Group Blog
 
 
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
Blog Tag: 5 สิ่งที่ต้องเปิดเผยตามกติกาครับ แหะแหะ

บังเอิญว่าโดน Tag โดยคุณ เข็มขัดสั้น ครับ นานมากๆๆๆๆ แล้ว แต่ยังไม่มีเวลามาเขียนสักที วันนี้พอจะว่างก็เลยรีบมาเขียนให้เสร็จ อิอิ

1. อาชีพในปัจจุบัน แพทย์ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ตรวจคนไข้ ซะงั้น

เรียนหมอมาหกปีเต็มหลักสูตรครับ เกรดก็ดี (มั้ง) ทำงานดูแลคนไข้ระหว่างเรียนก็รับผิดชอบเต็มที่ แต่กลับสนใจงานวิจัยมากกว่า และคิดว่างานวิจัยจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้ใน scale ที่กว้างกว่า ก็เลยตัดสินใจรับทุนอาจารย์ที่คณะฯ แล้วก็กำลังจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศปีนี้แหละครับ ช่วงนี้ก็ทำงานที่คณะฯ แต่ไม่ใช่งานตรวจคนไข้เลย (สอนหนังสือ, ทำงานวิจัย etc.) บางคนก็หาว่าเรากลัวงานหนักที่ต่างจังหวัด ก็เลยหาเรื่องหนี ผมก็อยากจะบอกว่าไม่ใช่เลยครับ งานหนักผมไม่เคยจะกลัว ถามเพื่อนร่วมงานทุกคนได้ ต่างจังหวัดก็เคยออกไปปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว รู้ว่างานมันเป็นยังไงแล้วก็อยู่ในขอบเขตที่ทนได้ เพียงแต่ว่าผมรู้สึกว่างานในแง่นั้นแม้จะสร้างประโยชน์อันสูงค่ายิ่งแก่สังคมไทย แต่มันยังไม่ใช่ตัวเรา และหากเราไปอยู่ตรงจุดนั้นแล้ว คงทำหน้าที่ได้ไม่เต็มศักยภาพที่เรามี ในเมื่อมีความสนใจในวิทยาศาสตร์ และการวิจัยแล้ว (ซึ่งแพทย์น้อยคนนักที่จะสนใจ เพราะหากินเป็นหมอนั้นเป็นเรื่องเป็นราวกว่าและรวยกว่าหลายสิบเท่า) เราก็ควรจะเลือกมาเดินในทางนี้มากกว่า เมื่อศึกษาจบแล้วก็จะได้กลับมาทำงานวิจัยให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ และสอนนักเรียนแพทย์ให้จบออกไปเป็นแพทย์ที่ดีในสังคมได้ต่อไป

ช่วงนี้ช่วง Hallmark เอาเรื่อง ER มาฉายใหม่ ซึ่ง series เรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจหลักให้ตัดสินใจเรียนแพทย์เมื่อเจ็ดแปดปีก่อน ดูแล้วก็รู้สึกใจหายไม่น้อยครับ เพราะยังไงความสุขของความเป็นแพทย์ส่วนหนึ่งมันก็อยู่ตอนที่เราได้ช่วยเหลือคนไข้ในมือเราให้เขาหายเจ็บหายปวด หรือรอดชีวิต

ผมเองยังจำได้ถึงครั้งแรกที่ได้มีโอกาสทำคลอด คุณแม่ท้องแรก เจ็บท้องมาทั้งคืน ไม่ค่อยจะมีแรงเบ่ง พวกเราช่วยกันเชียร์ให้คุณแม่เบ่งออกมายาวๆ ลึกๆ จนปากมดลูกใกล้เปิดหมด ผมรีบล้างมือใส่ชุดมารอทำคลอด เรารอจนกระทั่งศีรษะเด็กเกือบจะโผล่ออกมา ผมตัดฝีเย็บและทำคลอดศีรษะและลำตัวทารก ทั้งๆ ที่มือยังสั่นด้วยความตื่นเต้น สิ่งที่ผมจำได้ดีไม่มีวันลืมก็คือ ตอนที่ตัดสายสะดือของเด็กและยกตัวเด็กให้คุณแม่ได้ดู ผมบอกว่า “คุณแม่ครับ ได้ลูกสาวนะครับ”

คุณแม่ท่านนั้น ทั้งๆ ที่เหนื่อยใจแทบขาดจากการเบ่ง เหงื่อโทรมไปทั้งตัว กลับยกมือขึ้นไหว้ผม น้ำตาแห่งความปีตินองอยู่เต็มหน้า พลางพูดว่า “ขอบพระคุณหมอมากนะคะ”
นั่นแหละครับ ความสุขจากความเป็นแพทย์ ต่อไปนี้คงได้สัมผัสมันน้อยลงทุกที แต่เมื่อคิดว่าเราจะได้มีส่วนในการผลิตแพทย์ออกไปสู่สังคมในอนาคต ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่อีกหลายร้อยหลายพันคน ผมก็กลับรู้สึกอิ่มเอิบใจไม่แพ้กันเลยครับ

ข้อแรกนี้ไม่ค่อยขำเท่าไหร่ ไม่รู้ถูกกติกาหรือเปล่านะครับ

2. ความฝันในวัยเยาว์

ตอนเด็กๆ อยากเป็นบรรณารักษ์ครับ เพราะว่าชอบอ่านหนังสือมากๆ ก็เลยคิดว่าจะเป็นอะไรดีนะ ที่จะได้อ่านหนังสือทั้งวัน แล้วก็ได้ตังค์ด้วย ก็คิดออกอยู่อาชีพเดียวนี่แหละครับ พอดีสมัยก่อนคุณพ่อเป็นอาจารย์ ต้องไปคุมงานห้องสมุดกลางที่มหาวิทยาลัยด้วย พอปิดเทอมทีก็จะได้โอกาสไปขลุกอยู่ในห้องสมุดทั้งวัน จนคนเค้าคิดว่าเป็นลูกพี่บรรณารักษ์รึเปล่า ทำไมมันขยันมาห้องสมุดทุกวันขนาดนี้ แต่พอโตขึ้นอะไรๆ ในชีวิตก็เปลี่ยนไปครับ ความฝันก็คือความฝัน แต่ทุกวันนี้ก็ยังได้อ่านหนังสือทุกวันครับ ส่วนใหญ่เป็นงานวิชาการที่ไม่สนุก แต่ก็ยังดีที่มีอะไรอ่านครับ คนเราต้องไม่หยุดเรียนรู้ สู้ๆๆๆ

3. นิสัยส่วนตัวที่น่ารังเกียจ

เป็นภูมิแพ้มาตั้งแต่เกิดครับ เรียกได้ว่า จมูกนี่ไม่เคยหายใจโล่งเหมือนชาวบ้านเค้าเลย เหมือนมีก้อนอะไรมาอุดไม่ตลอดเวลา บางทีเป็นหนักมากต้องหายใจทางปากตลอดเวลาเลย เวลานอนก็ทรมาน บางทีก็จาม ไอ เคืองตา เรียกว่าอาการครบเครื่องก็ว่าได้ ขาดแต่ผื่นที่ผิวหนังที่ไม่ค่อยจะเป็นเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์คู่กายมาตลอดเวลายี่สิบกว่าปี เห็นจะไม่พ้นขี้มูกครับ มีตลอดเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่ว่าจะอากาศร้อน หนาว ยังไง ก็จะต้องสั่งขี้มูกตลอด ปู้ด ปู้ด ออกมาคราวละมากๆ ด้วย สมัยเด็กๆ เพื่อนๆ ขนานนามการปฏิบัติเช่นนี้ว่า การ "ชักโครก" ครับ เพราะเสียงดังสนั่นลั่นโลกจริงๆ มีเพื่อนเคยสงสัยว่าเวลาสั่งแต่ละครั้งนี่มีอวัยวะภายในชิ้นไหนหลุดตามออกมามั่งมั้ย ไม่มีหรอกครับ แต่ว่ามันเยอะจริงๆ ถ้าสั่งค่อยๆ ก็ไม่ออกซะด้วย

เคยพยายามรักษาครับ ซึ่งไอ้โรคนี้ก็สามารถรักษาให้หายได้อยู่หรอก แต่ต่ออาศัยความอดทนในการกินและพ่นยา รวมถึงต้องออกกำลังกายมากๆ ด้วย ซึ่งบังเอิญเกิดมาเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบกินยา (เป็นหมอซะเปล่า) ก็เลยรู้สึกว่าเอายามาก็ไม่ได้กิน ทนๆ ไปดีกว่า ก็ทนมาได้เป็นยี่สิบปีแล้วนะครับ แล้วก็ออกกำลังกายเอา ตอนนี้ก็ดีขึ้นครับ จมูกโล่งขึ้นมาก แต่ก็ยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์แต่อย่างใด

4. ดุคนไข้เก่งครับ ไม่ดีเลย

*****สิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะครับ นักเรียนแพทย์อย่าเอาอย่างๆๆๆๆๆ*****

สมัยเป็นนักเรียนแพทย์ ขึ้นชื่อว่าชอบเจ๊าะแจ๊ะกับคนไข้มาก ถ้าใครพูดดีๆ น่ารักๆ ก็จะไปนั่งคุยด้วยบ่อยๆ ดูแลเอาใจใส่ดี แต่ถ้าใครพูดไม่รู้เรื่อง บอกให้ทำอะไรไม่ทำ พูดจาฟังไม่เข้าหูแล้วล่ะก็ จะไปใกล้ๆ ก็ต่อเมื่อจำเป็นเท่านั้น

ทีนี้ มีอยู่รายหนึ่ง เป็นฝรั่งขี้นกครับ ที่ว่าเป็นฝรั่งขี้นกเพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะแกเป็นฝรั่งอเมริกันแก่ๆ อ้วนมากๆ แถมเป็นเบาหวาน มีแผลเบาหวานที่ขาเหวอะหวะส่งกลิ่นเหม็นไปหมด ถามไปถามมาปรากฏว่าแกเป็นอดีตนักข่าว มาอยู่เมืองไทยนานแล้วแต่พูดไทยไม่ได้ซักคำ มีคู่ขาเป็นผู้ชายดูแลอยู่ ซึ่งก็ดูแลกันยังไงก็ไม่รู้ให้แผลเน่าได้ขนาดนี้ ทีนี้ ถ้าแกเป็นคนน่ารักก็ไม่น่าจะเกิดเรื่องหรอกครับ แต่นี่แกเรื่องมากขั้นพระเจ้า อันโน้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ได้ ชั้นจะต้องเอาแบบนี้กินแบบนี้ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้มีใครมาดูดำดูดีเล้ย นอนก็นอนห้องสามัญ เราจะไปเอาอกเอาใจเกินหน้าเกินตาพี่น้องชาวไทยที่นอนมองตาปริบๆ อยู่ก็ไม่ถูกใช่ไหมครับ ด้วยความที่แกชอบผู้ชาย แกก็จะหงุดหงิดพี่พยาบาลมาก จะเจาะเลือดทีเช็ดตัวทีนี่ สัตว์เลื้อยคลานพันธุ์อเมริกันก็ลอยละล่องออกมาเต็มวอร์ดไปหมด พี่พยาบาลฟังออกบ้างไม่ออกบ้างก็ไม่เดือดร้อน แต่เราสิฟังออกทุกคำ จะให้เค้ามาด่าปาวๆ อย่างนี้ได้ไง ก็ต้องด่าตอบสิครับ (น้องๆ นักเรียนแพทย์ นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีครับ ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง พี่มันเลวๆๆๆๆๆ) ก็ฉะกันเลย บอกว่า ถ้าไม่ shut up ล่ะก็จะจับโยนออกไปข้างนอกให้หมามันรุมแทะแผลเลยจะเอามั้ย แค่นั้นแหละเงียบไปได้ จากนั้นมาก็มีอีกหลายยก พักหลังๆ มันชักอาละวาดครับ ด่าไปถึงครูบาอาจารย์ ก็ต้องเป็นผมนี่แหละกำราบ เพราะด่ามันเป็นภาษาอังกฤษได้อยู่คนเดียว วันที่มันถูกส่งกลับบ้านเกิดนะ ที่วอร์ดแทบจะฉลองใหญ่เลยทีเดียว

ส่วนคนไข้คนไทยผมไม่เคยทำอย่างนี้นะครับ แต่จะแอบดุบ้างเวลาพูดอะไรแล้วไม่เชื่อ แต่เพื่อนๆ บอกว่านั่นเมิงเรียกว่าแอบดุเหรอ แถวบ้านตรูเรียกดุมากๆ แล้วเฟร่ย

5. เกือบได้เรียนรัฐศาสตร์ซะแร้วตู

ตลอดชีวิตที่ผ่านมา สิ่งที่รักที่สุดคือดนตรี กับภาษาอังกฤษครับ โดยเฉพาะภาษานี่เรียนมาตั้งแต่ยังไม่สี่ขวบดี จำได้ว่าพ่อจับให้นั่งฟังเทปตั้งแต่เริ่มวิ่งได้ ไม่รู้สึกว่าโดนบังคับซักกะนิด กลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องสนุกซะอีก ไปๆ มาๆ มันกลายเป็น second nature ของเราไปโดยปริยาย พอขึ้นมา ม. ปลาย ก็ถูกโชคชะตาพัดพาให้มาเรียนสายวิทย์ แต่ในใจก็คอยแต่จะเอนเอียงกลับไปหาทางโน้นอยู่เรื่อง จนเฮือกสุกท้ายครับ ตอนนั้นตัดสินใจจะเรียนหมอแล้วด้วย แอบไปสอบทุน King สายศิลป์ภาษา กะว่าจะไปเรียนรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ซึ่งแต่ละวิชาที่สอบก็หวานหมูเราทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นแปลอังกฤษเป็นไทย ไทยเป็นอังกฤษ สังคม etc. แล้วก็ดันติดเข้ารอบสัมภาษณ์อีกด้วย ตอนนั้นที่บ้านคลุ้มคลั่งกันใหญ่ ว่าจะเบนเข็มอะไรกันรุนแรงขนาดนี้ ปรากฏว่าโชคดีที่ตกสัมภาษณ์ครับ เท่านั้นยังไม่พอ ตอนเลือกเอนท์ก็ดันเลือกรัฐศาสตร์จุฬาเผื่อไว้อันดับสี่อีก (สอบเลขง่ายเผื่อไว้แล้วครับ) แต่ก็โชคดีที่ติดอันดับหนึ่งซะก่อน อิอิ ไม่งั้นคงไม่มีโอกาสได้มาเรียนแพทย์แน่ๆ

ไม่รู้จะ tag ใครต่อแร้นนน ขาประจำก็โดนไปหมดแล้ว

งั้นก็ตามนี้นะครับ มัดมือชกไปหลายท่าน ขอประทานโทษจริงๆ ครับ ไม่รู้จะทำไงแย้ววว

พี่ก้อย Jekyll&Hyde
น้องหนูแจม little phantom
คุณ poockey
คุณ PPalone
และคุณ KissAhoLicGal ครับ



Create Date : 29 มกราคม 2550
Last Update : 29 มกราคม 2550 14:34:10 น. 31 comments
Counter : 544 Pageviews.

 
สัวสดีค่ะ เยี่ยมเยียนค่ะ บังเอิญว่ายังไม่เคยโดน tag ค่ะ จะลองเขียนความลับดูนะคะ...ใกล้วาเลนไทน์ แล้วขอให้มีความสุขมากๆนะคะ.....


โดย: cratrina (poockey ) วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:14:55:56 น.  

 
ถ้าคนไข้ที่งอแงก็น่าดุนะคะ


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:15:55:38 น.  

 
555++ แวะมานั่งเล่นคะ คิสจำคุณได้คะ แต่ไม่ได้ทำบล๊อคสักพักแล้ว เพิ่งคิดจะกลับมาทำเมื่อวานเอง แล้วแท๊คเสร็จ จะแวะมาบอกนะคะ

อ่านข้อแรกแล้วขนลุกเลย คิสก็เคยคิดอยากเป็นหมอนะ เพราะตัวเองก็สุขภาพไม่ค่อยดี

เค้าบอกว่า เมื่อเรายังหนุ่มๆสาวๆ เราเอาสุขภาพไปแลกกะเงิน เมือเราแก่ตัว ก็เอาเงินไปแลกกะสุขภาพ แปลกดีนะว่ามั๊ย

ก็คิดว่า ถ้าได้ช่วยคนบ้างก็คงจะดี คิสจะไปบริจาคเลือดเกือบทุกปี เป็นของขวัญให้ตัวเอง แต่บริจาคทีไรก็จะไม่สบายทุกครั้ง เพราะคิสไม่ชอบกินยา พวกยาธาตุเหล็กที่เค้าให้มาก็จะเขวี้ยงทิ้งหมด(นิสัยแย่มากๆ)

ความฝันวัยเยาว์ ดีจัง คิสชอบอ่านหนังสือนะ แต่ให้เป็นบรรณารักษ์คงไม่เอา เพราะเป็นคนไม่มีระเบียบ สมแล้วที่เป็นคุณหมอ

เรื่องที่สาม น่ารังเกียจตรงไหนนิ แต่คงสร้างมลภาวะทางเสียงน่าดู

เรื่องที่สี่...ดุหรอกหรอ?? กำ เป็นหมอต้องใจดีสิ หมอที่คิสเจอก็ใจดีหมดนะ

แต่ถ้าคิสเจอคนไข้แบบคุณ คิสโทรเรียกให้ตม.มันจับส่งกลับปท.ไปแล้วหละ คิสไม่ใจดีคะ ฮี่ๆๆๆ

เรื่องสุดท้าย ...ดีจัง...คิสโง่คะ เลือกเรียนไม่ได้งะ งิงิ

ยินดีด้วยกะเรื่องทุนนะคะ ขอให้ประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน ชีวิต การเรียนการศึกษา การงาน การเดินทาง สุขภาพ ครอบครัว ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีคะ


โดย: หนูคิสเซอร์วิส IP: 58.8.184.177 วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:16:07:15 น.  

 
แวะมาอ่าน tag ค่ะ

ขอให้ประสบความสำเร็จในการเรียนนะคะ


โดย: คริสตอลสีชมพู วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:17:08:00 น.  

 
เข้ามาหาเพลงเพราะๆ ฟังคะ เลยได้อ่าน tags ไปด้วย

อย่างไรก็ยังเฝ้าติดตามเพลงและผลงานแปลเพลงนะคะ ชอบคะเพลงแปลกๆดี

ที่จำได้ก็ six thounsand.........and.........อะไรประมาณนี้อะคะ เพราะดีเพลงนี้แถมแปลเก่งด้วย


โดย: Cherry picker IP: 202.41.187.247 วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:18:51:25 น.  

 



มาอ่านความลับของคุณหมอค่ะ




โดย: icebridy วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:20:35:21 น.  

 
สวัสดีครับ
ตามมาอ่านความลับครับ

ER นี่ยังไม่เคยดูเหมือนกัน
เพิ่งรู้นะนี่ว่ามีในช่องฮอลมาร์ค ปกติไม่ค่อยได้กดไปช่องนี้เลยครับ


โดย: keano IP: 161.200.255.162 วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:21:05:27 น.  

 
เหอเหอ คุณน้องน่าจะมาอยู่สมาคมเดียวกะคุณพี่ สมาคมหมอดุ(โคตร)แห่งประเทศไทย


โดย: โทโมะจังค่ะ (โทโมะจัง ) วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:22:51:41 น.  

 
มาแอบอ่านความลับคุณหมอคร๊า

(ชื่นชมมาตั้งแต่ห้องไกลบ้านแล้วหล่ะคะ แหะๆๆๆ ได้ข่าวว่าโดนtag เลยแวะมาดู)

กู้ดไนท์คะ


โดย: Jolly Joey วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:22:52:42 น.  

 
อิอิ ชอบจังเลยค่ะ

มีคนTagแล้วอะ


โดย: PPalone (PPalone ) วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:0:39:56 น.  

 
Hi Doc,

I wish you all the best!! :)

No time to write other things lately... Trying to wrap up 3-4 manuscripts... One done, one almost done, few more to go...

Anyway, one day, I wish you and I could meet and chat as a real person....

BTW, who won the fight between you and r k i? :)

Thanks for sharing krub,
A.T.


โดย: A.T. IP: 129.82.96.71 วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:12:13:22 น.  

 
อิอิ คุณหมอ

ใจดีป่าวเนี้ย -*-


อิอิ

เขียนบล็อก แล้วนะค่ะ



โดย: PPalone IP: 125.24.194.25 วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:1:08:27 น.  

 
โอ้ววว เป็นคุณหมอหรือครับ เจ๋งงงงงงง แต่ยังไม่มีเวลาอ่านเลย นี่ก็เข้าเน็ตมาแวบๆ เอง ยุ่งกับ thesis มาก (แต่ยังแอบมาเล่นเน็ตอีกนะ)

ขอบคุณเรื่องที่ช่วยทำแบบสอบถามนะครับ


โดย: ปืนกล IP: 203.131.220.50 วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:18:31:30 น.  

 
ตามมาอ่านเลยครับผม เอาตามข้อเลยนะคร้าบ

ข้อ 1 ยินดีด้วยครับผม ที่แตกแขนงตัวเองเพื่อไปทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ยิ่งในเรื่องการวิจัยด้วยแล้ว ยิ่งสนับสนุนเต็มที่เลยครับ และเรื่องการทำคลอด อ่านแล้วยิ้มเลยครับ ซาบซึ้งแทนคุณแม่ที่คุณหมอ จขบ. ทำคลอดให้เลยทีเดียวครับ

ข้อ 2 เป็นความฝันในวัยเด็กที่ผมว่าน่ารักดีนะครับ แม้ว่า จขบ. จะไม่ได้เป็นปรรณารักษ์ แต่มาเป็นหมอแทน ว่างๆ ก็ลองนั่งเป็นบรรณารักษ์ที่บ้านเองก็ดีนะครับ เพื่อเติมเต็มจินตนาการ และทำให้เรายิ้มได้ และที่สำคัญ สนับสนุนเต็มที่เลยครับ ว่าคนเราต้องไม่หยุดที่จะเรียนรู้ สู้ๆ

ข้อ 3 เหมือนกันเลยครับ ผมก็เป็นภูมิแพ้ แพ้อากาศ แพ้ฝุ่น แพ้กลิ่นฉุน แพ้ควันบุหรี่ ฯลฯ ต้องออกกำลังกาย และทานยาก่อนนอนทุกวันเลยครับ ไม่กล้าใช้ยาพ่นน่ะครับ กลัว แหะแหะ

ข้อ 4 5555555555 อย่างนี้ผมเรียกว่า เป็นคุณหมอที่เอาใจใส่ต่อคนไข้นะครับ

ข้อ 5 ผมว่าดีออกครับที่ตกสัมภาษณ์ เลยทำให้เมืองไทยใกล้จะมีนักวิจัยที่เก่งๆ อีกคนแล้วนะครับ


จบแล้วคร้าบ ขอบคุณมากๆ ที่ Tag ให้ได้อ่านกัน


โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:22:42:12 น.  

 
555++ ไม่ได้เหมารวมเน้อออออ

แต่ตอนนั้นมันโมโหไง งอนด้วย ทำไมป้อจายมันถึงเป๋นจะอี๊

รู้ว่าผู้ชายน่ารักๆอย่างคุณหมอ(ขอฉิบบาท)ยังมีอยู่ในโลกคะ

ราตรีสวัสดิ์นะคะ

ปล.ขออนุญาตแอทบล๊อคเป็นเพื่อนบ้านด้วยค่า


โดย: หนูคิสเซฮร์วิส IP: 58.8.187.65 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:04:00 น.  

 
เกตุยังไม่ได้ up blog นะคะ
แต่เกตุแวะมาเยี่ยม มาอรุณสวัสดิ์ค่ะ...
เริ่มต้นวันแรกของเดือน สดใสๆ นะคะ


โดย: คริสตอลสีชมพู วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:09:35 น.  

 
ขออนุญาติแอดบล๊อกนะคะ ...
อากาศเย็นดูแลสุขภาพด้วยนะคะ ...
สวัสดีตอนเช้าของเดือนแห่งความรักค่ะ....


โดย: cratrina (poockey ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:02:20 น.  

 
กลับมาอ่านจนจบ จขบ ต้องเป็นคนเรียนโคตรเก่งมากแน่เลยครับ เจ๋งๆๆๆๆๆ


โดย: ปืนกล IP: 203.131.220.50 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:17:41 น.  

 
อ่านข้อแรกแล้วแบบ... อย่างซึ้ง

พอลงมาอ่านข้ออื่นแล้ว...
555 ขำอะแก...
ยิ่งข้อดุคนไข้ นึกภาพตอนแกดุไปด้วยนี่ คงน่ากลัวมิใช่น้อย
(ถึงไม่ได้เจอแกนานมาก แต่ก็พอจะจินตนาการภาพเหตุการณ์ได้ลางๆ)
เราว่า... ข้อสุดท้ายแกเผลอไปดุคนสัมภาษณ์แน่ๆเลยอะ

fall นี้จะมาแล้วสิ... อย่าลืมส่งข่าวมามั่งเน่อ



ปล. อย่ามาดุเรานะ... กัวแย้ว


โดย: r k i วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:56:19 น.  

 
มาแระะะะะะะ ค่า

ดีใจจัง มาเจอหมอพีร์ที่นี่ ป้ามดแอ๊ดหมอพีร์เป็นเพื่อนบล็อกไปตั้งนานแล้ว ก็เพิ่งจะรู้ว่า หมอพีร์เป็นเพื่อนกับลูกโจ้
ที่ดีใจก็คือ ได้ป้ามดเป็นลูกหมอ..เมียหมอ...แม่หมอ ..แล้วก็ยังได้เป็นครู(บล็อก)หมออีก (ที่จริงก็ดีใจตั้งแต่หมอมดมาบอกแล้วละ)

ทึ่งในความสามารถของหมอจริงๆ เก่งรอบด้าน แล้วยังมีเพลงอยู่ในหัวใจ แม้จะฟังเพลงคนละรุ่นกัน แต่ก้ยังคุยภาษาเพลงกันได้นะคะ ปีนี้ลูกโจ้จะย้ายมาอยู่ที่จุฬากับหมอพีร์แล้ว หวังว่าคงจะได้มีโอกาสคุยกันบ่อยๆ .. แล้วจะเอาบล็อกของหมอพีร์ไปอวดยัยลูกจอมอืดค่ะ


โดย: ป้ามด วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:00:26 น.  

 
LOVE ya
That's all.. U know what I mean


โดย: forMiciD_กรดมดผสมน้ำผึ้ง วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:08:38 น.  

 
มาแอบอ่าน tag ค่ะ


โดย: sommie วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:05:58 น.  

 
วันนี้โจ้กลับมาบ้านแระ
ป้ามดเอา comment ของหมอพีร์ให้อ่าน
เขาบอกว่าจำไม่ได้เลยว่าเคยแลกรองเท้ากะใคร
ป้ามดเลยให้เขาอ่านหลังไมค์ เขาก็ร้องอ๋อ
เจ้าหมอพีร์นี่เอง
โจ้บอกว่าหมอพีร์เรียนเก่ง และเก่งรอบด้านจริงๆด้วย และยังได้เป็นนิสิตแพทย์ดีเด่น ลงนสพมติชนอีกด้วยนะ แถมยังร้องเพลงเก่งอีกตะหาก แสดงว่าเก่งไปโม้ดดดด


โดย: ป้ามด วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:48:49 น.  

 
หวัดดีค่ะ พี่จบมาแล้วในที่สุดก็ตัดสินใจทำงานสาขาที่ไม่ค่อยจะยุ่งเกี่ยวกับคนไข้โดยตรงเหมือนกัน
ก็จริตมันชอบไปทางนั้นมากกว่า
โชคดีนะคะ ขอให้ได้มาที่ Baylor เป็นมหาวิทยาลัยดี มีพี่ๆน้องๆคนไทยเก่งๆไปเรียนกันหลายคนเลยค่ะ


โดย: ลูกแม่ดอกบัว วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:50:27 น.  

 
พี่หมอ หายไปอิอิ


โดย: PPalone (PPalone ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:46:30 น.  

 
พี่หมอไปเรียนที่ไหนค่ะ


โดย: PPalone IP: 202.28.47.11 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:14:51 น.  

 
พี่หมอ ตั้งใจเรียน รักษาสุขภาพ ดูแลตัวเองด้วยนะค่ะ


โดย: PPalone วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:2:30:04 น.  

 
Congratulations Doctor !!!


ขอแสดงความยินดีแด่หมอพีร์ด้วยค่ะ
วันก่อนบอกโจ้ไปว่า หมอพีร์กำลังรอสอบสัมภาษณ์อยู่ (และเห็นบ่นว่าอกหักมาหลายครั้งแล้ว) โจ้บอกว่าหมอพีร์ต้องผ่านฉลุยแน่ๆ เพราะเก่งมาก

คราวนี้ก็สมหวังซะที เหลือแต่เรื่องที่ต้องทำใจ เพราะห่างครอบครัว
ขอให้ชีวิตประสบแต่ความเจริญก้าวหน้า
ดีใจมากค่ะ ที่มีหมอเก่งๆ และจะได้ใช้ความสามารถที่มี กลับมาทำประโยชน์ให้ประเทศ
จะรอการกลับมาพร้อม phd ความภาคภูมิใจของครอบครัว, มิตรสหาย และคนไข้ที่รอความช่วยเหลือของหมออยู่

ปล. หมอพีร์หาลู่ทางให้โจ้ได้ไปเรียนต่อแบบนี้บ้างนะคะ


โดย: ป้ามด วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:37:34 น.  

 
ยินดีด้วยเลยนะครับ (จาก คห. ของป้ามดที่มาแจ้งข่าว) ขอให้เต็มที่เลยนะครับ คุณ ruiN ทำได้ และทำได้ดีด้วย ผมเชื่อว่าอย่างนั้นครับ และคิดว่าหลายๆ คนที่รู้จักคุณ ทั้งในและนอกบล็อกแกงค์เป็นกำลังใจให้เสมอครับ


โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:38:02 น.  

 
ดวงคุณนายเราหายไปไหนไม่รู้ง่ะ
อยู่เวรยุ่งทุกวี่ทุกวันไม่มีปัญญา up blog แล้วฮ่ะ...

ขอซัก 3-4 วัน นะจ้ะที่รัก...
เวรซาๆ ค่อยกลับมาดี๊ด๊าแถวนี้

ไว้ว่างๆเมื่อไหร่เปิดบ้านได้เรยย์ บินไปเยี่ยมsure


โดย: forMiciD_กรดมดผสมน้ำผึ้ง วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:01:00 น.  

 
Congratulations Doctor ruiN !!!
แล้วตอนนี้ไปเรียนทุนอยู่มั้งคะเนี่ย ชักติดใจ
มาโดยบังเอิญ แต่เลาะอ่านฟังเพลงและดูคลิปวีดีโอซะอิ่มใจเชียว ........
ปล. อยู่ ตปท. รักษาสุขภาพนะคะ take care"""""


โดย: 96Ud IP: 161.200.255.162 วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:5:04:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ruiN
Location :
Houston, Texas United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




ชีวิตนี้ มีแต่ภาษา กับเสียงเพลงครับ ที่ทำให้สู้ทนอยู่ได้ เลยส่งผลผลิตให้มี blog นี้ ไว้ถ่ายทอดผลงาน ให้ทุกคนได้อ่านกันครับ


แพทย์จุฬาฯ 60 ปี
Friends' blogs
[Add ruiN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.