การศึกษา,แคลคูลัส,ข้อสอบทั่วไป,อย่างเก่งภาษาอังกฤษ,การเขียนโปรแกรมภาษาซีเบื้องต้น,เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์,แวดวงอินเทอร์เน็ต เรื่องน่ารู้,วิทยาศาสตร์น่ารู้,ประวัติศาสตร์น่ารู้,การใช้ชีวิตให้มีความสุข ,ความรัก คืออะไร?,เรื่องขำขำ,เกร็ดความรู้,การถ่ายภาพ,สิ่งแวดล้อม, คุณธรรมจริยธรรม,มาคุยกันเรื่องธรรมะ,จิตวิทยา,นิยาย เรื่องสั้น,เรื่องลี้ลับ,เทคนิคการเล่นกีฬา,สุขภาพ,อาการของโรคภัยไข้เจ็บ,ข่าวสารกีฬา,Sex สุขภาพ,สมุนไพรเพื่อสุขภาพ,ผู้หญิง ความงาม,การลดความอ้วน,ครอบครัว แม่และเด็ก,บ้านและสวน,การใช้รถรักษารถ,เคล็ดลับการใช้โทรศัพท์,อาหารของญี่ปุ่น,ขนมและอารหาร,รวมสูตรการทำแยมผลไม้,สูตรการทำแซนวิชที่อร่อย,เคล็ดลับการทำสลัด,เคล็ดลับในครัว,ผลไม้,ผัก แปรรูป,โภชนาการ,นานาสาระ,อภิสิทธิ์แสงแพง
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
เจริญสติ ฝึกสมาธิด้วยการเคลื่อนไหว



“ความทุกข์” ถือได้ว่าเป็นแก่นสำคัญในพระพุทธศาสนา เพราะทุกคนไม่อยากเป็นทุกข์จึงพยายามหาทางหลีกเลี่ยงให้ได้
แต่รูปแบบของความทุกข์ที่มาโจมตีเราก็มีอยู่หลายแบบด้วยกัน
แทบไม่น่าเชื่อว่า “ความคิด” ก็เป็นความทุกข์ด้วยเหมือนกันเพราะทำให้จิตใจไร้ความสงบ



คุณอัญชลี ไทยานนท์ สตรีดีเด่นวันสตรีสากล ในสาขาพระพุทธศาสนาปีล่าสุด ก็เคยประสบกับความทุกข์เพราะความคิดมาก่อน
วันนี้ เธอขจัดความทุกข์นั้นทิ้งไปได้แล้ว ก่อนที่จะมาหยิบจับปากกาแต่งหนังสือเรื่องการเจริญสติแบบเคลื่อนไหวตามแนวหลวงพ่อเทียน โดยแต่งร่วมกับคุณทวีวัฒน์

จะว่าไปแล้ว แรกเริ่มเดิมที คุณอัญชลีก็ไม่ได้มีความสนใจในด้านพุทธศาสนาอย่างจริงจังด้วยซ้ำ จนได้มาอ่านหนังสือของหลวงพ่อเทียนที่พูดเรื่องสติ
“หลวงพ่อท่านบอกว่า คนที่ทุกข์นี่ มักทุกข์เพราะความคิด เพราะฉะนั้นเราต้องจัดการกับความคิดให้ได้เพราะตัวความคิดนี่ทำให้ทุกข์จริงๆ คนส่วนมากจะไม่ทราบ”

ด้วยความเป็นคนคิดมากอยู่แล้ว เธอถึงกับสารภาพว่า ไม่สามารถแก้ไขได้เลย ถ้ากลุ้มใจเกี่ยวกับเรื่องความคิด ซึ่งหลวงพ่อเทียนบอกไว้ว่า
มีอยู่ 2 อย่างคือ ความคิดที่ตั้งใจคิดกับความคิดฟุ้งซ่าน ซึ่งเธอก็มีความคิดทั้ง 2 อย่าง
จึงต้องกลุ้มใจต่อไป ไม่มีทางออก ไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่า “ธรรมะ” จะทำให้หยุดคิดได้



“ความจริงแล้วพระพุทธเจ้าสอนเรื่องทุกข์ เพราะว่าท่านตรัสรู้อริยสัจ 4 ตอนที่เห็นหนังสือของหลวงพ่อเทียน ท่านก็พูดเรื่องนี้พอดี
เลยคิดว่า นี่แหละ คือ หัวใจของคำสอนของพุทธศาสนา เมื่ออ่านแล้วเห็นด้วยทุกอย่างว่า
ถ้าหากเราปฏิบัติ เราเข้าใจว่า อะไรคือทุกข์ นั่นแหละ คือ สิ่งที่พระพุทธเจ้าต้องการสอน” คุณอัญชลีว่า

สำหรับหลายๆ คนที่ไม่รู้จักหลวงพ่อเทียน ผมจะเล่าเรื่องราวของท่านประกอบคร่าวๆ นะครับ หลวงพ่อเทียนเป็นภิกษุที่แสวงหาทางพ้นทุกข์
โดยท่านศึกษาหาอาจารย์มาหลายสิบปี แต่ก็ไม่เคยแสวงหาพบ จนอยู่มาวันหนึ่ง ท่านคิดถึงหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ทรงสอนเรื่อง “สติปฐาน” ขึ้นมาได้



สติปัฏฐาน คือ ความมี ความรู้สึกตัว เมื่อท่านคิดถึงคำสอนตรงนี้ ก็เลยลองนั่งพลิกมือดู ทำเข้าๆ ท่านเกิดมีสมาธิขึ้นมา แล้วก็เกิดปัญญา
มีความรู้สึกตัว (หรือมีสตินั่นเอง) อย่างต่อเนื่อง สาระสำคัญตรงนี้ คือ ถ้าเรามีความรู้สึกตัวอย่างต่อเนื่องว่า
กายทำอะไร เคลื่อนไหวก็รู้สึก ไม่มีการกำหนด นั่นคือ เรามีสติแล้ว

ฟังดูเหมือนเข้าใจยากใช่ไหมครับ? แต่ถ้าลองฝึกตามหลักหลวงพ่อเทียนที่คุณอัญชลีจะมาสาธิตให้ดูก็อาจจะเข้าใจได้มากขึ้น
“ยกตัวอย่างเช่น วางมือที่เข่า พลิกมือขวาขึ้นให้มีความรู้สึกตัว ยกแขนขึ้น
ให้มีความรู้สึกตัวตามไปกับที่เราเคลื่อนไหว จากนั้นก็เอาแขนมาไว้ที่ท้อง เคลื่อนมา หยุด เรารู้สึกว่ามันหยุด

จากนั้นก็พลิกมือซ้ายขึ้น ให้รู้สึกตัวว่าเคลื่อนไหว แต่ไม่ใช่รู้สึกตัวว่าพลิกนะคะ ยกแขนซ้ายขึ้น เอาแขนซ้ายมาประกบที่แขนขวา หยุดก็รู้สึก
แล้วก็เคลื่อนแขนขวาขึ้นมาที่หน้าอก ให้รู้สึก เอาแขนขวาไปแนบลำตัว รู้สึกในการเอาแขนออกไป หยุดก็ให้รู้สึก เอาแขนขวาลง
รู้สึกในการลงมา หยุดแล้วคว่ำ รู้สึกในการเคลื่อนไหวนะคะ เคลื่อนออกไป รู้สึกแล้วก็หยุด เคลื่อนแขนซ้ายลงมา คว่ำลง แล้วหยุดก็จบ” คุณอัญชลีสาธิต

นี่ถือได้ว่า เป็นท่าเบสิคสำหรับคนเริ่มต้นปฏิบัติใหม่ๆ หลวงพ่อกำหนดท่านี้ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ฝึกได้เปลี่ยนอิริยาบทบ่อยๆ
เพราะในชีวิตประจำวันคนเราต้องเปลี่ยนท่าบ่อยๆ กันอยู่แล้ว
ทำไปเรื่อยๆ ถ้าจะให้ดี คุณอัญชลีแนะนำว่า ควรทำเป็นชั่วโมงๆ จะช่วยในเรื่องของสติและสมาธิได้

“เมื่อมีความรู้สึกตัวก็เรียกว่าเรามีสติ ถ้าเรามีสติ เราคิดว่าเราจะเจริญสติให้มากขึ้น เจริญคือทำให้มาก
ถ้าเจริญสติมากขึ้น ๆ คุณก็จะเป็นสมาธิ ไม่ใช่คุณบอกว่าไปนั่งสมาธิ แต่เป็นการเจริญสติให้มากขึ้น ๆ จนได้ที่ของมันเพราะเราต้องทำต่อเนื่อง
การเจริญสติ ทำความรู้สึกตัวต้องทำอย่างต่อเนื่องให้เหมือนลูกโซ่ค่ะ” คุณอัญชลีแนะ

ระยะเวลาที่คุณอัญชลีปฏิบัตินั้นเป็นเวลามากว่า 20 ปีแล้ว แน่นอน...คนในครอบครัวก็เหมือนกับต้องปฏิบัติไปด้วย
ไม่เว้นแม้กระทั่งลูกสาวที่มีอายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น ซึ่งก็น่าสนใจว่าเด็กเล็กๆ จะฝึกเจริญสติได้อย่างไร คุณอัญชลีเล่าให้ฟังว่า

“เค้ากำลังนั่งดูทีวีตาโตอยู่นี่ เราก็บอกเค้าว่า พลิกมือสิลูก ให้รู้สึกตัว อีกข้าง ให้รู้สึกตัว เราก็กำกับเค้าไป ตาเค้าก็ดูทีวี
เค้าไม่ได้ถามนะว่าอะไร เหมือนพระเตมีย์ใบ้ ตาโตเชียว ก็นั่งอยู่บนเตียง ทีวีอยู่ปลายเตียง เค้าก็นั่งพลิก
เราก็กำกับให้เค้าทำ แต่เด็ก 9 ขวบนี่คะ ไม่มีความคิดฟุ้งซ่าน ความรู้สึกตัวเค้าก็ต่อเนื่องๆ มาเรื่อยๆ”

เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ลูกสาววัย 9 ขวบของเธอก็เป็นสมาธิจนได้ แล้วก็เป็นได้เองด้วย คือ
ถ้าความรู้สึกตัวและสติต่อเนื่องหรือเต็มที่เมื่อไหร่ สมาธิก็จะเกิดขึ้นได้เอง โดยไม่ต้องไปสร้างมัน
สำหรับมนุษย์เราแล้วคงไม่มีงานอะไรสำคัญเท่าการปลดปล่อยตัวเองจากความทุกข์

“ช่วงที่เราปฏิบัตินี่ เมื่อสมาธิเกิดแล้วเต็มที่เมื่อไหร่ ปัญญาก็จะเกิดในสมาธินั้น แล้วปัญญานี่ก็คือ
ปัญญาที่เรารู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง เมื่อปัญญาเกิดขึ้น มันก็จะทำให้เราปล่อยวาง โลภ โกรธ หลง กิเลส ตัณหา
อุปาทานต่างๆ ที่ยึดติดกับเราก็จะจางไปเอง ทุกข์ก็หายไปค่ะ” คุณอัญชลีปิดท้าย

เรื่องโดย พรชัย พงษ์สุกิจวัฒน์
ภาพจาก รายการธรรมะ วาไรตี้
ขอขอบคุณ รายการธรรมะ วาไรตี้ ทุกวันอาทิตย์ เวลา18.00 น. ทางยูบีซี 19

อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
"เจริญสติ ฝึกสมาธิด้วยการเคลื่อนไหว":คำสอน



Create Date : 07 ตุลาคม 2554
Last Update : 7 ตุลาคม 2554 22:30:19 น. 0 comments
Counter : 729 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

apisit.az
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








Friends' blogs
[Add apisit.az's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.