโด ชายหนุ่มยังจารจำคำพูดของเจ้าของสถานีที่เรียกเขาไปสอบความซึ่งความจริงคือการตักเตือนนั่นเอง

‘เต้นี่มันคืออะไรผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับเต้’ เจ้าของสถานีหญิงวัยล่วงเข้ากลางคนแต่ยังดูสาวและสวยจัดเอ่ยถามเสียงเรียบทำให้ผู้จัดการส่วนตัวของเขาซึ่งนั่งอยู่ในห้องนั้นด้วยถึงกับเหงื่อซึม
‘เป็นน้องสาวของเพื่อนครับ แต่ไม่ได้เป็นแฟนของผมครับ’ น้ำเสียงที่เอ่ยมาราบเรียบราวกับผู้พูดกำลังอยู่ในภาวะเหนื่อยอ่อนที่สุด
แล้วหลังจากการถามคำถามมากมายซึ่งชายหนุ่มปฏิเสธซะเป็นส่วนมากก็มาถึงช่วงของการตักเตือน
‘เต้เป็นพระเอกที่ประชาชนกำลังให้ความสนใจมากทำอะไรต้องระวังตัวบ้าง อย่าให้มีข่าวทำนองนี้ออกมาอีกนะ’ เขาได้แต่พยักหน้าเบาๆอย่างเบื่อหน่าย

เสียงกริ่งดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ที่ระเบียงเป็นเวลานานเดินออกไปเปิดประตู มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยามข้างล่างอนุญาติให้ขึ้นมาถึงห้องของเขาได้ คอนโดนี้มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากซึ่งก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตคนเมืองกรุง
หญิงสาวที่ยืนกระสับกระส่ายอยู่ที่หน้าประตูเงยหน้าขึ้นทันทีที่เขาเปิดประตูออกไป น้ำตาที่ปริ่มอยู่หน่วยตากลมโตจวนเจียนจะหยดเต็มทีไหลลงมาพร้อมเสียงสะอื้นไห้ทันทีที่เห็นหน้าชายหนุ่ม
“พี่เต้ เขาไม่ยอมรับรู้ เขาไม่สนใจแอ้เลยค่ะ”
“เขาบอกว่าเด็กในท้องไม่ได้เป็นลูกของเขา เขาบอกว่าเขามีอะไรกับแอ้แค่ครั้งเดียวเอง” หญิงสาวสะอื้นไปก็เล่าไปน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเต็มที เล็บมือจิกลงบนแขนของชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว เจ้าตัวคงประสบกับภาวะกดดันอย่างหนัก
หลังจากอภิรดีร้องไห้จนตัวโยนและหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน ฐานิตเองก็นั่งนิ่งเงียบอยู่ข้างโซฟาตัวยาวที่หญิงสาวนอนอยู่ สมองของเขาใช้ความคิดอย่างหนัก เขาควรจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดี วิธีไหนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้กันแน่ เขาแอบรักอภิรดีมานานข้อนี้เขาแน่ใจกับตัวเองมานานนักหนาแล้วตั้งแต่สมัย 3 ปีที่เขาและ ธีรเดชใช้ชีวิตนักเรียนอยู่ที่อเมริกา ในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนอภิรดีก็ไปเรียนภาษาที่นั่น เธอเป็นคนขี้อาย เรียบร้อย เอาใจเก่ง เดี๋ยวก็พี่เต้คะ พี่อ้นขาทั้งวัน จึงไม่ยากเลยที่จะทำให้เขารู้สึกเอื้อเอ็นดูจนเกิดเป็นความรักซึมลึกอยู่จนถึงทุกวันนี้ แม้แต่ธีรเดชยังชอบเก็บเรื่องนี้มาแซวไม่หยุดปาก
‘ฉันรักแอ้มากเพราะเราเหลือกันแค่สองคน แต่ฉันรู้ว่าแกก็จะสามารถดูแลแอ้ได้ดีเท่าๆกับฉัน อีกอย่างแอ้ก็โตมากแล้วไม่ใช่เด็กๆที่ชั้นต้องห้ามเรื่องความรักอีกต่อไป’
แม้พี่ชายของอภิรดีจะเปิดช่องให้ขนาดนี้แล้วแต่เขาก็ยังไม่เคยเดินก้าวข้ามกำแพงแห่งมิตรภาพและหยุดตัวเองไว้แค่เพียงพี่ชายที่ดีเท่านั้น ในตอนนั้นเขาไม่อยากให้เด็กสาวต้องกังวลใจกับเรื่องอื่นใดนอกจากเรื่องเรียน จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอเดินมาบอกเขาว่าเธอมีคนรักแล้วด้วยใบหน้าชื่นบาน เขาจึงได้แต่เฝ้าดูแลเธออย่างห่างๆทั้งอยากอยู่ให้ห่างเพื่อรักษาแผลใจและไม่อยากก้าวก่ายกับเรื่องส่วนตัวของเธอเพราะแอ้ก็โตและบรรลุนิติภาวะแล้วความคิดความอ่านมีมากพอสมควรแต่เขาลืมนึกไปว่าเธอยังอ่อนประสบการณ์ต่อโลกใบนี้มากนัก จนเกิดเรื่องนี้ขึ้น ผู้ชายคนนั้นไม่ยอมรับผิดชอบลูกในท้องของเธอ แค่ท้องในวัยเรียนก็เป็นปัญหามากพออยู่แล้วแต่นี่ผู้ชายคนนั้นยังมาปฏิเสธความรับผิดชอบ ปัดความผิดให้พ้นตัวเหมือนตัวเองไม่ได้เป็นผู้ก่อ
นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มตรงพอดีพร้อมๆกับเปลือกตาบวมช้ำของหญิงสาวค่อยๆลืมขึ้น
“หิวไหม”
“ไม่ค่ะ พี่เต้คะ...เรื่องข่าวที่ลงทำให้พี่มีปัญหาหรือเปล่า”
“ไม่มีหรอก สบายใจเถอะนะ” เขาได้แต่ลูบหัวปลอบใจเธอเบาๆ
“แอ้จะบอกอ้นไหม เรื่องที่แอ้กำลังจะมีเด็กนี่” หญิงสาวสะดุ้ง ยื่นมือมาเกาะแขนเขาเอ่ยเสียงสั่นทีเดียวเมื่อบอกว่า
“ไม่ค่ะ อย่าเพิ่งบอกนะคะ แอ้กลัวพี่อ้นจะกลุ้มใจจนทิ้งงานกลับมา แอ้ไม่อยากทำให้พี่อ้นเดือดร้อนอีกแล้ว”
“แต่พี่ว่าบอกเถอะ พี่จะเป็นพ่อของลูกแอ้ให้เอง นะครับ” นี่เป็นความปรารถนาในใจของเขามานานแล้วที่จะได้ดูแลผู้หญิงที่เขารักถึงแม้ว่าจะเกิดเนื่องจากเธอไม่มีทางไปก็เถอะและเขาก็คิดว่าพี่ชายของเธอคงไม่ขัดข้องนอกจากจะขุ่นมัวที่น้องสาวท้องก่อนเรียนจบซึ่งเขาคิดว่าไม่มีปัญหาอภิรดีอยู่ปี 4 แล้วและก็เหลืออีกเพียงแค่สองเดือนก็จะเรียนจบ แต่สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดคือสภาพจิตใจของหญิงสาวเท่านั้นใบหน้าที่เคยสดใสตอนนี้กลับเหมือนดอกไม้ที่โดนเด็ดจากกิ่งแล้ววางทิ้งไว้ตามยถากรรม
“แอ้ไม่กล้ารบกวนพี่มากขนาดนั้นหรอกค่ะ...”อภิรดีพูดไม่ทันจบฐานิตก็จับมือหญิงสาว
“พี่รักแอ้..สำหรับแอ้ไม่มีอะไรที่เรียกว่ารบกวนเลยนะครับ” น่าเสียดายที่เธอรับรู้แค่ว่าชายหนุ่มรักเธอเพียงแค่แบบน้องสาวและพี่ชายเท่านั้น ความผิดหวังที่เพิ่งพ้นไปทำให้เธอหมดศรัทธากับความรักไปเสียแล้ว

หลังจากวันนั้นมาฐานิตก็คอยรับส่งอภิรดีไปกลับมหาลัยทุกวัน บางวันก็พาไปเดินเล่นให้หญิงสาวผ่อนคลายสบายใจเพราะช่วงนี้หญิงสาวมีอารมณ์แปรปรวน เศร้าหมองบ่อยๆสาเหตุก็เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง อีกหน้าที่ที่สำคัญก็คือพาไปหาหมดตามที่หมอนัด วันนี้ก็เช่นกันที่หมอนัดให้ไปตรวจครรภ์ ในระหว่างที่นั่งรอตรวจหญิงสาวเห็นชายหญิงคู่หนึ่งเดินจูงมือหยอกล้อผ่านหน้าไปมันคงไม่น่าแปลกอะไรถ้าหากผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนที่จารจำในหัวใจของเธอเสมอมา ผู้ชายคนที่ควรนั่งอยู่ตรงนี้แทนที่ฐานิต ถึงแม้ว่าเขาจะร้ายกับเธอมากแค่ไหน ยิ่งเธออยากลืมเขาเท่าไรก็ดูเหมือนกับว่ามันจะยิ่งสลักแน่นในหัวใจเธอเข้าไปทุกที น้ำตาใสๆไหลรินออกมาเงียบๆ
“ขี้แยจังเลย ...คนท้องนี่อารมณ์แปรปรวนนะ อยู่ดีๆร้องไห้ก็ได้ด้วย” ฐานิตเอ่ยล้อยิ้มๆ แววตาเขามีประกายยั่วเย้า
“พี่เต้นี่มาล้อแอ้เล่นอยู่ได้” หญิงสาวพูดเสียงงอนๆ พยายามปกปิดรอยเศร้าหมองในดวงตาอย่างยากเย็น
“ลูกดูแม่สิครับ ขี้แยจังเลยนะ” เสียงหัวเราะสอดประสานแผ่วเบาดังขึ้น ชายหนุ่มแตะที่หน้าท้องซึ่งนูนยื่นออกมาเล็กน้อย
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังหยอกล้อกันไม่ทันได้สังเกตว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านหลังและกำลังเดินออกไปหามุมเหมาะๆในการแอบถ่ายรูปของทั้งสองอยู่ กระหยิ่มว่าข้อมูลที่แอบได้ยินคงทำให้กลายเป็นข่าวใหญ่ได้แน่ๆ เมื่อได้ภาพจนจุใจแล้วก็เก็บกล้อง Canon 350 D ตัวเองลงกระเป๋าเป๋ Lowepro ใบโปรด
เขารู้สึกว่ามีคนมองตามตลอดเวลาจึงเงยหน้ามองไปทางที่หญิงสาวแปลกหน้ายืนอยู่ มองมาทางเขาอย่างสนใจ แววตาตื่นๆคู่นั้นสบตาเขามีแววสงสัยอยู่เต็มดวงตากลมโต ฐานิตคิดพียงว่าเจ้าหล่อนคงสนใจที่เขาเป็นดาราชาย หนุ่มละความสนใจจากหญิงสาวผู้นั้นเมื่อถึงคิวของอภิรดีที่ต้องเข้าไปหาคุณหมอ



Create Date : 09 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2548 20:01:07 น. 11 comments
Counter : 385 Pageviews.

 
ตอนต่อไปจะเป็นยังไงจ๊ะ


โดย: bee^bee IP: 125.24.1.34 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:55:21 น.  

 
สู้ สู้


โดย: bee^bee IP: 125.24.1.34 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:57:04 น.  

 
บรรยายเรื่องใช้ได้เลยนะเนี่ย ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะคะ จะรอติดตามตอนต่อไปนะ รีบๆเขียนหล่ะรออ่านอยู่นะคะ สู้ๆนะ จะเป็นกำลังใจให้เขียนเสร็จเร็วๆนะ เพราะอยากอ่านตอนต่อไปแล้ว


โดย: ~Am~ IP: 58.8.249.215 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:10:16 น.  

 

สนุกมากเลยค่ะ อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆ จังเลย เมื่อไหร่จะได้อ่านคะเนี่ย อย่าให้รอนานนะคะ


โดย: kannika_oo IP: 58.8.249.215 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:28:01 น.  

 
ขอบคุณนะคะที่แวะไปให้กำลังใจ
เขียนเรื่องเก่งจังค่ะ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ


โดย: Petit Patty วันที่: 10 พฤศจิกายน 2548 เวลา:7:53:51 น.  

 
มาอ่านแล้วน๊า ใช้คำได้ดี แต่บางทีอาจดูจะใช้มากไปหน่อย แต่โดยรวมโอเช ใช้ได้ พยายามเข้านะจ๊ะ......
งั้นไปทำงานต่อละน้า แล้วจะมาอ่านตอนต่อไปนะ แล้วเจอกัน ////เพื่อนแกเอง อ่านชื่อแล้วรู้ยัง เหอเหอ


โดย: Moonlight Bay IP: 161.246.1.33 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:38:58 น.  

 
ตัวหนังสือติดกันไปหน่อยอ่ะ
อ่านลำบาก.......
ส่วนเรื่องก็โอเคนะ....
พยายามเข้านะ


โดย: yusaku63 IP: 158.108.53.162 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:12:22 น.  

 
สนุกดี ชอบ เนื้อเรื่องดำเนินแบบเดาไม่ออกว่าจะเป็นยังไงต่อไป แต่เห็นด้วยกับที่ว่าใช้คำ และประโยคบรรยายมากเกินไปในบ้างช่วง โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ทำให้อ่านไม่ต่อเนื่อง อ่านแล้วงงต้องย้อนกลับไปตั้งใจอ่านใหม่ว่าก่อนหน้านี้คืออะไร แต่โดยรวมแล้วถือว่าดีเลย ชอบ อยากอ่านต่อ ตั้งใจแต่งต่อไปเด้อ ............. สู้ สู้ สู้ ตาย ^ _ ^

ป.ล. ชั้นมาเม้นให้แกแล้วนะ แกคงรู้นะว่าฉันเป็นใคร


โดย: mae mae' IP: 58.9.142.199 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2548 เวลา:3:00:13 น.  

 
คนอื่นพอเดาได้ว่ะ แต่ moonligth bay นี่มันใครฟะ

ขอบใจทุกเม้น จะ edit อีกครั้ง (แล้วพวกแกนั่นแหละเป็นคนมาอ่าน)


โดย: salami girl (salami girl ) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:04:08 น.  

 
อืม หนุกดีนะ เนื้อเรื่องใช้ได้ทีเดียว

น่าติดตาม ว่าแล้วก็อ่านต่อ อิอิ


โดย: Pae IP: 58.9.30.44 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:00:40 น.  

 
เข้ามาอ่านแล้วนะ เขียนได้ดีนะเนี่ย นับถือๆ แล้วจะแอบมาอ่านอีกนะจ๊ะ บาย


โดย: Numpueng IP: 125.24.8.85 วันที่: 29 มีนาคม 2549 เวลา:17:19:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

salami girl
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add salami girl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.