|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
25 มิถุนายน 2551
|
|
|
|
ตอนที่ 14 2 ต่อ 1 มะรุมมะตุ้ม
เรื่องราวของหม่าม้า ที่ร้างราตำราเรียนร่วม 30 ปี แล้วตัดสินใจกลับสู่ห้องเรียนใหม่ในวัย ฮ นกฮูก
ตอนที่ 14 2 ต่อ1 มะรุมมะตุ้ม
ต้นทุนสินค้าประกอบด้วยอะไรบ้างคะ หม่าม้า
วัตถุดิบ แรงงานการผลิต....
ฉันทบทวนสิ่งที่เรียนมา อย่างไตร่ตรอง พยายามไม่ให้พลาดเพื่อที่คนติวจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาทวนย้ำอีกครั้ง นุ่มขีดเขียนอะไร ยุกยิกบนกระดาษ แล้วยื่นมาให้ฉันดูว่า
หม่าม้าแยกซิคะ อันไหนคือต้นทุนคงที่ ต้นทุนแปรผัน
ฉันคิดในใจ ต้นทุนคงที่..คือค่าใช้จ่ายที่ต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะผลิตจำนวนเท่าไหร่ ก็ต้องจ่ายไปตามกำหนด เช่น ค่าขนส่ง ต่อให้มีสินค้า 1 ลัง หรือ 20 ลัง ก็ต้องเสียค่ารถวิ่งไป- กลับเท่ากัน หรือค่าเครื่องจักร จะผลิตเท่าไหร่หรือไม่ผลิตก็เป็นต้นทุนที่จ่ายไปแล้ว ค่าโฆษณา 1 หน้าหนังสือพิมพ์ ขายได้มากหรือน้อยก็ต้องจ่ายเต็มจำนวนค่าเนื้อที่โฆษณาที่เจ้าของสื่อกำหนดมาให้ และเงินเดือนพนักงานประจำ ขายได้มาก น้อยหรือขายไม่ได้เลยก็ต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานเท่าเดิม จะเบี้ยวไม่ได้
ดีมาก นุ่มชม
ฉันถอนใจยาว วันนี้สมองก็ลับคมเรื่องต้นทุนจบไปอีกหนึ่งเรื่อง
ชั่วระยะอีกไม่กี่อาทิตย์ที่เหลือ ฉันถูกมะรุมมะตุ้มด้วยเพื่อนๆในกลุ่ม สุมหัวใส่ตัวเลขและวิธีการคำนวณอย่างเร่งด่วน นุ่มจะเป็นคนปรับสวิทช์สมองที่เกียจคร้านของฉัน จูนสุดเหวี่ยงให้เปิดรับสิ่งใหม่ๆเข้ามา ปูแนวความคิดด้านการเงินเต็มเซลส์สมอง ออกแรงเคาะสนิมเกรอะๆร่วงกราวลงมาบ้าง(แม้จะยังมีเกาะกรังอีกหนาเตอะ) ลงทุกรายละเอียดเท่าที่จะทำได้ ส่วนพงษ์จะสรุปสูตรทั้งหมดด้วยวิธีลัด
หม่าม้าถอด Vat หรือยัง ราคาสินค้ารับมาขายน่ะ ต้องถอด Vat 7% ออก ถึงจะรู้ว่าต้นทุนที่ไม่มีภาษีเท่าไหร่
พงษกำลังสอนเรื่องการถอดภาษีมูลค่าเพิ่ม
อะ อะ ตั้งบัญญัติไตรยางค์อีกแล้ว
คนสอนเกือบจะตีมือฉัน เมื่อฉันเริ่มใช้วิธีคิดแบบดั้งเดิมเทียบบัญญัติไตร ยางค์สมัยประถม
เอา 1.07 หารเลย จำง่ายๆ
ฉันจิ้มเครื่องคิดเลขขลุกๆขลักๆอยู่พักใหญ่จนได้คำตอบออกมา มองหน้าอีกฝ่ายเหมือนไม่ค่อยแน่ใจ พงษ์พยักหน้ารับรองคำตอบ
เอาล่ะ คราวนี้มาดูวิธีการคำนวณจุดคุ้มทุนกัน Break Even Point เอาสูตรง่ายๆนี้ไป..
จำวิธีคิด Contribution Margin ได้มั๊ย ผลต่างระหว่างราคาขายลบด้วยราคาต้นทุนผันแปร ใช้สูตรนี้......
นี่คือวิธีคำนวณระยะคืนทุนหรือ เรียกว่า Pay Back Period Depreciation ค่าเสื่อมราคาสามารถหารเป็นค่าใช้จ่ายรายปี ฯลฯ
อย่าเพิ่งเบื่อหรืองงงงวยกับศัพท์แสงทางการเงินเหล่านี้ นี่เป็นเพียงส่วนน้อยนิดที่ฉันยกตัวอย่างขึ้นมา เพื่อให้คุณผู้อ่านเกิดจินตนภาพตามไปด้วย ว่า ฮ นกฮูกตัวต้วมเตี้ยม(น่าสงสาร)กำลังถูกมะรุมมะตุ้มด้วยคำศัพท์การเงิน ทับถมจนเห็นหน้าใครๆเป็นตัวเลขและสูตรไปหมด ( เช่นกวินน่าจะเป็นเบอร์ห้า เพราะเจอทีไรหัวเราะแต่ไกล ฮ่า ฮ่า ฮ่า เรื่อย)
เดี๋ยวนี้ ช่วงเช้าทุกวันอาทิตย์ ศรีมา เจ้าหน้าที่ห้องสมุดจะเห็นฉันโผล่หน้ามาก่อนใคร แล้วเดินแบกสัมภาระ (ตะกร้าปิคนิค)ไปจองโต๊ะริมสุดเพื่อเสียงจะได้ไม่รบกวนคนอื่น (เหตุผลที่แท้จริงเพราะ เขินอายหรอก ไม่อยากให้ใครๆเห็นภาพผู้ใหญ่รุ่นแม่โดนเพื่อนรุ่นลูกดุหรือตีมือเพราะคิดเลขผิด)
สักพักไม่พงษ์ก็นิ่มจะโผล่หน้ามา แล้วแต่ตามตกลง บางทีก็มาทีเดียวพร้อมกันทั้ง 2 คน แล้วก็เริ่มติวเข้มไปจนถึงเที่ยง หยุดพักกินข้าวที่ฉันเตรียมมาให้ ก่อนจะรวมกลุ่มกับสมาชิกที่เหลือทำงานวิชาอื่นบ้าง บางครั้งการติวติดพันล่วงไปถึงบ่ายก็มี อดเกรงใจกวินและยายที่มาคอยไม่ได้
ไม่เป็นไรค่ะ หม่าม้าไถ่โทษไปแล้วด้วยสปาเก็ตตี้ปลาเค็มมื้อนี้ อร่อยจัง
ยายชม หลังจากแกะกล่องกิน และอิ่มก่อนใคร
หม่าม้าทำอย่างไรคะเนี่ย ไม่เค็มปี๋เหมือนที่ร้าน นุ่มเพิ่งได้ชิมไม่กี่คำ
ใส่ปลาทูน่าลงไปคลุกเคล้าด้วย ตัดเค็มไปได้บ้าง
ฉันเลื่อนสลัดมันฝรั่งให้พงษ์ ผู้กำลังก้มหน้าก้มตาจัดการภารกิจเฉพาะหน้า เคี้ยวตุ่ยๆไม่มีปาก - เสียง หลังจากใช้เสียงทั้งหมด ทั้งขู่ ทั้งปลอบนักเรียนในอาณัติตลอดช่วงเช้า
ใครว่าเรียนโทแล้วจะผอม ไม่จริงเลยค่ะ ยายหนักขึ้นตั้ง 2 ก.ก. มาที่โรงเรียนก็กิน กลับบ้านดึกๆก็กินอีก แล้วก็นอนเลย ตื่นเช้าก็ยังกิน
คนพูดเหยียดแขนทั้งสองกางออก
เคยได้ยินพวกขี้เกียจตัวเป็นขนมั้ย เนี่ยขี้เกียจจนตัวกลมหมดล่ะ
ขึ้นอยู่กับว่าเรียนอยู่กลุ่มไหนต่างหาก จริงมั้ย หม่าม้า
กวินตบพุงตัวเอง วันนี้เขาแวะซื้อเสบียงอื่นๆทั้งของหนักและของหวานเพิ่มเติมมาด้วย กะว่าจะอยู่กันให้ถึงค่ำเลย จะได้มีเวลาทำงานกันเต็มที่ ฉันไม่รู้ว่ากลุ่มอื่นๆมีการจัดการบริหารภายในเป็นอย่างไร แต่สำหรับกลุ่มที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้ นับวันจะกลมกลืนกันได้มากขึ้น ทุกคนเริ่มยอมรับความเก่งกาจและบกพร่องของแต่ละคน ( แม้จะยังไม่ค่อยสนิทใจนักก็ตาม) และไม่พยายามตำหนิหากเกิดข้อพลาดพลั้งเล็กๆน้อยๆขึ้น
นุ่มกับกวินก็ดูเหมือนจะลืมข้อบาดหมางในอดีตแต่ครั้งก่อนแล้ว (ถึงกวินจะมีประโยคกัดเล็กกัดน้อยบ้าง และนุ่มมักทีท่าแสดงว่า....ฉันเหนือกว่า) คงน่าเสียดาย...ถ้าไม่ได้อยู่ร่วมเรียนกับพวกเขาอีก
บริษัทให้คำปรึกษาเนี่ย คิดค่าบริการอย่างไร
พงษ์ถามนุ่ม ขณะที่อธิบายเรื่องการคิดค่าบริการเพื่อคำนวณผลตอบแทนต่อการลงทุน ( Return on Investment)
คิดเป็นวันทำงานกี่วัน หรือเป็นชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงานนั้นๆ
โอ้โฮ อย่างนี้ ไม่รวยแย่หรือ สต็อคก็ไม่มี เครื่องจักรก็ไม่ต้องซื้อ โรงงานไม่ต้องตั้ง เสียแต่ค่าเวลาอย่างเดียว
ใครๆถึงชอบทำงานเป็นที่ปรึกษาไงคะ หม่าม้า นักกฏหมายเก่งๆบางคนเพราะเรานั่งเก้าอี้ปั๊บ เขาตั้งนาฬิกาจับเวลาไว้เลยว่าให้บริการไปกี่นาทีแล้ว
นุ่มเอ่ยชื่อที่ปรึกษาทางกฎหมายที่มีชื่อเสียง ค่าตัวแพงติดอันดับ บริษัทตรวจสอบบัญชีของเธอบางครั้งก็ต้องขอความช่วยเหลือเมื่อถึงคราวจำเป็น
เห็นใบเรียกเก็บเงินมาที แทบจะเป็นลม รู้อย่างนี้เรียนกฏหมายแต่แรกก็ดี
งานบางอย่างก็คิดป็นราคาต่อชิ้น เช่น งานแปลเอกสาร นุ่มเล่าต่อ แต่มือโปรจริงๆจะตั้งอัตราชั่วโมงด้วยมาตรฐานของเขา
เธอยกตัวอย่างนักแปลชาวชาวอังกฤษ ซึ่งทำงานประจำเป็นคอลัมนิสต์ให้หนังสือพิมพ์ต่างประเทศฉบับหนึ่ง
แปล 1 หน้าใช้เวลา 1 ชั่วโมงก้อ 500 บาท หากมีแก้ไขภายหลังเล็กน้อย ไม่คิดเงินเพิ่ม ไม่มีการคิดเงินตุกติกหรืออู้ชั่วโมง
ทั้ง 2 คนยังเถียงกันต่อถึงมาตรฐานที่ควรจะเป็นในค่าบริการแต่ละแขนง และเพื่อไม่ให้ลูกศิษย์ ฮ นกฮูกตัวนี้สับสนเพราะภูมิคุ้มกันตัวเลขยังไม่เพียงพอ จึงขอให้ฉันไปพักสักครู่ ปล่อยให้ติวเตอร์สรุปกันก่อน
ฉันเลยถือโอกาสพักดื่มชาอุ่นๆแก้หนาว ดูภาพชายหนุ่มและหญิงสาวที่โต๊ะมุมห้องถกเถียงหาเหตุผลซึ่งกัน ถ้ามองจากสายตาคนภายนอก คงสงสัยว่า ทำไมหนุ่มสาวคู่นี้ถึงพูดจาจริงจังขึงขังผิดกับคู่รักกระหนุงกระหนิงทั่วไป
Create Date : 25 มิถุนายน 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 25 มิถุนายน 2551 19:22:34 น. |
Counter : 876 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
รุ้งพลบ |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
ใช้ชีวิตแสวงหามาหลายปี ปัจจุบันก็ยังแสวงหาไม่รู้จักเสร็จ บางอารมณ์เหนื่อยๆ ก็หยุดพัก แล้วตรองนิ่งเขียนบันทึกในสิ่งที่พบเห็น
บางอารมณ์ที่โมแรนติค ชอบดูสายรุ้งตอนโพล้เพล้
|
|
|
คู่รักหรือ....ฉันสะดุดกับความนึกคิดของตัวเอง แล้วรีบปัดออก ใจฉันไม่ควรจะไขว้เขวนำพาภาพเบื้องหน้าไปสู่ความฟุ้งซ่านอื่นๆ การที่เขาทั้งคู่ต้องมานั่งสุมหัวปรึกษาโจทย์การเงินก็เพื่อประโยชน์ของฉันทั้งสิ้น แทนที่จะได้ใช้เวลาอาทิตย์เช้าหยุดพักผ่อนหรือไปสนุกเฮฮาตามประสาวัยหนุ่มสาว
หม่าม้าครับ สรุปการบ้านข้อนี้เป็นอย่างนี้นะครับ....
พงษ์เริ่มสั่งแบบฝึกหัดข้อใหม่ให้ฉันเอากลับไปทำต่อ เหมือนครูใหญ่ให้การบ้านนักเรียนแล้วกำชับวันเวลาที่ต้องส่งอย่างไรอย่างนั้น เขาเองก็คงไม่เคยคาดคิดว่า วันหนึ่งจะต้องมาเป็นครูสอนลูกศิษย์อายุคราวเดียวกับหม่าม้าที่บ้านเหมือนกัน
หม่าม้าผมคิดเลขเก่ง ไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลขเลย เป็นแม่ค้านี่ครับ พงษ์พูดถึงผู้ใหญ่ที่บ้านอย่างชื่นชม
ไปเรียนที่ไหนมาล่ะจ๊ะ
เรียนรู้เองครับ ลงบัญชีง่ายๆได้ คิดต้นทุนสินค้าเป็น คิดราคาขายได้ แต่ในแบบเขาเองนะครับ เอาหลักการจริงๆไปเทียบไม่ได้
ปะป๊า และหม่าม้าของพงษ์ คงเป็นคนขยันทำมาหากิน ไม่มีโอกาสได้เรียนสูงมากแต่หมั่นเพียร เรียนรู้หลักการค้าขายด้วยตัวเอง มีธุรกิจทำรายได้พอเลี้ยงส่งลูกๆเข้ามาเรียนในกรุงเทพได้
คงเป็นเพราะฟ้าเบื้องบนยังปรานีอยู่บ้าง หลังจากเคาะสนิมและความขี้กลัวตัวเลขออกจากด้วยฝีมือเซียนฉมังของนุ่มและพงษ์ ระยะหลังสมอง ฮ นกฮูกเริ่มยอมรับแสงแวบๆที่ปลายอุโมงค์...เล็กๆ
อาจารย์ผู้สอนเองก็ไม่ได้มองผ่านฉันอย่างไม่เห็นอนาคตเหมือนเช่นก่อน แม้แววตาของท่านยังชั่งใจว่าควรจะปล่อยให้ ฮ นกฮูกตัวนี้ทู่ซี้นั่งเรียนต่อไปหรือไม่
ตกลง ไม่ดร็อปนะ แน่ใจ
ฉันรำลึกถึงบทสนทนากับอาจารย์ผู้สอน ขอโอกาสอีกครั้งในครึ่งเทอมหลัง
ค่ะ
งั้นก็ตามใจ ผมถือว่าเตือนคุณแล้ว
อาจารย์พูดไม่อ้อมค้อมเลย ถึงกระนั้นก็ยังมีใจถามทุกท้ายชั่วโมง
เข้าใจหรือเปล่า อธิบายซ้ำอีกครั้งมั้ย
ฉันจะยังไม่ผงกหัวรับเสียทีเดียว ไม่ใช่กลัวเสียเชิงหรอก( มีซะที่ไหนล่ะ)แต่ขอเวลาให้สมองส่วนที่เคาะสนิมออกแล้วเริ่มกระบวนการขับกลไกและน้ำย่อยให้ซึมซาบเสียก่อน แล้วค่อยๆทบทวน จดข้อสงสัยไว้ถามในคราวต่อไป บางทีถ้าไม่ทันการก็ให้นุ่มไขความกระจ่างให้
พงษ์ ช่วยดูวิธีคำนวณมูลค่าของเงินในอนาคตข้อนี้ว่าถูกหรือไม่
นุ่ม พงษ์ ช่วยอธิบายการบริหารสินค้าคงคลังใหม่ให้หม่าม้าฟัง ช้าๆอีกนิด
สองหนุ่มสาวก็แสนดี ไม่เคยหวงวิชาเลย ครั้งหนึ่ง ฉันนั่งงงตาหมุนติ้วกับศัพท์การเงินตระกูล R ทั้งหลาย
นุ่มจ๋า Return On Equity กับ Return On Asset สัมพันธ์กันอย่างไร
และแล้ว เลคเชอร์ตระกูล R ตั้งแต่ ROI , ROA, ROE ก็ถูกสาธยายละเอียดยิบ เอ...ไม่รู้จะ ROB ( Return on my Brain) กลับมาได้เท่าไหร่