การศึกษา,แคลคูลัส,ข้อสอบทั่วไป,อย่างเก่งภาษาอังกฤษ,การเขียนโปรแกรมภาษาซีเบื้องต้น,เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์,แวดวงอินเทอร์เน็ต เรื่องน่ารู้,วิทยาศาสตร์น่ารู้,ประวัติศาสตร์น่ารู้,การใช้ชีวิตให้มีความสุข ,ความรัก คืออะไร?,เรื่องขำขำ,เกร็ดความรู้,การถ่ายภาพ,สิ่งแวดล้อม, คุณธรรมจริยธรรม,มาคุยกันเรื่องธรรมะ,จิตวิทยา,นิยาย เรื่องสั้น,เรื่องลี้ลับ,เทคนิคการเล่นกีฬา,สุขภาพ,อาการของโรคภัยไข้เจ็บ,ข่าวสารกีฬา,Sex สุขภาพ,สมุนไพรเพื่อสุขภาพ,ผู้หญิง ความงาม,การลดความอ้วน,ครอบครัว แม่และเด็ก,บ้านและสวน,การใช้รถรักษารถ,เคล็ดลับการใช้โทรศัพท์,อาหารของญี่ปุ่น,ขนมและอารหาร,รวมสูตรการทำแยมผลไม้,สูตรการทำแซนวิชที่อร่อย,เคล็ดลับการทำสลัด,เคล็ดลับในครัว,ผลไม้,ผัก แปรรูป,โภชนาการ,นานาสาระ,อภิสิทธิ์แสงแพง
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
30 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
ย่าเลี้ยงของสมศรี

เรื่องสั้นผี ๆ (ผู้อ่านคงชอบมั้ง)
ย่าเลี้ยงของสมศรี

ทุ
ก ๆ ครั้งที่ ผมเข้าสอนในห้องเรียน เด็ก ๆ ทุกห้องมักจะพากันร้องขึ้นพร้อม ๆ กันว่า
“คุณครูครับ เล่านิทานให้ฟังหน่อยครับ ผมอยากฟังนิทาน คุณครูเล่านิทานสนุก” เป็นอย่างนี้ ทุกๆครั้งไป ซึ่งผมก็มักจะไม่ขัด คือ เล่า “นิทาน” ให้นักเรียนฟัง
ผมเป็นครูภาษาไทย การสอนภาษาไทย คือ สอนให้เด็กรู้จัก ฟัง พูด อ่าน เขียน ฝึกให้เขียนเล่าเรื่อง บรรยายอธิบายความ เพื่อสื่อความหมายให้ผู้อื่นอ่านแล้วสามารถเข้าใจ และแล้ว การสอนให้เด็กคิด เด็กเขียนเล่าเรื่องนี่เอง ทำให้ผมได้เรื่องแปลก ๆ จากที่เด็กเล่าและเขียนมาหลายเรื่อง และเรื่องหนึ่งที่จะนำมาเล่าในวันนี้ คือเรื่อง
“ย่าเลี้ยงของสมศรี”
เด็กหญิงสมศรีเป็นนักเรียนชั้น ป. 5 สมศรีขอร้องผมก่อนจะเขียนเรื่องนี้ว่า อย่าบอกให้ปู่เลี้ยงและย่าของเธอรู้ ถ้าบอกปู่เลี้ยงรู้เข้า สมศรีจะถูกทำโทษ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องลับปู่จะไม่ยอมเล่าให้ใครฟัง ดังนั้นชื่อสมศรีในที่นี้จึงเป็นชื่อสมมุติ
ที่บ้านของสมศรีอาศัยอยู่กันแค่ 3 คน คือสมศรี ย่า แล้วก็ปู่เลี้ยงของเธอ…
ย่าเป็นย่าแท้ ๆ แต่ปู่คือเลี้ยงเพราะปู่จริงของสมศรีตายไปตั้งแต่ย่าของสมศรียังมีอายุ 40 ปี
ในบ้านของสมศรี สมศรีจะเป็นคนหุงข้าวและช่วยย่าทำกับข้าว ทุกครั้งที่ทำกับข้าวและหุงหาอาหารเสร็จ สมศรีจะต้องตักข้าวและแกงจัดเป็นสำรับแล้วปิดไว้อย่างดี สำรับที่จัดไว้นั้นนอกจากปู่เลี้ยงแล้ว จะไม่มีใครมาแตะต้องเป็นอันขาด ไม่ว่าย่าของสมศรีเองหรือใครก็ตาม จะกินต้องตักกินส่วนที่เหลืออยู่ในหม้อเท่านั้น
ในบ้านของสมศรีทุกคนกินข้าวไม่พร้อมกัน สมศรีหุงหาเสร็จก็จะกินก่อน ย่าจะกินในเวลาถัดจากสมศรี ส่วนปู่เลี้ยงจะกินทีหลังสุดท้าย เวลาที่ปู่กินข้าวใครจะเข้าไปวุ่นวายไม่ได้ ปู่จะกินอยู่ในครัวคนเดียวเงียบ ๆ บางครั้งสมศรีได้ยินเหมือนปู่กำลังนั่งคุยกับใครก็ไม่รู้…
สมศรีมักจะกินข้าวมื้อเย็นแต่วัน คือมักจะหิวมาจากโรงเรียนมาถึงเธอหุงหาแล้วก็กินทันที หรือบางวันย่าก็ทำไว้ให้ ดังนั้นตอนหัวค่ำสมศรีจึงไม่หิวและเข้านอนไปก่อน แต่พอดึก ตีหนึ่ง ตีสองสมศรีจึงหิวอีก เมื่อหิวสมศรีก็ลุกขึ้นมาเปิดหม้อข้าวกินกลางดึกแล้วกลับไปนอนต่อ…
ในบ้านของสมศรี ปู่เลี้ยงชอบทำอะไรแปลก ๆ ไม่เหมือนคนอื่น เช่น ตั้งหิ้งบูชา และบนหิ้ง มีหัวกะโหลกคนตายหัวหนึ่งวางไว้ สมศรีเห็นปู่จุดธูปเทียนบูชาทุกวัน นอกจากนั้นบ้านที่สมศรีมาอยู่ก็ยังอยู่ในเขตป่าช้าร้าง คือป่าช้าที่ไม่ใช้แล้ว เมื่อก่อนเคยเป็นที่เผาและฝังศพคนตายในหมู่บ้าน แต่พอมาในระยะหลังคนในหมู่บ้านนิยมแห่ศพไปเผาที่วัดในตลาดซึ่งมีเตาเผาศพ เพราะสะดวกกว่า ป่าช้าร้างจึงมีคนมาบุกเบิกจับจองเป็นที่อยู่ และปู่เลี้ยงของสมศรีก็เป็นคนหนึ่งในจำนวนนั้น
การมาปลูกบ้านอยู่ในที่ซึ่งเคยเป็นป่าช้าทำให้สมศรีไม่เคยนึกกลัวผี และสมศรีก็ไม่ทราบว่าผีหน้าตาเป็นอย่างไร และคนที่กลัวผีทำไมจึงต้องกลัว การตื่นขึ้นมาในเวลาดึก ๆ ดื่น ๆ ที่ผู้คนอื่นกำลังหลับก็กลายเป็นกิจวัตรปกติของสมศรี
หลายครั้งที่สมศรีต้องตื่นขึ้นมาแล้วลงไปตักน้ำที่บ่อห่างบ้าน มาหุงข้าว เพราะข้าวที่หุงไว้เมื่อตอนเย็นหมดบางครั้งสมศรีก็ลงไปเอาไม้ฟืนที่กองไว้ข้าง ๆ บ้าน ในความมืด สมศรีทำจนเป็นเรื่องปรกติ แล้วคืนหนึ่งสมศรีก็เจอเรื่องที่ขนหัวลุก…
สมศรีตื่นขึ้นมาประมาณเที่ยงคืนเศษ ๆ เพื่อจะเข้าไปหาข้าวกินในครัว สมศรีเดินด้วยฝีเท้าที่เบา เพราะกลัวจะรบกวนคนอื่นให้ต้องตื่นขึ้นมา ยังไม่ทันที่สมศรีจะเปิดประตูเข้าไปในครัว สมศรีก็ได้ยินเสียงปู่เลี้ยงกำลังคุยกับใครคนหนึ่งอยู่ สมศรีจึงแอบมองทางช่องร่องกระดาน สมศรีเห็นปู่นั่งหันหลังมาทางเธอ ส่วนตรงหน้าปู่เลี้ยงมีหญิงชราคนหนึ่งที่สมศรีไม่รู้จักนั่งกินข้าวอยู่ หญิงชราคนนั้นมีผมขาวยาวเฟื้อย หน้าตาห่อเหี่ยวน่าเกลียด ดูแก่กว่าปู่มาก นุ่งผ้าถุงเก่า ๆ เสื้อแขนยาวเก่า ๆ ดูไม่ออกว่าเป็นสีอะไร ถ้อยคำที่ปู่กับหญิงชราคุยกัน สมศรีจับความไม่ค่อยถนัด ว่าคุยว่าอย่างไร แต่จับความได้คำหนึ่งว่า
“ทีหลังหิวก็มากินเองนะ จะจัดไว้ให้ทุกวัน ไม่ต้องให้มาเรียก”
สมศรีแอบดูจนหญิงชราคนนั้นกินอิ่มแล้วเดินหายลงไปทางประตูหลังครัว พอดีกับปู่เลี้ยงของสมศรีลุกขึ้นเดินออกจากครัวแล้วก็เจอกับสมศรีที่ยืนอยู่ ปู่เลี้ยงของสมศรีทำท่าตกใจ สมศรีถามปู่ทันทีว่า
“คนแก่นั่นใครคะปู่”
ปู่เลี้ยงทำท่าไม่พอใจสมศรีอย่างมาก คือ โกรธที่สมศรีมารู้ความลับ ปรกติปู่เลี้ยงก็ไม่ค่อยจะชอบหน้าสมศรีเท่าใดนักอยู่แล้ว ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นหลานภรรยา และได้อาศัยใช้งานในบ้านอยู่บ้าง ปู่เลี้ยงจึงไม่ตอบ แต่ตะคอกขู่ว่า
“เอ็งอย่าเอาเรื่องที่เห็นนี่ไปเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด ขืนไปเล่าให้ใครฟังข้าจะตีเอ็ง และจะไล่ไม่ให้อยู่ที่นี่”
แล้วปู่เลี้ยงก็ไล่ให้สมศรีไปนอน
สมศรีเก็บเรื่องที่เห็นไปนอนคิดและสงสัยอยู่คนเดียวตลอดมา โดยไม่เคยเล่าให้ใครฟัง แล้วสมศรีก็ยังเห็นหญิงชราคนนั้นมากินข้าว กินสำรับที่จัดไว้ให้อยู่โดยตลอด แต่สมศรีก็ไม่ได้คิดว่าหญิงชราที่สมศรีเห็นนั้น
“ไม่ใช่คน” ถ้าไม่ใช่เพราะคืนหนึ่ง...
คืนหนึ่งปู่เลี้ยงของสมศรีไปธุระไม่อยู่ในบ้าน แต่ทุกวันแม้ปู่จะไม่อยู่ในบ้านสมศรีก็ต้องจัดสำรับไว้สำรับหนึ่งเสมอ ตามคำสั่งของปู่ที่ไม่ทำไม่ได้ ย่าของสมศรีเองก็กลัวปู่เลี้ยง ไม่กล้าฝ่าฝืนแตะสำรับนั้น ไม่ว่าปู่จะอยู่หรือไม่อยู่ก็ตาม และสำรับต้องจัดไว้ทุกครั้ง
คืนนั้นสมศรีตื่นขึ้นมาในตอนประมาณตีหนึ่ง รู้สึกหิวจึงเดินเข้าครัวจะไปค้นหาข้าวกินอีก สมศรีเห็นหญิงชราคนที่เคยเห็นกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่สำรับ หญิงชราทำท่าตกใจที่เห็นเธอเดินเข้าไปรีบลุกขึ้นเดินหนี แต่สมศรีรีบเข้าไปยึดมือไว้ แต่เหมือนจับหมอกควันหรืออากาศว่างเปล่า คือ จับไม่ติด สมศรีจึงถามไปหลายคำว่า
“คุณยายเป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำไมจึงมากินข้าวดึก ๆ ดื่น ๆ”
หญิงชราคนนั้นไม่ตอบ ค่อย ๆ ลุกเดินออกจากครัว แล้วจางหายไปโดยไม่ต้องเปิดประตูหลัง
สมศรีเที่ยวเลียบเคียง สืบสอบถามใครต่อใครในละแวกนั้นหลายคน รวมทั้งย่าแท้ ๆ ของสมศรี จึงพอจะรู้ ว่า หญิงชรานั้นคือ
“ย่าเลี้ยงของสมศรี”
แต่ย่าก็ตายไปตั้งห้าปีแล้ว สมศรีจึงเดาออกว่าสิ่งที่สมศรีเห็นนั้นคือ “วิญญาณ” ไม่ใช่คน“วิญญาณย่าเลี้ยงที่ปู่นำมาเลี้ยงดูไว้ในบ้าน” คอยจัดสำรับข้าวปลาอาหารให้กิน และสมศรีเพิ่งจะสังเกต ว่า ทุกครั้ง อาหารในสำรับนั้นยังอยู่เท่าเดิมมิได้พร่องไปแต่อย่างใด
แต่นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เมื่อสมศรีรู้จักว่าสิ่งที่เห็นนั้นคือ ‘ผี’ ที่ทุกคนต่างพากันกลัว สมศรีจึงไม่กล้าลุกขึ้นมาดึก ๆ ดื่น ๆ เพื่อกินข้าวคนเดียวอีก สมศรีเลิกนิสัยลุกขึ้นกินข้าวกลางดึกมาตั้งแต่บัดนั้น จนบัดนี้นับเป็นเวลาเกือบสองปีแล้ว.


//pptoday03.board.ob.tc/-View.php?N=23



Create Date : 30 สิงหาคม 2554
Last Update : 30 สิงหาคม 2554 18:10:55 น. 0 comments
Counter : 508 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

apisit.az
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








Friends' blogs
[Add apisit.az's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.