|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ทิศทางในอนาคตของ SMEsในประเทศไทย
เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2547
ปัญหาสืบเนื่องจากราคาน้ำมัน
ในขณะนี้รัฐกำลังเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อหามาตรการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและบรรเทาปัญหาระยะยาว เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ประชาชนและภาคธุรกิจ SMEs อุตสาหกรรมมีปัญหาการเพิ่มขึ้นของต้นทุน บางรายถึงกับมีการงดการผลิตก็มี ซึ่งรัฐบาลก็ลำบากใจที่หากต้องสนับสนุนก็อาจจะทำให้โครงสร้างราคาในประเทศเสียหาย ซึ่งต้องหาทางออก ทั้งนี้ กรอบในการพิจารณาเพื่อแก้ไขอย่างเร่งด่วนก็คือ โครงสร้างราคาน้ำมัน การประเมินผลสำเร็จของการรณรงค์ประหยัดพลังงาน ความคืบหน้าด้านพลังงานทางเลือก การตั้งองค์กรระดมทุนพัฒนาโครงข่ายคมนาคม และการลอยตัวราคาน้ำมัน เป็นต้น
ทางด้านแนวโน้มในการปรับตัวของราคาน้ำมันเบนซินนั้น ในปัจจุบันรัฐบาลยังคงตรึงราคาน้ำมันเบนซินซึ่งต่ำกว่าราคาเป็นจริง ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มคงต้องปรับเพดานขึ้นไปอีกเรื่อยๆ และจะต้องปรับครั้งละ 60 สตางค์ ขึ้นไปเรื่อยๆ ส่วนช่วงเวลาการปรับราคาน้ำมันเบนซินนั้นเมื่อถึงเวลาแล้วจะทำการประกาศ เพราะหากเปิดเผยล่วงหน้าจะทำให้มีการกักตุนน้ำมันทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ส่วนการปรับราคาภายในสัปดาห์นี้ตนก็เชื่อว่าคงมีโอกาส แต่จะยังไม่ใช่การปรับแบบลอยตัว เพราะราคายังห่างอยู่ถึง 1.30 บาท เพราะฉะนั้นจึงจะมีการปรับเพดานขึ้นไปเท่านั้น ส่วนราคาน้ำมันดีเซลคงจะตรึงไว้ที่ราคาเดิม และยืนยันว่าจะตรึงราคาน้ำมันไปถึงปลายปี เพราะขณะนี้สามารถบริหารจัดการได้ ส่วนราคาก๊าซยังมีการชดเชยอยู่ประมาณ 2 บาทต่อไป
ในระยะยาวนั้นรัฐจะยังคงส่งเสริมการรณรงค์ประหยัดพลังงานกันต่อไป ทั้งมาตรการระยะสั้นที่ต้องปฏิบัติทันที ได้แก่ ความร่วมมือของประชาชนทั้งหมดในการช่วยกันประหยัดน้ำมัน การขับรถในความเร็วต่ำกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การปรับจูนเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ และพยายามให้ประชาชนหันมาใช้บริการจากขนส่งมวลชนเพิ่มขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้รถโดยไม่จำเป็น รัฐบาลจะส่งเสริมเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และร่วมกันแก้ปัญหาจราจร
ทั้งนี้ทั้งนั้น หากรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขวิกฤตการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันแล้ว การที่หวังจะให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทยมีการพัฒนาขึ้นก็เห็นจะเป็นไปไม่ได้ ยิ่งจะให้ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมาช่วยพยุงสภาพเศรษฐกิจนั้นยิ่งเป็นไปได้ยาก เพราะวิสาหกิจภาคการผลิตใดๆก็ล้วนแล้วแต่พึ่งพาวัตถุดิบจากน้ำมันทั้งนั้น
ร้านค้าปลีก กับคอนวีเนียนสโตร์
สภาพการณ์ ณ ปัจจุบันนั้น สภาพลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทยนั้น ค่อนไปทางสายการค้าอยู่มาก และเน้นไปทางการค้าปลีกในลักษณะโชว์ห่วย ซึ่งเมื่อผู้ประกอบการโรงงานขนาดใหญ่เข้ามาตั้งศูนย์การค้า ในลักษณะ Discount Storeแล้ว ผู้บริโภคก็ต่างแห่แหนกันไปใช้บริการอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ทั้งความสะดวกสบายที่มากกว่า สินค้าที่มีมากชนิด ส่วนลดที่มีให้ ตีราคาที่ถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะที่ทางด้านห้างสรรพสินค้ายังยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด เพราะว่าที่ผ่านโดยปกติต่างก็ขายสินค้าในราคาที่ถูกกว่าฉลากอยู่แล้ว นอกจากนี้ ที่ผ่านมาบรรดาซัพพลายเออร์ต่างๆ ก็ยังไม่ได้ยื่นหนังสือขอปรับราคามาอย่างไรก็ตาม ในระยะยาวหากแนวโน้มของราคาน้ำมันยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นห้างสรรพสินค้าต่างๆจึงจะมานั่งพิจารณาในรายละเอียดต่างๆ กันอีกครั้งหนึ่ง
การปฏิวัติทางการตลาด
ปัญหาที่ผ่านมาของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมคือการที่ผู้ประกอบการไม่กล้า และกลัวต่อการเปลี่ยนแปลงมักจะพอใจในสิ่งที่อยู่และไม่กล้าเสี่ยงต่อความท้าทายใหม่ที่ส่งต่อการปรับขนาดของกิจการที่ใหญ่ขึ้นได้
แนวความคิดแบบก้าวกระโดดเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สามารถนำมาใช้เพื่อส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่สามารถพัฒนาธุรกิจของตนเองไปสู่ธุรกิจใหญ่ได้
การปฏิวัติทางการตลาดเป็นหนึ่งในแนวทางการเติบโตแบบก้าวกระโดดของหลายบริษัท โดยการปฎิวัติทางการตลาดเป็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านนโยบายและกลยุทธ์ขององค์กรนั้นๆซึ่งมีความแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงทั่วๆไปที่ต้องใช้เวลานาน
การปฏิวัติทางการตลาด แบบก้าวกระโดดมี 7 แนวทางคือ 1.เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงของตลาดเพื่อให้ธุรกิจไทยได้รับความสนใจในทันที 2.การรุกขึ้นมาโปรโมตธุรกิจอย่างจริงจัง เข่น การโฆษณา ซึ่งธุรกิจ เอสเอ็มอีควรมองว่ามันเป็นการลงทุนมากกว่าการเป็นค่าใช้จ่ายที่เปล่าประโยชน์ 3.การสร้างความแปลกใหม่ให้กับธุรกิจ 4.การหาพันธมิตรเข้ามาร่วมเป็นธุรกิจเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการในระดับเอสเอ็มอีสามารถพัฒนาธุรกิจของตัวเองได้เป็นอย่างดี 5.การเปลี่ยนแปลงจากระบบครอบครัวมาเป็นระบบบริหารอย่างมืออาชีพ 6.การขยายสายธุรกิจใหม่ 7.การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์
ปัญหาที่ผ่านมาของเอสเอ็มอีคือการที่ผู้ประกอบการไม่กล้าและกลัวต่อการเปลี่ยนแปลงมักจะพอใจในสิ่งที่อยู่และไม่กล้าเสี่ยงต่อความท้าทายใหม่ที่ส่งต่อการปรับขนาดของกิจการที่ใหญ่ขึ้นได้
เครือข่าย SMEs
อีกปัญหาหนึ่งของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย เกิดจากว่าการประสานงานกันระหว่างเครือข่ายยังไม่มี ที่ผ่านมาแม้ว่าภาครัฐมีนโยบายในการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอย่างชัดเจน มีหน่วยงานของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องในธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมาก แต่มีลักษณะต่างคนต่างทำ จนเกิดความสับสนในการบริหารจัดการ และติดตามตรวจสอบ ทำให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไม่สามารถเดินไปในทิศทางเดียวกันได้
หากวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไม่สามารถสร้างเครือข่ายของระบบธุรกิจได้ก็ไม่สามารถควบคุมธุรกิจและไม่สามารถผลักดันให้เดินไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้
วิธีการแก้ปัญหาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมระหว่างระบบปล่อยกู้กับระบบการจัดการทางด้านทักษะไม่เดินไปในทิศทางเดียวกัน หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการฝึกผู้ประกอบการเข้าอบรมก็อบรมไป คนที่มีหน้าที่ปล่อยกู้ก็ปล่อยไป ไม่มีการประสานงานซึ่งกันและกัน บางครั้งเกิดปัญหาผู้ที่ข้าอบรมไม่มีแหล่งสินเชื่อ ทำให้ไม่สามารถพัฒนาหรือขยายกิจการให้เติบโตไปได้ ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการที่ได้รับการปล่อยสินเชื่อ ก็ไม่ได้รับการฝึกอบรม ทำให้อาจเกิดปัญหาธุรกิจไม่เกิดการขยายตัวหรือล้มละลายได้ ซึ่งปัญหาที่ตามมาอีกคือ ปัญหาเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อีกด้วย
ก่อนหน้านี้รัฐบาลไปประกาศนโยบายผลักดันธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมโดยการจัดตั้ง Mr.SMEs มีหน้าที่ในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทุกหน่วยงาน รวมถึงสถาบันการเงินต่างๆรวมทั้งผลักดันให้นโยบายช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอีประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
การจัดตั้ง Mr.SMEs มีข้อสังเกตว่า แผนงานช่วยเหลือมีปัญหาด้านประสานงานของแต่ละหน่วยงาน ขาดการรวมศูนย์ ทำให้การช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมล้มเหลว และสถาบันการเงินยังไม่กล้าปล่อยกู้เพราะ กลัวปัญหาเรื่องหนี้เสีย
Create Date : 05 มกราคม 2548 |
|
1 comments |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2548 13:44:23 น. |
Counter : 433 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ผึ้ง IP: 203.144.217.229 26 ธันวาคม 2549 16:04:59 น. |
|
|
|
|
|
|
Home of Rynekel : Eventhough my world shall collide, I will not give up, I sware
|
|
|
|
|
|
|
เรากำลังทำ IS เรื่องการค้าปลีกอยู่
เราอยากรู้การปฎิวัติการตลาดแบบก้าวกระโดดมาจากไหน
อ้างอิงมาจากใคร ยังไงรบกวน ไปตอบในไดอารี่เราด้วย
ขอบคุณมากคะ
//my.postjung.com/diary.php?narukdee_9