สรรพสิ่งล้วนเกี่ยวพัน
 
มีนาคม 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
7 มีนาคม 2564

ตายายสายแค้มป์ปิ้ง : อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

 

เมื่อคืนตอนนอนอยู่ที่อช.ขุนสถาน
ดูข่าวออนไลน์ พบว่ามีดอกเหลืองเชียงรายกำลังบานสะพรั่ง
ที่อ.ท่าวังผา เห็นแล้วจี๊ด...บอกคุณเขาว่า
พรุ่งนี้ไปที่นั่นก่อนเลย เราก็ดูแผนที่ในเล่มเก่า
ว่าต้องไปตามเส้นทางไหน
ตกลงตอนสายๆ เรามุ่งหน้าไปตาม ทล.101 อ.ท่าวังผา
แต่บางครั้ง
จีพีเอสมันก็พาเราเข้าซอยเล็กซอยน้อย
เฮ้อ...ไม่เชื่อ จะไปทางใหญ่ๆเท่านั้น
ทะเลาะกับจีพีเอส ตัวใหม่เอี่ยมกันไปตลอดทาง
ดีที่มีตัวเล็กของ Garmin ไปด้วย
ซึ่งแม่นยำและรวดเร็วทันใจ
พอๆกับความเร็วที่พขร.ของเราขับขี่
ในที่สุดก็เข้ามาถึงสนามบินน่าน
เจอเหลืองเชียงราย/เหลืองอินเดีย บานสะพรั่งเต็มต้น 

 พขร.จอดรถพรืดข้างทางปลอดภัย ช่วงที่มีต้นดอกดกๆ
คว้ากล้องวิ่งข้ามถนนไปถ่ายภาพให้ 
ถ่ายกันเข้าไป จนจุใจ บอกคุณเขาว่า
มันบานอยู่ไม่กี่วัน เดี๋ยวก็โรย
นี่คงช่วงบานพีคสุดแระ
คนที่ผ่านไปผ่านมา เห็นตายาย
ถ่ายกัยดอกไม้ก็ยิ้มๆกัน
เช่นเดียวกับคนที่อยู่ในบ้าน
มองมาอย่างขำๆ ว่ากะแค่ดอกไม้
ทำไมยายแกตื่นเต้นนักหนา
โถ...อพิโธ่อะพิถัง กะละมัง ถาด
ยายมาไกลเป็นหลายร้อยกิโลเมตรนี่คะ
ที่บ้านไม่มีแบบนี้ค่ะ





 


 


ผ่านช่วงสนามบินไป ก็เจออีก
ตรงแยกเข้า รร.ท่าวังผา ไปตลอดแนว
เป็นหลาย กิโล โห...เหลืองอร่ามดีแท้
จอดรถ ลงไปถ่ายอีก















ข้างล่างเป็นภาพดอกเริ่มโรยรา ไม่สวยแล้ว
ในวันที่เราเดินทางกลับออกจากน่าน
ดีนะ ที่ถ่ายไว้ตอนสะพรั่งสวยงามก่อนแล้ว







ไปตามทล.101 พขร.เริ่มบ่นว่าเจ็บข้อเท้าขวา
เพราะเมื่อคืนตอนปีนโต๊ะกางเต๊นท์ ก้าวพลาด
ข้อเท้าแพลง แต่ยังไม่รู้สึกเจ็บ
มาวันนี้เริ่มบวมและเจ็บมาก เลยต้องแวะร้านยา ซื้อยาคลายเส้น
ยาแก้ปวด ยานวด และผ้ายืดพันข้อเท้าไว้
เราก็ลืมเอาน้ำแข็งโปะประคบให้
เขาพยายามขับเรื่อยๆจน หิวข้าวเที่ยง
แวะกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง ทั้งถูกทั้งอร่อย
พูดคุยกับคนขายว่า อช.ดอยภูคา ไม่รู้เปิดหรือเปล่า
เธอบอกว่าเปิดอยู่ ยังไม่ปิด
ถ้าโชคดีจะได้เห็นดอกชมพูภูคาบานด้วยนะ
ว้าย...ตื่นเต้น อยากเห็น  
พอเข้าเส้น ทล.1256 
เข้าไป
เส้นทางวกวนเหมือนไส้หมู
ถนนลอยฟ้าสวยเลย
 อยากลงไปถ่ายจุดถนนคดเคี้ยวเป็นตัวเอส
อย่างที่เคยเห็น ใครๆเขาโพสท์ไว้
แต่อย่าดีกว่า ถนนไม่อำนวยให้จอดข้างทางเลย










จากปากทางเข้ามา 30 กม.ถึงปากทางแล้ว
ไปเขียนบันทึกที่จุดคัดกรอง เสียค่ารถ 30 บาท
ค่าเข้าอายุเกิน 60 ไม่ต้องเสีย
ไปอีก 7 กม.จะถึงจุดกางเต๊นท์
หน้าปากทางเข้า มีรถตู้มาจอดหลายคัน
พร้อมรถกระบะที่มีสัมภาระสำหรับกางเต๊นท์อีกหลายคันเช่นกัน
นทท.ลงมาเข้าแถวรอการคัดกรองและกรอกรายละเอียด

ออกจาก อช.ขุนสถานตอน 10.00น. มาถึงจุดนี้
เวลา 14.39น. เพราะเราโอ้เอ้วิหารรายกันมาตลอดทาง






ติดต่อเขียนบันทึกเข้ากางเต๊นท์ 
เราให้รายละเอียด ชื่อ เบอร์โทร บ้านเลขที่ไว้เลย

 



เดินแวะไปที่ร้านอาหารของอุทยาน เพื่อจะสั่งข้าวไว้กินมื้อเย็น
โดยไม่รู้มาก่อนว่ามีต้นดอกชมพูภูคาบานอยู่ข้างหลังนั่น






พอเลี้ยวเข้ามาก็เจอจังๆค่ะ
ดอกชมพูภูคา กำลังบานสะพรั่งเต็มต้น
โอ...แม่เจ้า  โชคดีมากๆ
เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก  
กรี๊ด......ดดดดดดดดด ในใจ เย้...
ควักมือถือมาถ่ายๆๆๆๆๆๆๆ รัวๆ
ก่อนที่คณะอื่นอีกหลายรถตู้จะมาถึง
ขวักมือเรียกพขร.ที่นั่งพักทำหน้าไม่ค่อยดีอยู่หน้าที่ทำการ
คุณเขาก็เดินโขยกเขยกมาทีละนิด
มาถ่ายให้จนพอใจ
***มารู้ทีหลัง วันที่กลับมาบ้านแล้ว
เขาบอกว่า ตอนนั้นปวดข้อเท้ามากๆๆ
นึกในในว่า  ตรูเจ็บข้อเท้าอยู่จริงๆ
เมียยังเรียกตรู..ไปถ่ายรูปให้
ครั้นจะไม่ไป ก็ไม่ได้ 
 เดี๋ยวนางงอนอีกเที่ยวต่อไม่สนุก**
ก็เราไม่รู้จริงๆนี่นา ว่าเขาเจ็บขนาดนั้น





สวยงามตื่นตาเพราะเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
มาที่นี่หลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยเจอช่วงมีดอก
ครั้งนี้มาได้เจอ มหัศจรรย์ค่ะ
พยายามสูดกลิ่น แต่ดอกอยู่สูง
วนอยู่ใต้ต้นก็ไม่ได้กลิ่นหอม






















ถ่ายจนจุใจ คณะใหม่มาแล้ว เสียงกรี๊ดกร๊าดดด ลั่น
ข้าวที่สั่งไว้เสร็จแล้ว เราต้องถอยก่อน
เป็นตากล้องให้สาวๆ รุ่นแก่กว่าเรา
เพราะเขาเห็นเราทำท่าไม่ธรรมดา
เลยอยากได้ภาพเหมือนเรามั่ง
เอ้า...ยินดีค่า
พอถ่ายให้คนหนึ่ง อีกหลายคนอยากได้ภาพมั่ง
แม่ตะลีก็ย่อเข่าจนแทบจะต้องนอนถ่ายให้
ปวดเข่าไปหมดค่ะเพื่อจะถ่ายให้พี่ๆได้มีรูปเต็มตัว
กับต้นชมพูภูคา


ภาพด้านล่างเป็นตอนสายก่อนกลับ
มาเยี่ยมถ่ายภาพกับชมพูภูคาอีกยก

คุณเขาหวังดี ไปขอยืมเก้าอี้ในร้านอาหาร
มาให้เราต่อขาขึ้นไปยืนเพื่อใกล้ชิด
สูดกลิ่น แต่ก็ไม่ได้กลิ่นอยู่ดี
นางคงไม่หอม แค่สวยเฉยๆ

คงมีคนทำแบบเดียวกันนี้ก่อนหน้า
เพราะสังเกตุเห็นใบหลุดไปก้านหนึ่ง
ไม่ใช่ฝีมือแม่ตะลีนะคะ ยืนยันได้


















อีกต้นข้างๆกันยังไม่ออกดอกเลย
แต่กำลังแตกใบอ่อน




ติดต่อเจ้าหน้าที่ แจ้งขอกางเต๊นท์
เสียค่ากางเต๊นท์คนละ30บาท
ที่นี่อายุ60 ก็เก็บค่ะ
แต่เต็มใจเพราะเราต้องไปใช้น้ำใช้ไฟ ทิ้งขยะโน่นนี่นั่น














ไปหาจุดจอดรถกันก่อน
เราเป็นเต๊นท์บนหลังคารถ จึงต้องหาพื้นที่ ที่เอารถเข้าไปได้
ได้ที่จอดรถสบายๆเพราะไม่มีรถเลยสักคันตรงนี้
เขาไปจอดใกล้ๆที่กางเต๊นท์ทึี่ลานดูเกดือนกันหมด
เราทำหน้าที่ปีนกางเต๊นท์บนหลังคารถเอง
วันนี้ไม่ขนโต๊ะ ไม่ขนของลงหมด
เพราะ คุณเขาปีนไม่ได้ เราเลยไม่กาง tarp
ได้แต่เอาเก้าอี้ และอุปกรณ์กินข้าวลงเท่านั้น
แต่หลังจากที่เราไปเข้าห้องน้ำ
คุณเขาก็ปีนขึ้นไปกาง tarp จนได้
บอกว่าไปเข้าห้อง อาบน้ำ เอาน้ำเย็นจัดๆ
ราดข้อเท้า อาการเจ็บทุเลาเลย
เราจึงถึงบางอ้อ ที่ไม่ได้ประคบเย็นตอนข้อเท้าพลาดเมื่อวาน
ที่จอดอยู่ระหว่างห้องน้ำหญิง และห้องน้ำชาย
จึงสะดวกสบาย ห้องน้ำสะอาด สะดวก ไฟสว่างตลอด
 
พอเริ่มกางเต๊นท์ ก็มีชาวเต๊นท์เดินมาคุยด้วย
เริ่มมีการพูดคุยซักถาม ว่ามาจากไหน ไปไหนมาแล้วบ้าง
เป็นไง สวยมั๊ย หนาวมั๊ย
ตรงนั้นดี ตรงนี้สวย น่าไป
ได้ข้อมูล มาอีก ว่าที่บ้านสะปัน ทางเดียวกับไป บ่อเกลือ
อากาศดี บรรยากาศเริด น่าไป มีลำธารใส ลงเล่นได้
นั่นเลย สิ่งที่ชอบ
เก็บข้อมูลใส่โปรแกรมวันพรุ่งนี้ทันที
เพราะเรายังไม่เคยไปบ้านสะปัน  น่าสนใจอย่างยิ่ง
บ่อเกลือไป 2ครั้งแล้ว ไม่น่าจะแวะไปอีก





เจอดอกส้านขาวที่นี่อีก แต่น่าจะเป็นส้านชมพูมากกว่า
เพราะกลีบดอกไม่ขาวเหมือนต้นข้างทางไปอช.ขุนสถาน
 ต้นนี้ อยู่หน้าห้องน้ำหญิง สวยจังหอมด้วย
เห็นรถเต๊นท์หลังคาของเราลางเลือนไกลๆโน่น
เวลา 18.21 น. อาบน้ำเสร็จเดินออกมาถ่ายมุมนี้








ต้นนี้ที่พบทางไปอช.ขุนสถาน กลีบขาวกว่า
ที่ปากเท่านั้นถึงออกสีชมพู








ตรงลานกางเต๊นท์นี้ เป็นลานจอดฮ.ด้วย

(ซึ่งเป็นเหตุให้ เมื่อวันออกไปจากที่นี่ เกือบถึงบ่อเกลือ
เจ้าหน้าที่โทรมาถามว่าเรายังกางเต๊นท์อยู่หรือไม่
จากเบอร์โทรที่ให้ไว้
เราบอกว่าออกไปแล้ว ตั้งแต่ตอนสายๆ
ถามว่ามีอะไรคะ..เริ่มตกใจกลัวโควิด..แฮ่ะ
 จนท.แจ้งว่า ฮ.จะลงแต่ติดที่ยังมีเต๊นท์กางอยู่อีก2เต๊นท์
เราบอกว่าน่าจะเป็นของคนที่ได้คุยกันเมื่อคืน
ซึ่งเขาบอกว่าจะค้างอีก 1 คืน
แต่ตอนสายเราเจอเขาออกไปเที่ยวข้างนอก
และคงกลับเข้ามาอีกตอนค่ำ
บอก จนท.ว่า เขามากับคณะที่พักบ้านพักของอุทยาน
 จนท.กล่าวขอบคุณแล้วบอกว่า
เขาไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรไว้เลย
ถ้าฮ.จะลงจริงๆ จนท.คงต้องรื้อเต๊นท์ก่อน
มิฉะนั้นอาจจะปลิวไปคนละทิศคนละทาง)







วิวตอนเช้า ไม่มีหมอก แต่อากาศเย็นสบาย






ลานกางเต๊นท์ด้านหลังที่จอดรถของเราว่าง
ไม่มีใครมากาง
เพราะเป็นวิวอับ เขาบังหมด






เย็นนี้กินข้าวที่ซื้อมาจากสวัสดิการ
กับผลไม้ที่ซื้อจากข้างทางมา
อากาศไม่เย็นจัดนัก เพราะไม่มีลมแรงๆ
ช่วงเย็นตอนเรากางเต๊นท์ก็มี นทท.ที่มากางเต๊นท์ที่ลานดูเดือน
เข้ามาคุย แบบคนคอเดียวกันอีก 2 -3คน
ยังรู้ว่าเขามากับครอบครัวกลุ่มหนึ่ง อีกกลุ่มมากับ
คณะใหญ่ ที่มาพักบ้านพัก
แต่เข้าแยกมากางเต๊นท์นอน เพราะชอบแบบนี้
กินข้าวเสร็จแปรงฟัน เก็บของขึ้นไปคุยกันบนเต๊นท์
ให้คุณเขากินยาแก้ปวด ยาคลายเส้น ประคบเย็น
เสียงสมาชิกที่ลานดูเดือน มาทำกิจกรรมกันช่วงค่ำ
เสียงไม่ดัง มีดีดกีต้าร์ ร้องเพลงเบาๆ
พอสัก3ทุ่ม ก็ไปบ้านพักกันหมด
อากาศเย็นสบาย 15-17องศา 
และลงมาถึง 13องศาตอนตี2  หลับสบาย








ลึกเข้าไปจากจุดจอดกางเต๊นท์ของเรา
เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
แต่ไม่ได้เดิน เพราะพขร.ข้อเท้าเจ็บ










เช้าตื่นมาอากาศดีมาก
เดินชมรอบๆ บางเต๊นท์เริ่มเก็บของขึ้นรถเตรียมตัวกลับ
หรือไปที่อื่นต่อ
เมื่อคืนคนที่ได้คุยด้วยบอกว่า มาจากบ้านสะปัน ที่บ่อเกลือ
ให้เราลองไปดู ถ้ายังไม่เคยไป 





เช้าต้มข้าวต้ม ผัดผัก และปลาเกล็ดขาวกระป๋อง
กับผลไม้ และกาแฟ เก็บเต๊นท์ อาบน้ำอาบท่า
ปรึกษากันว่า จะลองไปเที่ยวกางเต๊นท์ต่อที่ บ้านสะปันกันดีกว่า
ศึกษาเส้นทาง ตกลงไปไหนไปกัน
เราแย้งว่าถ้าข้อเท้ายังไม่โอเค ควรพักที่นี่อีกสักคืน
แต่ พขร.ยืนยันว่า ข้อเท้าดีขึ้นแล้ว
ทั้งยาแก้ปวด ยาคลายเส้น ยาทา ทำให้ดีเร็ว
ไปต่อได้ เอ้า งั้นก็ไปกันต่อค่ะ











ดูทะเบียนรถ ส่วนใหญ่มาจาก กทม.




แวะเอาพาสปอร์ตมาแสตมป์
ก่อนเดินทางต่อ







ลาก่อนนะ ชมพูภูคา
วันหน้าคงได้มาเยือนใหม่





สวัสดี


ตายายสายแค้มป์ปิ้ง : อช.ขุนสถาน



Create Date : 07 มีนาคม 2564
Last Update : 8 มีนาคม 2564 12:59:17 น. 21 comments
Counter : 791 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnonnoiGiwGiw, คุณทนายอ้วน, คุณกะว่าก๋า, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณSleepless Sea, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณสองแผ่นดิน, คุณเริงฤดีนะ, คุณkatoy, คุณSai Eeuu, คุณmcayenne94, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณSweet_pills, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณnewyorknurse, คุณKavanich96


 
สวยงามมากทุกดอกเลยค่ะพี่ ตอนนี้ อยากไปเท่ียวป่า
ไปเที่ยวน้ำตกมากๆ เลย อยู่กรุงเทพมันร้อนนนนน ปวดใจมากกก

ปล.ว๊ายย ใจตรงกัน คิกๆ



โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 8 มีนาคม 2564 เวลา:13:32:19 น.  

 
เคยอ่านจากหนังสือที่ไหนจำไม่ได้แล้วว่า "ชมพูภูคา" เป็นไอเดียทำให้เกิดดอก "ชมพูป่า" ในเรื่องรากนคราครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 8 มีนาคม 2564 เวลา:14:18:38 น.  

 
เหลืองประชันชมพู
สวยงามไม่แพ้กันเลยครับพี่
บ้านเราน่าจะปลูกต้นไม้ดอกสวยๆแบบนี้ให้เป็นแนวยาวๆเลยนะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มีนาคม 2564 เวลา:14:27:30 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยค่า
สนุกสนาน สมบุกสมบัน ถ่ายรูปเพลินเลยค่ะ
เที่ยวแบบนี้ถ้าเจ็บขาซะอย่างหมดสนุกเลยนะคะ



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 8 มีนาคม 2564 เวลา:14:42:49 น.  

 
สวัสดีครับ

มาเที่ยวด้วยนะครับ ดอกไม้สวยมากครับ



โดย: Sleepless Sea วันที่: 8 มีนาคม 2564 เวลา:17:04:38 น.  

 
ตามมาเที่ยวน่านต่อครับ แม่ตะลี
ดอยภูคา ปัว ไม่ได้ขึ้นไปเลยครับ น่าเสียดายมาก ไปแบบเวลาน้อย เลยได้ไปไม่กี่ที่เอง
ดอกชมพูภูคาสวยมากครับ
แม่ตะลีไปน่านครั้งนี้ กี่วันกี่คืนครับ เตรียมท่องเที่ยวน่านครั้งหน้าครับ



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 8 มีนาคม 2564 เวลา:23:13:05 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มีนาคม 2564 เวลา:5:29:30 น.  

 

เริงฤดีนะ..ไปน่าน ช่วงโควิดจางรอบแรกค่ะ
ไป 2 คน ลุงป้า เช่นกัน
ช่วงนั้นเพิ่งกายจากอาการบ้านหมุน
แต่จองตั๋วและที่พักล่วงหน้าก่อนป่วย
ลุยๆไปพักชิลๆไปกับบรรยากาศ
เช่ามอไซด์
รถตู้
รถโฟร์วิล คนพื้นที่
ไปเองตามอำเภอใจเช่นกัน


มองดอกไม้เหลือง ชมพูภูคา
ดอกส้านขาว..ของแม่จะลี
ด้วยความเพลิดเพลินค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 มีนาคม 2564 เวลา:10:03:47 น.  

 
แม่ตะลี*


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 มีนาคม 2564 เวลา:10:04:41 น.  

 
Feeling fresh


โดย: katoy วันที่: 9 มีนาคม 2564 เวลา:12:31:28 น.  

 
โห ขับรถเที่ยวไกลเลยค่ะ คราวนี้

ชมพูภูคา ไม่เคยเห็นของจริงเลยค่ะ สวยจริงๆ


โดย: Sai Eeuu วันที่: 9 มีนาคม 2564 เวลา:15:22:02 น.  

 
ชมพูภูคาสวยงามมากมีที่นีที่เดียว
โชคดีจริงๆได้มาเห็นตอนกำลังบานสะพรั่ง
เป็นดอกไม้ที่ เย็น ฝากไว้ก่อนรอวันได้เห็นด้วยตา
ยังไม่เคยไปน่านเลยสักครั้ง

ดอกนี้ฮิตมากนะคะ สมัยก่อนเพื่อนเย็นสายลุย
ปีนเขาจนเหงื่อตกเพื่อไปดูฟังเธอเล่า
เย็นก็เลยต้องถอยก่อน มันไม่ง่าย
ถ้าไม่เพราะโควิด ผู้คนคงเบียดเสียดมากมายมหาศาล
ไปชมความงามของเธอ ปีนี้ดอกอะไรก็ไม่มีใครโปรโมท

ดอกเสี้ยวขาวและชมพูอ่อนๆสวยงามมาก
ดอกเหลืองอินเดียไปถ่ายเกาะกลางถนนสวยงาม
แต่ต้องระวังดีๆค่ะ รถทางไกลวิ่งเร็ว
เสยขึ้นมาเกาะกลางจะหนีไม่ทันนะคะ

เป็นห่วง พขร ข้อเท้าแพลงถ้าถึงกับบวม
ให้คุณหมอที่บ้านรีบพาไปพบหมอกระดูกนะคะ
เอ็นภายในข้อเท้าอาจจะฉีกขาด
ต้องรีบไปตรวจรักษา
อาจต้องส่องกล้องเข้าในข้อเพื่อผ่าตัด
ไม่เช่นนั้นข้อจะเสียความแข็งแรงไปยาวนาน

สายซิ่นงานนี้ไม่พกซิ่นไปเที่ยวด้วยสักผืนเหรอคะ
เดี๋ยวนี้เย็นไปไหนมาไหนต้องพกติดกระเป๋า
สบโอกาสเป็นต้องงัดออกมานุ่งค่ะ

อุปกรณ์แค้มปิ้ง หรูหราหมาเห่า อลังการงานสร้าง
เหมือน รีฮันนีมูนในเต๊นท์เลยนะคะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 9 มีนาคม 2564 เวลา:19:08:06 น.  

 
ดอกเหลืองสวยอลังการมากค่ะ

ตายายชอบแคมป์ปิ้ง
แม่ซองฯก็ชอบมาก แต่ไม่มีโอกาสคุณสามีไม่ชอบ แหะๆ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 9 มีนาคม 2564 เวลา:19:52:39 น.  

 
เหลืองได้ใจเลย สวยมาก ๆ

...
ชมพูภูคา เพิ่งเห็นชัด ๆ ที่นีึ่เอง เป็นช่อด้วย สวย... เห็น
รอนแรมด้วยรถและมีที่นอน อิจฉาเลยแหละ 555 อยากมี
แบบนี้


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 9 มีนาคม 2564 เวลา:21:06:20 น.  

 
ขอบคุณครับพี่

ทุกคนที่อยู่ในวงการท่องเที่ยวก็พยายามปรับตัวครับ
แต่ปรับยังไงก็ไม่สำคัญเท่ากับนโยบายจากภาครัฐ
หลายประเทศเขาเริ่มเปิดประเทศแล้วครับ
วัคซีนก็เลือกคุณภาพดีมาฉีดให้ประชาชน
ของเราแทบจะยังไม่ขยับอะไรเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มีนาคม 2564 เวลา:21:06:28 น.  

 
ตื่นตาค่ะแม่ตะลี ดอกเหลืองอินเดีย ดอกชมพูภูคาและดอกส้านสีขาว
และชมพูอ่อนๆสวยมากจริงๆค่ะ
เที่ยวกับแม่ตะลีได้ใกล้ชิดธรรมชาติ เพลิดเพลินมาก
ขอบคุณแม่ตะลีนะคะ



ขอบคุณแม่ตะลีสำหรับกำลังใจด้วยค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 9 มีนาคม 2564 เวลา:23:42:59 น.  

 
สวัสดีครับคุณตะลีกีปัส

ตามมาชมดอกไม้และทริปท่องเที่ยวด้วยคนครับ
ทั้งเหลืองเชียงราย ชมพูคา และดอกส้านขาว สวยมากครับ
ยิ่งได้เห็นใกล้ๆ แบบนี้แล้วดีจังครับ

ชมภาพและเล่าเรื่องแล้ว น่าสนุกดีครับ อากาศก็ดีด้วย

แผนที่แสดงเส้นทางเค้าก็เข้าใจดีไซน์ตัวหนังสือดีนะครับ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 10 มีนาคม 2564 เวลา:0:18:12 น.  

 
ลืมตอบแม่ตะลีค่ะ
ถั่วลายเสือตามความรู้สึกต๋าคล้ายฝักยาวผสมถั่วแขกนิดๆ
พอสุกแล้วนุ่มๆหวานๆค่ะแม่ตะลี


โดย: Sweet_pills วันที่: 10 มีนาคม 2564 เวลา:0:18:33 น.  

 

มาเที่ยวด้วยค่ะ
ดอกเหลืองเชียงราย สวยมาก เป็นทิวแถวเลย


โดย: newyorknurse วันที่: 10 มีนาคม 2564 เวลา:3:30:45 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 10 มีนาคม 2564 เวลา:5:22:30 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มีนาคม 2564 เวลา:6:16:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ตะลีกีปัส
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
[Add ตะลีกีปัส's blog to your web]