สรรพสิ่งล้วนเกี่ยวพัน
<<
พฤศจิกายน 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
3 พฤศจิกายน 2564

ทริปปลายฝนต้นหนาว-ม่อนสน ดอยอ่างขาง



สายๆหลังกินอาหารเช้าและรถสตาร์ทติดแล้ว
เราออกเดินทางออกจาก สวนสนวัดจันทร์
ใช้เส้นทางกัลยาณิวัฒนา-ปาย ทล.1265
ที่จะไปเจอ ทล.1095 
ทางแคบ แต่ยังพอมีไหล่ทางบ้างบางช่วง
ฝนยังตามมาตลอดทาง
สาวพวงมาลัยอีกครั้ง



เจอวัวแม่ลูกข้างทาง น่ารัก ยึดถนนเป็นที่ดูดนมแม่ซะงั้น





ระหว่างทางที่จะออกไปทางปาย
เห็นควันลอยขึ้นฟ้ากลุ่มใหญ่สีขาว
บอกกับคนข้างๆว่า ทำไมเผาป่ากันอีกแล้ว
แต่พอขับไปใกล้ๆกลับเจอน้ำพุร้อนพุ่งปรู๊ดๆอยู่ติดข้างทางเลย
แวะลงจอด เข้าห้องน้ำด้วย
น้ำพุ่งไม่สูง แต่อุณหภูมิสูงถึง95องศา
มีป้ายปักเตือน แต่ไม่มีรั้วรอบขอบชิด
***และมาดูข่าวตอนกลางคืน
ถึงรู้ว่ามีเด็กชาวรัสเซียอายุ7ขวบหล่นลงไป
โดนลวกครึ่งตัว น่าสงสารมาก
สื่อรัสเซียแพร่ข่าวกระฉ่อนอยู่
***ซึ่งในฐานะเราคนเป็นแม่
ก็สงสารเด็กมากๆ และคิดว่า น่าจะมีรั้วกันสักหน่อย
อย่างน้อยก็บรรเทาการเข้าถึงน้ำร้อนได้บ้าง***
ซึ่งในข่าวก็ยังสับสนอยู่เพราะตำรวจก็ให้ข่าวว่าไม่มีใครมาแจ้งความ
ตกลงเป็นไงแน่ ยังไม่คืบหน้าค่ะ





โยกซ้ายโยกขวาเด้งหน้าเด้งหลังกันต่อค่ะ

พอออกมาเส้น ทล.1095 ผ่านห้วยน้ำดัง ผ่านโป่งเดือด
ไม่แวะแล้วค่ะ เคยมาแค้มป์ปิ้ง 2 ครั้งแล้ว ผ่านเลย




ระหว่างทางก็ปรึกษากันว่าเราจะไปที่ไหนต่อดี
เพราะตายายมาแบบทริป Go No Plan
วางแผนกันวันต่อวัน
เปิดหาสถานที่เที่ยวและเบอร์โทรศัพท์
โทรถาม จนท.กันตลอดทาง
ซึ่งหลายที่ ปิด!!!!
และแล้วเจอ ม่อนสน ดอยอ่างขางเปิดเป็นวันแรก(15ต.ค.64)
อู๊ยยย....ปักหมุดโดยไวค่ะ
สอบถาม จนท.อช.ดอยผ้าห่มปก
ถึงกฎเกณฑ์การเข้าพัก
เน้นว่าต้องมีบัตรแสดงการฉีดวัคซีนครบ
ไม่มาจากพื้นที่เสี่ยง มีผลตรวจเป็นลบ
โอเคเรามีครบถ้วน
ใช้เส้นทางทล.1095 แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่
ระหว่างทางแวะร้านกาแฟ ต้นไม้สวย
"บ้านแม่มด"  
ซื้อกาแฟคาปูร้อนใส่กระบอกไว้กินระหว่่างทาง(69.-)
ถ่ายรูปมาหลายรูป กุหลาบอังกฤษสวยหอมมาก











จากร้านกาแฟออกมาถึงปากทางแม่แตง ทล.107
เข้าตลาดซื้อของสดและของกินสำเร็จพวกไส้อั่ว
น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แคบหมู ตุนไปกินบนยอดดอย
เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปตามทล107เชียงดาว
ถนนคดโค้ง หักศอก เราเคยมาแล้ว2ครั้ง
ถึงปากทางดอยอ่างขางทางขวามือ
เข้าดอยอ่างขางทล1249 ไปอีก 79 กม.
มีจุดคัดกรองโควิด 3 จุด ที่อรุโณทัย
แวะเติมน้ำมันก่อนขึ้นดอยให้เต็มถังก่อน
ฝนตามมาอีก และทั้งหมอก ทั้งฝน แม่คุณเอ๋ย
ต้องไปช้าๆ มีมอเตอร์ไซค์ ที่พบที่ตลาด 3 คัน
และมาเจอตอนขับเข้าอ่างขาง
คิดว่าคงมุ่งไปที่เดียวกัน และก็จริง





เวลาไม่มืดแต่ฝนทำให้มืดมิดหมดถึงยอดดอย17.30น.
เราขับเลยเข้าไปถึงปากทางเข้าโครงการหลวงอ่างขาง
จนท.บอกว่าปิดค่ะ จะเปิด 1 พ.ย.64
บอกว่าเราเลยจุดกางเต๊นท์เข้ามาแล้ว5.5กม.
เอ๊า กลับหลังย้อนลงอีก ก็เจอสถานที่ทำการม่อนสน
เสียค่ากางเต๊นท์ 110บาท สว.ลดให้เหลือแค่30บาท
ไม่สว.เสีย 80 บาท
เจอวัยรุ่นแก๊งมอเตอร์ไซค์ 3 คันนั้นจริงๆ
เด็กๆหอบเต๊นท์ลงไปกางด้านล่าง
เราจอดรถที่ลานจอดรถริมหน้าผาหลังที่ทำการ
ช่วยกันกางเต๊นท์ทั้งฝนๆ จนเสร็จ






ลม ฝน แรงมาก สมอหลุด ต้องเอาเชือกไปผูกกับต้นสนไว้จึงรอด



ใช้ส้วมหลังที่ทำการ..
ไม่มีวิวให้ถ่ายทำเก็บภาพ เพราะทั้งฝนทั้งลมและหมอกๆๆๆ
ตกลงขึ้นไปกินกันบนเต๊นท์เลย
กลางคืนอุณหภูมิลดลงเหลือ13-14องศา
ดีที่เตรียมฮีทเท็คและผ้านวมถุงเท้าหมวกพันคอไปพร้อม
เลยนอนอุ่นสบาย ท่ามกลางลมพายุและฝนกระหน่ำหลังคาเต๊นท์
เหมือนจะหอบเราลอยไปกับพายุด้วย
มืดๆยังมีรถเข้ามาอีก 2 คัน มาพร้อมพายุก็ยังอุตส่าห์เข้ามาฉลอง
เปิดลานกางเต๊นท์วันแรก เหมือนเราเลย
เป็นไงล่ะ...หอบเอาพายุ คอมปาซุ มากันอ่วมเลย
มีหมามารุมล้อมอยู่เป็นเพื่อนหลายตัว
แต่ไม่ได้ถ่ายภาพเก็บไว้ ฝนตกหนัก
หมาวิ่งเล่นตากฝนตากลมหนาวกันหน้าเฉย




เช้ารุ่งขึ้นก็กินกันอยู่บนเต๊นท์อีกวัน
ไม่ได้โผล่ออกมาเดินเล่นเลย
เพราtอากาศไม่อำนวย เปียกปอนเละเทะกันหมด
เรียกได้ว่ากินนอนฉี่กันบนเต๊นท์นั่นแหละ
(มีคอมฟอร์ทเตรียมกันไว้ด้วย)
ไปบอก จนท.ว่าไปไหนต่อไม่ได้แล้ว
มาเสียเงินเพิ่มอีก 1 คืน
จนท.บอก ไม่เป็นไร คืนนี้ไม่เก็บค่ากางเต๊นท์นอนไปเลย
โห...เยี่ยมไปเลย ไม่ได้ออกมาชมหมอกชมวิวเลย
ได้แต่แง้มๆหน้าต่าง หมอกและฝนก็ปลิวให้อ้าปาก
อมเล่นถึงในเต๊นท์กันซะเลย
นั่งนอนอยู่บนเต๊นท์จนปวดเอวไปหมด
ขนาดในที่ทำการยังเละเทะ
ฝนสาดกันน่าดู





เช้าวันที่3ฝนยังอยู่แต่ซาเม็ดลง หมอกจัดลมแรง
กินกาแฟกันเสร็จ ตัดสินใจเก็บเต๊นท์
ไปหานอนที่อื่นกันต่อเถอะ เปียกก็เปียก
เปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าแปรงฟัน
ยอมรับว่าไม่ได้อาบน้ำเลย
เพราะอาจหนาวตายได้ ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น
เก็บภาพที่ม่อนสนได้นิดหน่อยเอง อากาศไม่อำนวยอวยพรค่ะ








อันที่จริงเราตั้งใจลากเต๊นท์พื้นไปกางที่ริมผาตรงใกล้ๆจุดชมวิวโน่น
แต่ดูสภาพตั้งแต่แรกแล้ว เดินลงบันไดยังไม่ได้เลย
กลัวล้มหัวฟาดแน่ๆ แต่ก็มีนทท.ผู้ร่วมชะตา
ไปกางอยู่3-4เต๊นท์ แต่เอาเข้าจริงตอนนอน มานอนในที่ทำการค่ะ
อีกเต๊นท์ที่มากลางดึก กางนอนที่ระเบียงทางเดินหน้าที่ทำการเลย
เพราะลงไปไหนไม่ได้  ทุกคนมานั่งหลบพายุกันที่ในร้านกาแฟ
จิบกาแฟแก้หนาวกัน



เจ้าพวกนี้เขาไม่สะทกสะท้านเลย วิ่งเล่นท้าลมท้าฝนเฉยอยู่





ออกจากม่อนสนตามทางคดเคี้ยวเลี้ยวลดอีกครั้ง
มุ่งหน้าไปพะเยา ระหว่างทางเจอทุ่งนา ของโปรด
บอกพขร. คุณ..จอดๆๆๆๆๆ ท้องนา
คุณก็จอดรถแอบไว้ข้างทาง
ถือกล้องเตรียมพร้อมลงตามไปเก็บภาพให้
คงนึกในใจต่อนเราว่า..".คงเคยเป็นควายมาก่อนในชาติที่แล้ว
ชาตินี้เจอท้องนาเป็นอยากกระโจนลงไถนา..."














ขับคดเคี้ยวมาได้สักพัก
เจอริมผา มีวิวสวย ต้นมะม่วงเป็นรูปหัวใจก็ลงถ่าย
เอากะเธอซิ
มะละกอเต็มคอ พอเข้าไปใกล้จะถ่ายรูป
ได้ยินเสียงนกหวีดเป่าปรี๊ดดดดดด...
เจ้าของคงอยู่ในสวน คงปรามเราว่าอย่าขโมยนะเฮ๊ย เห็นนะ




นี่ไงต้นมะม่วงรูปหัวใจ
ที่เนินมะปรางเขาก็มีต้นไม้รูปหัวใจ
เราไม่ต้องไปที่โน่นก็ได้ อยู่ริมผานี่เอง










แทรกคลิปเอาไว้ดูค่ะ มันหนาวมากๆ ฝนก็ตก
 




Create Date : 03 พฤศจิกายน 2564
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2564 12:54:35 น. 13 comments
Counter : 900 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณทนายอ้วน, คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณnonnoiGiwGiw, คุณเริงฤดีนะ, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse


 
เห็นเส้นทางแล้วต้องขอชื่นชมเลยครับ
ว่าพี่ขับรถเก่งมากๆ
ผมจำได้ว่าเส้นอ่างขางขับยากมาก
ขนาดผมคนนั่งยังจะเมารถเอาง่ายๆเลยครับ

เจอลม เจอพายุ ทั้งวันแบบนี้
ไม่ได้เที่ยวเลยนะครับพี่
แต่ได้สัมผัสลมหนาวก่อนใครเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา:13:17:15 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคราบ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา:13:32:03 น.  

 
ฝนตกเนี่ยหมดสนุกไปเยอะเลยค่ะแม่ตะลี
ดีจังนะคะชอบเหมือนกันทั้งคู่
ส่วนตัวไม่ขชอบเที่ยวแบลุยๆ แบบนี้ค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา:13:58:43 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา:15:10:45 น.  

 
แค่เห็นภาพวิวก็ชื่นใจมากเลยครับพี่
ฝนตก ทำเอากร่อยไปสักนิด แต่ผมว่าได้บรรยากาศไปอีกแบบนึงเลยนะครับ อยากไปกางเต็นท์นอนแบบนี้เหมือนกันครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา:15:47:25 น.  

 
ในภาพน้ำพุดขึ้นมาเลย

ฝนตกมันแฉะไปหมด ผมไม่ค่อยชอบฝนเท่าไหร่ ยิ่งถ้าลมแรงด้วยยิ่งลำบากครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา:16:11:20 น.  

 
เขียวชะอุ่มชุ้มชื่นหัวใจมากเลยค่ะพี่



โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา:16:51:39 น.  

 

Advenger ดีจังค่ะ
แค่อ่านก็สนุกสนาน
ฟินๆ..สมบุกสมบันตามไปด้วยค่ะ



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา:20:30:47 น.  

 
ต่อๆๆ

เส้นทางเส้นทางกัลยาณิวัฒนา-ปาย
สวยงามๆ ประดุจเราเป็นเซียนเหนือเมฆ
หรือเซียนเหยียบเมฆ


เพราะเคยมาติดตามโครงการพระธรรมจาริกในถิ่ทุรกันดาร
เชียงใหม่ - เชียงราย..แม่ฮ่องสอน
ในเส้นทางนี้..บ้างปีละ 4-5 ครั้ง

ส่วนใหญ่จะนอนวนอุทยาน (เบิกได้)
หรือนอนวัด..(เป็นส่วนใหญ่)



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา:20:38:28 น.  

 
ตามมาเที่ยวต่อครับ เที่ยวช่วงพายุฝนเข้าพอดี
แต่มีฝน ก็จะมีหมอกฝนยามเช้า สวยไปอีกแบบ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา:22:49:30 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 พฤศจิกายน 2564 เวลา:6:12:37 น.  

 

มาเที่ยวด้วยค่ะ


โดย: newyorknurse วันที่: 8 พฤศจิกายน 2564 เวลา:5:30:47 น.  

 
โห้ย อึดจริงคู่นี้ 555

ทั้งฝน หมอก หนาวเย็นเปียก สุด ๆ เลยครับ... ผมเคยเจอฝน
กับน้ำป่าแต่นานหลายปีแล้ว ยังไม่ถึงขนาดนี้

อ้าวหมดเป๋า ติดไว้ก่อนครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 9 พฤศจิกายน 2564 เวลา:8:41:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ตะลีกีปัส
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
[Add ตะลีกีปัส's blog to your web]