|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
การแพ้ยางในชีวิตประจำวัน
เก็บมาฝากครับผม (มีข้อมูลนานแล้ว เพิ่งจะหาเจอ)
การแพ้ยางในชีวิตประจำวัน
โดย นพ.ชูชัย ตั้งเลิศสัมพันธ์ แพทย์ผิวหนัง
ช่วงนี้ผมค่อนข้างว่างก็เลยมีเวลาไปเดินซื้อของ และทานอาหารข้างนอกบ้าง เนื่องจากเป็นหมอผิวหนังก็เลยช่างสังเกตไปเรื่อย (เขาว่าหมอผิวหนังมักมีตาที่ 3 เช่นเดียวกับจิตแพทย์ที่มักมีหูที่ 3) ก็พบว่าปัจจุบันมีการใช้ถุงมือกันมากขึ้นในซูเปอร์มาร์เก็ต เช่นที่แผนกขนมปัง, แผนกอาหารแช่แข็ง หรือร้านอาหารต่างๆ เช่นร้านขายแซนวิซ , บุฟเฟต์ในโรงแรม ก็มีการใช้ถุงมือในการเตรียมอาหารกันมากขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีถูกสุขลักษณะอนามัยมากขึ้น แต่ส่วนมากมักใช้ถุงมือยางกันเป็นส่วนมาก โดยคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่หารู้ไม่ว่าอาจทำให้เกิดการแพ้ถึงขั้นเสียชีวิตต่อตนเองและลูกค้าได้!? คงอยากทราบแล้วซิครับว่าทำไมเป็นเช่นนั้นได้?
การแพ้ยางมีกี่ชนิด
ก่อนอื่นต้องทราบว่าการแพ้ยางมี 2 ชนิด 1. แพ้แบบลมพิษ (ปฎิกริยาอิมมูนชนิดที่ 1 หรือ latex allergy) ซึ่งเป็นการแพ้โปรตีนของยางเอง ซึ่งมีอาการตั้งแต่ลมพิษธรรมดา, หายใจลำบาก จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ 2. แพ้แบบผิวหนังอักเสบ (ปฎิกริยาอิมมูนชนิดที่ 4) เป็นการแพ้ต่อสารที่ใส่ในขบวนการผลิตยาง ซึ่งจะเป็นตุ่มนูนแดง และน้ำใสเล็กๆ บางคนก็แจ็กพอตแพ้ทั้ง 2 ชนิด ประเภท 2 in 1 เลย หลายคนคงสงสัยว่า แล้วการแพ้แบบ อิมมูนชนิดที่ 2 และ 3 มีหรือเปล่า? ก็ขอตอบว่ามีครับ แต่ไม่เกี่ยวกับการแพ้ยาง จึงไม่ กล่าวในที่นี้
ในวงการแพทย์
ในบุคลากรทางการแพทย์ เช่น หมอ และพยาบาลนั้นมีปัญหากันเรื่องการแพ้ถุงมือยางมาก แต่ก็หลีกเลี่ยงได้ลำบาก เพราะเหตุว่าถุงมือยางมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะเชื้อ HIV ได้ดีกว่าถุงมือชนิดอื่น และบุคลากรทางการแพทย์ก็จำเป็นต้องสัมผัสกับเลือด และสารปนเปื้อนต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้ปล่อยให้พวกหมอๆเขาคิดกันต่อไปเถอะ
ประชาชนทั่วไปควรทำอย่างไรบ้าง
ผมขอแนะนำดังนี้ 1. การใช้ถุงมือในกิจวัตรประจำวัน เช่น การเตรียมอาหาร งานแม่บ้าน ไม่ควรใช้ถุงมือยาง เหตุผลหรือครับ เพื่อเป็นการป้องกันตนเองที่จะสัมผัสกับยางนอกจากนี้ยังป้องกันลูกค้าด้วย (เพราะเหตุว่าแป้งในถุงมือยางที่ดูดยางไว้จะสัมผัสติดกับผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าจะซื้อ หรือยางอาจจะละลายน้ำติดอยู่กับผลิตภัณฑ์นั้นได้) ผมขอแนะนำว่าใช้ในถุงมือพลาสติกธรรมดาที่สะดวกกว่าและราคาถูกกว่าครับ หรือถ้าไม่มีก็ใช้ถุงพลาสติกแล้วใช้มือสอดเข้าข้างในก็ได้ครับ 2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับยางเท่าที่จะทำได้หรือใช้วัสดุอื่นแทน เช่นแว่นว่ายน้ำ อาจจะใช้ที่ทำจาก ซิลิโคนแทน ในปี2539 ทาง FDA ของประเทศอเมริกาได้เริ่มออกกฎว่าอุปกรณ์และวัสดุทางการแพทย์ทุกชนิด ที่ทำมาจากยางต้องเขียนเตือนผู้ใช้ว่าทำให้เกิดการแพ้ได้ 3. ถ้าคุณมีอาการผิดปรกติเวลาสัมผัสกับยาง(เช่น ถุงมือยาง, การเป่าลูกโป่งยาง) แล้วเกิดอาการ คัน บวม แดง ผื่น หรือหายใจลำบากเกิดขึ้น ควรบอก หมอ หรือ หมอฟันทุกครั้งที่คุณไปพบ เพราะจะได้หลีกเลี่ยงอุปกรณ์แพทย์ที่ทำมาจากยาง ในประเทศอเมริกาผู้ป่วยจะใส่กำไลมือ(bracelet)ว่า"แพ้ยาง"(Latex allergy) เพราะถ้าเกิดผู้ป่วยไม่รู้สติแล้วถูกนำส่งโรงพยาบาล แพทย์จะระมัดระวังได้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังแนะนำให้พก Epi-pen (เป็นเข็มฉีดยาepinephrineสำหรับใช้ในการแพ้ที่รุนแรง)ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินด้วย (ในประเทศไทยยังไม่มี bracelet และ Epi-penครับ)
ถุงยางอนามัยแพ้มั้ย?
เมื่อพูดถึงถุงมือยางแล้ว ก็ขอพูดถึงเรื่องถุงยางอนามัยด้วยครับ การแพ้ถุงยางอนามัย นอกจากจะแพ้ยางแล้วยังอาจแพ้พวกสารหล่อลื่น หรือกลิ่นต่างๆในถุงยางอนามัย ในส่วนถุงยางอนามัยชนิดที่ไม่ได้ทำมาจากยางนั้น ส่วนมากไม่สามารถป้องกันเชื้อ HIV ได้ ถ้าจำเป็นต้องใช้คงต้องใส่ 2 ชั้น คือถุงยางอนามัยกับถุง (ไม่) ยางอนามัย(แต่ก็ไม่ปลอดภัย 100%) และถ้าเกิดอีกฝ่ายแพ้ยางด้วยคงต้องใส่กัน 3 ชั้นเลย
ผมว่าทางที่ดี " รักเดียวใจเดียวดีกว่าครับ"
โดย นพ.ชูชัย ตั้งเลิศสัมพันธ์ แพทย์ผิวหนัง
Create Date : 28 เมษายน 2550 |
|
2 comments |
Last Update : 28 เมษายน 2550 22:46:16 น. |
Counter : 747 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
เดิมเป็นนักเคมีทำงาน R&D ด้านยาง (rubber) กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้สิบปี ... ... ตอนนี้มาทำงานด้านการขายและให้คำปรึกษา ...
ติดต่อได้ที่ 08-9114-8818 หรือทาง e-mail ครับ
ชอบออกกำลังกาย เล่นแบด ตีปิงปอง และเล่นเทนนิสได้ แต่ไม่ค่อยมีเวลาให้ได้ออกกำลังกายบ่อยๆ
.......
เราเชื่อเสมอว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม ...
|
|
|
|
|
|
|
|