Bloggang.com : อย่าบอกนะว่าเจ้าคือขุนศึก : April 2013 haul

April 2013 haul - เปิดถุงชอปปิ้งเดือนนี้

ไม่ได้เขียนบล๊อกเปิดถุงนานมากกกกกเพราะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ซื้อเครื่องสำอางจริงๆ ถ้าซื้อก็จะซื้อตัวเดิมๆเพราะรู้สึกค่อนข้างถูกใจในสิ่งที่ใช้อยู่จึงซื้อมาตุนซ้ำๆ ไม่ได้ลองของใหม่ เปิดถุงวันนี้อาจจะไม่ใช่ของที่เพิ่งซื้อมาเดือนนี้ แต่เป็นของที่ซื้อมานานแล้วแต่ไม่เคยเขียนถึงนะคะ เริ่มจากหมวด makeup ก่อน หลายเดือนที่ผ่านมาซื้อเมคอัพน้อยลงมากเพราะใช้ไม่ทัน แต่ก่อนเป็นสมาชิก VVIP ของ sephora จนตอนนี้เค้าแตะออกแล้ว 555 (เพิ่งเริ่มมีสติ) อย่างแรกเลย ภูมิใจนำเหนอมาก MINIme's highly recommended นั่นก็คือ Giorgio Armani Beauty - Maestro Foundation

Giorgio Armani Beauty - Maestro Foundation

เป็นรองพื้นอันดับ 1 ในใจตอนนี้ เขี่ยทุกตัวที่เคยรีวิวมาลงถัง กล้าพูดเลยเพราะเราใช้ต่อเนื่องมาได้ 4 เดือนแล้ว ที่ชอบ เพราะ 1. บาง เบา เกลี่ยง่ายมาก รองพื้นตัวนี้เป็น light coverage นะคะ ปกปิดค่อนข้างน้อยและไม่สามารถทาซ้ำๆกันหลายๆชั้นปกปิดความชั่วร้ายบนใบหน้าได้ กรุณาพกตัวช่วยอื่นๆเช่น concealer ขั้นเทพ ที่ว่าทาซ้ำไม่ได้ไม่ใช่เพราะว่ามันจะดูหนา แต่รองพื้นมันเกลี่ยหาย เกลี่ยกลืนไปกับผิวตลอด ไร้ประโยชน์เปลืองทรัพยากรสิ้นดี 2. คุมมันดีมาก ด้วยเนื้อสัมผัสที่เวลาเกลี่ยมันจะคล้ายๆว่ากลายเป็นแป้งลื่นๆ เป็นเนื้อสัมผัสที่ไม่เคยเห็นจากรองพื้นตัวอื่น คล้ายๆเนื้อ primer ซิลิโคนของ smashbox หรือ urban decay eye primer portion นะ เป็นรองพื้นตัวเดียวที่เรารู้สึกว่า เฮ้ย ไม่ต้องตบแป้งตามซับมันๆออกก็ได้ มันเซทตัวสวยๆบนผิวดีอยู่แล้ว 3. เราชอบที่ขวดเป็นแบบขวดจุกบีบรองพื้นขึ้นมาทำให้กะรองพื้นได้ง่าย แถมสะอาดอนามัยดีด้วย

มาถึงข้อเสีย แพง หาซื้อยาก ขนาดเราอยู่เมกายังหาซื้อยากเลย ส่วนผสมมีแอลกอฮอล์กับซิลิโคน ใครหน้าแพ้ง่ายเราขอให้คุณโชคดี สีให้เลือกน้อยและออกโทนชมพูหมด เราผิว NC30-35 ใช้เบอร์ 5.5 จะไม่เป๊ะทีเดียวเพราะจริงๆเบอร์รองพื้นของ Giorgio Armani ที่ลงท้ายด้วย .75 จะเป็นโทนออกอันเดอร์โทนเหลืองซี่งจะเหมาะกับเรามากกว่า แต่ว่ารุ่นนี้เพิ่งออกมาไม่นาน หวังว่าอีกหน่อยทางแบรนด์จะออกสีมามากกว่านี้ สรุปโดยรวมเราให้ 5/5 เลย ชอบมากๆ

Bio-Oil PurCellin Oil Facial Treatment Products

อีกตัวที่เราแนะนำฝุดๆ Bio-Oil จุดประสงค์แรกเลยคือมาลบรอย stretch mark รอยผิวแตกลายบริเวณต้นขา ถ้าไม่ติดเรทจะถ่ายรูป before-after มาให้ดูแล้ว เราใช้ต่อเนื่องมาเดือนนึงเห็นผลเลยว่ารอยมันตื้นขึ้นมากๆ เป็นที่น่าพอใจ หลังจากนั้นก็ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง จะหวังว่ามันจะหายไปเลย 100% คงเป็นไปไม่ได้ เราไม่เคยลองกับพวกแผลเป็นนะ แต่เคยที่ว่าเวลาแกะสิวแบบเค้นสุดๆแล้วเป็นแผลเลือดออกตกสะเก็ดเนี่ย (แลดูซาดิสท์ชอบกล - -'') เอา bio-oil ถูๆวนๆแล้วแผลหายเร็วกว่าปรกติ สะเก็ดหลุดลอกสวยงามคงไว้ซึ่งรอยดำ T_T เรายังไม่เห็นว่ามัน work กับพวกรอยดำแกะสิวกับพวกรอยกระต่างๆเท่าไหร่นะทั้งๆที่เราก็ใช้ตลอด เอาเป็นว่ามันช่วยเรื่องรอยผิวแตกลายแต่รอยอื่นๆที่มัน claim ว่ารักษาหายทุกรอยเราว่าอย่าไปเชื่อมาก ราคา(ที่เมกา)ไม่แพงมาก ซื้อมาเป็นขวดที่ 2 แล้ว

Cetaphil - Daily Facial Cleanser

ที่ล้างหน้าของ Cetaphil ปรกติเราเป็นแฟนเหนียวแน่นกับครีมทาตัวยี่ห้อนี้มากแต่ไม่เคยใช้ที่ล้างหน้าเลย นึกยังไงไม่รู้ถึงมาลองและก็ชอบด้วย ราคาไม่แพง อ่อนโยนต่อผิวหน้าแน่นอน แต่ด้วยความที่มันอ่อนโยนมากมันล้างเครื่องสำอางไม่หมดนะ ถ้าใครแต่งหน้าต้องล้างเครื่องสำอางออกก่อนถึงจะใช้ตาม ใช้แล้วหน้าไม่แห้งแน่นอน

ต่อด้วยกระเป๋า

Large Fractal Beaded Pouch ของ Jasper & Jeera

Herschel Supply Co. - Bad Hills Bird Collection Backpack

ขออภัยในความล่าช้าด้วยนะคะ บอกว่าจะมาอัพบล็อกตั้งแต่ชาติที่แล้วๆก็หายไปกับผายลม เอ้ย สายลม (ตึ่งโป๊ะ!) ไม่รู้เป็นอะไรวันหยุดฟ้ามืดมัวดินตลอด ถ่ายรูปไม่ได้เลย ทีวันทำงานฟ้าสว่างใสซะงั้น หมดตัวแต่เพียงเท่านี้ เจอกันบล็อกก๊อกแก๊กหน้าค่ะ

follow me on Instagram @minime777

* * *

Previous - Beauty and the Beast - Broadway Musical