{บ้านพักฝากอากาศ ณ เซี่ยงไฮ้}
เซี่ยงไฮ้ ไดอารี่
ห้องรับแขก (คลิกมาคุยกันได้ครับ)
ลงนามเยี่ยมบ้าน (จะได้รู้จักกัน)
01: งานเขียนอื่นๆ
02: หนัง
03: หนังสือ
04: ไอเดีย
05: คน
06: ปิ๊ง!
07: คำคม
08: ฝัน
09: จีน
10: เรื่องสั้น
11: คนที่ควรมี
12: เซี่ยงไฮ้ แกลเลอรี่
13: ถามคำ-ตอบคำ
14: กลอน
15: บันทึกสั้น
16: จดหมาย (ที่อ่านแล้วดีใจ)
17: บทความดีๆ มีประโยชน์
18: ฮา
19: ปก(ไม่ปิด)
มีนาคม 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
27 มีนาคม 2550
0010: อ้าเหนียง: บะหมี่(แค่)สามฤดู (เสาร์ 2007.03.24)
0020: เมื่อวานเพื่อนผมเห็นยูเอฟโอ วันนี้ผมร้องไห้ (ศุกร์ 2007.05.11)
0019: ความน่ารัก ความงาม ความห่าม ความกวนตีน และกล้วย (เสาร์ 2007.04.07)
0018: ศิลปกรรมมันส์สาด (เสาร์ 2007.04.07)
0017: เจอกันทุกวัน หากฉันเดิน (ศุกร์ 2007.04.06)
0015: ชีวิตนี้เราจะแกะป๊อกกี้กี่กล่องกัน? (พฤหัสฯ 2007.03.29)
0014: พักกินป๊อกกี้หนึ่งวัน (พุธ 2007.03.28)
0013: มองใบไม้ผลิบนไวกิ้ง (อังคาร 2007.03.27)
0010: อ้าเหนียง: บะหมี่(แค่)สามฤดู (เสาร์ 2007.03.24)
0012: รองเท้าเกล็ดปลาของซูซี่ (อาทิตย์ 2007.03.25)
0011: อยู่ในห้องบ้าๆ ระวังมาก! (อาทิตย์ 2007.03.25)
0009: จดหมายถึงหญิงสาวนาม เซี่ยงไฮ้ (ศุกร์ 2007.03.23)
0008: ร็อบ: คนอะไร? (พฤหัสฯ 2007.03.22)
0007: ไม่มีเวลาเหนื่อย (อังคาร 2007.03.20)
0006: วันที่ได้สอนป๊า (อาทิตย์ 2007.03.18)
0004: อาหารที่ดี ต้องกินตอนสุขๆ (ศุกร์ 2007.03.16)
0003: โลกขยายตัวในร้านอาหารอิตาลี (พฤหัสฯ 2007.03.15)
0002: แท็กซี่ กับ คัมภีร์เต๋า (พุธ 2007.03.14)
0001: ออกไปซื้อซีอิ๊ว (อังคาร 2007.03.13)
0010: อ้าเหนียง: บะหมี่(แค่)สามฤดู (เสาร์ 2007.03.24)
บนถนนไขวไห่ลู่อันฟู่ฟ่า ยังมีร้านบะหมี่เล็กๆ ธรรมดาๆ ซุกตัวอยู่ใต้เงาสี่เหลี่ยมแข็งๆ ของตึกใหญ่เหล่านั้น เป็นร้านบะหมี่ที่เอลวิสและเลสลี่บอกกับผมว่า สุดยอดของเซี่ยงไฮ้ ใครมาใครไปก็ต้องพามากิน
เอลวิสบอกให้แท็กซี่หยุดล้อ ผมมองหาว่าร้านอยู่ไหน เอลวิสเดินขึ้นไปบนฟุตบาท มีผู้คนต่อแถวยาวประมาณยี่สิบกว่าคนจ่ออยู่หน้าประตูร้านขนาด (โคตร) เล็ก คุณลุงคนหนึ่งนั่งอยู่ในเคาน์เตอร์เพื่อรอรับออร์เดอร์จากลูกค้าในขบวนแถวที่ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ผมมองเข้าไปในร้านขนาดเล็ก-เต็มเอี้ยด!
เลสลี่ชี้ให้ผมมองไปยังฝั่งตรงข้าม พร้อมทั้งชี้ชวนให้ข้ามถนนไปหาที่นั่งกันไว้ก่อน ร้านฝั่งตรงข้ามขนาดใหญ่กว่าแต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร คนแน่นร้านไม่มีที่ให้ยืน เลสลี่จึงพาเดินออกมาที่ข้างร้าน เป็นซอยเล็กๆ ระหว่างตึกแถวสองหลัง มีโต๊ะตั้งเรียงรายเหมือนร้านชายสี่หมี่เกี๊ยวบ้านเรา โต๊ะทั้งเจ็ดตัวนั้นไม่มีที่ว่างให้แทรกตัวเข้าไปนั่งแม้แต่หนึ่งที่
ผมกลืนน้ำลายที่เอ่อขึ้นลงไปในคอ ยังไม่ทันลิ้มรสก็รับรู้ได้ถึงความอร่อย
เราไปยืนคอยโต๊ะที่กำลังซดน้ำก้นชาม และจ้วงเส้นบะหมี่ก้อนสุดท้ายเข้าปากแบบตาไม่กะพริบ หากกะพริบเพียงนิด ลืมตาขึ้นมาอีกทีเราอาจโดนแย่งที่ไปแล้ว! ผมจึงนัดหมายกับเลสลี่ เธอต้องลืมตาในจังหวะที่เรากะพริบ แล้วค่อยกะพริบในจังหวะที่เราลืมตา
สำเร็จ! ในที่สุดเราก็ได้หย่อนก้นลงนั่ง
ยังมีคนจะมาขอนั่งด้วย แต่อีกที่หนึ่งที่เหลืออยู่นั่นเราต้องสงวนไว้ให้เอลวิสที่กำลังต่อแถวยาวเหยียดเพื่อสั่งอาหารอยู่ เอลวิสโทรเข้ามาถามว่า จะกินอะไร ผมตอบไปว่า เอาที่คิดว่าอร่อยที่สุดมาละกัน
นั่งได้ไม่กี่นาที ฟ้าเริ่มครึ้ม ฝนทำท่าจะตก แต่มันทำท่าไม่นานเท่าไหร่ แป๊บเดียวก็โปรยละอองฝอยๆ ลงมาทักทายคนใต้ฟ้าที่กำลังรอและกำลังเพลิดเพลินกับบะหมี่ในชาม ฉากน่ารักเล็กๆ เกิดขึ้น เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งกางร่มให้หญิงสาวได้อร่อยกับบะหมี่ต่อไป เขาถือร่มไว้มือหนึ่ง อีกมือก็จ้วงบะหมี่เข้าปาก หญิงสาวหันไปฉีกยิ้มให้หนึ่งแควก แล้วก้มหน้าก้มตาซู้ดบะหมี่เข้าปากต่อ
ไม่นานนัก ผู้คนบริเวณนั้นก็กางร่มไปกินบะหมี่ไป ส่วนผมกับเลสลี่ก็ได้แต่เอามือกุมหัว ยังไงเราก็ไม่ลุกไปไหนแน่ๆ วันนี้กูต้องกินบะหมี่อภิมหาอร่อยนิรันดร์กาลร้านนี้ให้จงได้
ยังมีคนมายืนรอจ่อโต๊ะเรา ทั้งที่ชามบะหมี่ของเรายังไม่มาด้วยซ้ำ เอลวิสสั่งเสร็จแล้วจึงมานั่งเล่าเรื่องให้ฟังว่า เคยมากับคนที่ออฟฟิศเก่าแล้วไม่มีโต๊ะ ถึงกับต้องยืนกินกันข้างทาง แล้วก็เพิ่มรสชาติโอชาเข้าไปอีกว่า เวลามีแขกต่างชาติมาก็ยังต้องพามากินที่นี่ เป็นร้านดั้งเดิมของเซี่ยงไฮ้ที่คนที่มาที่นี่ต้องกิน
ผมหันไปบอกกับเอลวิส นี่กูไม่ต้องกินก็อร่อยแล้วนะเนี่ย
แล้วบะหมี่ควันกรุ่นก็มาวางบนโต๊ะ ฝนหยุดตกเปิดโอกาสให้เราสำราญกับรสชาติอันเสนาะลิ้น ผมจ้วงบะหมี่คำแรกเข้าปาก ซดน้ำซุปร้อนๆ ตามไล่หลัง ทั้งหมดรวมตัวกันกลิ้งเกลือกสัมผัสปุ่มรับรสทั้งหมดที่มีอยู่ในปาก สัญญาณสัมผัสส่งไปยังสมองว่า อร่อยโคตร!
ผมส่งกุ้งตัวเล็กๆ แต่ขาวอวบตามลงไป ฟันกัดลงบนเนื้อหยุ่นแต่กรุบกรอบด้วยจังหวะเวลาที่ต้มแบบไม่สุกไม่ดิบจนเกินไป โอ้วพระเจ้า มันช่างเป็นความสำราญของช่องปาก ยัดตามด้วยเซี่ยงจี้กรุบหั่นไม่บางไม่หนาเกิน น้ำซุปเข้มข้นรสชาติเฉพาะตัว กับเส้นบะหมี่ทำเอง กวัดแกว่งคล่องแคล่วในสายลม ส่งผลให้เส้นนั้นอ่อนนุ่มราวลมแผ่วเบาที่ไหลเป็นสายผ่านช่องปาก สัมผัสกับฟันอย่างเป็นมิตร
โอ้ว ฝนตกร้อยห่าก็จะนั่งกินอยู่ตรงนี้
ไหนจะเกี้ยมฉ่ายผัดหมูสับชามเล็กที่ต้องแย่งกันจ้วงอีกล่ะ ซุปเนื้อปลาสีขาวผ่อง งอตัวขึ้นยั่วยวนเหมือนบอกว่า ตักฉันไปกินสิคะที่รัก ขาวนุ่มผุดผ่องและเต็มตึงดึ๋งดั๋ง น้ำซุปก็เก็บกักความหวานจากเนื้อปลาโดยไม่มีความชาจากผงชูรส
เพลิดเพลินเจริญกระเพาะเหลือเกินเพื่อนฝูง
นั่นคืออาหารใช่ไหม?
นั่นแหละคืออาหาร
ผมมิจำเป็นต้องบรรยายความเลอเลิศของการตกแต่งร้าน ถ้วยโถโอชาม ตะเกียบ ช้อน ว่ามันสวยงามพิสดารเพียงใด ท่านผู้อ่านทั้งหลายก็คงได้ลิ้มรสเลิศไม่ต่างจากที่ผมได้รับ หากเพราะสิ่งที่กล่าวมามันเป็นเพียงเครื่องประดับ และอุปกรณ์เพิ่มอารมณ์ในการรับประทานเท่านั้น หาใช่เนื้อแท้แห่งอาหารไม่
ร้าน อาเหนียง ใช้ตะเกียบไม้ธรรมดา ชามสีขาวเก่าๆ โต๊ะเก้าอี้ไม้เหมือนใช้มาเมื่อสี่สิบปีก่อน ด้วยเพราะทั้งหมดนั้นมิใช่ อาหาร และร้านอาหารลำพังแค่ทำ อาหาร ให้อร่อยก็เนืองแน่นไปด้วยลูกค้าจนแทบต้องไล่กลับบ้านไปบ้าง
องค์ประกอบทั้งหมดในร้านจึงธรรมดายิ่ง หากเปรียบกับงานศิลปะแล้ว จานชาม โต๊ะเก้าอี้ กระทั่งตัวร้านอันเก่าแก่ไม่ประดับประดาใดๆ นั้น ทำหน้าที่เป็นเพียงผืนผ้าใบสีขาวที่เป็นแบ็คกราวนด์ให้บะหมี่รสเลิศได้วาดลวดลายสวยงามประทับใจโดยไม่ทำตัวโดดเด่นข่มหรือแข่งกับรสชาติ
มันดำรงอยู่อย่างเงียบเชียบ รู้หน้าที่ที่ควรเป็น
โชคดีที่ผมได้มาลิ้มรสร้าน อาเหนียง ในช่วงปลายฤดูหนาว และผมคิดว่าคงหาโอกาสมากินอีกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ด้วยเพราะว่า ฤดูร้อนนั้นจะไม่มีร้าน อาเหนียง ให้ได้อร่อยกัน
ร้านจะปิดเป็นประจำทุกฤดูร้อน เมื่อผมถามหาเหตุผล เอลวิสกับเลสลี่คาดเดาว่า อาจด้วยความร้อนของอากาศทำให้กุ้ง, ปลา และของประกอบอาหารต่างๆ ไม่สดเท่าที่ควร เกรงจะไม่อร่อย
เมื่อไม่อร่อยก็ไม่ขายซะดีกว่า
แต่ผมเดาว่า อาเหนียง และครอบครัวคงจะได้เงินจากฤดูทั้งสามไปมากเพียงพอแล้ว ปิดร้านไปหาโอกาสสำราญใจสักฤดูหนึ่ง เพื่อที่จะได้มีสมองโปร่งใจ หัวใจเบิกบาน กลับมาทำอาหารอร่อยๆ อีก
คนเราลองได้พักผ่อนแล้วก็จะทำในสิ่งที่รักได้ดีขึ้น ผมว่างั้นนะ
อีกอย่าง ผมว่าเป็นการบริหารเวลาที่ดูแล้วเห็นเจตนาไม่กอบโกย เพราะลองถ้า อาเหนียง แกงกล่ะก็ แกคงไม่ยอมหยุดแม้สักหนึ่งวัน แถมการไม่ขยายสาขา ไม่ทำเฟรนไชส์ ก็ยิ่งทำให้ร้านเก่าแก่เล็กๆ แห่งนี้มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
บะหมี่ร้อนๆ กินตอนอากาศเย็นๆ (ผมหมายถึงฤดูทั้งสามที่ร้านเปิด) คิดไปก็เหมือนศิลปะของการทำอาหารที่ตั้งใจกำหนดช่วงเวลาและอุณหภูมิให้คนลิ้มรสในช่วงที่จะทำให้อาหารอร่อยที่สุด
ลองนึกภาพอากาศร้อนๆ นั่งซดบะหมี่ควันโขมง เหงื่อแตกซิก ก็คงไม่สำราญเท่ากับการกินในช่วงปลายฤดูหนาวเช่นนี้
การรอคอยให้ฤดูร้อนผ่านพ้น ยิ่งทำให้บะหมี่ในฤดูใบไม้ร่วงอร่อยอีกเท่าตัว
จังหวะหยุด จังหวะถอย ในจุดที่ถูกที่ควรช่วยทำให้ของบางอย่างมีคุณค่า
ซึ่งสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นกับคนที่หัวใจมีศิลปะ และไม่ได้อยากได้เงินมากขนาดตะกละตะกราม
ผมอยากสั่งชามที่สอง แต่เห็นแถวที่ต่อยาวอยู่แล้วก็ท้อ ทั้งยังเห็นใจคนที่ยืนรอจ่ออยู่รอบหัว แต่แล้วก็คิดได้ว่า กินให้ไม่อิ่มจนเกินไปนี่แหละ
จะได้อยากกลับมากินอีก
Create Date : 27 มีนาคม 2550
Last Update : 27 มีนาคม 2550 8:48:04 น.
16 comments
Counter : 519 Pageviews.
Share
Tweet
อืมม กำลังหิวพอดี
โดย: Qingqing IP: 203.170.164.62 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:9:31:59 น.
จังหวะหยุด จังหวะถอย ในจุดที่ถูกที่ถูกที่ควรช่วยทำให้ของบางอย่างมีคุณค่า ชอบประโยคนี้จัง...........ไม่รู้ซิฟังดูดีนะ.............เห็นด้วยอย่างยิ่ง ใช่แล้วการเดินทางของชีวิตก็ต้องเป็นอย่างนี้........พี่ว่าปะ..........อ่านแล้วก็อยากกินชามที่สองเหมือนกัน...อิ อิ
โดย: ดิว IP: 203.157.48.252 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:9:32:31 น.
อ่านแล้วหิวเลย ยิ่งเป็นคนชอบกินเส้นด้วย
อืม รู้สึกว่าร้านอาหารที่เริ่มมีหลายสาขามากขึ้น มันไม่ไม่ให้ความรู้สึกอร่อยเหมือนตอนมันมีสาขาเดียวเลยอะ แม้เค้าจะกำหนดปริมาณการปรุงให้เท่ากันทุกประการก็ตาม กินแบบกะๆ เอาอร่อยกว่า
โดย: oum IP: 125.24.216.209 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:9:58:29 น.
บรรยายมาซะจนท้องร้องจ๊อกๆ เลยนะเนี่ย
มีความสุขกับการกินก็ดีไปอีกแบบเนอะ
ว่าแล้วก็นึกเมนูวันนี้ออกแล้วล่ะ
โดย: jummdcu IP: 125.24.131.175 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:10:00:14 น.
อรุณสวัสดิ์พี่ที่เคารพ
เนื่องด้วยน้องยังมิได้กินอาหารเช้า
อ่านบันทึกวันนี้แล้วตาจึงลายหัวจึงหมุนด้วยความหิวโหย
พรรณนาโวหารท่านพี่วันนี้แทบจะได้กลิ่นน้ำซุป
เห็นกุ้งขาวอวบกรุบกรอบลอยอยู่ตรงหน้า
พาให้ท้องร้องสนั่นเลยทีเดียว
...
ไปหาอะไรกินดีกว่า
โดย: เติ้ล IP: 58.9.139.206 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:10:02:06 น.
บรรยายซะเห็นภาพเลย
เล่าเรื่องได้อร่อยโดยไม่ต้องไปนั่งกินเอง
คิดว่ามื้อเที่ยงของหลายๆคนวันนี้โซ้ยบะหมี่กันอร่อยแน่
โดย: หมี IP: 203.114.120.108 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:10:26:05 น.
โดย:
โสมรัศมี
วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:10:29:50 น.
ฮิ้วววววววววววว หิว หิว หิว หิว หิว หิว ฮิ้วววววววว
พะ-ยาด ในท้องมันกรีดร้องงงงงง
การรอคอยบางแบบดีกับหัวใจ - หัวสมอง
แต่การรอคอยให้อาหารตกลงท้อง อาจทำให้กระเพาะอาหารเรรวนได้ง่ายๆ
ขอให้ทุกท่าน ดูแล กระเพาะ ของตัวเองให้ดีเน้อ
จาก แผลในกระเพาะอาหาร
โดย: pattararanee IP: 125.25.83.17 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:10:45:10 น.
คิด
ถึง
ชาย
สี่
บะ
หมี่
เกี๊ยว....
เป็นคนชอบทานของพวกนี้อยู่แล้ว พอพี่เอ๋มาพูดปุ๊บ..แบบว่า..
[อยากกินว้อยยย]
มีความสุขกับการกินต่อไปนะทั่นพี่
โดย: Modz(มด) IP: 58.137.48.4 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:11:17:56 น.
วาดภาพไว้แบบว่า ตัวกำลังลอยจากพื้น
มือถือตะเกียบ คีบเส้นหมี่เข้าปาก
ล่องลอยไปกับรสชาติ
เหมือนกำลังอ่านการ์ตูนอยู่เลย
บางทีที่ร้านนี้สร้างรอยประทับใจได้
เพราะไม่มีเวลาสั่งชามที่สอง
จานแรกตอนที่กินไม่อิ่มดี
มันมักจะอร่อยสุดจะบรรยายจริงๆ
แต่ท่าทางเซี่ยงไฮ้จะไม่มีได้มีร้าน
อร่อยเหาะ อยู่ร้านเดียว
อยู่ที่นั่น พี่เอ๋คงเจริญอาหาร
แบบเกินอัตราแน่ๆ ^__^
โดย: JAM IP: 125.25.145.58 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:13:22:29 น.
โดย: therainyseason IP: 58.8.180.69 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:14:11:03 น.
บรรยายซะหยั่งกะพวกนักชิมในจอมโหดกะทะเหล็ก
โดย: The Firemind IP: 58.181.178.30 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:19:01:17 น.
อืม...... ฟังดูเหมือน hole in the wall เลยนิ
ว่าแล้วก้ออยากกินบะหมี่ทันทีเลย
แต่ว่าที่ท่านกล่าวมาข้างต้นมานมาเข้ากับ หลักเศรษฐกิจพอเพียงเลยเนอะ อยากให้หลายๆคนเข้าใจ อย่างอาเหนียงมั่งจัง
โดย: CrossbacK IP: 124.120.221.168 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:19:39:54 น.
ว่าจะลองทำอาชีพ "นักชิม" แข่งกับคุณหมึกแดงบ้างเหมือนกันครับ
ชิมแล้วเอามาบรรยายในหนังสือ ฮ่าฮ่า เพิ่มความกลมของพุง
อ้อ วันนี้ไปรู้เพิ่มมาอีกครับว่า ร้านอ้าเหนียงเปิดแค่มื้อเดียว
หลังเที่ยงก็ปิดร้านไม่ให้คนกินแล้ว แหมหยิ่งจริงๆ เชียว
(พอดีเมื่อกี้ไปเดินผ่านร้านมาครับ ร้านปิดเฉย!)
โดย: นิ้วกลม IP: 202.136.209.2 วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:14:56:35 น.
ระวังต่อไปจะกลายเป็นพุงกลม ไม่ใช่นิ้วกลมนะคะ
โดย: kengi IP: 203.144.212.151 วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:16:15:12 น.
ผมได้ไอเดียแล้วล่ะ ผมจะทำหวานเย็นขายตอนหน้าร้อน เฉพาะสงกรานต์เท่านั้น! หวานเย็นของผมต้องอร่อยที่สุดแน่ๆ
**อ่านแล้วอยากทานบะหมี่มากๆ
**
โดย:
ป้อจาย
วันที่: 31 มีนาคม 2550 เวลา:17:12:46 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
roundfinger2547
Location :
1155 North Shaanxi Road, BLK 1, Room 2103, Shanghai, China
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [
?
]
นิ้วกลม คือ ผู้ชายที่ชอบกินป๊อกกี้คนหนึ่ง
Webmaster - BlogGang
[Add roundfinger2547's blog to your web]
บ้านพักฝากอากาศ (หลังเดิม)
a day
open
typhoon
วินทร์ เลียววาริณ
grappa
YouTube
มติชนสุดสัปดาห์
เว็บบอร์ด(นิ้วกลม)ฝีมือน้องๆ
เจ้าหญิงเพี้ยน
Bloggang.com