การศึกษา,แคลคูลัส,ข้อสอบทั่วไป,อย่างเก่งภาษาอังกฤษ,การเขียนโปรแกรมภาษาซีเบื้องต้น,เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์,แวดวงอินเทอร์เน็ต เรื่องน่ารู้,วิทยาศาสตร์น่ารู้,ประวัติศาสตร์น่ารู้,การใช้ชีวิตให้มีความสุข ,ความรัก คืออะไร?,เรื่องขำขำ,เกร็ดความรู้,การถ่ายภาพ,สิ่งแวดล้อม, คุณธรรมจริยธรรม,มาคุยกันเรื่องธรรมะ,จิตวิทยา,นิยาย เรื่องสั้น,เรื่องลี้ลับ,เทคนิคการเล่นกีฬา,สุขภาพ,อาการของโรคภัยไข้เจ็บ,ข่าวสารกีฬา,Sex สุขภาพ,สมุนไพรเพื่อสุขภาพ,ผู้หญิง ความงาม,การลดความอ้วน,ครอบครัว แม่และเด็ก,บ้านและสวน,การใช้รถรักษารถ,เคล็ดลับการใช้โทรศัพท์,อาหารของญี่ปุ่น,ขนมและอารหาร,รวมสูตรการทำแยมผลไม้,สูตรการทำแซนวิชที่อร่อย,เคล็ดลับการทำสลัด,เคล็ดลับในครัว,ผลไม้,ผัก แปรรูป,โภชนาการ,นานาสาระ,อภิสิทธิ์แสงแพง
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
การฝึกจิตกับการทำงานบ้าน



สำหรับคนที่ไม่มีเวลาในการนั่งสมาธิ...หรือบอกกับตัวเองว่าไม่มีเวลา
แต่ถ้าฝึกจิตหรือสมาธิด้วยวิธีแบบนี้แล้วคุณยังบอกว่าไม่มีเวลานนั้นก็แสดงว่า
ตะกอนของกิเลสตัณหาคงทับทมกันจนอยากที่จะถอดทอนได้ มิหนำซ้ำ ขี้โคลนเลนยังมาทับถมอีกชั้นหนึ่ง ก็แล้วแต่คุณจะเลือก มารอพิสูจน์กันตอนอายุมากๆก็แล้วกัน



สำหรับแม่บ้านหรือคนที่ทำงานในออฟฟิต
การฝึกสมาธิถือว่าฝึกได้ตลอด ไม่ว่ากวาดบ้าน ล้างห้องน้ำถ่ายเอกสาร นั่งทำงานอยู่ทีโต๊ะทำงาน ฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ อื่นๆอีกมากมาย การฝึกก็คือ คุณมีสติจดจ่อในขณะที่ทำหรือไม่ จิตคุณอยู่ที่คุณหรืออยู่ที่ไหน ถ้าคุณกวาดบ้านแล้วจิตนึกถึงละครก็ขาดสติ ถือว่าผิดต้องดึงมันกับมา

ถ้าทำงานที่ออฟฟิต
จิตอกนอกออฟฟิตไปหาที่อื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับงาน ณ ขณะนั้น
ก็ขาดสติต้องรีบดึงมันกลับมาในขั้นต้นพอคุณเริ่มทำอาจจะยากหน่อยมี สติขาดสติบ้าง ส่วนมากจิตจะถูกดึงออกไปมากกว่า พอมีคนอื่นมาคุยด้วยก็ต้องฝึกรู้ว่ากำลังคุยกำคนอื่น พอหยุดคุยก็ต้องมีสติกลับมาที่ตัวเราขณะที่ดูละครหรือฟังวิทยุถึงบทที่นาง ร้ายทำร้ายนางเอกก็ต้องกำหนดรู้



ถ้าเรามีอารมณ์เกลียดนางร้ายถือว่าขาดสติตกหลุมกิเลส คือไม่ได้

ดังใจ ถึงบทพระเอกนางเอกดีกัน รักกันก็ต้องกำหนดรู้ ไม่งั้นคุณจะตกหลุมกิเลสที่เรียกว่าได้ดังใจ ชอบใจ ต้องให้รู้ว่านี่คือละครหรือแม้แต่ฟังรายการวิทยุ โดยเฉพาะเรื่องการเมือง ถ้าโทรศัพท์มาวิจารณ์คุณจะต้องฟังทั้งที่ชอบใจและไม่ชอบใจเสมอ

คุณจะต้องฝึกที่จะเรียนรู้ทั้งที่ชอบและไม่ชอบมีสติกำหนดรู้

แล้วดูที่ตัวเองว่ามีอาการอย่างไรถ้าไม่ชอบใจ หงุดหงิดไหม โกรธไหม อยากโทรศัพท์ไปโต้ตอบไหม ส่วนถ้าชอบใจมีอาการอย่างไร เอ่อคิดเหมือนเราดีมาก สุขใจ อยากฟังนานๆ ความคิดเราแน่และถูกต้อง คิดไม่ผิดยิ่งมีคนเห็นด้วยมาก คุณเริ่มขาดสติแล้ว หลงกับมันแล้วทั้งชอบและไม่ชอบ ต้องรีบดึงสติกลับคืนมาโดยเร็วอย่าหลงกับมันฝึกปล่อยแล้วคุณจะเข้าใจว่าเป็น กลางที่แท้จริงเป็นอย่างไร



สำหรับบางคนคิดว่าตัวเองเป็นกลาง

ไม่เข้าข้างทั้งสองฝ่ายที่ชอบและไม่ชอบ มันไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ได้ยินมาดูมา มันจริงหรือเปล่า แล้วคุณก็ทำตัวนิ่งเฉยๆ เหมือนกับว่าวางตัวเป็นกลางแต่ใจกับคิดหรือคิดมากแต่ไม่แสดงอาการ คุณอาจตกอยู่ในกิเลสที่เรียกว่าลังเลสงสัย
ว่าชอบหรือไม่ชอบ

บางครั้งเหตุผลฝ่ายไหนดีก็เอนเอียงทั้งที่อาจจะจริงหรือไม่จริง ต้องฝึกวางความลังเลสงสัยเพราะมันเป็นกิเลสที่ละเอียดกว่าสองตัวข้างบน ต้องฝึกบ่อยๆเพราะมันเกิดขึ้นกับชีวิตประจำวันเป็นประจำ


เมื่อเราฝึกบ่อยทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน
สถานที่ต่างๆ คุณจะเริ่มรู้เท่าทันกิเลส ๓ ตัวนี้มากขึ้น เป็นการฝึกที่ละนิดเพื่อการสะสม ฝึกบ่อยๆทุกๆวันๆละนิด คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอนความทุกข์จะน้อยลงแน่นอน กลับรู้สึกตัว มีสติมากขึ้นเมื่อคุณฝึกดีแล้วคุณจะเข้าถึงความเป็นกลางที่แท้จริง มันจะอยู่เหนือความชอบ ความไม่ชอบ ความลังเลสังสัย จิตคุณจะมีสติรู้ทันมัน และอยู่เหนือมันได้


Create Date : 07 ตุลาคม 2554
Last Update : 7 ตุลาคม 2554 22:28:57 น. 0 comments
Counter : 1944 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

apisit.az
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








Friends' blogs
[Add apisit.az's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.