Group Blog All Blog
|
ลด_23 รุ่งวรา สู้ๆ ^^ 9.00 ข้าว + ปลาเก๋าต้มส้ม แช่บบบบบบบบ 11.00 ยาคูลย์ 1 ขวด 12.30 บะหมีเกี๊ยวปู 1 ชาม (กินเส้นบะหมีไปครึ่งหนึ่ง) 13.00 ฝรั่ง 3 ชิ้น 15.00 ฝรั่ง 8 ชิ้น (รวมกินฝรั่งวันนี้ 1 ลูก) 18.00 ส้มตำปูปลาร้า 1 จาน สู้ๆนะคะะะ
โดย: gikogiko วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:11:25:08 น.
อาการหิวโหยช่วงก่อนมีประจำเดือนและการลดความอ้วน
เรื่องของ อาการหิวโหยช่วงก่อนมีประจำเดือนนั้นเป็นกันแทบทุกรายในผู้หญิง และก็เป็นกระทู้รายเดือนอีกเช่นกันครับใน "คลับลดความอ้วน" วันนี้เลยขอนำความรู้ต่าง ๆ ที่ผมได้ผ่านตา มาเผยแพร่นะครับ ซึ่งอาจจะพอทำให้คุณผู้หญิงที่ลดความอ้วนอยู่ "มองโลกในแง่ดี" ขึ้นมาบ้าง และ "ไม่เครียดจนเกินไป" ในช่วงที่มีประจำเดือน โดยปกติแล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่จะโหยหาอาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต ช่วงก่อนที่จะมีประจำเดือน (สามวันก่อนมีประจำเดือนจะโหยสุด ๆ) ทั้งนี้เพราะว่าฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามสิ่งที่คนลดความอ้วนพยายามทำกันก็คือ พยายามที่จะจำกัดอาหารให้เท่ากับที่ตนเองเคยรับประทานมาก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายก็ทนกันไม่ได้ เกิดอาการตะบะแตก และรับประทานไม่หยุดโดยเฉพาะอาหารขยะที่มีแคลอรี่และคาร์โบไฮเดรตสูง ทั้งนี้เพราะอาหารดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการของร่างกายได้อย่างรวดเร็ว สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนมองข้ามไปก็คือ ช่วงก่อนมีประจำเดือนนั้น การเผาผลาญพลังงานของร่างกายก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยการนี้ Barr, Janelle, และ Prior (1995) ได้ทำการทดลองเรื่องการเผาผลาญพลังงานช่วงก่อนมีประจำเดือน และพบว่าการเผาผลาญพลังงานในช่วงก่อนมีประจำเดือนนั้นเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 100-500 Kcal/วัน (แล้วแต่บุคคล) เช่นกัน ในประเด็นดังกล่าวนี้ Clark (1997) แนะนำว่า ให้คุณผู้หญิงที่ลดความอ้วนทุกคนที่มีอาการหิวโหยในช่วงเวลาก่อนที่มีประจำเดือนรับประทานอาหารได้เพิ่มมากขึ้น 200-500 Kcal /วัน (ห้ามเกินกว่านี้เด็ดขาด) ซึ่งนั้นก็พอ ๆ กับอาหารอีก 1 มื้อ เช่นกัน ดังนั้น หากคุณโหยหาอาหารช่วงก่อนมีประจำเดือนก็ทานเถอะครับ อย่าหักห้ามใจตัวเองให้มากนัก การที่หักห้ามใจไม่ทานอะไรเลยในช่วงก่อนที่จะมีประจำเดือนมักจะส่งผลเสียกับการลดน้ำหนัก เพราะโดยปกติแล้วส่วนใหญ่มักจะหักห้ามใจตนเองกันไม่ได้ และก็มักจะจบด้วยอาหารขยะทั้งหลาย สาเหตุหลักก็เพราะว่าเมื่อความอดทนถึงขีดสุด ความอยากอาหารก็จะปะทุออกมาอย่างรุนแรง เมื่อความอยากอาหารที่ประทุออกมามีมาก อาหารที่สามารถตอบสนองความอยากดังกล่าวได้ดีที่สุดก็มักเป็นอาหารขยะทั้งหลาย สุดท้ายก็มักจะจบลงด้วยการกินเกินกว่า 500 Kcal ดังนั้น คุณผู้หญิงควรจะเลือกกินอาหารที่เป็นประโยชน์เมื่อความหิวเริ่มประทุขึ้น อย่ารอให้ความหิวโหยดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด ไม่อย่างงั้นคุณอาจจะควบคุมมันไม่ได้ โดยการนี้อาจจะค่อย ๆ เพิ่มการรับประทานขึ้นมาแล้วดูว่าปริมาณอาหารแค่ไห สามารถบรรเทาอาการความหิวโหยของคุณได้ โดยไม่ควรเพิ่มขึ้นเกินกว่า 500 Kcal /วัน ช่วงก่อนมีประจำเดือน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคุณจะพยายามสุดความสามารถแล้วแต่ก็ไม่สามารถลดความหิวโหยดังกล่าวได้ ก็ไม่ควรคิดมากจนเกินไปครับ อย่าลืมนะครับว่าการเผาผลาญของคุณก็จะสูงขึ้นมากกว่าปกติอยู่แล้วในช่วงดังกล่าว นอกจากนี้แล้วหากมองโลกในแง่ดีการที่คุณทานมากขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ ขณะที่คุณลดความอ้วนอยู่ ยังเป็นการกระตุ้นฮอร์โมน Leptin ให้ทำงานได้ดีขึ้นและสุดท้ายก็จะส่งผลให้ระบบการเผาผลาญของคุณดีในระยะยาวอีกด้วย ข้อมูลจากบลอก Jackson5 จ้ะ โดย: pa_jeab วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:12:04:41 น.
โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:12:24:33 น.
|
rungwara
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ลดน้ำหนักมาก็หลายยก เฮ้อ ทำได้บ้าง แล้วก็ขึ้นมาอีก และแย่เข้าไปอีก ตอนนี้ หนักสุดในชีวิต T_T >_<" 1/9/51-26/12/51 73kg-->57.8kg (-15.2kg) 10/1/52-10/4/52 60kg-->58.6kg(-1.4kg) 1/5/52-31/7/52 60.3-->60kg(-0.3kg) 15/8/54-31/8/54 79.7--->74 (ลด5.7kg) 1/9/54-30/9/54 74---->70.7 (ลด3.3kg) 1/10/54-31/10/54 70.7 -->69.5 (ลด1.2kg) 1/11/54-30/11/54 69.5 -->67 (ลด2.5kg) 1/12/54-31/12/54 ?????(เป้าหมาย 64kg) มาดูกัน ว่า สิ้นปีนี้ จะเป็นยังไง เชื่อว่าแกทำได้รุ่งวรา สู้เว้ย ^^ Friends Blog
Link |