Group Blog
 
<<
เมษายน 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
5 เมษายน 2556
 
All Blogs
 
คู่กรรม...ถ้าตอนจบ...อังศุมาลินเป็นฝ่ายไปรอที่ทางช้างเผือกก่อน....

สองสัปดาห์นี้ มีคนโพสถามเรื่อง 
ถ้าตอนจบ...อังศุมาลินเป็นฝ่ายไปรอโกโบริที่ทางช้างเผือกก่อนล่ะ...

ในฐานะแฟนวรรณกรรมอันดับหนึ่งของบ้าน(เพราะอ่านอยู่คนเดียว)...
จะลองเขียนฉากจบเรื่องนี้ดู...เป็น alternative ending ละกัน

ถ้าสมมุติว่าคืนนั้นที่สถานีบางกอกน้อย....
อังศุมาลินเป็นฝ่ายที่ตายจากไป...
พร้อมกับลูกน้อยในท้อง...
==================================
กลางคืนปลายปี 2488 อากาศเย็นสบาย
ต้นลำพูต้นใหญ่ริมน้ำมีหิ่งห้อยนับร้อยนับพันแฝงตัวแปล่งแสงระยิบระยับแข่งกับแสงดาวบนฟ้า
มองตรงเข้าไปจะเห็นทางเดิน ที่ขนาบด้วยต้นมะลิส่งกลิ่นหอมเย็นระรวย
ลึกเข้าไปตามทางเดิน จะเห็นบ้านทรงไทยหลังคาแหลมสูงเบื้องหลัง

ร่างสูงเปิดประตู ก้าวออกมาจากบ้าน
ชายหนุ่มในชุดเสื้อยูกาตะแบบญี่ปุ่นถือของมาเต็มสองมืออย่างระมัดระวัง
เขาหยุดที่ท่าน้ำใต้ต้นลำพูนั้น...มองหิ่งห้อยนิ่ง...นาน
แล้วจึงย่อตัวลงนั่งคุกเข่าแบบญี่ปุ่นแท้ หลังตรง สง่างาม
เขาค่อย ๆ วางข้าวของที่ประคองมาจากบ้าน...
วางดาบซามูไรไว้ด้านขวา
เหรียญกล้าหาญและใบประกาศประทับตรากองทัพแห่งสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ทางด้านซ้าย
และ...ขิม...ที่เขาประคองมันวางลงเบื้องหน้าอย่างเบามือ

"ฮิเดโกะ....ผมกลับมาแล้ว...

ทันทีที่ผมรู้ข่าวว่าทางรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม
ผมกลัวเหลือเกิน...กลัว...ว่าจะไม่ได้กลับมาหาคุณที่นี่
เพราะค่ายทหารญี่ปุ่นหลายค่าย ระเบิดทหารทั้งค่าย เพื่อแสดงความจงรักภักดี

แต่ชีวิตของผม ผมได้มอบให้สมเด็จพระจักรพรรดิไปแล้ว
เหมือนที่ผมได้สัญญาไว้กับคุณ"

น้ำตาชายหนุ่มรื้นขึ้น ความทรงจำใน"คืนนั้น"เด่นชัด

======================
ปีที่แล้ว...ที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย...
หญิงสาวกุมมือเขา...ลมหายใจรวยริน
"สัญญากับฉันนะคะ คุณเคยบอกฉันว่าชีวิตของคุณเป็นของสมเด็จพระจักรพรรดิ...
ฉันเป็นต้นเหตุให้คุณทำผิดต่อชาติของคุณมากมาย
...
คุณต้องมีชีวิตอยู่เพื่อสมเด็จพระจักรพรรดินะคะ"

เพราะคำสัญญานั้น...ทำให้ชายหนุ่มย้ายตัวเองไปพม่าทันทีที่จัดงานศพให้หญิงสาวเสร็จ
เขาอาสาออกรบในแนวหน้าไม่เว้นแต่ละวัน
จนได้เหรียญกล้าหาญมากมาย...
========================
"ผมทำตามสัญญาเสมอ...
คุณเห็นเหรียญกล้าหาญพวกนี้ไหม
ผมได้ทำอย่างที่ได้สัญญาไว้กับคุณ
แต่ตอนนี้หน้าที่ของผมต่อสมเด็จพระจักรพรรดิได้สิ้นสุดลงแล้ว

ตอนผมอยู่ในสนามรบ...
วันใดที่การรบมันช่างหนักหนาเหลือทน
ผมจะหลับตา...
นึกถึงคืนที่คุณนอนหนุนแขนผม
นึกถึงลมหายใจอุ่นๆของคุณที่ปะทะหน้าอกของผม
พอผมลืมตาขึ้นมา...ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ไม่เลวร้ายอีกต่อไป

คุณรู้มั้ย ผมใส่ผ้าเช็ดหน้าและรูปของคุณไว้ที่กระเป๋าหน้าอกซ้ายของผมเสมอ...
หัวใจของผมจะได้รู้ว่า...มันเต้นอยู่เพือใคร...

การมีชีวิตอยู่โดยไม่มีคุณมันช่างทรมาณ...
จนบางที...ผมอยากออกรบแล้วตายๆไปเสียที
แต่คุณสวดมนตร์ให้ผมทุกวันใช่ไหม...
สวดมนตร์เพราะคุณอยากให้ผมกลับมาหาคุณที่นี่
ผมเลยไม่ตายในสนามรบ...

ทันทีที่ผมรู้ว่าญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้
ผมหนีออกมาจากค่าย
ผมกลัวว่าผู้บังคับบัญชาของผมจะสั่งระเบิดค่ายเสียก่อน
และผมจะไม่มีโอกาสกลับมาหาคุณ
ผมเดินเท้าลัดเลาะมาตามรางรถไฟ
เข้ามาทางจังหวัดกาญจนบุรี
ผมไม่รู้ว่าผมเดินนานแค่ไหน...แต่มันก็ช่างยาวนานเสียเหลือเกิน
เพราะหัวใจผมมันเร่งเร้าให้มาถึงที่นี่ให้เร็วที่สุด

ตอนมาถึง คุณแม่กับคุณยายจำผมแทบไม่ได้
ผมคงสกปรกน่าดู
ท่านให้ผมไปอาบน้ำ จัดที่นอนให้ที่ห้องของเรา
ห้องของเรายังเหมือนเดิมทุกอย่าง
หมอนของคุณวางอยู่ข้างหมอนของผม
หมอนของคุณยังมีกลิ่นอายของคุณอยู่เลย
เหมือนคุณเพิ่งลุกออกไปเมื่อกี้เอง"

เขาหยุด...กลืนก้อนแข็งลงคอ...

"คุณคงไม่ว่าอะไร ที่ผมนอนหนุนหมอนของคุณเมื่อคืน
ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน...ฮิเดโกะ"

น้ำตาชายหนุ่มไหลออกมาจากสองตา

ชายหนุ่มเปิดฝาเครื่องดนตรี...บรรเลงเพลงในความทรงจำ
...อ่อนหวานนุ่มนวล...หากเต็มไปด้วยความโศกเศร้า...ของผู้หญิงร้องไห้

โอ้ว่าป่านฉะนี้พระพี่เจ้า 
จะโศกเศร้ารัญจวนครวญหา
ตั้งแต่พระไปแก้สงสัยมา 
มิได้พบขนิษฐาในถ้ำทอง

เขาวางไม้ตีลงอย่างเบามือ
มือขวากำดาบซามูไรแน่น

"ตอนนี้...ผมพร้อมแล้ว...
ชีวิตผมได้ให้สมเด็จพระจักรพรรดิอย่างเต็มภาคภูมิ
หัวใจของผมจึงได้กลับมา...หาเจ้าของที่แท้จริงของมัน
เพื่อฝากร่างกายไว้กับแม่พระธรณี...ที่เดียวกับคุณ"

"คุณพร้อมจะเดินทางไปทางช้างเผือกด้วยกันแล้วใช่ไหม"

ชายหนุ่มปลดเสื้อยูกาตะลงจากหัวไหล่ทั้งสองข้าง
มือขวาหยิบดาบซามูไรคู่กายขึ้น
เขาชักดาบออกจากฝักและเสียบมันลงช่องท้องอย่างรวดเร็ว

เขาบิดข้อมือเพียงเล็กน้อย แต่คมดาบได้คว้านอวัยวะสำคัญภายในอย่างแสนสาหัส
เลือดทะลักออกมาเป็นลิ่ม...

ถึงแม้ว่าจะเหลือเพียงลมหายใจรวยริน...
ริมฝีปากได้รูปก็ยังเอื้อนเอ่ย...เสียง...ที่ไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบ...

"อานาตะ โอ อาอิชิ มาสุ...ผมรักคุณ...ฮิเดโกะ"





Create Date : 05 เมษายน 2556
Last Update : 5 เมษายน 2556 23:25:07 น. 0 comments
Counter : 4138 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

rubber ducky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




วันธรรมดาเป็นอาจารย์ที่น่ารัก
วันหยุดพักเป็นสาวโสดโหดติงต๊อง
เวลาว่างชอบอ่านหนังสือกับดูมะกันฟุตบอล
ไม่ก็นอนเกาพุงป๊ะป๋าหม่าม๊าดูทีวี...
Friends' blogs
[Add rubber ducky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.