|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
4 มีนาคม 2552
|
|
|
|
บทนำ จุดเริ่มต้นของความพินาศ
ไม่รู้ว่าจะมีใครสักกี่คนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ มันคงไม่ดีที่ปกปิดจุดเริ่มต้นของความพินาศที่มาสู่มนุษยชาติไว้ เหล่าลูกหลานรุ่นหลังจะต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์นี้ เพื่อไม่ให้เดินซ้ำรอยเดิม และหยุดยั้งหายนะที่กำลังคืบคลานอยู่ในโลกของเรา เอาล่ะ เราคงต้องย้อนกลับไปที่คริสตศักราช 2025 สินะ โลกของเราในยุคนั้นเจริญด้วยเทคโนโลยีจนเกือบถึงขีดสุด การขับเคลื่อนยานพาหนะไม่จำเป็นต้องใช้มนุษย์บังคับอีกต่อไป หุ่นยนต์รับใช้ประจำบ้านเหมือนมนุษย์เริ่มแพร่หลายในหมู่เศรษฐีและชนชั้นกลาง คุณภาพของมันขึ้นอยู่กับราคาที่มีให้เลือกมากมาย ความสะดวกสบายที่มีมากขึ้นทำให้พวกเราคิดว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์อย่างแท้จริง แต่ความรุ่งเรืองด้านเทคโนโลยีนี้ไม่ได้ทำให้ใจของมนุษย์สูงตามขึ้นไปด้วย นับตั้งแต่ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ถูกระเบิดในเหตุการณ์ 9-11 สหรัฐอเมริกาเริ่มเข้ามามีบทบาททางด้านการทหาร โดยอ้างว่าเพื่อปราบปรามผู้ก่อการร้าย และเข้าโจมตีประเทศแถบตะวันออกกลางจนผู้คนล้มตายไปมากมาย แม้แต่ตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เลิกสู้รบ การสังหารหมู่ชาวตะวันตกผู้บริสุทธิ์มีมากขึ้น เพื่อตอบโต้กับการกระทำอันป่าเถื่อนของทหารพันธมิตรบางคน และด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคที่แต่ละฝ่ายเพียรหามาครอบครอง ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อย ๆ ประเทศทางแถบตะวันออกกลางหันมาจับมือเป็นพันธมิตร หลังจากเคยสู้รบภายใต้การยุแหย่และการสนับสนุนกองกำลังอาวุธของประเทศอำนาจมาหลายสิบปี พวกเขารวมตัวกันเพื่อต่อต้านผู้กดขี่ข่มเหงตน แล้วสงครามนี้ก็แผ่ลามไปยังประเทศอื่นทั่วโลก การแบ่งแยกฝักฝ่ายมีให้เห็นเด่นชัด แต่ก็ยังมีประเทศที่ขออยู่ในฐานะคนกลาง เช่น กลุ่มอาเซียน กลุ่มสหภาพยุโรปบางประเทศ ญี่ปุ่น และประเทศจีน พวกเขาคอยเฝ้าดูสงครามนี้ที่อาจกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วยใจหวาดหวั่น ใครบางคนควรหยุดมัน ก่อนที่โลกนี้จะเข้าสู่ความพินาศ แล้วฝันร้ายอันยาวนานที่จะครอบคลุมมนุษยชาติไปอีกหลายร้อยปีก็เกิดขึ้น มีใครบางคนปล่อยระเบิดชีวภาพออกมา มันลงไปยังจุดสำคัญต่าง ๆ ทั่วโลก หลายประเทศเกิดความปั่นป่วน ผู้คนเริ่มบ้าคลั่งเพราะหายนะนี้ และที่ร้ายที่สุดคือระเบิดนั้นบรรจุด้วยเชื้อโรคบางอย่างที่ทำให้ผู้ติดเชื้อมีไข้ขึ้นสูง ไม่มียาชนิดไหนรักษาให้หาย จนพวกเขาตายไปทีละคนสองคน โรคใหม่นี้คงเหมือนกับโรคระบาดในสมัยก่อนที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย แต่มันแตกต่างกับโรคร้ายในอดีตอย่างสิ้นเชิง ผู้ติดเชื้อฟื้นคืนชีพขึ้นมาหลังจากตายไปไม่กี่ชั่วโมง ทำให้พวกเราคิดถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อน เพราะซอมบี้เหล่านั้นเริ่มอาละวาดทำร้ายผู้คนในถิ่นของตัวเอง แล้วแพร่เชื้อสู่มนุษย์ให้ติดโรคเป็นพวกผีดิบไปตามกัน อันเดด นี่คือชื่อที่พวกเราใช้เรียกผู้ติดเชื้อ พวกมันทำให้ทุกหนทุกแห่งกลายเป็นเมืองแห่งความตาย และวิกฤตนี้ทำให้ประเทศที่เคยเป็นศัตรูกันต้องหันมาจับมือกันในนามประชาคมโลก เพื่อต่อต้านกองทัพฝูงใหม่ที่มีจำนวนถึงหนึ่งในสามส่วนของประชากรโลก พวกเขาจัดตั้งกองปราบปรามเฉพาะกิจขึ้นมา โดยใช้ชื่อหน่วยนั้นว่า เดดฮันเตอร์ แต่เหมือนกับว่าพวกอันเดดจะมีวิวัฒนาการของมันเองด้วย จากที่เคยถูกล่าแต่ฝ่ายเดียวก็ออกมาเป็นฝ่ายล่าบ้าง พวกมันเริ่มออกอาละวาดไปนอกเขตที่เคยอยู่ ทั้งที่เมื่อก่อนเหล่าผู้ติดเชื้อไม่เคยออกไปถิ่นอื่นเลยสักครั้ง พวกเดดฮันเตอร์เริ่มอยู่ในสถานะลำบาก เพราะผู้ติดเชื้อรุ่นใหม่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็วขึ้น อีกทั้งสมรรถภาพทางด้านร่างกายก็สูงขึ้นตามลำดับ จนบางคนถูกทำให้กลายเป็นอันเดดไปเสียเอง มันจึงเป็นปัญหาหนักที่ประชาคมโลกต้องเร่งจัดการแก้ไข แล้วความหวังอันน้อยนิดก็เริ่มส่องแสงให้เห็น เหล่านักวิจัยที่ค้นคว้าเกี่ยวกับเชื้ออันเดดได้คิดยาต้านเชื้อสำหรับผู้ป่วยขึ้นมาได้ และทดลองใช้ในกลุ่มอาสาสมัครผู้ติดเชื้อ แต่ผลกลับออกมาในรูปแบบที่คาดไม่ถึง กลุ่มอาสาสมัครไม่ได้หายจากโรคอันเดด พวกเขาเพียงแต่กลายพันธุ์เป็นผู้ไม่รู้ตายอีกประเภทหนึ่ง ไม่รู้ว่ามันเป็นความโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ เพราะยาต่อต้านเชื้ออันเดดได้เปลี่ยนผู้ป่วยให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ดำรงอยู่ได้ด้วยเลือด ไม่ใช่ข้าวปลาอาหารเหมือนคนปกติ พวกเขาไม่ต้องกินอะไรได้นานหลายอาทิตย์หากได้ดื่มเลือดมนุษย์ แต่พวกเขาก็ยังมีสติของความเป็นมนุษย์อยู่ครบถ้วน ใช่...มันเลยยังโชคดีอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นเราคงเจอศึกสองทาง ถึงกระนั้นเหล่านักวิจัยก็ไม่สามารถใช้ยาที่คิดค้นขึ้นมากับผู้ติดเชื้อรายอื่นได้อีก พวกเขาไม่อยากสร้างผีดิบขึ้นมาทำลายโลกตัวเอง ดังนั้นเหล่าอันเดดสายพันธุ์ใหม่จึงถูกนำมาศึกษาทดลองเพื่อต่อยอดการทำวัคซีนที่ทำให้หายอย่างแท้จริง และจากการทดลองของเหล่านักวิจัย อันเดดสายพันธุ์ใหม่มีคุณสมบัติที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นพละกำลังหรือการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนสายตามนุษย์ธรรมดามองตามไม่ทัน พวกเขาจึงถูกบรรจุลงในกองปราบปรามเฉพาะกิจ โดยใช้ชื่อหน่วยว่า แวมไพร์ฮันเตอร์ ตามลักษณะพฤติกรรมของผู้ติดเชื้อ สงครามรูปแบบใหม่จึงเกิดขึ้น เหล่าแวมไพร์ฮันเตอร์เริ่มตามล่าอันเดดที่มีวิวัฒนาการดำรงอยู่และการแพร่เชื้ออย่างน่าหวาดหวั่น โลกของเรามีสภาพเหมือนในนิยายอย่างที่เหล่านักขายฝันจินตนาการไปมากขึ้นทุกที แม้แต่เวลาของโลกยังย้อนกลับไปที่ศูนย์เหมือนตอนที่มนุษย์ยุคเก่าเริ่มสร้างอารยธรรมของตัวเอง พวกเราจับกลุ่มสร้างประเทศใหม่ โดยมีประชาคมโลกเป็นจุดศูนย์กลาง พวกเราไม่รู้ว่าโลกใบนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป มันจะถูกทำลายลงอีกหนด้วยพวกอันเดด หรือจะถูกกอบกู้ด้วยมือของแวมไพร์กระหายเลือด บางทีโลกของเราอาจจะถึงยุคโลกาวินาศขึ้นมาแล้วก็ได้ แต่พวกเราก็ไม่เคยเลิกหวังว่าจะมีคนมาช่วยกอบกู้โลกของเรา ขอให้ความสงบสุขมาเยือนถึงโลกของพวกเราโดยไว
Create Date : 04 มีนาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 4 มีนาคม 2552 13:21:09 น. |
Counter : 540 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
rudyard |
|
|
|
|