บอกใคร ๆ เค้าว่าเราเป็น "นักเคมี" แต่เราไม่เก่งนะ ... เชื่อเราเถอะ
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
13 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพศ - จากบันทึกคำสอนของพ่อส่งต่อให้ลูกชาย

นั่งหน้าคอมหาข้อมูลเก่าๆ ไปเจอบทความนี้
อ่านแล้วได้คิดดีเหมือนกันครับ เลยเอามาฝากกัน ...
ได้จาก Forward mail ....


ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพศ - จากบันทึกคำสอนของพ่อส่งต่อให้ลูกชาย

ลูกรัก ...

เผื่อลูกจะไม่รู้ ... ลืมไป ... หรือแกล้งลืมไปว่าบนผิวดาวเคราะห์ดวงนี้มีมนุษย์อีกจำพวกหนึ่งที่มีลักษณะตรงข้ามกับเราแต่ธรรมชาติสร้างมาเพื่อให้คู่กับเราอาศัยอยู่ด้วย เราเรียกมนุษย์กลุ่มนี้ว่า "ผู้หญิง" ... ความเป็นผู้หญิงเป็นความมหัศจรรย์ที่สุดอย่างหนึ่งที่ธรรมชาติบรรจงประดิษฐ์ขึ้นมา (อย่างน้อยก็ตามประสบการณ์ของพ่อ)

เธอ เหมือนทะเล ... ทั้งในยามสงบและบ้าคลั่ง ...

เธอ เหมือนไฟ ... ทำความมืดให้สว่าง ไล่ความหนาวเย็นไปด้วยความอบอุ่น แต่พร้อมที่จะเผาผลาญทุกอย่างที่ขวางหน้า

เธอ เหมือนความฝันในตอนใกล้รุ่ง ... ที่มักจะติดหัวเราไปตลอดทั้งวัน เพียงเพื่อจะเตือนให้เรารู้ว่า มันก็แค่ความฝัน

เธอ เหมือนความจริง ... ที่หลายครั้งเราพยายามจะคิดว่ามันเป็นความฝัน

เธอ เหมือนดอกไม้ ... ที่บางครั้งก็เรียกร้องหาแจกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากถูกพรากจากต้นและผืนดิน

เธอ เหมือน ....


พ่ออยากสอนว่า ....

1. จงปฏิบัติต่อผู้หญิงอย่างให้เกียรติ เปิดเผย และเท่าเทียมกัน เธอมีศักดิ์ศรีและสิทธิทุกอย่างเท่าเทียมกับเราทุกประการ
(ถึงแม้ว่าบางครั้งลูกอาจจะรู้สึกว่าพวกเธอมีศักดิ์ศรีและสิทธิมากกว่าพวกเราก็ตาม)
หากลูกตกอยู่ในสถาณการณ์ที่ไม่แน่ใจว่าจะปฏิบัติ โต้ตอบ หรือ จัดการ อย่างหนึ่งอย่างใดต่อ "เธอ" ของลูก พ่ออยากให้ลูกใช้วิธีของพ่อ ให้ลูกคิดว่า ถ้าเธอคนนั้นเป็น แม่ หรือ พี่เฟิร์น ของลูก .... ลูกจะรู้ได้เองด้วยสำนึกที่ดีว่า ลูกจะปฏิบัติ โต้ตอบ หรือ จัดการ อย่างไรกับเธอ แต่อย่าคิดถึงคุณแม่ตอนทำโทษลูก หรือ ตอนที่พี่เฟิร์นแย่งขนมลูกล่ะ

2. "วีน" ... "วีนแตก" ... เป็นศัพท์ใหม่สำหรับคนรุ่นพ่อ เพราะสมัยที่พ่อเติบโตไม่มีบัญญัติไว้ แต่พ่อก็เอามาใช้ในบริบทนี้เพราะคำนี้อธิบายอาการบางอย่างของเธอที่ลูกไม่มีวันเข้าใจ (และไม่ต้องไปพยายามเข้าใจ)ได้เป็นอย่างดี
... ลูกรัก ... ไฟน่ะ เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วมันจะไหม้ไปไม่เลือกหรอกนะลูก มันจะไหม้แม้กระทั่งคนที่ไปจุดมันขึ้นมาถ้าไม่ระมัดระวังอย่างเพียงพอ หรือบางครั้งขนาดระวังเต็มที่แล้วมันก็ไหม้ แม้แต่คนที่โง่ที่สุดก็รู้ว่าการสาดน้ำมันลงไปในกองไฟ ไม่ทำให้ไฟดับ แต่จะทำให้มันลุกมากขึ้นไปอีก ... พ่อกำลังจะบอกว่า การดับไฟที่ดีที่สุดต้องกำจัดเชื้อเพลิง ความร้อน และอ๊อกซิเจน

... ลูกรัก ... คำอธิบาย ตรรกะ เหตุผล ต่างๆที่ลูกคิดว่าดีที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุด เข้าใจง่ายที่สุด คำอธิบาย ตรรกะ เหตุผล ต่างๆเหล่านั้นจะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เพราะจะถูกมองว่าเป็นข้อแก้ตัว ... เหมือนฉีดน้ำมัน ฉีดอ๊อกซิเจนเข้ากองไฟ ฉันใดก็ฉันนั้น .... ขณะที่เธอเกิดอาการวีนแตกนั้น เธอจะขาดความสามารถในการเข้าใจเหตุผลและตรรกะต่างๆไปชั่วคราว ไม่ว่าเธอคนนั้นจะจบปริญญาเอกมาจากสำนักไหน สาขาไหน ยกเว้นก็แต่เธอที่อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า "ผู้ทรงศีล" หรือ "ชี" เธอเหล่านี้จะไม่วีนแตกแน่นอน แต่พ่อก็ไม่คิดว่าเส้นทางชีวิตของลูกจะเข้าไปข้องแวะกับเธอกลุ่มนี้เท่าใดนัก
เว้นแต่ลูกคิดจะบวชตลอดชีวิต ซึ่งพ่อยินดีสนับสนุนถ้าลูกต้องการอย่างนั้นจริงๆ

ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ... ลูกรัก ... คาถาบทเดียวที่พ่อใช้มาตลอดชีวิต ... "ครับ" ... ก็คือคาถาบทนั้น ... และพูดให้น้อยที่สุด พูดเท่าที่จำเป็น

ข้อสำคัญอย่าอธิบายเหตุผลใดๆทั้งสิ้นในกรณีที่ลูกอนุมานว่าลูกอาจจะมีส่วนในปรากฎการณ์วีนแตกครั้งนั้น แต่ก็พึงระวังไว้ว่า วีน หรือ วีนแตกนั้น ตอนเริ่มต้นอาจจะเกิดจากสาเหตุหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับลูกเลยแม้แต่น้อย แต่ลูกอาจจะไปเกี่ยวด้วยโดยไม่ทราบสาเหตุในตอนจบ ลูกฟังแล้วอาจจะไม่เข้าใจเพราะมันไม่มีตรรกะ แต่มันคือความจริง เหมือนไฟไงล่ะลูก มันบังเอิญที่ลูกโชคร้าย ที่เข้าไปอยู่ใกล้ๆ ไฟก็เลยลามลูกเข้าให้ ... ท่องคาถาของพ่อเอาไว้ ... "ครับ" ... ลูกเดียว แล้วก็นับหนึ่งไปถึงสิบถึงร้อยถึงพันสามสี่ร้อยล้าน เดี๋ยวพายุก็สงบ

จำไว้ลูก ฝนที่ตกหนักจะตกไม่นาน ...

เมื่อไฟมอด พายุสงบ วีนสลาย ... ลูกค่อยเท้าความ ชี้แจงเหตุผล ในกรณีที่เกี่ยวกับลูกโดยตรง
แต่ถ้าไม่เกี่ยวกับลูกก็จงลืมๆไปเสีย ไม่ต้องไปรื้อฟื้นให้เปลืองตัว

3. ผู้หญิงนั้น เวลาที่เธอขบคิด หรือมีปัญหาต้องคิด เธอจะพูดออกมา ลูกออกความเห็นได้เฉพาะเท่าที่ได้รับการร้องขอ มิฉะนั้นลูกมีหน้าที่อย่างเดียวคือฟัง
ลูกอาจจะประหลาดใจถ้าพบว่า หลายๆครั้งเธอได้ข้อสรุป ทางออก หรือทางแก้ปัญหานั้นๆแล้ว แต่เธอยังไม่หยุดที่จะพูด
ลูกรัก ... อย่าประหลาดใจเลย จงยอมรับธรรมชาติของเธอในข้อนี้ ความจริงก็คือว่า ข้อสรุป ทางออก หรือทางแก้ปัญหา ไม่ทำให้เธอหยุดคิดหรือหยุดพูด ดังนั้นลูกก็จงฟังต่อไป

... อีกอย่างก็คือการฟังเธอพูดขณะเธอขบคิดนั้น เธอถือว่าเป็นการเอาใจใส่ เป็นการแสดงความเอื้ออาทร และเป็นการแสดงว่าลูกยังรักและห่วงใยเธอ

...ลูกอาจจะสงสัยว่าแล้วเมื่อไรเธอจะหยุดพูดล่ะ
ลูกเอ๋ย ... พ่อตอบไม่ได้หรอกลูกรัก เมื่อเธออยากจะหยุดเธอจะหยุดเอง ลูกไม่ต้องไปใส่ใจว่าเธอจะหยุดเมื่อไร
ลูกมีหน้าที่ฟัง และพยักหน้า (เท่านั้น) ....

อันลักษณะนี้จะเป็นตรงกันข้ามกับเรา เมื่อเรามีเรื่องต้องขบคิด มีปัญหาที่ต้องการแก้ไข เราจะต้องการความเงียบคิดๆๆๆ และ คิดคนเดียว (โดยไม่ใช้ปาก)

แต่เธอผู้อยู่ข้างๆลูก เมื่อเห็นลูกกำลังใช้ความเงียบคิดอะไรของลูกคนเดียว เธอก็จะขันอาสามาช่วยลูกคิดโดยเธอจะใช้วิถีที่เธอคิดคือคิดด้วยการพูด ถามๆๆๆ และ ถาม เพราะเธอคิดว่ามันเป็นการแสดงความใส่ใจ ความรักและเอื้ออาทร

... เมื่อลูกรำคาญเพราะลูกต้องการคิดอย่างเงียบๆ คนเดียวตามวิถีของพวกเรา ลูกอาจจะบอกปัดไป นั้นยิ่งจะทำให้เธอเข้าใจลูกผิดไปว่าลูกไม่ยินดีรับความรักความเอื้ออาทร และความใส่ใจที่เธอมอบให้ ซึ่งอาจจะทำให้เธอตีความไปว่าเรื่องที่ลูกกำลังขบคิดเป็นเรื่องที่เธอไม่ควรรู้ เป็นเรื่องลูกกำลังปิดบัง ลูกเบื่อ และ ไม่ต้องการเธอ และนั่นจะทำให้เรื่องราวมันขยายใหญ่โต

"แล้วหนูจะทำอย่างไรดี ..."

... ลูกรัก ... ไม่ยากหรอก
ลูกก็ต้องบอกเธอไว้ล่วงหน้า อธิบายให้เธอเข้าใจธรรมชาติของพวกเราว่าเวลาที่ต้องการขบคิด แก้ปัญหาต่างๆ เราต้องการคิดเงียบๆ โดยไม่ใช้ปาก และไม่ต้องการผู้ช่วย แต่ถ้าต้องการความเห็นหรือความช่วยเหลือเราจะเอ่ยปากถามเอง และขอให้เธอให้ความร่วมมือโดยเข้าใจธรรมชาติของเราในข้อนี้

... และในทางกลับกันลูกก็ต้องเข้าใจในธรรมชาติของเธอด้วยอย่างที่พ่อพูดไว้แล้วข้างต้น ...

4. ตู้เสื้อผ้าที่ไม่เคยพอ
... ลูกรัก ... ปรากฎการณ์หนึ่งที่ลูกต้องได้ประสบคือ "ตู้เสื้อผ้าที่ไม่เคยพอ" ... เธอจะไม่เก็บเสื้อผ้าที่สามปีใช้หนเดียวลงกล่องหรือแม้แต่ชุดที่ไม่มีวันได้ใช้(ในความคิดของลูก) เธอจะแขวนไว้ในตู้เสมอ ด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่งเถอะเธอจะได้สวมมัน ... ลูกรัก ถ้าลูกกำลังจะพูดถึงตรรกะ และเหตุผล ไม่ว่าจะทางวิทยาศาสตร์ หรือ เศรษฐศาสตร์ ลูกกำลังหลงทาง ...

จงอย่าได้เอ่ยเหตุผลเหล่านี้เลย ไม่สำเร็จหรอก พ่อได้พยายามมาแล้ว ทั้งกับย่าของลูก อาหญิงของลูก และแม้แต่แม่ของลูก เหลือแต่พี่เฟิร์นของลูกที่พ่อยังไม่ได้ลองพยายาม เพราะวันนี้พี่เฟิร์นของลูกยังไม่มีตู้เสื้อผ้า แต่พ่อก็คิดว่าวันที่พี่เฟิร์นของลูกมีตู้เสื้อผ้า ก็คงไม่ต่างกับ ย่า อา หรือ แม่ของลูก ... หรือลูกจะลองพยายามพูดกับเธอของลูกดูก็ได้ แต่ถ้าผลลัพท์มันไม่ได้อย่างใจล่ะก็ ...

... พ่อเตือนลูกแล้วนะ ...

อ๋อ ... นี่ก็หมายความไปถึงตู้รองเท้าด้วยนะ มันไม่เคยพอเหมือนกัน

5. ลูกรัก ... ถ้าลูกถูกถามว่า ... "คุณว่าชุดนี้ฉันใส่แล้วดูเป็นอย่างไร" หรือ "ชุดนี้ (ที่ฉันกำลังลองอยู่)กับชุดนั้น ชุดไหนสวยกว่ากัน" หรือ "รองเท้าคู่นี้เข้ากับกระโปรงตัวนี้ไหม" หรือ ฯลฯ ... ลูกจะตอบอย่างไร

... อย่านะลูก อย่าเป็นอันขาดที่จะตอบโดยใคร่ครวญหาเหตุผลที่แท้จริงอย่างสมบูรณ์ในการตอบคำถามเหล่านี้ หรืออีกอย่างหนึ่งพ่อกำลังจะบอกว่า อย่าใช้สมองในการตอบ

... อ้าว .. แล้วหนูจะใช้อะไรตอบล่ะครับ"
... ใช้หัวใจไงล่ะลูก

คำถามพวกนี้ต้องใช้หัวใจตอบ ... คำถามทั้งหมดนั้นถูกแปลให้เข้าใจได้ง่ายๆ
คือ "ลูกยังรักเธออยู่ไหม" หรือ "เธอยังสวยและดูดีในสายตาลูกอยู่หรือไม่" เธอถามหาความเชื่อมั่น เธอถามหาความมั่นใจต่างหาก

... จงตอบอย่างที่เธอต้องการฟัง

เปล่านะลูก พ่อไม่ได้สอนให้ลูกโกหก เพราะถ้าลูกใช้สมองตอบ ความสัมพันธ์ของลูกกับเธออาจจะมีปัญหา ทั้งๆที่ลูกยังรักเธออยู่ ถ้าลูกยังรักเธออยู่ ก็จงใช้หัวใจตอบอย่างที่เธอต้องการฟัง แต่ถ้าลูกไม่ได้รักเธอ ลูกก็ตอบโดยใช้สมองได้เลย

เธอ ... เจ้าของรอยยิ้มที่เป็นความสว่างไสวเพียงอย่างเดียวในยามที่ลูกตกอยู่ในห้องที่มืดมิด

เธอ ... เหมือน เสียงของความเงียบ คำพูดของเธอลูกต้องให้หัวใจฟัง ... ไม่ใช่ใช้หู

เธอ ... คือ ความงดงามในความไม่สมบูรณ์พร้อม ลูกต้องใช้ความรักอย่างหมดใจเพื่อที่จะสัมผัสความงดงามนั้น

เธอ ... คือ ความฝันที่ลูกอยากให้เป็นความจริง มากพอๆกับที่เธอคือความจริงที่ลูกอยากให้เป็นเพียงแค่ฝัน

เธอ ... คือ สีสรรของสายลม สีสรรที่ลูกไม่อาจจะมองเห็นได้ด้วยตา แต่ด้วยความอาทรและใส่ใจในทุกรายละเอียด

เธอ ... คือ ความสอดคล้องในขัดแย้ง

และเหนืออื่นใด ... เธอคือ ผู้หญิงที่ลูกรัก และฝากชีวิตไว้กับ ... เธอ ...

ขอให้ลูกโชคดีในชีวิตครอบครัวในวันข้างหน้า

รักลูก ...
พ่อ




Create Date : 13 พฤษภาคม 2550
Last Update : 13 พฤษภาคม 2550 12:57:00 น. 7 comments
Counter : 338 Pageviews.

 
ทุกคำสอนของคุณพ่อถูกทุกข้อเลยค่ะ คุณลูกชาย น่ารักจังเลยค่ะ บทความนี้


โดย: MiDnIgHt (Yai ซิล่า ) วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:57:41 น.  

 
ชอบบทความนี้ค่ะ

อิ อิ ผู้หญิงเป็นอะไรได้หลายอย่างจริงๆ

แวะมาทักทายวันหยุด

ขอให้มีความสุขกับวันหยุดค่ะ


โดย: เพียงแค่เหงา วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:04:24 น.  

 
แวะมาอ่านค่า


โดย: ยัยนู๋โบว์ (SoRrA ) วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:51:19 น.  

 
เป็นพ่อที่น่ารักจัง


โดย: Mys วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:43:16 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคับ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมคับ


โดย: AnnPaPa วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:37:26 น.  

 
พวกผู้หญิงได้ใจ
เพราะบทความพรรค์นี้ อิอิ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมกันน้า


โดย: หอมกร วันที่: 14 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:31:08 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ

ขอให้มีความสุขกับวันทำงานนะคะ


โดย: เพียงแค่เหงา วันที่: 16 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:24:40 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เคมีรามคำแหง
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เดิมเป็นนักเคมีทำงาน R&D ด้านยาง (rubber) กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้สิบปี ...
... ตอนนี้มาทำงานด้านการขายและให้คำปรึกษา ...

ติดต่อได้ที่ 08-9114-8818 หรือทาง e-mail ครับ

ชอบออกกำลังกาย เล่นแบด ตีปิงปอง และเล่นเทนนิสได้
แต่ไม่ค่อยมีเวลาให้ได้ออกกำลังกายบ่อยๆ


.......

เราเชื่อเสมอว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม ...
Friends' blogs
[Add เคมีรามคำแหง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.