@@ ไต้หวันเดือนเมษา ตะลอนทัวร์ทั่วเกาะ ตอนที่ 1 วัดหลงซาน ตลาดหวาซี @@
ตั้งแต่ชอบผู้ชายเกาะนี้มาเข้าปีที่แปด ตั้งแต่ผู้ชายยังหนุ่มหล่อเอ๊าะๆ จนกระทั่งผู้ชายเริ่มแก่ อ้วนและเหี่ยว (เจี๊ยกกก น่ากลัวไปมั้ยเนี่ย 555) ก็ยังไม่เคยแวะเวียนไปเยี่ยมบ้านผู้ชายเลยสักหน
สบโอกาสเลยพาแม่ไปเหยียบบ้านผู้ชายเข้าสักที ร้อนนี้ หนีร้อนไปเที่ยวไต้หวันกันค่ะ
ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลาบ่ายโมงสี่สิบ สายการบิน เคแอลเอ็ม เคาน์เตอร์ P
เกท E4
เที่ยวบินที่ KL 0877
อาหารบนเครื่อง จากครัวการบินไทย (มั้งนะ)
ข้าวสตูว์หมู
ยำเห็ด
ผลไม้
เครื่องบินถึงสนามบินนานาชาติ เถาหยวน ตรงเวลาเด๊ะๆ หกโมง สิบห้านาที ก็มีผู้ชายมารอรับอยู่ 5555 แก๊งนี้มาใหม่ อิฉันไม่รู้จัก ก๊ากก
ระหว่างทางจะไปตม. ได้ยินเสียงคนคุยกันเรื่องปิดอนุสาวรีย์ หันไปมอง เฮ้ย คนไทยนี่หว่า
ถามไถ่ได้ความว่า พี่แกเป็นคนไทย แต่สามีที่มาด้วยกันเป็นคนไต้หวัน ก่อนจะเดินทางมา เรียกแท๊กซี่ยากมาก เพราะต้องผ่านอนุสาวรีย์ แต่แท๊กซี่กลัวเสื้อสีไล่ต้อน เลยไม่มีใครยอมมา
พี่เขามาเยี่ยมญาติที่ไต้หวัน ก็เตือนกันตามประสาว่าให้ระวังกระเป๋า แล้วก็เรื่องรูดบัตร แถมยังใจดี ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วย บอกว่า ถ้ามีปัญหาอะไรให้ช่วยก็โทรไปได้เลย เซี่ยเซี่ยะหนี่
พอผ่านตม.มาได้ ก็จัดการไปแลกเงินที่เคาน์เตอร์ธนาคาร จากข้อมูลที่ตรวจสอบมา (เป็นทางการเชียววุ้ย 555) เรทแลกเงินที่ไต้หวันจะดีกว่าเมืองไทย (ประมาณ 1.02-1.04) แลกที่แบงค์เมืองไทย จะอยู่ที่ 1.12 เป็นต้นไป แต่ถ้าไปแลกประตูน้ำ น่าจะอยู่ราวๆ 1.06 - 1.08 ได้
แต่ว่า วันที่ไป (9 เมษา 2552) เสื้อบางสีเริ่มป่วนเมือง เรทเงินบาทเลยอ่อนจนใจหาย อยู่ที่ประมาณ 1.14 รู้งี้แลกก่อนล่วงหน้าตอนเรทดีๆ ไปจากเมืองไทยก่อนก็ดีหรอก 555
พอแลกเงินเสร็จ เดินไปถามเคาน์เตอร์อินฟอร์เมชั่น เอารูปรถบัสเข้าเมืองบริษัท Kuo Kuang ส่งให้ เขาชี้มือไปทางที่เราไปแลกเงิน แล้วให้เลี้ยวขวาไปทางด้านข้างตึก
ระหว่างทาง มันเงียบๆ ชอบกล แต่เดินไปไม่เท่าไหร่ก็เห็นห้องขายตั๋ว มีหลายบริษัท ซื้อตั๋วของบริษัท Kuo Kuang แล้วเขาให้ออกมารอที่ป้ายนี้
เอากระเป๋าเข้าใต้ท้องรถ ก็จะมีสติ๊กเกอร์แบบนี้แปะไว้ที่กระเป๋าข้างนึง อีกครึ่งนึง จะให้เราเก็บไว้เอากระเป๋าตอนถึงที่หมาย
จากสนามบินเถาหยวน นั่งรถทัวร์ของบริษัท Kuo Kuang ประมาณ 45 นาที ก็จะถึงสถานีไทเปเมนสเตชั่น เรียกว่า เดินทางสะดวกมากๆ
ที่นี่ เป็นแหล่งรวมการเดินทางทั้งหมดในไต้หวัน ทั้งรถไฟใต้ดิน บนดิน หัวจรวด และ ละแวกข้างๆ ก็เป็นสถานีจอดรถบัสบริษัทต่างๆ อีกต่างหาก
อันนี้รูปไทเปเมน มาถ่ายวันหลัง เพราะว่า วันนั้นทั้งกระเป๋าหนัก และมืดดดดแล้ว
เวลาอยู่ที่ไต้หวัน เรียกไทเปเมนสเตชั่น อาจจะมีอาแปะอาม่า งงได้
ให้เรียกว่า ไถเป่ย เชอจ้าน หรือ ไถเป่ยจ้าน ก็ได้ค่ะ 555
เนื่องจากกระเป๋าเสื้อผ้าใบโอฬารมาก เลยต้องเรียกแท๊กซี่ไปที่พัก แทนการนั่งรถไฟใต้ดินไป
คืนนี้เราพักที่ ไทเป แบคแพคเกอร์ หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า ซีเหมิน แบคแพคเกอร์ อยู่ที่ย่านซีเหมินติง
ห้องพักเล็กๆ สมกับเป็นที่ซุกหัวนอนจริงๆ 555
ได้ห้องพักเบอร์ F ซะด้วย 555
ค่าที่พัก คืนละ 1300 NT เป็นสมาชิกเว็บไซด์เขา ได้ลด 5%
เอาข้าวของเก็บเสร็จแล้ว ก็ออกไปหาอะไรกินกัน (จ๊าก ได้ข่าวว่าเพิ่งกินบนเครื่องตะกี้นี้ 555)
อาหารจานแรกในไทเปค่ะ น่าจะเป็น โอเด้ง มั้ง
กว่าจะได้จานนี้มา เรียกว่ากดดันกันน่าดู เพราะว่าเพิ่งมาถึง จะพูดจะจากับใครก็ยังงงๆ อยู่ พอเดินผ่านร้านนี้ เห็นคนนั่งเต็มร้าน ก็เออ น่าจะอร่อยเฮะ แต่เดินเข้าไปนั่ง อาแปะก็ไม่เห็นสนใจมาไถ่ถาม เดินไปยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าหม้อต้มพักนึง อาแปะก็ยังไม่หันมามองอีก
คุณนายที่ไปด้วยกัน ชักเริ่มโมโหหิว จะเดินออกจากร้าน บอกว่า สั่งไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน เจี๊ยกกก
แม่ใครฟระ โหดอิ๊บ
รองท้องแล้วก็ไปวัดหลงซานกัน
วิธีไปง่ายมากๆ ขึ้นรถไฟสายหนานกัง-หยงหนิง จากสถานีซีเหมินติง ไปทางสถานีหยงหนิง 1 ป้าย ลงที่สถานีวัดหลงซาน
ค่ารถไฟใต้ดิน ถ้าขี้เกียจหาเหรียญหยอด ก็ซื้อบัตรอีซี่การ์ด(โหยวโย่ว ข่า)ได้ ราคา 500 บาท สามารถใช้เดินทางได้ 400 บาท ค่ารถจะได้ลดราคาอีก 20% ด้วย
เวลาขึ้นรถไฟใต้ดินที่ไทเป เพื่อนมดชมพูสอนว่า ให้ดูปลายทางของสายรถไฟนั้นๆ ไว้ จะได้ขึ้นไม่ผิดทาง 555
ไปถึงวัดหลงซานเอาสามทุ่มกว่าๆ วัดจะปิดอยู่แล้วเชียว
อยู่ในวัดได้แป๊บเดียว เขาก็ปิดวัดหนีเรา 555 เลยต้องไปเดินตรอกหวาซีแทน ที่ไต้หวัน มีตลาดกลางคืน หรือว่าไนท์มาร์เก็ตแทบทุกเมืองเลยทีเดียว ตรอกหวาซี ภาษาไทยจะเรียกตรอกงู เพราะว่ามีงูขายนั่นเอง
บรรยากาศรอบๆ
ร้านนี้ขายหม้อไฟอะไรสักอย่าง
ร้านตู้คีบตุ๊กตา
ของกินเล่นข้างทาง
ฝรั่งก็มี
อันนี้เหมือนหนมถังแตกบ้านเราเลย
คู่นี้ช้อนปลากันอยู่
หรือจะเล่นไพ่นกกระจอกแลกตุ๊กตา
บ๊วยนานาชนิด
เดินหาของกินกันต่อ ร้านนี้คนแน่นมาก เดินเข้าไปด้อมๆ มองๆ ดู เห็นเป็นหม้อต้มๆ เหมือนโอเด้งที่เรากินไปก่อนหน้านี้
ร้านนี้ขายรองเท้า กำลังลดราคา แต่ว่า รองเท้า กินไม่ได้
เดินหน้าหากันต่อไป
กินอะไรดีน้า
กินซีฟู้ดดีหรือเปล่า
ขาตู เอ๊ย ขาหมูสักขาดีมั้ยนะ 555
สัตว์ปีกพะโล้ก็มี แต่กลิ่นไม่ธรรมดา 55
ผู้คนเริ่มบางตาลงเรื่อยๆ
สุดท้ายก็มาตกลงใจที่ร้านนี้
หน้าตาคล้ายๆ หอยทอด แต่รสชาติไม่เหมือนหอยทอด 555
ระหว่างที่นั่งกิน มีชายหญิงคู่หนึ่งนั่งร่วมโต๊ะกับเรา
พอเขาได้ยินเราคุยกัน เขาก็ถามว่า ไท่กั๋วเหรอ แล้วเขาก็เล่าๆๆๆ ไม่ได้สนใจเลยว่าตูฟังภาษาจีนได้งูๆ ปลาๆ มาก จับใจความได้ประมาณว่า เขาเคยมาเมืองไทย ต้มยำกุ้งอร่อย และเยาวราชอาหารถูก 555 แค่นั้นแล
ปิดท้ายคืนนี้ ด้วยซุปหอยนางรม รสชาติออกจะแปลกๆ ไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ ในน้ำซุปใส่ขิงซอยและโหระพา เดาว่าน่าจะไว้ดับคาว แต่มันดูไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ อาจจะประหลาดน้อยกว่านี้ ถ้ามันเป็นหอยลาย (อันนี้ความคิดส่วนตัวนะคะ)
สองจานนี้ราคารวมกัน 120 NT
ก่อนกลับ แม่ได้เกาลัดอีกครึ่งโล ราคา 80 NT (โลละ 150 NT) เกาลัดถุงเดียวนี่ แม่ถือไปตระเวนกินด้วยเกือบทั่วไต้หวันเลยทีเดียว 55
ท้องอิ่มแล้ว การเดินทางในคืนนี้ก็จบลง พรุ่งนี้ เราออกไปตะลุยเที่ยวไทเปกันค่ะ
Create Date : 21 เมษายน 2552 |
|
10 comments |
Last Update : 22 เมษายน 2552 19:22:34 น. |
Counter : 2132 Pageviews. |
|
|
|