"ฆาตกรสาว เสื้อกาวน์เลือด" ถ้าอาชีพนี้เราฝากชีวิตไว้ไม่ได้ ...






เรื่อง - ฆาตกรสาว เสื้อกาวน์เลือด
ผู้เขียน - สรจักร
สนพ - มติชน
จำนวนหน้า - 219
ราคา - 155



หนังสือที่รวบรวมเหตุการณ์คดีสะเทือนขวัญ 8 คดี
ที่จะทำให้ความไว้วางใจของคนเปลี่ยนไป
ฆาตกรที่มาในคราบของนักบุญ พี่เลี้ยงเด็ก หรือแม้แต่นักบำบัด
อาชีพที่เรามอบความไว้วางใจให้ โดยไม่คาดคิดว่าฉากหลังจะคือฆาตกรใจโหด
8 เรื่อง 8 คดี ในหนังสือเล่มนี้ จะทำให้เราไม่กล้าไว้วางใจใครอีกเลย

1.ฆาตกรสาว เสื้อกาวน์เลือด
ลินดา เบอร์ฟิลด์ เป็นแพทย์ผู้ค้นคิดแนวทางบำบัดโรคร้าย
เช่น มะเร็ง วัณโรค เบาหวาน โรคหัวใจ อัมพาต
และผู้ป่วยใกล้ตายจากทุกสาเหตุให้หายได้อย่างน่าอัศจรรย์
โดยใช้เทคนิคที่เธอคิดค้นเอง นั่นคือการอดอาหารอย่างเคร่งครัด
ร่วมกับการสวนทวารล้างฟอกพิษ หรือ ดีท็อกซ์นั่นเอง
เกิดมุมมองขึ้นสองด้าน ด้านนึงชื่นชมกับวิธีรักษาวิธีนี้
กับอีกมุมมองนึงกับกล่างหาว่าเป็นวิธีฆ่ามนุษย์อย่างเลือดเย็น
ในคำกล่าวอ้างของหมอลินดา
เธออ้างว่าในช่วงที่อดอาหารนั้น ร่างกายกำลังขับสารพิษออกมา
และเธอจะทำการสวนทวารหนักโดยใช้ยาถ่ายอย่างแรง
ร่วมกับการนวดหรือฟาดที่หลังกะโหลก และขมับ
โดยอ้างว่าเป็นการกระตุ้นให้การฟอกพิษทำงานได้เร็วขึ้น
แต่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่มีอาการอ่อนเพลียอย่างรวดเร็ว
ซึ่งแพทย์หญิงลินดาจะใช้จุดนี้กระตุ้นให้ผู้ป่วยทำพินัยกรรม
หรือโอนเงินในบัญชีให้แก่เธอ เป็นค่ามัดจำการรักษาตัว
ในช่วงที่ผู้ป่วยอาจอยู่ในภาวะที่ไม่รู้สึกตัว
เพื่อป้องกันไม่ให้การรักษาหยุดชะงัก
ซึ่งต่อมาพบว่าผู้ป่วยถึงแก่กรรมเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
จากผลการรักษาของเธอ ขณะที่เธอก็ร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน




2.ฆาตกรรับจ้างเลี้ยงเด็ก
คริสทีน ฟอลลิง พี่เลี้ยงเด็ก ที่มีเด็กที่เธอรับจ้างเลี้ยงในปี คศ1980
เสียชีวิตไปถึง 5 ราย และยังมีอีก 3 รายเป็นอย่างน้อยเกิดเจ็บไข้ขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง
แพทย์หลายคนเคยตรวจสอบร่างกายของเธอ
เพื่อค้นหาเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียร้ายแรงแปลกใหม่ แต่ก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ
คริสทีนมีความสุขที่ได้เลี้ยงเล็กโดยเฉพาะเวลาจับเด็กแต่งตัว
แต่เธอจะปวดหัวและหงุดหงิดเวลาเด็กร้องไห้โยเย
เมื่อหาวิธีให้เด็กหยุดสารพัดวิธีแต่ไม่เป็นผล
เธอก็ค้นพบว่าการบีบคอกลับทำให้เด็กหยุดร้องไห้ได้
และก็เป็นการหยุดร้องไห้อย่างถาวร
แล้วเธอก็ใช้วิธีนี้กับเด็กทุกคนที่เธอดูแล
สำคัญว่าพ่อแม่เด็กไม่เคยจับได้ หรือสงสัยเลย
เพราะแววตาที่เธออุ้มเด็กเปี่ยมไปด้วยความรัก
และเมื่อเด็กหมดลมคริสทีนคร่ำครวญเสียใจยิ่งกว่าพ่อแม่เด็กเองซะอีก




3.ในเงื้อมมือนักบำบัด
แรนดี้ เพาเวอร์ส เป็นนักทางเดินหายใจบำบัด
และเป็นผู้ช่วยพยาบาลด้วยอีกตำแหน่งหนึ่ง
แรนดี้เคยต้องโทษจำคุกนาน 2 ปี
ในข้อหาประทุษร้ายผู้อื่นด้วยอาวุธที่สามารถคร่าชีวิตได้
นั่นคือกระบอกฉีดยาที่มียาพิษต่อหัวใจชื่อ "ลิโดเคน" บรรจุเต็ม
แต่หลังจากออกจากคุกแรนดี้ก็ยังสามารถกลับมายืนข้างเตียงผู้ป่วยได้เหมือนเดิม
นั่นเป็นสิ่งชี้ให้เห็นรู้รั่วของวงการสาธารณสุข
ที่ยอมปล่อยให้อาชญากร ฆาตกรในเสื้อกาวน์สามารถฝังตัวอยู่ในวงการ
พวกมันเดินเข้าเดินออกห้องผู้ป่วยอย่างสบายใจ
ทำผิดซ้ำซากโดยไม่มีการตรวจสอบ




4.เหยื่อรัก
เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคนในเสื้อกาวน์ แต่เป็นเรื่องของคนขาดความรัก
แคโรลีน วอร์มัส ลูกสาวคนโตของครอบครัว
พ่อทำงานประสบความสำเร็จ ร่ำรวยมีเงินทองมากมาย
แต่ห่างเหินจากครอบครัว ทำให้แคโรลีนเป็นเด็กที่โหยหาความรักจากพ่อ
เธอเลยหาวิธีไขว่คว้าความรัก ด้วยการไล่ล่าผู้ชายที่เธอต้องการ
อย่างเอาเป็นเอาตาย ทุ่มไม่อั้น เพื่อให้ได้ชายหนุ่มคนนั้นมาครอบครอง
แม้ชายคนนั้นจะมีครอบครัวอยู่แล้ว หากเธออยากได้เธอก็ต้องได้
แม้จะต้องฆ่าภรรยาของชายคนนั้นก็ตาม




5.ฆาตกรลักเพศ
จอห์น เวย์น เกซี ตั้งแต่เกิดมาทำความผิดหวังให้แก่ผู้เป็นพ่อมาตลอด
เพราะพ่อเข้มแข็ง มาดแมนสมชาย ลูกชายคนเดียวกลับตุ้งติ้ง อ่อนแอ
พ่อของจอห์นเชื่อว่าการเสียดสี เหน็บแนม จะทำให้ลูกกลับมาเป็นชายชาตรี
แต่ตรงข้าม มันกลายเป็นสิ่งกดดันจิตใจของเค้าแทน
เมื่อโตขึ้นก็เริ่มลวนลามและมีเพศสัมพันธ์กับเด็กผู้ชาย
แต่ความจริงโดยเผย เค้าก็ต้องโทษติดคุก 10 ปี
หลังจากติดคุกได้เพียง 2 ปี ก็ได้ลดหย่อน ทัณฑ์บนออกมา
เค้าได้เรียนรู้จากคดีที่ผ่านมาว่า ถ้าจะทำอะไรอย่าให้มีพยานรู้เห็น
จอห์นมาอยู่กับแม่ แต่อาศัยห้องใต้ดินเป็นเหมือนสรวงสวรรค์และนรกไปในตัว
และเค้าได้ค้นพบตอนนั้นเองว่า เค้าจะมีอารมณ์วิปริตรุนแรงจนสำเร็จความใคร่
เมื่อตอนเค้าเอามีดจ้วงแทงชายคู่ขา ที่เค้าเข้าใจผิดว่าจะมาทำร้ายเค้า
นั่นคือจุดเริ่มต้นของเหยื่ออีกว่า 30 ชีวิต




6.การทดลองในมนุษย์
หน่วยปฏิยัติการ 731 เป็นชื่อของหน่วยปฏิบัติการทางการแพทย์ของญี่ปุ่น
ภายใต้การควบคุมกำกับโดยนายแพทย์อิชิอิ ชิโร
เมื่อหมออิชิอิต้องการสมองมนุษย์สดๆ เพื่อทำการทดลอง
นายทหารผู้ช่วยจะได้รับคำสั่งให้ตระเวนจับชาวจีน
หรือรัสเซียผู้โชคร้ายมายังห้องปฏิบัติการ
เหยื่อถูกจับมัดตรึงติดกับเตียงผ่าตัด ศรีษะคว่ำลง
ทหารคนหนึ่งเฉาะกะโหลกด้วยขวาน
ซากของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจะถูกโยนเข้าไปในเตาเผาด้านหลังของหน่วยปฏิบัติการ
ขณะที่เหยื่ออื่นๆ อีกนับร้ายรายจ้องมองผ่านห้องขังด้วยความตกตะลึง
นอกจากนั้นยังมีการทดลองอื่นๆ อีกเช่น
- การผ่ามนุษย์โดยไม่ใช้ยาสลบ
- การใส่สารพิษที่คิดค้นใหม่ๆ ลงในอาหารและน้ำดื่ม เพื่อฆ่าประชาชนทีละมากๆ
- การบังคับหญิงสาวให้ร่วมเพศกับชายที่ป่วยเป็นโรคซิฟิลิสนับสิบคน
เพื่อศึกษาและพัฒนาเชื้อซิฟิลิสที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์
- การฉีดเลือดสัตว์ที่มีเชื้อเข้าร่างกายของมนุษย์ที่ถูกจับมาเป็นเหยื่อ
เพื่อดูผลการแพร่เชื้อในมนุษย์เป็นๆ
- การจับเหยื่อห้อยหัวลงจนกว่าจะตาย เพื่อทดสอบความทนในการเอาชีวิตรอด
- การจับเหยื่อเข้าไปในห้องทดลอง และอัดความดันหรือดูดอากาศออกจนร่างระเบิดเละ
- การจับมนุษย์เปลือยร่างแช่ในน้ำที่อุณหภูมิเป็นลบ
- การตัดเอาชิ้นส่วนของมนุษย์ออก เช่น ตัดกระเพาะออก นำลำไส้ต่อตรงมาที่หลอดอาหาร
เพื่อดูว่ามนุษย์ไม่มีกระเพาะอาหารจะมีชีวิตอยู่ได้หรือไม่
- การตัดแขนขาและนำมาใหม่ด้วยการสลับข้าง
อ่านเรื่องนี้จบแล้วนึกถึงทางฝั่งเยอรมัน ที่ก็มีการทดลองแบบนี้เหมือนกัน




7.ฆ่าเพราะเหงา
เดนนิส แอนดริว นีลเสน ชายหนุ่มที่มีงานอดิเรก
เป็นการแต่งหน้าตัวเองให้ดูคล้ายศพ
วิเคราะห์ว่านี่คืออาการของโรคจิตประเภทนีโครฟีเลีย คือ คลั่งไคล้ซากศพ
เดนนิส เป็นชายหนุ่มผู้มีรสนิยมชื่นชอบเพศเดียวกัน
และด้วยรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาก็เลยไม่ยากเลยที่จะหาชายรสนิยมเดียวกันมาค้างคืน
แต่ชายเหล่านั้นก็ไม่เคยได้กลับออกไปจากหอพักของเค้าอีกเลย
เขาฆ่าเพราะความเหงา ไม่อยากให้คู่ขาจากไป
เขาจึงรัดคอด้วยเชือกจนสลบ แล้วจับกดลงไปในอ่างอาบน้ำจนตาย
เดนนิสถ่ายภาพผู้ตายในอิริยาบถต่างๆ ก่อนที่จะทำลายซากในเวลาต่อมา
หลังจากโดนตำรวจจับกุม เดนนิสเล่าให้ตำรวจฟังอย่างมีความสุข
เกี่ยวกับเทคนิคและวิธีการชำแหละศพ
เขาสามารถแยกกระดูกหัว อวัยวะภายในและแขนขาออกเป็นชิ้นเล็กๆ
ครั้นถึงตอนดึกเขาจะเอาชิ้นส่วนใส่ในถุงพลาสติก วางไว้ในสวน
ที่ซึ่งสัตว์กินเนื้อหลายชนิดพากันมารุมกินเศษเนื้อและอวัยวะ
ส่วนแขนขาและชิ้นกระดูกใหญ่รวมทั้งกะโหลก
เค้าจะสุมด้วยยางรถยนต์จนเป็นเถ้าโดยห่อไว้ด้วยพรมเก่าๆ
หลังจากนั้นใช้ค้อนทุบกะโหลกและกระดูแขนขา
ที่เหลือจากการเผาให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนนำไปฝังในสวน
เดนนิสสารภาพว่าฆ่าคนมากกว่า 15 คน




8.คู คลักซ์ แคลน พิฆาตคนดำ
คู คลักซ์ แคลน หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่าแคลน
คือขบวนการพิฆาตคนผิวดำที่ทรงอำนาจที่สุดในสหรัฐ
มีจุดกำเนิดตั้งแต่ปี คศ1865 หลังสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้
ซึ่งเป็นผลจากการเลิกทาสในสหรัฐ
ชาวเหนือปลดปล่อยคนผิวดำให้เป็นอิสระ แต่ชาวใต้ไม่ยินยอม
มองว่าคนผิวดำเป็นทาสและคนผิวขาวคือนาย
ชาวแคลนจะแต่งตัวด้วยชุดคลุมขาว สวมหมวกแหลมปิดหน้า
เจาะรูที่ตาแบบพ่อมด นัยว่าเพื่อข่มขู่คนผิวดำที่ไร้การศึกษาให้ตกใจ
และปกปิดหน้าตาของคน เพราะผิดกฏหมาย
คนผิวดำที่แข็งขืน หรือแม้แต่คนผิวขาวที่เอาใจช่วยคนผิวดำ
จะถูกเฆี่ยน ทำร้าย หรือฆ่าอย่างเหี้ยมโหด
โดยพิธีกรรมที่มาพร้อมกับเปลวไฟบนไม้กางเขน







อ่านเล่มนี้จบแล้วต้องบอกว่า เหนื่อยใจค่ะ
ทั้งขนลุก และสลดใจ กับสิ่งที่ได้อ่าน
ทำให้รู้ว่าอาชีพบางอาชีพ จิตใจคนสำคัญที่สุดจริงๆ
ถ้าใจไม่รัก ไม่เอื้ออารี คงทำอาชีพที่ต้องได้รับความวางใจอย่างนี้ไม่ได้
บางคดี อ่านแล้วก็รู้ว่า การเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่มีผลต่อชีวิตลูกในอนาคตขนาดไหน
อ่านแล้วได้ความรู้ ข้อคิดไปด้วยในตัวเลยค่ะ

การเรียบเรียงของคุณสรจักรยังเยี่ยมยอดเสมอ
อ่านแล้วไหลลื่น น่าติดตามค่ะ
สรุปแล้วว่าถ้าต้องอ่านงานสไตล์นี้
ต้องคุณสรจักรเลยค่ะ








Create Date : 08 พฤษภาคม 2558
Last Update : 8 พฤษภาคม 2558 12:26:47 น. 3 comments
Counter : 1644 Pageviews.

 
น่ากลัวจังเลยครับ อยากอ่านมากๆเลย โดยเฉพาะเรื่องคนที่เป็นหมออ่ะ แล้วก็เรื่อง Ku Klux Klan คิดแล้วขนลุก


โดย: สมาชิกหมายเลข 1157200 วันที่: 8 พฤษภาคม 2558 เวลา:14:54:34 น.  

 
อ่านแล้วค่ะ เรื่องจริงโหดกว่านิยายอีกเนอะ


โดย: Serverlus วันที่: 8 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:24:35 น.  

 
นามปากกานี้เคยได้ยินชื่อเสียงอยู่ ยังไม่เคยลอง น่าสนใจค่ะ


โดย: kunaom วันที่: 10 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:08:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หัวใจสีชมพู
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]





เมคอัพอาร์ทติสสาวที่มีเอกลักษณ์อยู่บนใบหน้า คือมีขี้แมงวันเกาะอยู่ 1 เม็ด เด่นชัดขนาดที่ว่าถ้าเอาออกมะไหร่ เพื่อนจำหน้าไม่ได้ทันที หากแต่สุดที่รักบอกว่ามันไม่ได้บดบังความงามของเราลงเลย 5555
เอกลักษณ์ประจำตัวอีกอย่างคือความสูง ใช่ว่าสูงเกินมาตรฐานหญิงไทยนะ แต่ไม่ผ่านมาตรฐานเด็กไทยต่างหาก อินเทรนด์หน่อยเค้าก็เรียกสาวฮ็อบบิท
ยามว่างชอบเล่น FB กับอ่านนิยาย ตอนนี้มีภาระกิจใหม่ ทำเว็บกินๆ เที่ยวๆ ตามประสาคนรักการกิน รักการเที่ยว http://www.doublescape.com แวะไปเยี่ยมชมกันได้นะคะ
ใครที่หลงเข้ามาในบลอกนี้แล้วต้องทำใจเล็กน้อย เพราะ จขบ มันบ้า ๆ บอ ๆ บ๊องๆ บวมๆ เรื่องราวในบลอกมันก็เลยหลากอารมณ์ตามไปด้วย แต่ถ้าเกิดชอบความบ้าของ จขบ ก็เชิญแวะเวียนมากันได้บ่อย ๆ นะจ๊ะ



มุมอวดผลงาน

มุมสร้างสรรค์บลอก

มุมสูตรเด็ดของอร่อย

มุมนี้มีเพื่อน

2015 Reading Challenge

2015 Reading Challenge
LookPla has read 0 books toward her goal of 60 books.
hide

LookPla's books

รักแผลงฤทธิ์
ณ ลานดาว
Black and Blue
หัวใจรับอรุณ
คิวบิก 3 FINAL
คิวบิก 4 FINAL
เสี่ยงหัวใจ พลิกไพ่รัก
พระจันทร์แสนกล
Sagittarius
Hunting The Lion
Bloodhound
นิทานมืด
รักผลาญใจ
ฆาตกรไร้เงา
Cupid พรหมลิขิต ผิดประตูใจ
พันธะสองหัวใจ
Dexter in the Dark
อย่าหลุดว่าฆ่า
ลิขิตรักลัดฟ้า
ดวงใจเจ้าเอ๋ย


LookPla's favorite books »

quotes LookPla likes


"การยึดติดอยู่กับอดีตมันใช้ความกล้าน้อยกว่าการต้องเผชิญหน้ากับอนาคต"— แซนดร า บราวน


คนที่กำลังเยี่ยมชม


...หมายเหตุ... บลอกนี้ใช้ฟอนต์ "ReHoneyfly" ถ้าชอบ เพื่อนๆ หาโหลดได้จาก www.f0nt.com นะจ๊า จุ๊บๆ

lozocat

Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
8 พฤษภาคม 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หัวใจสีชมพู's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.