Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
26 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

พักยก...ด้วยพันธุ์หมาบ้ากับ 21 grams

เราเป็นคนไม่ชอบอ่านอะไรที่มันบีบเค้นจิตใจ หรือถ้าสามารถรู้ล่วงหน้าว่าหนังสือเล่มไหนจบเศร้าแล้วล่ะก็ เหอ...เหอ...เราจะไม่อ่านล่ะ เพราะชีวิตจริงก็เครียดหนักอยู่แล้วค่ะ ตามประสาอาชีพที่ถูกรีดนา...เย่ย...บีบเค้นทางเศรษฐกิจด้วยบริโภคนิยม

นิสัย(เสีย)ของเราข้างบนนั้น อาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้กว่าที่เราจะกล้าหยิบนิยายของนักเขียนรางวัลพ่วงท้ายอันลือลั่นเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน ก็นานข้ามปี ด้วยความเข้าใจผิดเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่อง พันธุ์หมาบ้า (Mad Dog & Co.) ของ นักเขียนนามกระเดื่อง คุณชาติ กอบจิตติ จะเศร้าสลด มีตอนจบแบบเอวังไม่แคล้วจาก หนังสือขึ้นหิ้งเฉกเช่น ไอ้ฟักแห่งคำพิพากษา ของท่านนั่นแล

จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ไปแอบเรียนคอร์สการเขียนเรื่องมา ท่านวิทยากรได้นำบทแรกของพันธุ์หมาบ้ามาฉายขึ้นสไลด์ โอ้โห...บทแรกก็วิ่งเข้าตาดังโป๊ก พอเรียนจบแทบไปคุ้ย...เอ๊ย! ไปหยิบมาอ่านแทบไม่ทัน

และพออ่านจบแล้ว...โอ๊ย! อยากเอามะแหงกเขกหัวตัวเอง

มัน-สุด-ยอด-มาก...

และขออนุญาตสวมวิญญาณไอ้คุณอ๊อตโต ขอสบถสักประโยคเถอะ (เดี๋ยวไม่เข้าพวก) “ไอ้...เอ้ย...หากไม่ได้อ่าน แม่_ง เสียดายยยยย”





ไม่สปอยล์เนื้อเรื่องนะคะ
>>> พันธุ์หมาบ้าเคยถูกพิมพ์เป็นตอนๆ ลงในนิตยสารลลนา เมื่อนานมาแล้วค่ะ, เขาเล่าว่า...เรื่องนี้ผู้ประพันธ์เขียนขึ้นโดยมีพื้นฐานมาจากเรื่องจริง และตัวละครบางตัวก็เสียชีวิตไปแล้วด้วย วา...เศร้าจังเลย...

สมัยนั้นถือว่าเรื่องนี้เป็นปรากฏการณ์ย่อยๆ เลยทีเดียว เราไม่มีหนังสือที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนอย่างนี้นานแล้วเนอะ ว่ามะ?, (คล้ายๆ กับที่เวลาในขวดแก้วของประภัสสร เสวิกุล เคยทำได้มาแล้ว) เล่มที่เราอ่านเป็นเป็นเล่มที่พิมพ์ออกมาตอนที่พันธุ์หมาบ้ามีอายุครบรอบยี่สิบปี แบบบ่มหมักในถังไม้โอ๊ค (คารมสุดยอด) ทั้งเรื่องเล่าถึงกลุ่มก็วนสหายสนิทและไม่สนิทหลากหลายชีวิต ต่างคนต่างมีพื้นฐานชีวิตและเส้นทางต่างแตกกัน แต่สุดท้ายก็ต้องมาพันวัลพันตูทางทั้งตรงและทางอ้อม แต่หลังจากนั้นแต่ละคนก็ต่างแตกตัว (ไม่ใช่วงแตกนะ) เพราะต่างก็มีเส้นทางเดินของแต่ละคนค่ะ

แม้จะปรากฏตัวละครมากมายหลากหลายชีวิตในพันธุ์หมาบ้า แต่มีสองตัวละครที่โดดเด่นออกมาจากหน้าหนังสือคือ อ๊อต กับ ทัย สองสหายที่มีพื้นฐานชีวิตแตกต่างกันสุดขั้ว โดยคนแรกนั้น เป็นอดีตนักเรียนหัวไม้, หนีเรียน, หนีออกจากบ้าน, นักเลงคุมบาร์, เคยต้องโทษอยู่ในสถานกักกัน, ติดผง, ลุยหน้าอย่างเดียว ไม่เคยคิดหน้าหลัง รักเพื่อนยิ่งชีพ (มันน่านัก) และ ฯลฯ คนที่สอง เป็นอดีตนักกีตาร์ฝีมือชั้นเทพ ลูกชายห้างทอง ฐานะดี ครอบครัวดี จิตใจอ่อนโยน ทำอะไรมีแบบแผน หลักการ ไม่เคยคิดร้ายต่อใครๆ กระทั่งศัตรูที่ลอบกัดครั้งแล้วครั้งเล่า (แต่มันไม่เคยจำ)

เมื่อได้ข้อมูลคร่าวๆ ดังนี้ นักอ่านย่อมพร้อมเทใจให้แก่สหายคนที่สองคือ ทัย แต่ว่า เรื่องกลับไม่เป็นเช่นนั้น อ๊อต หรือ ไอ้อ๊อตโต ต่างหากคือตัวละครที่ได้ใจนักอ่านไปเต็มๆ (อย่างน้อยก็เราคนหนึ่งละ)ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว อ๊อตโตเองก็ไม่ใช่คนดีอะไรนัก แถมบางบทแทบอยากจะตบกบาลในความบ้าบิ่นและความเป็นคน ‘เสพย์ติดเพื่อน’ เกินไปของมันด้วยซ้ำ (แต่อาจถูกถีบกลับมาได้) ทั้งนี้ต้องยกนิ้วให้แก่ฝีมือนักประพันธ์เรื่องนี้จริงๆ ค่ะ

เท่าที่ค้นในเน็ตเรื่องนี้ถูกวิจารณ์หนาหูเรื่อง ถ้อยคำหยาบคายต่างๆ แต่เราว่าไม่เห็นต้องกลัวเลย ในเมื่อมันถูกเขียนขึ้นโดยศิลปินชั้นบรมครูเช่นนี้ หากเรามองกลับไปในคอนเซ็ปเรื่องถูกตั้งขึ้นมาแล้วว่า Mad dog & co. เพื่อนสนิทกันสิถึงจะกล่าวแบบศัพท์สมัยพ่อขุนได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจดังเช่นทัย ได้เคยรำพึงเอาไว้ในตอนต้นๆ เรื่อง เราว่ามันจริงใจดีออกนะ และในความคิดของเรา ความละเอียด ละเมียดละไม และอารมณ์ขันที่ซ่อนเร้นในความถ้อยคำหยาบนี้ต่างหากทำให้เรื่องนี้ขึ้นหิ้ง ไร้กาลเวลาทรงพลังและเปี่ยมเสน่ห์ ไม่จำเพาะเกิดขึ้นในยุคฮิปปี้ครองเมืองตามท้องเรื่อง

อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เราชอบมากๆ คือกับการเล่าเรื่องแบบสลับ เหวี่ยงไปมา หลอกล่อกับเวลา ชนิด ‘มาก่อนกาล’ ของพันธุ์หมาบ้า มันเป็นอย่างไรหรือ? สมมุติว่าเราอ่านนิยายหรือดูหนังสักหนึ่งเรื่องซึ่งจะมีการเรียงเหตุการณ์จากหนึ่งถึงสิบ หรืออย่างบางเรื่องที่มีลูกเล่นก็จะเล่าย้อนกับกาลเวลา หรือย้อนกลับ หรือเล่าจากหลังไปหน้า แต่สำหรับพันธุ์หมาบ้านั้น มันไร้กฏเกณฑ์ มันก็เสมือนตัวละครตัวหนึ่ง ที่มีชีวิตอิสระ เหตุการณ์ในเรื่องนี้จึงถูกเล่าด้วยวิถีทางของตัวมันเอง เป็นแบบของมันเอง เป็นแบบอ๊อตโต (เพราะส่วนใหญ่มันเป็นตัวดำเนินเรื่อง)

การเล่าเรื่องแบบเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเช่นนี้ทำให้เราคิดถึงภาพยนตร์เรื่อง 21 Grams (2003) ของ อินาร์รีตู (ชื่อผกก. พิลึกโคดๆ แต่งานสุดเจ๋ง) ที่ฌอน เพนน์ เล่นคู่กับนาโอมิ วัตต์





เราคิดว่าเป็นการเล่าเรื่องแบบเดียวกับพันธุ์หมาบ้า คือ...เหมือนไร้แบบแผน แต่มีแบบแผน โอ...สำนวนเหมือนกระบวนยุทธ์จอมกระบี่ของโกวเล้งเลยแฮะ ตอนนั้นยังคิดเลยว่า เฮ้ย…อยากจะเขียนเรื่องที่มีการเล่นกับเวลาและสถานการณ์ได้อย่างนี้ แต่สงสัยไม่ทันแล้ว มีคนเขียนแล้ว แถมก่อนหน้าตั้งยี่สิบปีแน่ะ! และคงไม่ได้มีแค่เล่มเดียวหรอก คุ้นๆ ว่าตลิ่งสูง ซุงหนัก ก็เล่าเรื่องด้วยท่วงทำนองคล้ายๆ นี้เช่นกัน (ขออภัยที่ข้อมูลอาจไม่แน่นเพราะยังไม่มีโอกาสอ่านซ้ำสองตั้งม.ต้นโน่นนนนแน่ะ) แต่นะ...อืมม์...ขอพักไว้ก่อน ต้องลองไปคิดใหม่ เอาไว้เป็นการบ้าน จะลองเล่าเรื่องเล่นกับกาลเวลาแบบนี้บ้าง แต่เป็นของเราเองน่ะ (หวังว่า)

จนแม้สรุปสุดท้าย พันธุ์หมาบ้าที่แฝงอยู่ในตัวแต่ละคนถูกกำราบได้บ้างไม่มากก็น้อยแตกต่างกันไป

ทัย ชายหนุ่มแสนดีและฉลาด ก็มีพันธุ์หมาบ้าที่แฝงอยู่ในตัวซึ่งเป็นแบบพันธุ์ที่อ๊อตโตไม่มี และไม่มีวันทำด้วย ส่วนมันคืออะไรนั้นต้องไปหาอ่านกันเอาเองนะคะ

ส่วนลูกบ้าของอ็อตโตจะมีวันสงบหรือไม่ เราหวังว่าจะไม่ (อ้าว!) เพราะนี่คือเสน่ห์น่ารักของตัวละครประเภท แบ๊ดบอย ขนานแท้ที่ยากจะมีใครเลียนแบบและเปี่ยมด้วยพลังเช่นนี้ แค่ฉาก ‘อ็อตโตโชว์’ ฉากเดียว ต่อให้มีอีกสิบทัยก็สู้อ๊อตโตคนเดียวไม่ได้

สุดท้ายแล้วเราคิดว่า ทุกคนต่างก็มีพันธุ์หมาบ้าทั้งนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเรานั่นเองว่าจะควบคุมมันได้แค่ไหน

แต่ก็แปลกดี...ตัวละครที่เราชอบอีกตัวหนึ่งคือ ล้าน ค่ะ เป็นตัวละครที่โผล่มาแว้บๆ ตลอดทั้งเรื่องเหมือนโฆษณาคั่นรายการ แถมโผล่มาทีไรเมาหลับทุกที (ฮา) ซ้ำยังมีวีรกรรมจีบหญิงที่ไม่มีใครเหมือนและเหมือนใคร แต่เราว่ามันน่ารักดีอะ




 

Create Date : 26 กรกฎาคม 2552
14 comments
Last Update : 21 สิงหาคม 2552 12:10:00 น.
Counter : 2469 Pageviews.

 

เฮ้ย! จริงรึเปล่าเนี่ย คุณรัน ผมกำลังอ่านเรื่องนี้อยู่พอดี สารภาพว่าตอนแรกไม่ค่อยชอบ รู้สึกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของน้าชาติไปหน่อย เลยไม่ซื้อมาอ่าน แต่พอมีโอกาสได้เจอะตัวเป็นๆ ก็ทำให้อยากไปซื้อมาอ่านขึ้นมา อ่านแล้วชอบ มันส์ดีอย่างที่คุณว่าน่ะแหละ

ส่วนวิธีเล่าเรื่องของแก ผมกลับไปคิดถึงงานของเควนติน ทาเรนติโนมากกว่านะ

 

โดย: nithiveragul 5 สิงหาคม 2552 0:38:20 น.  

 

เข้ามาเยี่ยมค่ะ

อ้าว! คิดเหมือนคุณแก้วเลย นึกว่าเป็นเรื่องหนัก ปวดกบาล เลยไม่กล้าไปหาอ่าน

ฟังแบบนี้ ต้องพักยกไปลองหามาประดับสมองขยายมุมมองตัวเองบ้างแล้วเนอะ


ปล แต่งบล็อกเก่งจังค่ะ (สอนบ้างสิ)

 

โดย: annie IP: 125.24.147.169 20 สิงหาคม 2552 23:31:07 น.  

 

ก่อนอื่นต้องขออภัยมากๆ ที่ไม่ได้เข้ามาตอบให้เร็วกว่านี้ เนื่องจากงานยุ่งมากๆ ค่ะ
เหนื่อยมาก อยากพักยาวๆ (แต่กลัวเขาไล่ออกอะ)

อืมม์...สวัสดีค่ะ คุณ นิธิฯ : อ่านจบแล้วมาคุยกันค่ะ (เราจะพยายามหาเวลาว่าง มาคุยนะคะ) ส่วนงานอีตาทารันติโน เออ...จริงด้วย เหมือนค่ะ ทำไมคิดไม่ออกน้อ

ตอนนี้เรากำลังอ่าน คำพิพากษาจากกพระเจ้า : An Instance of the Fingerpost (ของมติชน) เล่มหนาอึ๊ก...เจ็ดร้อยกว่าหน้า <<< อย่าบอกนะว่ามาอ่านเรื่องเดียวกันอีก เพราะหนังสือเล่มนี้เราว่า แนวคุณเลยล่ะ เป็นประวัติศาสตร์ช่วงศตวรรษที่...เท่าไหร่หว่า (จำไม่ได้ค่ะ ขออภัย ยังอ่านไปได้แค่หนึ่งในสี่เอง) เรื่องเกิดขึ้นในประเทศอังกฤษเป็นคดีฆาตกรรมที่ดูเหมือนธรรมด้า ธรรมดา แต่อ่านไปอ่านมาเกี่ยวโยงไปถึงการเมืองระดับคนใหญ่คนโตเลยทีเดียว <<< มันส์มากค่ะ ขอบอกโดยเฉพาะ 'ท่อนที่สอง'

คุณแอน: สวัสดีค่ะ, ถึงเราจะยุ่งแต่ก็โดดไปอ่านเรื่องนางมอมกับนายโดม (สรุปแบบตีหัวคนเขียนว่าเป็นนายโดมนี่แหละ) แล้วค่ะ, นางเอกน่า...จับมาเขย่าๆ ความคิดเสียใหม่ มีคนดีๆ ตามชอบอยู่แล้ว ดันไปปิ็งชาวบ้านชาวช่องเขาอีกแน่ะ

 

โดย: run saya 24 สิงหาคม 2552 22:56:56 น.  

 

ลืม...เจ้าหน้าตาบล็อคก็ลอกตามคำสั่งของพันทิปค่ะ ไม่ได้มีอะไรใหม่เลย
เพียงแต่เราแค่มั่วเก่งเท่านั้น (เอ๋า!) หัวข้อ bloggang ก็เอามาจากที่พันทิปแนะนำแหละค่ะ ส่วนแบ็คกราน์ตั้งใจปล่อยขาว อย่างนี้แหละ เพราะเวียนหัวพวกแบ็คกราวน์สีๆ ค่ะ (สงสารสายตาตัวเองง่ะ มันสั้นอยู่ประมาณหกร้อยแย้ว)

ยกเว้นภาพประกอบเป็นของเราเขียนขึ้นมาเอง ภาพบางส่วนก็ปรากฏในหนังสือของเราด้วย

เอาไปใช้ได้ค่ะ ไม่หวง

 

โดย: run saya 24 สิงหาคม 2552 23:04:15 น.  

 

นางเอกน่า...จับมาเขย่าๆ ความคิดเสียใหม่ มีคนดีๆ ตามชอบอยู่แล้ว ดันไปปิ็งชาวบ้านชาวช่องเขาอีกแน่ะ




หลายครั้งคนดีก็ไม่ใช่คนรัก ไม่ใช่เพราะไม่อยากรักคนดี เเต่เพราะรักคนอีกคนไปเเล้วต่างหาก .....ว่าเเต่คิดๆเเล้วก็ชักสยองนะ เกิดคนเรารักคนดีขึ้นมาจริงๆ คงมีคนดีให้รักเพียบ งานนี้คนรักคงไม่มีคนเดียวเเล้วล่ะ กร๊ากกกกก




ว่าเเต่เรื่องนี้ มันเกี่ยวอะไรกับฉันนี่ โอ้ว.....

 

โดย: อมิธีสท์ 27 สิงหาคม 2552 0:12:45 น.  

 

หวัดดีจ้า, สหายอมิธิสท์

ช่วงนี้ข้าพเจ้าแสนยุ่ง ทั้งงานหลักและงานเขียนของตัวเอง เฮ้อ...(เขาว่าหาเรื่องใส่ตัวใช่ไหมน้อ อยู่ดีๆ ไม่ชอบ เหอะ!)

เรื่องฟามรักไม่เข้าใครออกใคร อันนี้เห็นด้วยค่า, แค่แซวนางเอกของคนข้างบนเท่านั้นค่ะ (คุณแอน)

ตัวล่ะเป็นไงมั่ง? ใครว่าอยู่เมืองนอกสบาย? เหอ..เหอ..เห็นด้วยค่ะ, ไม่ได้เข้าไปอ่านนะคะ ต้องขออภัย

เศรษฐกิจที่นี่เองก็ฝืดเคือง เงินทองนั้นหายากจริงๆ ค่ะ

 

โดย: run saya 29 สิงหาคม 2552 23:50:23 น.  

 

ไม่ค่อยสบายนะรันจัง..... ว่าไปไม่สบายมากเลยต่างหาก ช่วงหลังๆมานี่เลยไม่ค่อยได้อัพบล๊อกบ่อย งานการก็มหาศาล เเต่ช่วงนี้ดีขึ้นมากเเล้วล่ะ เเต่ก็ยังไม่กล้าชะล่าใจ ก็เลยยังจะหายๆไปอยู่ เข้าบล๊อกน้อยลงเพราะต้องพยายามพักผ่อนให้มากขึ้น เเก่เเล้วกระมัง ร่างกายไม่เหมือนเมื่อก่อน เป็นอะไรทีก็ฟื้นยากหายยากนะ




เข้ามาบ่น ๆ ๆ ๆ เเล้วก็จากไป..... พร้อมกับบอกว่า ตะเองก็เหมือนกัน งานหนักตลอดชีวิต หาเวลานอนบ้างนะ เป็นห่วงนะ .....จริงๆ

 

โดย: อมิธีสท์ 3 กันยายน 2552 1:05:27 น.  

 

เข้ามาทักค่ะ

ไม่ได้เข้ามาบล็อกคุณแก้วตั้งนานแน่ะ ไม่รู้ว่ามาตอบไว้ด้วยอะ

น่ารักจริงๆเลย

คริ คริ เรื่องนายโดม เขาเด็กไงคะ ยัยดรีมเลยไม่มอง

ก็ค่านิยมในสังคมไทย (และเอเซียส่วนใหญ่) จะไม่ชอบผู้หญิงแก่กว่าอะค่ะ

ไว้ว่างๆ จะลองเข้าไปอ่านคำสั่งแต่งบล็อกใหม่ค่ะ

ที่ทำๆอยู่อาศัยแบบสูตรสำเร็จของคนอื่น แต่แอบไม่ปลื้มเอาซะเลยค่ะ

อ้าว! อกตัญญูจริงๆเลยแฮะ

ปล มาขอแอ็ด blog คุณแก้วในล็อกอินนี้นะคะ

อันนี้ล็อกอินของแท้ค่ะ ชื่อตัวเองไม่ได้ขโมยใครมาเน้อ

ปล 2 ว่างๆมาเขียนเบื้องหลังเรื่อง 'จ้าวจตุรทิศ' ให้อ่านบ้างเน่อ

อยากรู้ความคิดคนเขียนกับแรงบันดาลใจอะ

 

โดย: Pim~Dow 3 ตุลาคม 2552 21:56:53 น.  

 

หวัดดีสหายอมิธีสท์,

เออ...เซ็งเจงๆ วันศุกร์ทำงานถึงบ้านตีหนึ่งกว่าๆ แน่ะ เฮ้อ...

เราสบายดีค่ะ, ไม่ป่วยไม่ไข้เน้อ (นังนี่มันอึด) หากไม่มีงานทำอาจน่าเป็นห่วงกว่านี้ จริงมะ?

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ หรือไม่ก็...หาคนดูแล อิ...อิ...

คุณพิมพ์ดาว (คุณแอน)

เข้าไปอ่านหัวข้อทักทายในบล็อคของคุณแอนแล้วทำให้อยากเขียน และวางเป้าหมายได้ชัดเจนแบบคุณแอนจัง, ในหัวของเรามีแต่เรื่องบ้าบอคอแตกเต็มไปหมด มีเรื่องเล่าเป็นสิบเรื่อง (เจ้าแม่พล็อต) แต่ติดที่ว่าเราไม่สามารถทำอะไรหลายๆ อย่างได้พร้อมกัน (สมาธิจะแตกซ่านเสียก่อน) ที่ทำมาได้ถึงขนาดนี้...หมายถึงทำงานหลักไปด้วย พร้อมกับเขียนนิยายไปด้วยเนี่ย ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ (สำหรับเรา) แท้ๆ

ตอบปล. ของคุณแอน 1: เรา add ชื่อท่านมาไว้ในบล็อคเราแล้วล่ะค่ะ
2: เอ่อ...โครงการเบื้องหลังฯ นี่วางแปลนไว้เลยมาสามปีแล้วค่ะ (เย่ย) แต่ยังไม่ได้ฤกษ์เขียนเสียที มีแต่ข้อมูลวนๆ อยู่ในหัว รอเวลาให้นังคนเขียนมันเขียนออกมานี่แหละ เฮ้อ....

 

โดย: run saya 5 ตุลาคม 2552 21:59:53 น.  

 

^

เออนะ... ยังอึดได้อยู่ นับถือจริงๆเพื่อนเรา


คนดูเเลหายากรันจัง มีมาเรื่อยเเต่ไม่คงทนถาวร เหมือนสมัยเรียนนั่นล่ะ ตะเองก็เคยเห็นๆมา คงไม่มีดวงทางนี้หรอก ดูเพื่อนเราเเต่ละคนสิ เเต่งกันไปเท่าไรเเล้ว อีกสักห้าปีเค้าอาจได้ย้ายนิวาสถานไปอยู่ป่าละ


ประเด็นคือห่วงมันเยอะนี่สิ ห่วงคนนั้นคนนี้ อย่างพระท่านว่า มารเยอะ

 

โดย: อมิธีสท์ 6 ตุลาคม 2552 1:48:43 น.  

 

อ้าว เอ้ย...เข้าลัทธิปลีกวิเวกอย่างนี้ แนวเดียวกับไอ้ต้าเลบ
มือถือมันหายเมื่อวันเสาร์...บ่นเป็นหมีเลย
ลอง email ไปคุยกับมันดิ

ปล. เพิ่งรู้ว่าไอ้ต้ามันอยากเป็นครู...(ช็อค!)
เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปอหนึ่ง
แต่คิดมาตลอดว่ามันอยากเป็นนักแปล (ช็อค) <<< อีกรอบ

 

โดย: run saya 6 ตุลาคม 2552 13:15:29 น.  

 

มารออ่านเบื้องหลังเน่อ

เขียนมาเต๊อะ ของอยู่ในหัวเราเอง เขียนๆไปขี้คร้านจะเขียนไม่ยอมหยุด

โม้ติดหมัน

รออ่านนะคะ

 

โดย: annie IP: 125.24.171.120 7 ตุลาคม 2552 23:05:25 น.  

 

^
^
แง้...งานเค้าจะทับตายอยู่แล้วอะ...

เค้าอยากมีเวลาเขียนหนังสือ กะวาดรูปอะ...แค่นี้ทำไมมันยากนัก?

สงสัยต้องถามตัวเองก่อนมั้ง

ไร้สาระจริงๆ ความเห็นนี้ (- -")...ขอโท้ดก้าบ

 

โดย: run saya 12 ตุลาคม 2552 18:56:51 น.  

 

บางอย่างของ()ของชีวิตตีแผ่เหมาะสมคับ

 

โดย: ลุยหลังสวน IP: 223.24.38.14 1 มิถุนายน 2560 21:53:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


run saya
Location :
Hong Kong Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




บอกเล่าเก้าสิบ:)

เราย้ายกลับมาทำงานที่ออฟฟิคในกรุงเทพฯ แล้วค่ะ ช่วงนี้งานการยังยุ่งตามระเบียบ แต่ถึงอย่างไรจะพยายามหาเวลามาเขียนหนังสือและจบต้นฉบับ (ร่าง) ของเล่มสามให้ได้ภายในปีนี้ค่ะ (หวังว่า)

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่กรุณาเข้ามาสอบถามความคืบหน้านะคะ
Friends' blogs
[Add run saya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.