Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
22 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 
ว่ากันด้วยการใช้นกสดายุในบุราทิศ

สวัสดีค่ะ หายหน้าไปนานเพราะไม่ได้เข้ามาปัดกวาดถูบ้าน นานนับเดือน...เอื๊อก! ฝุ่นเพียบเลย

วันนี้จะมาลงเรื่องแบบขยาย การใช้สดายุในเรื่องจ้าวจตุรทิศค่ะ

เพราะชาวเทพในเรื่องนี้ส่วนมากจะใช้นกสดายุในการบินไปไหนต่อไหน ซ้ำยังอวดกันในทีด้วยว่าผู้ใดจะมีสดายุรูปร่างสวยกว่ากัน

เข้าเรื่องเลยนะเจ้าคะ...

ว่ากันด้วยการใช้นกสดายุ


เนื่องจากชาวเทพไร้พลังในการเหาะเหินเดินอากาศ มานานนับพันปีแล้ว เทพบัณฑิตจึงเป็นผู้คิดริเริ่มการใช้พาหนะอย่างอื่นแทน เนื่องด้วยพวกเขาอาศัยอยู่บนเทือกเขาสูงการเดินทางไปมาลำบาก อีกทั้งเวทที่ใช้ไม่ได้มุ่งทางพลังเหมือนดั่งเช่นเทพทั้งสามทิศ

ตามที่หอพญานกได้มีบันทึกไว้ได้กล่าวไว้ว่า วันหนึ่งหนุ่มน้อยชาวเทพบัณฑิตพบลูกนกตกลงมา ชาวเทพบัณฑิตเป็นผู้อารีจึงเลี้ยงดูมัน ก่อนจะรู้ในภายหลังว่ามันคือนกสดายุแห่งสวรรค์

นกตัวนั้นฉลาดและซื่อสัตย์ จากนั้นเทพบัณฑิตจึงคิดเลี้ยงนกสดายุมาช่วยในการเดินทาง

ในตอนแรกพวกเขาอยากจะใช้สดายุเพียงแค่ช่วงฤดูหนาวอันแสนทรหดเท่านั้น หากทว่าเมื่อชาวเมืองศิลาลัยเห็นความสง่างามและความสะดวกสบายของสดายุแล้ว พวกเขาจึงหันมาเลี้ยงสดายุบ้าง

ในช่วงแรกนั้นเรียกว่าเกิดการแย่งรันพันตู และบางรายถึงกับฆ่าแกงกันด้วยเพราะแย่งนก

หลังเกิดเหตุวุ่นวายดังกล่าว จอมเทพในยุคนั้นจึงได้มอบดวงเนตรสัตยาให้แก่สดายุทั้งปวงเพื่อให้มันสามารถเลือกเจ้าของได้โดยอิสระ...

และมีสิทธิอิสระเสรีที่จะอยู่ได้โดยไม่ขึ้นกับชนเผ่าใดในบุราทิศ หากการได้พรเนตรสัตยานั้นทำให้สดายุรุ่นหลังทั้งหมดตอบแทนจอมเทพในครั้งนั้นด้วยการยอมให้ผู้บังคับนกได้เป็นแค่ชาวเทพเท่านั้น

แม้จะแก้ไขปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่การครอบครองสดายุเพื่ออวดเบ่งบารมีก็คงยังมีอยู่จนถึงยุคนี้

ลักษณะของสดายุแต่และตัวจะมีความแตกต่างกันไป บางตัวบินได้เร็วแต่กลับตัวเล็ก บางตัวก็เด่นในเรื่องความฉลาดหากดื้อรั้น บางตัวก็มีพละกำลังมากว่าตัวอื่นแต่อ่อนด้อยในทางสติปัญญา บางตัวก็เอาแต่กินแต่ซื่อสัตย์กับนายอย่างที่สุด

แต่นกสดายุที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคหลังสงครามกับพญามารเมื่อครั้นบรรพกาลเท่าที่มีการจดบันทึกไว้ในหอสัตว์เทพมีอยู่สองตัว

ตัวแรกคือรัตนชาด ของท่านทรงกลด ได้รับฉายาว่า วิหคเพลิง เพราะนอกจากมันจะมีแดงสลับดำดุจกองเพลิง มันยังขึ้นชื่อว่า บินได้เร็วที่สุดนับแต่มีการเลี้ยงสดายุมาจนถึงบัดนี้

รัตนชาดถือกำเนิดในเทือกเขาสูง ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ทรงกลดต้องใช้เวลาถึงหนึ่งเดือนกว่า เพื่อให้รัตนชาดยอมรับเขาเป็นนาย

แม้ปัจจุบันอายุมันจะล่วงเข้าหนึ่งร้อยปี และทรงกลดเองก็ไม่ได้ใช้รัตนชาดเป็นพาหนะมานานแล้ว หากก็ไม่เคยมีชาวเทพคนใดคิดจะวัดฝีปีกกับมัน

นอกจากนี้มันยังเป็นผู้ให้กำเนิดหิมาลัย นกสดายุสีขาวปลอดที่มีความเร็วในการบินไม่แพ้กัน

ตัวที่สองคือ พญายม...นกพันธุ์ผสมระหว่างสดายุและพญาแร้งแห่งทุ่งกาลี

ตั้งแต่โบราณกาลแม้สดายุจะมีหลายเผ่าพันธุ์ หลากสีสัน แต่มันก็ไม่มีสีดำ...สดายุที่มีขนสีเข้มที่สุดเท่าที่เคยมีการสำรวจคือขนสีน้ำเงินอมดำ แต่ถึงกระนั้นเมื่อปีกนั้นต้องแสงอาทิตย์กลับเลื่อมระยับจนมองไม่เห็นสีดำอีกต่อไป

ข้อเสียอีกอย่างของนกสวรรค์คือ มันบินไม่ทน ดังนั้นนกสดายุจึงไม่มีปรากฎในแดนตะวันตกที่กอปรไปด้วยทุ่งกาลีอันทุรกันดารอันไพศาล

จ้าวปราสาทจันทรคราสคนก่อนจึงคิดนำสดายุกับนกในท้องถิ่นคือพญาแร้งรวมเข้าด้วยกัน และผลที่ตามมาคือ นกสดายุที่มีสีดำสนิทเหมือนอีกา บินได้ทนแข็งแรง และตัวใหญ่กว่าสดายุทั่วไปจนเห็นได้ชัด

แม้มันจะมีลักษณะสง่างามตามแบบสดายุทุกประการ แต่มันกลับมีนิสัยโหดเหี้ยม ชอบสังหารและทำร้ายได้แม้กระทั่งคนเลี้ยง ดังนั้นแม้แต่เทพตะวันตกผู้ให้กำเนิดนกพันธุ์ใหม่นี้ก็ไม่เคยคิดจะเพาะพันธุ์นี้ขึ้นอีกเลย

และนามของนกตัวนั้นก็ได้ตั้งตามลักษณะนิสัยพาลเกเรของมันคือ พญายม

บังเอิญเหลือเกินที่ทั้งสองตัวเกิดในยุคเดียวกันและเคยประลองความเร็วเพื่อไล่ล่าแก้วเมฆาในงานเทศกาลบวงสรวงมาแล้ว

โดยผลปรากฎว่ารัตนชาดเป็นฝ่ายชนะไปเพียงนิดเดียว ว่ากันว่าเจ้าพญายมถึงผิดหวังในการพ่ายแพ้จนไม่สามารถแม้แต่จะกระพือปีกอีกต่อไป

สุดท้ายเจ้าของมันซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดก็เป็นฝ่ายปลิดชีวิตมันด้วยตนเอง...

รูปด้านล่างเป็นภาพที่คิดว่าจะเหมาะกับสดายุแต่ละตัวในเรื่องจ้าวจตุรทิศนะเจ้าคะ







ตัวนี้จริงแล้วเป็นเหยี่ยว ชื่อ Ferrugious แต่พอ Search ภาพนกใน Google แล้วรู้สึกว่าตัวนี้แหละ คือรัตนชาด ผู้โด่งดัง


ตัวนี้ในเรื่องจะถูกย้อมเป็นสีขาวทั้งตัว ชื่อ หิมาลัย ของมุตติ ซึ่งเป็นลูกของ รัตนชาด หิมาลัยเป็นเจ้าของสถิติบินเร็วในยุคนี้ค่ะ ต้นแบบมาจาก Bald Eagle ที่สวยงามนั่นเอง




ตัวสุดท้ายจะนำเสนอใน Blog นี้คือ เนตรสุวรรณของหัสรังสี มีต้นแบบมาจาก Golden Eagle แสนสง่า

*_* ผู้ที่ไม่เคยอ่านจ้าวจตรุทิศอาจจะงงๆ บ้างเล็กน้อยนะเจ้าคะ

แต่คนที่อ่านอยู่จะรู้ว่าขาดนกสดายุตัวเอกอีกหนึ่งตัวก็คือ เวหา แต่ด้วย เวหาความจริงแล้วเป็นพญาแร้ง เลยกะว่าจะลงใน Blog ต่อไปเจ้าค่า...

ขอขอบคุณทุกคน ที่เข้ามาอ่านกันนะเจ้าคะ

สุดท้ายจริงๆ เจ้าค่ะ คือภาพพญานกสดายุต้นแบบในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ภาพนี้อ้างอิงมาจากหนังสือ วัดพระศรีรัตนศาสตรามและพระบรมมหาราชวัง หน้าที่ 123
สำนักพิมพิ์แสงแดดเพื่อนเด็ก โดย นิดดา หงษ์วิวัฒน์


Create Date : 22 กรกฎาคม 2549
Last Update : 22 กรกฎาคม 2549 22:15:37 น. 4 comments
Counter : 2457 Pageviews.

 
สงสารพญายมจังโดนเทพเจ้าของปลิดชีวิตเหรอ


ขอบคุณนะ เข้ามาอ่านแบบบังเอิญแต่อ่านสนุกเพลินมาก


โดย: meri วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:14:01:15 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณMeri

ขอบคุณมากเจ้าค่ะที่เข้ามาทักทายกัน และยังตามไปอ่านบล็อคว่าด้วยเรื่องการกำเนิดจ้าวเทวาทิศด้วยเจ้าค่ะ

อืม...จะว่าไปพญายมก็น่าสงสารอยู่เหมือนกันนิ

ดูจากวันที่ครั้งล่าสุดในบล็อคแล้วรู้สึกผิดจัง เพราะมันตั้งแต่เดือนก.ค. นู่น..ข้าพเจ้าไม่ได้แวะมาอัฟเลยค่ะ ทั้งๆ ที่มีเรื่องอยู่ในโครงการอีกเพียบเลย

แต่ถ้ามีคนอ่านแบบคุณ Meri แวะมาคุยแบบนี้ ทำให้มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยเจ้าค่ะ


โดย: run saya (run saya ) วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:22:43:32 น.  

 
นั่นสิ... สงสารพญายมด้วยคนนะ


โดย: คนอ่านขี้ใจอ่อน (อมิธีสท์ ) วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:32:55 น.  

 
ขยันอ่านจังวุ้ย...


โดย: run saya วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:04:51 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

run saya
Location :
Hong Kong Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




บอกเล่าเก้าสิบ:)

เราย้ายกลับมาทำงานที่ออฟฟิคในกรุงเทพฯ แล้วค่ะ ช่วงนี้งานการยังยุ่งตามระเบียบ แต่ถึงอย่างไรจะพยายามหาเวลามาเขียนหนังสือและจบต้นฉบับ (ร่าง) ของเล่มสามให้ได้ภายในปีนี้ค่ะ (หวังว่า)

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่กรุณาเข้ามาสอบถามความคืบหน้านะคะ
Friends' blogs
[Add run saya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.