ละครดึกดำบรรพ์เรื่อง คาวี ตอน สุมไฟเผาพระขรรค์
ในป่าแห่งหนึ่งมีเสือแม่ลูกอ่อนจับสัตว์กินจนสัตว์พากันหนีไปอยู่ป่าอื่นกันหมด แม่เสือจึงทิ้งลูกไปหากินไกลถ้ำลูกเสือหิวนมใกล้จะตายก็ออกจากถ้ำมาพบแม่โคกับลูกโค ลูกโคอ้อนวอนแม่ให้นมลูกเสือลูกเสือจึงรอดตายอยู่กับแม่โคและลูกโค วันหนึ่งแม่เสือกลับมา ลูกเสือดีใจมาเล่าถึงพระคุณของแม่โคและลูกโคไม่เช่นนั้นลูกเสืดคงตายไปแล้วไม่ได้พบกับแม่เสือขอให้แม่เสือไม่ทำร้ายแม่โคและลูกโค แม่เสือก็ให้สัญญา แม่เสือทำตัวดีจนแม่โคลูกโค และลูกเสือไว้ใจแล้ววันหนึ่งแม่เสือก็ชวนแม่โคไปหากินด้วยกันในป่าที่ไกลออกไป แล้วกินแม่โคเสีย เมื่อลูกเสือและลูกโคตามหาก็มาพบซากแม่โค เสียใจมากที่แม่เสือไม่รักษาสัญญา เสียใจที่แม่โคต้องตายและคิดว่าถ้าทิ้งไว้แม่เสือจะต้องหาโอกาสกินลูกโคอีก ทั้งสองจึงทำอุบายโดยลูกเสือทำเป็นคลอเคลียแม่เสือ พอได้โอกาสก็กัดคอแม่เสือลูกโคก็เข้าขวิดแม่เสือจนตาย ลูกเสือและลูกโคเศร้าใจมากอยู่ที่ป่าเก่าต่อไปไม่ได้แล้วจึงเดินทางไปเรื่อย ๆ ได้ ไปอาศัยอยู่บริเวณใกล้ อาศรมฤๅษีตนหนึ่งฤุๅษีสงสัยที่เสือกับโคมาอยู่ด้วยกัน จึงชุบให้เป็นคนเพื่อสอบถามเมื่อได้รู้เรื่องของทั้งสองก็เห็นว่ามีความคิดจิตใจดีกว่ามนุษย์บางคนจึงให้เป็นคนต่อไป โดยให้เสือเป็นพี่ ชื่อ พหลวิชัย โคเป็นน้องชื่อ คาวีสอนวิชาให้จนอายุพอสมควรแล้วก็จะให้ทั้งสองออกไปเผชิญกรรมของตนจึงมอบพระขรรค์ให้คนละเล่มโดยถอดดวงใจของเจ้าของใส่ไว้ในพระขรรค์ ถูกฆ่าก็ไม่ตายแต่ถ้าพระขรรค์ถูกทำลายก็จะตาม ทั้งสองลาฤๅษีออกเดินทางมาถึงเมืองๆหนึ่งมียักษ์จับชาวเมืองกินอยู่ที่ท่าน้ำ กษัตริย์ไม่สามารถปราบยักษ์ได้จึงประกาศหาคนปราบยักษ์ จะยกเมืองและพระธิดาให้พหลวิชัยและคาวีจึงอาสาปราบยักษ์ได้สำเร็จ คาวีจึงยกให้พี่แต่งงานก่อนเมื่อพหลวิชัยแต่งงานและขึ้นครองเมืองเรียบร้อย คาวีก็ออกเดินทางต่อไปโดยแลกดอกบัวกันไว้ถ้าคนใดมีภัยดอกบัวที่อยู่กับอีกคนหนึ่งก็จะเหี่ยว อีกก็จะได้เรียบไปช่วยทันเวลา พระคาวีเดินทางไปถึงเมืองร้างแห่งหนึ่งไม่พบผู้คนพบแต่กลองใบใหญ่ก็ตีกลอง เพื่อว่าเมื่อมีคนได้ยินก็จะได้ออกมา แต่กลองไม่ดังพระควีจึงกรีดหนังหน้ากลอง พบนางงานอยู่ข้างใน ได้ความว่านางชื่อจันทร์สุดาเป็นพระธิดาของเมื่อนี้ มีนกยักษ์มาจับผู้คนในเมืองกินพระบิดาจึงนำนางใส่ไว้ในกลอง นางคิดว่าพ่อแม่คงถูกนกยักษ์กินไปหมดแล้วพระคาวีก่อไฟขึ้นให้นกยักษ์รู้ว่ามีคนอยู่ เมื่อนกยักษ์มา พระคาวีก็ฆ่านกยักษ์ นางจันทร์สุดาลงอาบน้ำสระผมในแม่น้ำนางเป็นนางผมหอม ผมนางร่วงนางจึงใส่ผอบลอยน้ำไปพระคาวีกับนางจันทร์สุดาอยู่เป็นสามีภรรยากัน ชาวเมืองที่รอดตายก็พากันกลับมา ท้าวสันนุราชมีเมืองอยู่ตอนท้ายแม่น้ำ ลงอาบน้ำเก็บผอบได้เปิดผอบได้ผมหอมก็คิดว่าเจ้าของผมจะต้องงามมาก ท้าวสันนุราชเป็นหม้ายและอายุมากแล้วเกิดหลงรักนางผมหอม จึงประกาศถ้าใครนำนางมาให้ได้จะให้เงินทองมากมายมีนางเฒ่าทัดประสาทซึ่งเคยเป็นต้นห้องของพระมารดาของนางจันทร์สุดารู้ว่านางผมหอมเป็นใค จึงอาสาไปรับตัวนางผมหอมนางฒ่าทัดประสาทกลับมาหานางจันทร์สุดา ทำเป็นว่าตนรุ้ว่านกยักษ์ตายจึงกลับมาเหมือนชาวเมืองที่รักบ้านเกิดนางจันทร์สุดาไว้ใจให้รับใช้ใกล้ชิด นางเฒ่าก็คอยสังเกตจุดอ่อนของพระคาวีเห็นว่าพระคาวีจะเหน็บพระขรรค์ติดกายตลอดเวลาจึงไปยุนางจันทร์สุดาว่าพระคาวีไม่รักนางจริงจะฆ่านาง ยุยงบ่อย ๆจนนางจันทร์สุดาเอนเอียงตาม ร้องไห้ต่อว่าคาวีคาวีใจอ่อนจึงบอกความลับของพระขรรค์แก่นางจันทร์สุดา นางจันทร์สุดาดีใจว่าสามีรักจึงไปบอกเล่าต่อให้นางทัดประสาท วันหนึ่งขณะที่คาวีลงอาบน้ำในแม่น้ำวางพระขรรค์ไว้ นางเฒ่าทัดประสาทขโมยพระขรรค์ไปเผาไฟ พระคาวีตายนางเฒ่าทัดประสาทจึงเรียกทหารที่ซ่อนไว้มาฉุดตัวนางจันทร์สุดาไปให้ท้าวสันนุราช
Create Date : 24 เมษายน 2553 |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2561 23:57:44 น. |
|
42 comments
|
Counter : 13838 Pageviews. |
|
|