ระเด่นลันได
ระเด่นลันได บทประพันธ์ พระมหามนตรี (ทรัพย์)
เรื่องย่อ...
ลันไดเป็นแขกฮินดูอาศัยอยู่ใกล้โบสถ์พราหมณ์ เที่ยวสีซอขอทานเลี้ยงชีพ หัดร้องเพลงชอทานได้อยู่สองท่อน "สุวรรณหงษ์ถูกหอกอย่าบอกใคร บอกใครก็บอกใคร" ร้องวนไปวนมาอยู่แค่นี้ อยู่มาวันหนึ่งลันไดก็ไปขอทานถึงบ้านแขกประดู่ผู้ตั้งคอกเลี้ยงวัวนมอยู่หัวป้อม แขกประดู่มีเมียชื่อนางประแดะ
วันที่ลันไดไปขอทานหน้าบ้านแขกประดู่ แขกประดู่ไม่อยู่ออกไปเลี้ยงวัว เหลือเพียงนางประแดะซึ่งนางประแดะก็นำข้าวและปลาสลิดแห้งมาให้เป็นทานเจ้าลันได้ เมื่อลันไดเห็นนางประแดะเข้าก็เกี้ยวพาแล้วนัดแนะว่าตกกลางคืนจะย่องเข้าหานางประแดะ
ครั้นพอแขกประดู่กลับถึงบ้าน ด้วยความหิวจัดจึงหาข้าวปลากิน เห็นข้าวพร่องไป และปลาสลิดแห้งก็หายหมดจึงไต่ถามเอากับนางประแดะ ถึงรู้เรื่องว่านางประแดะให้ทานแก่เจ้าลันได แขกประดู่โกรธมากจึงตบตีนางประแดะแล้วไล่ลงจากเรือน นางประแดะไม่มีที่ไปจึงหลบอยู่แถวคอกวัว ส่วนลันไดครั้นตกค่ำก็นึกถึงนัดที่มีให้ไว้กับนางประแดะ จึงลักลอบมาพบที่บ้านแขกประดู่ ลันไดเห็นกองไฟสุมอยู่แถวคอกวัวก็เข้าใจผิดคิดว่าแขกประดู่ลงมานอนเฝ้าวัว แล้วปล่อยนางประแดะนอนบนเรือนแต่เพียงผู้เดียว
ลันไดปีนขึ้นเรือนแขกประดู่ แล้วแอบย่องเข้าห้อง ฝ่ายแขกประดู่ก็เข้าใจผิดคิดว่าเมียจะกลับมาง้อ จนลันไดมุดมุ้งถึงเนื้อถึงตัว ต่างฝ่ายเลยรู้ว่าผิดฝาผิดตัวจึงเอ็ดตะโร เตะถีบกันวุ่นวาย ลันไดโจนหนีลงจากเรือนจึงได้พบนางประแดะต่างพากันหลบหนีจากเรือนประดู่มาอยู่บ้านลันได
ระหว่างความรักของทั้งคู่กำลังสุกงอม นางกระแอทวายแม่ค้าขายขนมซึ่งเป็นคู่รักของเจ้าลันไดก็แวะมาเยี่ยมเจ้าลันไดที่บ้านพบเห็นลันไดอยู่กับนางประแดะจึงเกิดอาการหึงหวง(เนื้อเรื่องขาดหายไปเพียงเท่านี้)
...บางช่วงบางตอน...
มาจะกล่าวบทไป ถึงระเด่นลันไดอนาถา เสวยราชย์องค์เดียวเที่ยวรำภา ตามตลาดเสาชิงช้าหน้าโบสถ์พราหมณ์
อยู่ปราสาทเสาคอดยอดด้วน กำแพงแก้วแล้วล้วนด้วยเรียวหนาม มีทหารหอนเห่าเฝ้าโมงยาม คอยปราบปรามปัจจามิตรที่คิดร้าย
เที่ยวสีซอขอข้าวสารทุกบ้านช่อง เป็นเสบียงเลี้ยงท้องของถวาย ไม่มีใครชิงชังทั้งหญิงชาย ต่างฝากกายฝากตัวกลัวบารมี
พอโพล้เพล้เวลาจะสายัณห์ ยุงชุมสุมควันแล้วเข้าที่ บรรทมเหนือลำแพนแท่นมณี ภูมีซบเซาเมากัญชา
ครั้นรุ่งแสงสุริยันตะวันโด่ง โก้งโค้งลงในอ่างแล้วล้างหน้า เสร็จเสวยข้าวตังกับหนังปลา ลงสระสรงคงคาในท้องคลอง
กระโดดดำสามทีสีเหื่อไคล แล้วย่างขึ้นบันไดเข้าในห้อง ทรงสุคนธ์ปนละลายดินสอพอง ชโลมสองแก้มคางอย่างแมวคราว
นุ่งกางเกงเข็มหลงอลงกรณ์ ผ้าทิพย์อาภรณ์พื้นขาว เจียระบาดเสมียนละว้ามาแต่ลาว ดูราวกับหนังแขกเมื่อแรกมี
สวมประคำดีควายตะพายย่าม หมดจดงดงามกว่าปันหยี กุมตระบองกันหมาจะราวี ถือซอจรลีมาตามทาง
มาเอยมาถึง เมืองหนึ่งสร้างใหม่ดูใหญ่กว้าง ปราสาทเสาเล้าหมูอยู่กลาง มีคอกโคอยู่ข้างกำแพงวัง
พระเยื้องย่างเข้าทางทวารา หมู่หมาแห่งห้อมล้อมหน้าหลัง แกว่งตระบองป้องปัดอยู่เก้กัง พระทรงศักดิ์หยักรั้งคอยราญรอน
เมื่อนั้น นางประแดะหูกลวงดวงสมร ครั้นรุ่งเช้าท้าวประดู่ภูธร เสด็จจรจากเวียงไปเลี้ยงวัว
โฉมเฉลาเนาในที่ไสยา บรรจงหั่นกัญชาไว้ท่าผัว แล้วอาบน้ำทาแป้งแต่งตัว หวีหัวหาเหาเกล้าผมมวย
ได้ยินแว่วสำเนียงเสียงหมาเห่า คิดว่าวัวเข้าในสวนกล้วย จึงออกมาเผยแกลอยู่แร่รวย ตวาดด้วยสุรเสียงสำเนียงนาง
พอเหลือบเห็นระเด่นลันได อรไทผินผันหันข้าง ชม้อยชม้ายชายเนตรดูพลาง ชะน้อยฤารูปร่างราวกับกลึง
งามกว่าภัสดาสามี ทั้งเมืองตานีไม่มีถึง เกิดกำหนัดกลัดกลุ้มรุมรึง นางตะลึงแลดูพระภูมี
เมื่อนั้น พระสุวรรณลันไดเรืองศรี เหลียวพบสบเนตรนางตานี ภูมีพิศภักตร์ลักขณา
สูงระหงทรงเพรียวเรียวรูด งามละม้ายคล้ายอูฐกะหลาป๋า พิศแต่หัวตลอดเท้าขาวแต่ตา ทั้งสองแก้มกัลยาดังลูกยอ
คิ้วก่งเหมือนกงเขาดีดฝ้าย จมูกละม้ายคล้ายพร้าขอ หูกลวงดวงพักตร์หักงอ ลำคอโตตันสั้นกลม
สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเคียว โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม เสวยสลายาจุกพระโอษฐ์อม มันน่าเชยน่าชมนางเทวี ฯ
ระเด่นลันไดแต่งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นน่าที่จะเรียกได้ว่าเป็นจดหมายเหตุ หากแต่ผู้ประพันธ์ประสงค์จะให้ตลกขบขันจึงแกล้งแต่งเป็นบทละครเพื่อให้อ่านเล่น มิได้ตั้งใจให้ใช้เป็นบทเล่นละคร
ตัวละครในเรื่องระเด่นลันได แท้จริงแล้วเป็นชาวบ้านธรรมดา แขกเลี้ยงวัวกับขอทาน แต่ผู้แต่งใช้ลักษณะคำพูดในบทประพันธ์ราวกับตัวละครเป็นกษัตริย์ขัตติยา ลักษณะคำประพันธ์เป็นประเภทกลอนแปด อ่านง่าย ตลกขบขัน เสียดายที่เนื้อหาตอนจบขาดหายไปประมาณ 3-4 หน้ากระดาษเคยมีผู้อื่นนำไปแต่งต่อ แต่สำนวนไม่ถึงตอนต้น ด้วยผู้แต่งมีความสามารถไม่ถึงพระมหามนตรี(ทรัพย์) ทางหอสมุดจึงตัดทิ้งเสีย ไม่นำมาตีพิมพ์
หนังสือเล่มนี้มีคุณค่าทางวรรณศิลป์ แม้ว่าช่วงตอนสุดท้ายจะขาดหายไป ทางหอสมุดก็ยังคงพิมพ์ออกจำหน่ายไม่ได้ขาดเพื่ออนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้อ่านงานชั้นครู
ที่หยิบยกขึ้นมาแนะนำเพราะเห็นว่าเป็นคำกลอนที่อ่านง่าย เข้าใจง่ายอีกทั้งยังชวนหัว อ่านกันสนุกเพลิดเพลินค่ะ ศัพท์ในเรื่องก็ไม่ได้ยากมากนัก ถ้าเป็นเด็กๆก็ยังได้ฝึกความรู้เรื่องศัพท์อีกด้วย
บล๊อกนี้เพื่อนๆไม่ต้องโหวตนะคะ แค่แวะมาอ่านก็ดีใจแล้วค่ะ
Create Date : 24 กันยายน 2559 |
Last Update : 3 ตุลาคม 2559 19:53:56 น. |
|
0 comments
|
Counter : 4457 Pageviews. |
|
|