วันเสาร์ฝนตกปรอยๆ เกือบทั้งวัน ฟ้ามืดครื้ม ไม่ได้ออกไปไหนกันเลย เด็กเบื่อๆ
ผู้ใหญ่ก็ด้วย พอวันอาทิตย์(ที่ 8 กันยายน)อากาศดีเลยต้องพาเด็กออกไปปลด
ปล่อยพลังนอกบ้าน เรามาอยู่เซี่ยงไฮ้ได้เกือบจะสองเดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้พา
ลูกไปเที่ยว the Bund กะ หอไข่มุกตะวันออก หรือ Oriental Pearl Tower สอง
สถานที่ท่องเที่ยวที่ใครมาเซี่ยงไฮ้ต้องไปดู ไปชม (Shanghais Must-See) คราว
นี้ได้โอกาสเลยไปกัน
เราไปถึง the Bund ช่วงสายๆ ประมาณสิบโมง เลือกมาช่วงเช้าเพราะว่า คนน่าจะ
ยังไม่เยอะ อากาศก็ยังน่าจะยังไม่ร้อนมาก ไปกะเด็กเล็กสามคนค่ะเลยต้องดู
สภาพอากาศกันนิดนึง ถ้าไปแล้วเด็กเจออากาศร้อนมาก งอแง เดินไม่ไหว แผน
ล่ม เสียเที่ยว ต้องกลับบ้านกันกลางครันแน่ๆ เที่ยวกับเด็กต้องดูหลายปัจจัย
ทั้งอารมณ์+อาการของเด็ก และสภาพอากาศอากาศในวันนั้นๆ ด้วย -_-''
แถ่น แถ่น แถ๊น ในที่สุดเราก็มาถึง the Bund (ประวัติความเป็นมา ไม่ขอเล่านะ
คะ ยังไงหาอ่านกันได้ใน Wikipedia ค่ะ) พื้นที่ที่เรายืนอยู่ ตรงนี้เรียกว่า the
Bund ซึ่ง the Bund จะเป็นพื้นที่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ Huangpu ความยาว
เกือบๆ 2 กิโลเมตร ส่วนวิวด้านหลังที่เห็น นั่นคือ ฝั่ง Pudong new area จะเป็น
ฝั่งเมืองใหม่ของเซี่ยงไฮ้ และที่เห็นเป็นลูกบอลกลมๆ 3 ลูก ต่อกัน ตรงนั้นคือ
หอไข่มุกตะวันออก (Oriental Pearl tower) ที่เรากำลังจะไปขึ้นกันวันนี้ด้วย
สามเด็กสนใจกันใหญ่ เห็นน้ำเยอะๆ อยากโดดลงไปเล่นน้ำล่ะสิ
สี่คนพ่อ-ลูก กะแบ็คกราวด์หอไข่มุกตะวันออก
เราเดินในไดเรคชั่นที่หันหลังให้ดวงอาทิตย์ จะได้ไม่ร้อนมาก ถ่ายภาพก็ไม่ย้อน
แสงด้วย ^_^ และที่เห็นเป็นซุ้มสีส้มๆ นี่คือ ซุ้มรับถ่ายภาพนะคะ ใครลืมเอา
กล้องมาสามารถใช้บริการพี่ๆ ช่างภาพเหล่านี้ได้
ลืมบอกไปว่า เสน่ห์ของ the Bund จะอยู่ที่สถาปัตยากรรมของตึกที่ตั้งเรียงราย
กันอยู่ทางด้านหลัง(ตลอดความยาวของถนน Zhongshan) อย่างที่เห็นกันในภาพ
ส่วนนี่เป็นตึกธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank) อาจจะมองไม่เห็นชื่อธนาคารนะ
คะเพราะย่อรูปลงมาเล็ก แต่จะเห็นเป็นรูปครุฑและมีธงชาติไทยปลิวไสวอยู่บน
ตึกด้วย
เอ้า ฮุ่ย เล่ ฮุ่ย ถึงร้อนแค่ไหนเราก็บ่ยั่น ^-^
ตึก Shanghai Customs House
ระหว่างที่เราเดินกันไปเรื่อยๆ ก็จะมีคนมอง เดินไปทางไหนคนก็มอง ม๊อง มอง
ไม่รู้จะมองทำไมกันนักกันหนา มันแปลกตรงไหนอ่าที่เรามีลูกสาม ใครๆ ก็มีได้
นะลูกสามเนี่ย !
แวะซื้อน้ำแป๊บนึง เริ่มไม่ไหวแล้ว ทั้งร้อน ทั้งกระหาย
วิวหอไข่มุกฯ สวยๆ อีกซักรูป
เอ้า นี่อีกรูปนึง วิวฝั่งผู่ตงตรงช่วงโค้งน้ำ สวยเน๊อะ
น้องวัยรุ่นกลุ่มนี้เข้ามาขอถ่ายรูปกะพอลล่า แต่พอลล่าไม่ชอบเข้ากล้อง(ของคน
แปลกหน้า) ถ้าไม่ใช่แม่ถ่าย นางจะไม่ยอม เกาะขาปะป๊าเป็นปลิงเลย ดูสิ ฮ่าๆๆ
เลยบอกน้องเค้าไปว่า มา เดี๋ยวพี่ถ่ายให้ ไม่งั้นเด็กจะไม่ยอม ^-^
ถ่ายเสร็จก็มีน้องหนูคนเสื้อลาย ใส่หมวก (เห็นเดินตามเรามาได้พักนึงแล้ว) เข้า
มาขอถ่ายรูปด้วย แม่น้องบอกว่า น้องเค้าชอบนีลส์ อยากถ่ายรูปกับนีลส์ ^-^
เอ่า คราวนี้รุมถ่ายกันใหญ่ หลวมตัวหยุดให้ถ่าย(รูป)ไปแล้ว ไปต่อลำบากล่ะค่ะ -_-''
กว่าจะออกมาจากตรงนั้นได้ 10 นาที เด็กหัวเปียกซกไปตามๆ กัน แดดแรงมาก
ค่ะ อุณหภูมิ 30 ต้นๆ เองนะ แต่ร้อนเหมือน 40 องศา กางร่มเดินกันเป็นทิวแถว
ตึก AIA (American International Assurance)
เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอ Chen Yi square ซึ่งอยู่ตรงแยกถนน Zhongshan ตัดกับ
ถนน Nanjing East และที่เห็นเป็นตึกสีน้ำตาลๆ หลังคาสีเขียว อันนี้คือ Peace
Hotel ค่ะ
รูปปั้นบรอนซ์ของท่านเชง ยี่ (Chen Yi) นายกเทศมนตรีคนแรกของมหานครเซี่ยงไฮ้
ตรงนี้เป็นโซนที่นั่งไว้มานั่งดูไฟสวยๆ ฝั่งผู่ตงยามค่ำคืน
เด็กนั่งหลบแดด ไม่รู้จะเอ็นดู รึจะสงสารดี ! ^-^
ขอเปลี่ยนจากเป็นตากล้องมาเป็นนางแบบมั่ง .. เวลาออกทริปที่ไหนก็แล้วแต่
รูปพ่อ-ลูก มีกันเป็นร้อย แต่รูปตัวเอง ไม่เคยเกิน 10 รูป ชีวิตนี่ช่างอนาถานัก
อยากเป็นนางแบบแต่ไม่มีวาสนาได้เป็น เป็นได้แค่ตากล้องเดินตามพ่อ-ลูก -_-''
ถ่ายย้อนแสงนิดนึง อยากให้เห็นความยาวของ the Bund ริมฝั่งแม่น้ำ Huangpu
ผู้คนหนีมาหลบร้อนกันตามต้นใต้ต้นไม้ ครอบครัวเราก็เป็นหนึ่งในนั้น ฮ่าๆๆ
Shanghai Tourist Information & Service Center ศูนย์ให้บริการข้อมูลแก่
นักท่องเที่ยว จะอยู่ตรงด้านล่างของลานที่นั่งสำหรับดูไฟสวยๆ ยามค่ำคืน (ย้อน
กลับไปดูรูปด้านบน) ถ้าเราเดินเข้าไปข้างในแล้วเลี้ยวขวาก็จะไปสู่ the Bund
Sightseeing Tunnel อุโมงค์ที่จะข้ามไปยังฝั่งผู่ตงเพื่อดูวิวสวยๆ ของ the Bund
ระหว่างที่ให้เด็กๆ นั่งพักเหนื่อยใต้ต้นไม้ แม่ก็ทำหน้าที่ตากล้องต่อไป เดินไปเก็บ
ภาพโน่น นั่น นี่ ตามประสาคนชอบถ่ายรูป ^_^
รถบัสชมเมือง สีสันสดใส
แล้วก็ไม่ลืมไปยิบแผ่นพับข้อมูลต่างๆ มาด้วยปึกใหญ่
พักเหนื่อยเรียบร้อยเราก็ออกเดินกันต่อ ลงไปใต้อุโมงค์จะข้ามไปฝั่งผู่ตง
ค่าบริการ ขาเดียว 50 หยวน, สองขา ไป-กลับ 70 หยวน (ราคาผู้ใหญ่/คน)
เรานั่งรถแคปซูล (ไม่รู้เค้าเรียกกันยังไงนะคะ แต่เราเรียกแบบนี้) ลอดใต้แม่น้ำ
Huangpu ภายในอุโมงค์จะเปิดไฟพร้อมมีเสียงดนตรีบรรเลงเหมือนการแสดง
แสง สี เสียง ตลอดความยาวของอุโมงค์ สามเด็กเห็นไฟกระพริบๆ ตื่นเต้นมาก ^_^
ถึงแล้วฝั่งผู่ตง
หอไข่มุกฯ ตั้งตระหง่าน แบ็คกราวด์เป็นฟ้าใสๆ สวยเน๊อะ
แวะซื้อตั๋วก่อนขึ้นชมวิวบนหอไข่มุกฯ เราซื้อตั๋วไป Sightseeing floor ที่ระดับความ
สูง 263 เมตร (บอลลูกที่สอง) ราคา(ผู้ใหญ่) 160 หยวน
ตรงฐานของหอไข่มุกฯ จะมีการปูหญ้า(ปลอม)เขียวๆ ไว้ด้วย เดาว่า น่าจะเอาไว้
ช่วยลดอุณหภมิของพื้นซีเมนต์เวลาคลายความร้อน ช่วยลดแสงสะท้อนเข้าตา
ด้วยนะ
ยืนต่อแถวรอขึ้นลิฟท์ตัวแรก
ต่อแถวยาวเพื่อที่จะไปขึ้นลิฟท์ซึ่งอยู่ภายใน tube เขียวๆ ด้านหน้านั่นน่ะค่ะ
เมื่อไหร่จะได้ขึ้นอ่ะแม่ หนูรอนานแล้วน๊า
ใครมีหน้าที่เข็นลูกก็เข็นไปนะ อิอิ
เข้าไปในลิฟท์ตัวแรก จะมีเจ้าหน้าที่คนสวยคอยบริการในลิฟท์ กล่าวคำทักทาย
สองภาษา จีน-อังกฤษ พร้อมบอกว่า ลิฟท์ตัวแรกจะขึ้นไปถึงแค่ระดับความสูง 90
เมตร (บอลลูกแรก) จากนั้นเราต้องไปเปลี่ยนขึ้นลิฟท์ตัวที่ 2 เพื่อขึ้นไปยัง
Sightseeing Floor
เยสสสส ในที่สุดเราก็มาถึงชั้นชมวิวเมืองเซี่ยงไฮ้
อากาศเป็นใจ ฟ้าโปร่ง วิวสวยมากกกกกกก วิวข้างล่าง คือ the Bund ที่เราเพิ่ง
ข้ามมาเมื่อกี้
เห็นลิบๆ ไกลๆ ตึกคู่สองตึก Grand Gateway 66 ตรงนั้น Xujiahui บ้านเราเลย
เด็กอยากดูวิวผ่านกล้องส่องทางไกล (ไม่ฟรีนะคะ ต้องเสียตังค์ ครั้งละ 1 หยวน
ถ้าจำไม่ผิด)
ขอเดี่ยวๆ มั่งกับแบ็คกราวด์พ้อยท์ไปทาง Xujiahui บ้านเรา
ปล. แดดเซี่ยงไฮ้จะแรงไปไหน ชั้นดำจนเขียวไปหมดแล้วเนี่ย -_-''
สี่พ่อ-ลูกก็ขอด้วย .. แต่ เอ่อ ทำไมสองคนพี่ไม่มองกล้องค๊า?!
ร้านขายของที่ระลึก
วิวอีกมุมนึง
จับปูใส่กระด้งชัดๆ -_-''
มุมบนซ้ายของภาพ ตึกที่ด้านบนเหมือนที่เปิดขวด อันนั้นคือ ตึก Shanghai World
Financial Center ถัดมาจะเห็นเป็นยอดแหลมๆ นั่นคือ ตึกจินเหมา หรือ Jin Mao
Tower
วงเวียนใหญ่ของ Lujiazui
เดินมาอีกนิดนึงก็จะเห็นวิวอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ Huangpu
โดนขอถ่ายรูปอีกแล้ว น้องผู้ชายอยากถ่ายรูปกับนีลส์ ลูกแม่ ป๊อปปูลาร์นะวันนี้ ^-^
จากเมื่อกี้ Sightseeing Floor ที่ 263 เมตร เราเดินลงบันไดมาที่ระดับ 259 เมตร
(ยังอยู่ในบอลลูกที่ 2) เพื่อขึ้นลิฟท์กลับสู่ด้านล่างแต่ก่อนกลับขอแวะถ่ายรูปบน
skywalk ซึ่งพื้นจะโปร่งใสมองเห็นวิวด้านล่าง
ลงถึงด้านล่างของหอไข่มุกฯ รวมระยะเวลาที่เดินมาสามชั่วโมงกว่าๆ บ่ายโมงครึ่ง
แล้วยังไม่มีอะไรตกถึงท้องกันเลย หิว หิว หิว
บนพื้นมีลูกศรบอกด้วยว่า อีกกี่เมตรจะถึงทางออก
กว่าจะได้ออกจริงๆ ก็ต้องเดินผ่านโซนร้านขายของที่ระลึก ให้เสียตังค์ก่อนกลับ
ว่างั้นเถอะ
ออกมาข้างนอกแล้ว กระโดดโลดเต้นกันเชียว
กระโดดขึ้น กระโดดลง เตะๆ ถีบๆ พลังงานยังไม่หมดอีกเหรอลูก แม่พาเดินไม่รู้
ตั้งเท่าไหร่ แม่ยังเหนื่อยขาลากเลยเนี่ย -_-''
วงเวียนใหญ่ที่เราเห็นจากบนหอไข่มุกฯ เมื่อกี้ ลงมาดูใกล้ๆ ด้านล่างก็สวยดีนะ
จักรยานจอดเรียงรายบนฟุตบาท สมเป็นเมืองแห่งจักรยานจริงๆ
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง ห้าคน พ่อ-แม่-ลูก ตอนนี้ต่างคนต่างหิวโซ แทบไม่มีแรง
จะเดินต่อ ว่าจะไปหาอะไรกินกันก่อนกลับบ้านตรงสถานีรถบัส Lujiazui แต่ร้าน
ไหนก็เต็มไม่มีที่ว่างเลย ตัดสินใจโบกแท็กซี่กลับบ้านดีกว่า ทนหิวไปกินที่บ้าน
ก็ล่าย ไม่ง้อหรอก ชิ ชิส์
บนแท็กซี่ ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว หมดแรง เด็กหลับสลบกันเลยทีเดียว ^_^
เป็นลูกแม่กับปะป๊าต้องอดทน การเดินทางของเรายังอีกยาวไกล ลูก .. ^_^
คงเหนื่อยสุดๆ
ดีใจได้เห็นรายอะเอียดเด่นของเมืองเซียงไฮ๊ก็ครั้งนี้ค่ะ
แต่จุด the Bund นี้ ต้องลุยไปให้ได้นะน้องไผ่
อย่างน้อยก็สักครั้งนึงล่ะน่าประทับใจมากๆ วิวๆๆ ตึกราม กว้างใหญ่
มองลงมาแอบหวาดเสียวอ่ะ สูงเกิน เด็กๆก็ช่างกล้าหาญมาก
ท่าทางอากาศจะร้อนสุดๆเลยน่ะคะ ดูน้องแบร๊ทหลบแดด
น่าสงสารจังลูก