บทสัมภาษณ์ท่านองคมนตรีสวัสดิ์ วัฒนายากร ในหัวข้อ เรื่องเล่าถึงพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก ได้รับรู้ถึงพระราชกรณียกิจหลากหลายที่ทรงทำเพื่อพสกนิกรของพระองค์ เป็นงานหนักเหลือเกิน หนักเกินกว่าที่เราๆ ท่านๆ คาดคิดไว้มาก หลายอย่างเราเชื่อว่าไม่เคยมีใครได้รู้มาก่อน อ่านแล้วน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงเป็นที่สุด
- ขอรบกวนท่านสวัสดิ์เล่าถึง ครั้งแรกที่มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครับ
ประมาณปี ๒๕๑๔ ครับ ตอนนั้นผมทำงานที่กรมชลประทาน ซึ่งขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแปรพระราชฐานไปภาคใต้ทุกปี ช่วงนั้น ๓ จังหวัดชายแดนคือ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี มีเหตุการณ์รุนแรงอยู่ประจำ กลุ่มโจรออกทำร้ายประชาชน ถนนหนทางไม่มีความปลอดภัย แต่ในหลวงเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในพื้นที่อันตรายทุกวัน
ระหว่างทางจะมีราษฎรทั้งชาวไทยและไทยมุสลิมมาตั้งโต๊ะหมู่บูชา และเตรียมผลไม้ท้องถิ่นถวายพระองค์ท่าน เวลานั้นค่ำมากแล้วสามทุ่มได้ ถนนไม่มีไฟฟ้าจึงมืดตึ๊ดตื๋อ ต้องใช้ไฟฉายส่องแต่พระองค์ท่านทรงโปรดให้จอดรถทุกครั้ง หากมีคนคิดไม่ดีกับพระองค์ท่าน คงยากที่ทหารจะถวายการอารักขาได้ทัน
แต่ด้วยพระบารมีโดยแท้ที่พระองค์ท่านทรงตรากตรำทรงงาน เพื่อความผาสุกของคนไทย จึงเป็นเกราะป้องกันอันตรายอย่างดีที่สุด
- การบริหารจัดการน้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วิธีทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะไม่เหมือนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เวลาไปตรวจงาน เกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ คือ เชิญเข้าห้อง ฟังรายงานสรุป ดูจอ น่าเบื่อมาก แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงงานยังพื้นที่จริง ซึ่งเกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เป็นที่ทุรกันดาร บางแห่งข้าราชการยังไม่เคยไป หรือไม่กล้าไปเพราะกลัวอันตรายด้วยซ้ำ
แต่พระองค์ท่านไม่มีคำว่า ยกเลิกเพราะอากาศไม่ดี แถมยังเสด็จฯ ออกนอกเส้นทางประจำ ถ้าทีมถวายความปลอดภัยกราบบังคมทูลว่า เสด็จฯ ไม่ได้ ไม่มีถนนตัดผ่านพระพุทธเจ้าข้า พระองค์ท่านจะรับสั่งกลับมาว่า ฉันไปได้ ทั้งที่หลายครั้งต้องทรงพระดำเนินปีนป่ายไปบนภูเขา หรือทรงพระดำเนินไต่ลงไปในหุบเหวที่เต็มไปด้วยโคลนตม ปลิง และทาก จนค่ำมืดดึกดื่น หลายครั้งสมเด็จพระเทพฯ ตามเสด็จฯ ด้วย มีท่านพระองค์เดียวที่ดึงทากออกจากพระบาทได้ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องเล็กสำหรับในหลวง
คืนหนึ่งที่ผมได้ร่วมโต๊ะเสวยหลังจากที่พระองค์ท่านเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในพื้นที่ทุรกันดารแห่งหนึ่ง ในภาคอีสาน พระราชกระแสรับสั่งที่ยังก้องอยู่ในหูของผมจนถึงทุกวันนี้ คือ
"ที่เขายากจน ต้องมาทำงานหากินในพื้นที่แห้งแล้งเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะมา แต่เพราะเขาไม่มีที่อื่นจะไป ที่ฉันช่วยเขา ไม่ใช่จะช่วยตลอดไป แต่ช่วยเพื่อให้เขาได้มีโอกาสช่วยตัวเองต่อไป"
Cr.Facebook ราชบัลลังก์จักรีวงค์