Bloggang.com : noonagist : ++La Pergola ....3 Michelin stars.... The one and only in Rome...+++

++La Pergola ....3 Michelin stars.... The one and only in Rome...+++

ออกจากบาเซโลน่าเรานั่งเครื่องเล็กไปที่โรมกันค่ะ ไปถึงบ่าย 2 เข้าโรงแรมที่พักแล้วก็ไปเที่ยวกัน พ่อหมีอยากไป Colosseum ว่ามันยิ่งใหญ่แค่ไหน ...ไปถึงแอบตะลึงทำไมคนสมัยโบราณทำแบบนี้ได้เนี่ยะ จะลงไว้ใน Travel with me นะคะ เข้าไปชมกันได้

ตอนเย็นเรามีนัดร้านอาหารอยู่ร้านนึง ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่ดังมากในโรม เราจองก่อนล่วงหน้าไปเกือบ 3 เดือน ต้องโทรคอนเฟิร์ม 2 ครั้งกว่าจะนัดได้ ร้าน La Pergola เป็นร้านอาหาร Roof Top อยู่ในโรงแรม Rome Cavalieri ตั้งอยู่บนเขาทางด้านฝั่งวาติกัน

ถ้าจะให้เล่าว่าที่มาที่ไป ทำไมร้านนี้ถึงดังขนาดนี้ ก็คงเป็นเพราะ Chef คนเก่งคุณ Heinz Beck ที่ทำให้ร้านนี้เป็นร้านเดียวในโรมที่ได้รางวัล 3 Michelin stars มาโดยตลอด

เข้ามาถึงภายในโรงแรม เป็นโรงแรมห้าดาว แต่โรงแรมที่โรม ห้าดาวยังไงเราว่าก็สู้โรงแรมเมืองไทยไม่ได้ค่ะ เค้าตบแต่งหลุยส์ หลุยส์ และมีภาพเขียนแบบแพงๆติดตามกำแพงเป็นระยะ

กดลิฟส์มาชั้นบนสุดออกมาก็จะเจอทางเดินเข้าไป

เข้าไปด้านในมีส่วนที่เป็น Indoor เดินทางขวาไปข้างในค่อนข้างกว้าง

ตอนจองเค้าถามว่ามีโอกาสพิเศษมั๊ย ก็บอกเค้าไปว่ามาฮันนีมูน และเป็นวันเกิดด้วย มาถึงพอบอกชื่อที่จองเสร็จเค้าก็พาเดินออกมาเรื่อยๆ จนถึงด้านนอก

เค้าก็บอกว่าโต๊ะนี้เป็นโต๊ะพิเศษ วิวค่อนข้างดีมากค่ะ มองเห็นเมืองด้านล่างทั่วเลยค่ะ

แต่ที่หยุดหัวใจไว้ชั่วขณะ คงเป็นวิวนี้อ่ะคะ วิวที่เห็นเป็นวิวโดมของวิหาร St Peter's มองจากโต๊ะอาหารเราไป (บรรยายไม่ถูกเหมือนกัน สวยจัง)

ที่นี่อุปกรณ์สวยงาม สมราคาทุกอย่างค่ะ วัตถุดิบทุกอย่างที่ใช้ก็คัดมาดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ค่ะ ไวน์ลิสมีเยอะมากจนได้รางวัลGrand Awardจาก Wine Spectator แต่ราคาก็แพงเอาการค่ะ แต่ละตัวเทพ เทพทั้งนั้นเลยค่ะ ราคาแพงกว่าซื้อในไวน์shop พอสมควรเลย

ภาชนะ และดอกไม้ที่ใช้จะเปลี่ยนไปตามเวลาค่ะ เช่นตอนเสริฟของหวานก็จัดโต๊ะ จัดดอกไม้ใหม่เป็นอีกอารมณ์นึง ประมาณแบบนี้อ่ะคะ

ดื่มแชมเปนดีดีสักแก้วก่อน แล้วก็จะเริ่มสั่งอาหาร

เมนูที่นี่มีแค่สองหน้า เปิดมาหน้าแรกทางซ้ายเป็นเมนูคอร์ส เลือกได้ว่าจะเอา 9 คอร์ส หรือ 6 คอร์ส ที่ต่างกันก็คือ 6 คอร์สจะไม่มีกระต่ายกับชีสซีเล็คชั่น

ทางขวาเป็น อลาคารท

พ่อหมีบอกว่าราคาโอเคเลย แพงแต่ถ้าเทียบกับร้านอาหารห้าดาวเมืองไทยได้สบาย จิ๊บ จิ๊บ

อิอิ

เราสั่งอาหารเป็นคอร์สหกอย่างเพราะคงทานพวกชีสไม่ไหวแล้ว แล้วเราเกิดอยากทานนกพิราบมากกว่าน้องกระต่ายด้วย เลยสั่งกันเป็นคอร์ส แล้วเพิ่มนกพิราบกับหางวัวเพิ่มมาต่างหาก อุตส่าห์มาถึงนี่ทั้งทีต้องลองหน่อยว่านกที่นี่ต่างกับบ้านเรายังไง อิอิ

เนยอร่อยมากมายทานกับขนมปังที่เค้าให้เลือก

มาร้านอิตาเลี่ยนก็ต้องมีน้ำมันมะกอก ของที่นี่ทานแล้วลืมไม่ลงน้ำมันมะกอกหอมมากๆ เลิศค่ะ

จานแรกมาถึง น่ารักมากค่ะเป็น Compliment จาก Chef ค่ะ

มีอะไรบ้างจำไม่ค่อยได้แล้วแต่ที่เจ๋งมากคือแต่ละอันเดารสชาติไม่ได้เลยค่ะ

อันนี้อุ่นๆ อร่อยค่ะ

มีอันนี้คล้ายเทอรีน ละลายในปาก ดีค่ะ

จานนี้เป็น Oxtail ค่ะ อร่อยมากค่ะ

เริ่มอาหารในคอร์สจานแรก Terrine of duck foie gras with watermelon salad and balsamic venigar ice crush

รสชาติสุดจะบรรยายได้ Terrine เข้ากับแตงโมเย็นๆ แล้วมีผงของBalsamic venigar ไม่รู้ทำได้ยังไงให้เป็นผง พอรวมกันในปากรสชาติไม่มีที่ติเลยค่ะ ผงบัลซามิคนี่สุดยอดมากค่ะ อยากรู้จังว่าทำให้เป็นผงได้ยังไง

แล้วพนักงานก็ยกพวกนี้มา...ตอนแรกแอบงง อาไรเนี่ยะ อ๋อ เค้าบอกว่ามันเป็นเกลือหลากรส

เลยขอลองซักสามอย่าง เบสคือความเค็มค่ะ ก็เกลือนิเนอะ แหะแหะ แต่ในความเค็มมีความหอมที่ต่างกัน บางอันกลิ่นเครื่องเทศ บางอันกลิ่นอะไรไม่รู้จำไม่ได้ แต่เก๋จังค่ะ ชอบ

จานต่อไปเป็น Ravioli Seafood ไส้ผักค่ะ

อร่อยมากอีกแล้ว แป้งรสชาตินุ่มนวล หอมผักด้านในและกลิ่นซอสอาหารทะเลด้านนอกกลมกล่อม เข้ากันมากค่ะ

จานนี้เป็น Turbot and Red prawns on lentil soup with basil ค่ะ อร่อยแต่ไม่ได้เดิ้นเป็นพิเศษค่ะ

อีกจานคือ Crispy red mullet with summer herbs ประมาณป๋อเปี๊ยปลาอ่ะคะ ปลาสดมาก อร่อย

จานเมนก็มาถึงของเราเองค่ะ เค้าเดินมาโชว์ตัวก่อนรอบนึง แล้วมาหั่นโชว์ที่โต๊ะ ตอนแรกนึกว่าเป็ดซะอีก อิอิ ทำไมนกพิราบตัวมันใหญ่แบบนี้อ่ะเนี่ยะ

หั่นชึบชึบ มีที่อุ่นจานให้ร้อน รอแล้วก็เสริฟที่โต๊ะเลยค่ะ

ตอนแรกแอบมองฮึ๊ย ขายังเหลือเนื้ออีกเพียบเลยทำไมไม่ตัดให้เลย สงสัยผู้ดีอิตาลี่เค้าไม่กินขานกกัน แต่คนไทยอยากกินอ่ะ มองตามตาละห้อยพอเค้าเข็นรถไปเก็บ

ที่ไหนได้สักพักเค้ามาใหม่ เค้าเอาขาไปแกะเนื้อไปปรุงให้ใหม่ ออกเค็มๆนิดๆ อู้ยย ถูกใจมากค่ะ อิอิ

จานนี้เป็น Suckling pig's cheek with curly endive, burrata and chilli flavoured popped rice

ขอบอกว่าจานนี้หน้าตาธรรมดา แต่พอชิมไปปึ๊บเราสองคนอึ้ง เนื้อมันนิ่มยุ่ย ละลายในปาก ต้องใช้คำว่าละลายในปากจริงๆค่ะ เพราะมันไม่ต้องเคี้ยวเลย ไม่น่าเชื่อ เวลาเราตุ๋นปกติมันก็จะต้องมีเคี้ยวๆบ้าง แต่นี้นุ่ม หวาน ความอร่อย รสชาติอยู่ครบ พ่อหมีกรี้ดจานนี้มากค่ะ Surprise สุดๆ

แล้วก็ถึงเวลาเมนูของหวาน ในคอร์สมี Grand dessert อยู่ด้วยแต่เราอยากสั่ง Sorbet เพิ่มด้วยความไม่รู้ว่าไอ้ Grand Dessert เนี่ยะ มัน Grand จริงๆ ของหวานประมาณ 20 กว่าอย่างได้ค่ะ เซ่อร์จริงๆ ตอนหลังอิ่มแบบทรมานค่ะ เพราะอร่อยทุกอย่างอยากชิมไปหมดเลยค่ะ

Sorbet สตอเบอรรี่มาก่อนเลยค่ะ ทันใจมาก ด้านล่างเป็น Cocoa biscuit อร่อยอ่ะคะ

แล้วชุดที่ 1 ของ Grand dessert ก็โผล่มา เป็น Tower มาเป็นคอนโดเลยค่ะ อลังการมาก เป็นลิ้นชักเลื่อนออกมาได้รอบด้าน มีของหวานต่างชนิดกันหมดทุกลิ้นชักค่ะ

ตามมาด้วยพวกนี้ค่ะ มีเจลลี่แชมเปนด้วย ขอบอกว่าอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ

ที่ดีไปกว่านั้น วันนั้นเค้าฉลองอะไรกันไม่รู้จุดพลุกันอยู่ชุดใหญ่เหมือนกัน สวยเชียว

เป็นการเพิ่มเติมความสมบูรณ์ของมื้ออาหารมื้อพิเศษมื้อนี้ให้เรา Perfect มากขึ้น อิอิ มื้อนี้ประทับใจจริงๆค่ะ ทุกอย่างเพอเฟคไปหมด มื้อนี้รวมยอดฉลองฮันนีมูนกับวันเกิดเราไปด้วยกันเลยค่ะ ประทับใจมากเลยหล่ะคะ...

นี่เป็นลิ้งค์ของร้านเข้าไปชมกันได้ค่ะ เผื่อใครไปโรมอยากจะลองไปทานดูมั่ง..

La Pergola 3 Michelin Stars

Create Date : 24 กรกฎาคม 2552

Last Update : 19 เมษายน 2554 11:49:57 น.

8 comments

Counter : 1723 Pageviews.

อาหารน่าทานมากๆ
แต่ที่ชอบที่สุดคือบรรยากาศและวิวสวยๆ จ้า

โดย: ColaGirl

วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:20:12 น.

เย๊.......คุณนุ่น upblog ซะที ....

หลังจากที่ห่างหายไปฮันนีมูนซะนาน....คนทางนี้ล่ะคิดทึ๋ง คิดถึง...อิอิ(((แอบปากหวานซะด้วย)))

รอชมภาพสวย ๆ อย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ