Fantasy 4 Friend Forever ภาค 2
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เผลอแป๊บเดียว เรื่องที่เล่าๆ อยู่นี่ ก็ผ่านไปปีหนึ่งแล้ว
คอนเสิร์ตที่ฮ่องกง ที่ได้ไปดูก็ผ่านไปปีหนึ่งแล้วเหมือนกัน
แน่นอนว่า ความทรงจำที่เหลืออยู่ ยังไม่หมดไป แต่....
ก็ย่อมจะจำไม่ได้เหมือนเมื่อตอนที่เหตุการณ์เพิ่งผ่านมา
และคงจะลดลงไปเรื่อยๆ ตามวันเวลาที่ผ่านไป
จำได้ลางๆ ว่า คืนนี้เมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่ได้กลับไปนั่งรวมกลุ่มกับโบวี่และปาล์มมี่แล้ว คอนเสิร์ตก็เริ่มขึ้นแบบนอนสต๊อป
ผู้ชายสี่คนในชุด...... จะเรียกว่าชุดอะไรดี เหอๆๆ มีผ้าคลุมสีดำๆ อยู่ข้างหลัง ไม่รู้ใครช่างสร้างสรรค์ชุดให้
ถามว่าหล่อมั้ย ก็ หล่อแหละน่ะ คนมันหล่อ ใส่อะไรก็หล่อ อิอิ
โชคดีที่ที่นั่ง ด้านหน้าจะไม่มีอะไรบัง เพราะเป็นวงดนตรี
แต่โชคร้าย....ที่มักจะมาคู่กับโชคดีเสมอ คือที่นั่งตรงนี้มันด้านหลังเวทีนี่หว่า
เพราะงั้น คอนเสิร์ตรอบแรก เลยได้ดูผู้ชายแบบหันหลังๆ กันเกือบตลอดรายการ
แถมยังไม่ค่อยจะผ่านมาเล่นกับคนดูทางนี้ เพราะว่า มันเป็นนักดนตรีน่ะ จะเล่นไปไย แง่งๆๆๆๆๆ
แต่.......ความพยายามของเราก็ยังไม่สิ้นสุด อิอิ
ฉันยังคงแอบถ่ายใต้กระเป๋าต่อไป เหอๆๆ แม้ว่าที่ถ่ายมาได้ เฟรมมันจะลอย จนเหลือแต่หัวนักร้องอยู่มุมด้านล่าง หรือบางทีซ้ำร้าย เห็นแต่ไฟบนเพดาน เหอๆๆ ก็ยังถ่าย
แถมไม่ใช่ฉันคนเดียวที่พยายาม แม่สาวด้านหลังฉัน ก็พยายามช่วยดูต้นทางให้
หะแรกที่เขาสะกิดไหล่ เราก็หัวใจแทบตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
โธ่ ตรูนึกว่าการ์ดจะมาคว้ากล้องตรูซะแล้น
แต่ชีกลับบอกว่า โอเคๆ แง่งๆๆๆ โอเคอะไรอ่ะเจ๊
เจ๊คนนี้พากเพียรดูต้นทางให้ตลอดรายการ อยากจะบอกชีจังว่า ไม่ต้องโอเค จะโอเคกว่ามั้ยอ่ะ โอเคทีไรเสียเส้นทุ๊กทีเลย
แต่แหมนะ จะพรืดไงล่ะ จีนกวางตุ้งเนี่ย
ก็ต้องขอบน้ำใจเจ๊คนนั้นที่ดูต้นทางให้ (ทั้งที่ไม่ได้ขอ) จนกระทั่งเราสามารถนำเทปบันทึกการแสดง ห่วยๆ ออกมาได้
จำได้อีกอย่าง คืนน้องนางคนที่นั่งข้างเดี๊ยนอีต้องเป็นแฟนไจ๋แน่ๆ
เพราะเพียงแค่เงาไจ๋ผ่านออกมา (ตัวยังไม่ต้อง)
ชีจะกรีดร้องเสียงดังโหยหวน เหมือนกำลังถูกเชือดอยู่ก็ไม่ปาน
เล่นเอาหูขวาของฉัน ชาไปเป็นพักๆ เสียงชีดังกว่าเสียงที่ออกจากลำโพงใหญ่ๆ หลายเท่านัก
ซ้ำร้าย ความที่เสียงชีดังจนเหมือนอยู่ใกล้ (จริงๆ อยู่ติด) ไอ้มวลหมู่ที่ไปด้วยกัน ดันคิดว่าตูกรี๊ดดดดดดดด
เฮ้อ คิดได้ไงฟระเนี่ย แง่งงๆๆๆ ไม่ได้กรี๊ดว๊อย แค่นี้มือก็จับกล้องเกร็งจนจะเป็นตะคริวอยู่แล้ว
จำได้อีกอย่าง ว่าเป็นคอนเสิร์ตที่แสดงยาวนานมากกกก เกือบสามชั่วโมงได้มั้ง
จนพอถึงเพลงที่บอกให้ทุกคนยืนขึ้น ฉันแทบไม่รั้งรอที่จะยืน
ไม่ใช่เพราะความมันส์ แต่เป็นเพราะความเมื่อยยยยย
แต่ก็คุ้มจนคิดเลยว่า ตูไม่ดูคอนเสิร์ตเมืองไทยอีกแล้ว
ถึงอีนี่ไปเล่นให้ดูที่เมืองไทย ตูก็ไม่ดูแล้วนะ
หนอย หกพัน นับเพลงได้เลย ยังจะมีของแถมแบบยัดเยียดอีกร่วมชั่วโมง แง่งๆๆๆ
ไอ้นี่สองพันกว่า ร้องจนนับเพลงไม่ถ้วน จำไรก็ไม่ค่อยได้ (สติแตกแล้วนั่นเอง เหอๆ)
แล้วก็ดูที่นั่งไม่ห่างไกลมาก ถึงจะเห็นแต่ข้างหลังก็เหอะ
(ใครมันช่างเอาเวทีมาตั้งตรงกลางฟระ ) แต่ก็รู้สึกว่าคุ้ม
คุ้มจนอยากดูอีกซักสิบรอบ เหอๆ ถึงกับกล้าดี ประกาศ ณ ตอนนั้น (ตอนนี้คงลังเล แหะๆ) ว่าถ้ามันมีคอนที่กงอีกสิบรอบ ตูก็จะดูสิบรอบ
ขนาดนั้นเลยอ่ะ คิดดู
ส่วนในคอนเสิร์ตมีอะไรมั่ง ก็คงเหมือนๆ กับคลิปที่ได้ดูๆ ผ่านกันไปนั่นแหละ จำไม่ได้จริงๆ
หลังจากเทปหมดม้วน ฉันรีบเอาม้วนเทปออก
แล้วส่งให้โบวี่เก็บ แยกกล้องแยกเทปว่างั้นเหอะ
คิดอะไรซับซ้อนแยบยลจริงๆ ตู
คืนนั้นกว่าคอนเสิร์ตจะเลิกก็ห้าทุ่มกว่าๆ
ย๊างงงงงงงงงงงง อย่าคิดว่าจะจบแค่นั้น
เพราะว่า ยังมีการชวนกันไปรอ พ่อเทวดาทั้งสี่ ออกจากหลังเวที กลับเข้าโรงแรม ซึ่งมีระยะทางไม่น่าจะเกินร้อยเมตร
แต่อีต้องนั่งรถ เหอๆๆ
พอเห็นโรงแรมปั๊บ แอบเสียดายอยู่หน่อยย
ก็ตอนหาข้อมูลจะมาฮ่องกงน่ะ ตะแรกจะจองโรงแรมนี้แล้ว เพราะเห็นใกล้ที่เล่นคอนเสิร์ต
แต่ด้วยความหลอกลวงของแผนที่ฮ่องกง ที่ทำให้ฉันคิดไปว่า แต่ละที่คงห่างกันพอสมควร
ก็เลยกลัวว่าโรงแรมนี้จะอยู่ไกลในเมือง ช็อปไม่สะดวก
ใครจะไปคิดว่าทุกอย่างจะเกยกันอยู่อย่างงี้ไปหมดอ่ะ
รออยู่นาน พ่อเทวดาก็ยังไม่ออกมา (คือได้ข่าวว่ารีบวิ่งกลับโรงแรมไปแล้วสาม เหลือแค่พี่เด้าคนสุดท้าย)
แต่ฉันปวดฉี่อ่ะ เหอๆๆๆ ปวดฉี่ เข้าใจม้ายยย
ไอ้โบวี่ กับปาล์มมี่ เลยต้องพาฉันข้ามถนน ไปฉี่ที่ห้องน้ำ ในสถานีรถไฟมั้ง เดาว่าอ่ะนะ
สังหรณ์บางอย่างบอกฉันว่า ถ้าฉันยืนอยู่ตรงนั้น มันจะไม่ออกมา แต่ถ้าไปไหนซักแป๊บ มันจะออกมา แล้วก็จริงอย่างนั้น เหอๆๆ
พอเราออกจากห้องน้ำมาได้ คุณเจอร์ ก็ออกมาให้ยลจริงๆ แต่เราอยู่ฟากตรงข้าม
ฉันพยายามซูมกล้องแล้วซูมกล้องอีก
แต่มันมืดอ่ะ ความที่ซื้อกล้องมาสองหมื่นสี่ ใช้เป็นแค่สี่พัน ไม่รู้ว่าเขาเปิดไฟกันตรงไหน เหอๆๆ คุณเจอรี่ก็เลยเป็นเงามืดๆอยู่ในกล้อง
ปาล์มมี่แทบจะกระโจนลงถนนไป จนต้องร้องเรียกให้ระวังรถ
ส่วนโบวี่ ไม่ได้ยินเสียงชีนะ สงสัยจะอึ้งช็อคไปแล้ว หรือไงก็ไม่รู้
หลังจากนั้นไม่นาน ความวุ่นวายก็จบลง
ผู้คนแยกย้ายสลายตัว กลับที่พักใครที่พักมัน
อ้อ ก่อนจะสลายตัว ยังไม่วายยืนรวมกันเป็นหย่อมๆ ตามบริเวณที่มีรูปมาขาย ขยายมาแล้วเรียบร้อย
ยืนเล็งๆ รูปอยู่ ก็เจอป้าคนนึง (อิอิ) ที่คุ้นเคยกันดี มานั่งหมดแรงอยู่ข้างๆ
ทักทายกันสักพัก ป้าอีกคนนึงตามมาสมทบแล้ว สองป้าก็จากไป เพราะกลัวรถไฟหมด
ไอ้เราเดินมา ก็เลยไม่กลัว สองขายังไม่หมดหรอก เหอๆ
เบ็ดเสร็จคืนนั้น กว่าจะกลับถึงที่พักได้ ก็เกือบตีหนึ่ง
แอนนิต้านอนรอคอยอยู่บนเตียง เปิดวิดีโอ ให้แอนนิต้าดู
แล้วเราก็ทยอยกันไปอาบน้ำ
ได้ข่าวว่าคืนนั้นกว่าโบวี่ที่อาบน้ำคนสุดท้าย จะได้นอน ก็เกือบตีสามเข้าไปแล้ว
และนั่นก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนวันนี้ เมื่อปีที่แล้ว
ที่อยากเก็บเอามาฝากทุกคน .....
ความทรงจำอันแสนสุข ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน...
Create Date : 24 มีนาคม 2550 |
|
5 comments |
Last Update : 24 มีนาคม 2550 8:44:34 น. |
Counter : 819 Pageviews. |
|
|
|
มี รักใส ๆ หัวใจ 4 ดวง ทั้งสองภาคเลย
ยังจำหนุ่ม 4 คนนี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ
ชอบทุกคนเลย