เคยบอกไว้ว่าจะขอเม้าท์คนงานที่ร้านบ้าง วันนี้มาตามสัญญาค่ะ แต่ขอเล่าถึงแค่คนเดียวก่อน เพราะไอ้นี่คนเดียวก็เล่าได้สามวันแล้วล่ะ 5555 กับหนุ่มวัย 35 ที่ปัจจุบันกลายเป็นอดีตลูกน้องที่ร้านเราไปแล้ว
..
..
"มล" เป็นแรงงานชายไทยวัย 35 ปี ที่ใครๆ ในสำเพ็งต่างก็รู้จัก เหตุที่เป็นที่รู้จักไปทั่วเพราะมลทำงานมาแล้วเกือบทุกร้าน เรียกได้ว่ามีนายจ้างอยู่ในเกือบทุกซอกทุกมุมของสำเพ็งเลยทีเดียว ไม่ใช่ว่ามลทำงานดีจนใครๆ ก็ดึงตัวไปร่วมงาน ตรงกันข้าม...มลทำงานไม่ทน ไม่ขยันจนนายจ้างต้องอัญเชิญออกต่างหาก
..
..
เป็นที่รู้จักอีกอย่างนึงว่าถึงแม้ว่ามลจะอายุล่วงเลยวัยรุ่นมาเนิ่นนานแล้ว แต่สมองของมลดูเหมือนจะไม่ได้พัฒนาตามอายุไปเท่าไหร่นัก ไอ้ครั้นจะว่าเป็นดาวน์ซินโดรมก็ไม่ใช่ เป็นออทิสติกก็ไม่เชิง บอกไม่ถูกเลยจริงๆ แต่ดูเหมือนเป็นคนพัฒนาช้ามากกว่า ใครๆ เลยมักบอกว่า "มล มันต๊อง" เวลาสั่งงานอะไรก็รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง มลจะชอบกินน้ำชาเป็นชีวิตจิตใจ มลชอบกินน้ำชาถึงขนาดเคยพูดว่า "ให้ผมไม่มีเมีย ผมทนได้ แต่ให้ผมขาดน้ำชาผมอยู่ไม่ได้" กินวันนึงก็ไม่ใช่น้อยๆ เพราะเวลามลไปซื้อที่ร้านเค้าจะให้น้ำชาใส่น้ำแข็งใส่มาในถุงก๊อบแก๊บใบใหญ่ แทนที่จะใส่ถุงสำหรับใส่น้ำทั่วๆ ไป เน้น นะคะว่าเป็นถุงก๊อบแก๊บที่เราใส่ของนี่แหละ เพราะฉะนั้นถุงมันจะหย่ายยยยมาก คนขายก็ใจดี๊ ใจดี ขายให้มลแค่ถุงละ 5 บาท เลยทำให้มลกินน้ำชาได้เรื่อยๆ ทั้งวัน แล้วพอกินน้ำเยอะๆ เข้า มันก็ต้องปวดฉี่เป็นธรรมดา มลมันเลยพลอยเดินเข้าห้องน้ำได้ทั้งวันด้วยเช่นกัน สรุปว่าทั้งวันมลใช้เวลาไปซื้อน้ำชากะเข้าห้องน้ำมากกว่าเวลาที่อยู่ทำงานที่ร้านซะอีก เพราะไปก็ไม่ไปเปล่า แสดงมนุษยสัมพันธ์อันดีไปทั่วสำเพ็ง แวะทักคนนู้นที คนนี้ทีตามร้านต่างๆ ที่มลเคยไปทำงานมาก่อน ไปแต่ละครั้งเลยใช้เวลาไม่เคยต่ำกว่า 15 นาที ทั้งๆ ที่ร้านน้ำชากะห้องน้ำอยู่ใกล้เพียงแค่เดินไปกลับไม่ถึง 5 นาที สรุปได้ว่าเมื่อไหร่ที่ไม่เห็นมล เดาไว้ก่อนได้เลยว่า ไม่ซื้อชาก็เข้าห้องน้ำ
..
..
และด้วยความที่ดูไม่ค่อยเต็มเต็งนัก เลยพลอยทำให้มีปัญหาเรื่องการเงินอยู่เรื่อยๆ และทุกครั้งที่ไม่มีเงินใช้ มลมักจะมีคุณป๋าเราเป็นที่พึ่งเสมอ (อ้อ แต่มลก็ยังมีที่พึ่งอีกมากมายทั่วสำเพ็ง) "ป๋าครับ ป๋าเป็นคนมีเมตตากับผมมากเลย ป๋ารู้มั้ย ผมเจอป๋าครั้งแรกก็รู้สึกได้เลยว่าป๋าเป็นคนใจดี ผมขอยืมตังป๋า 20 บาทได้มั้ยครับ" , "ป๋ารู้มั้ยว่าป๋ามีบุญคุณกับผมมากเลย มีบุญคุณเหมือนแม่เหมือยายผมเลย ผมจะไม่มีวันลืมบุญคุณที่ป๋าเมตตาผมเลย ผมขอยืมป๋า 50 ได้มั้ยครับ" โห ดูมันดิ เข้าใจพูดมะ เกริ่นมาซะนานลงท้ายยืมตังค์ บางครั้งฟังมันพูดแล้วก็นั่งขำกัน นึกในใจว่านี่ตกลงเมิงต๊องจริงๆ ป่าววะเนี่ย โห แม่งเข้าใจพูดชิหายเลย 5555 ล่าสุดเมื่อวานนี้ครับพี่น้อง มลมาขอยืมอีกเหมือนเคย ครั้งนี้มานั่งกราบตักคุณป๋า ขอยืมเงินร้อยนึง (เอ้อ มันยืมมากขึ้นเรื่อยๆ เว้ย) สาบงสาบานใหญ่ว่าจะเอาเงินมาคืนป๋าให้ได้ ไม่เบี้ยวแน่นอน หลังจากยืมไปก่อนหน้านี้แล้ว 200 ก็ยังไม่ได้มาคืน ลงทุนตบหน้าตัวเอง 2 ฉาดใหญ่เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะเอาตังมาคืนคุณป๋า อยากบอกว่ามลมันตบดังมาก ขนาดที่ทำให้คนเดินไปมาแถวนั้นหันมามองเลยทีเดียว ตบเสร็จมันก็บ่นว่า "เจ็บชิหาย" เอ้อ แล้วใครบอกให้เมิงตบล่ะวะเนี่ย อีกอย่างตบหน้าแบบนี้มันเกี่ยวไรกับเรื่องคืนตังวะ ว่าแล้วก็ งง กับมันว่ะ 5555 ในความเป็นจริงแล้วเงินพวกนั้นคุณป๋าก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่ใจน่ะอยากจะสอนให้มลมันรู้จักใช้เงิน เพราะทุกครั้งที่มายืมตังคุณป๋าก็จะบ่นไปสอนไปเสมอ ให้เลิกเอาไปแทงหวย เล่นหวยปิงปอง แทงจับหงี่กี (โอ้ มันเล่นเยอะเว้ย) แต่เราว่านะ ท่าทางมันจะสอนยากว่ะค่ะ
..
..
แหม แต่เห็นมลมันเป็นแบบนี้นะ ขอโทษเถอะค่ะ ภาษาอังกฤษนี่ไม่เลวเลยนะ เรียกได้ว่าเล่นเอาเราอายเลย แล้วมลเนี่ยจะเป็นพวกเห็นฝรั่งไม่ได้ he จะรีบเสนอหน้าไปเซย์ ฮัลโหล เวลคัม ทู ไทยแลนด์ ทันที หลายครั้งที่มลกลายเป็นไกด์จำเป็นคอยบอกทางหรือพาฝรั่งเดินเที่ยวในสำเพ็ง โดยเฉพาะแหม่มสาวๆ มาเนี่ย นังนี่จะรีบแจ๋นเข้าไปต้อนรับเลยทีเดียว จริงๆ มันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ ที่ทำตัวเป็นพลเมือง และเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับแขก แต่มันจะดีกว่านี้มาก ถ้าเมิงงงงจะไม่เอาเวลางานไปแสล๋นเนี่ย
..
..
ข้อดีของมลอีกอย่างคือเป็นคนพูดเพราะ ปากหวานกับนายจ้าง มันชอบมาชมเราว่าเจ๊คนสวย เจ๊ น่ารักอย่างนั้น น่ารักอย่างนี้ อันนี้ถูกใจเจ๊มาก เลยทำให้ดุมันไม่ค่อยลง ครั้งนึงมลเคยมาพูดกับเราว่า "ผมดูป๊าดเดียวก็รู้เลยว่าเจ๊เป็นลูกป๋า คือนัยน์ตาเจ๊กับป๋าเหมือนกันเลย เป็นนัยน์ตาของคนดี มีเมตตา" โห ดูมันชม มองทะลุเข้าไปในลูกกะตากันเลย แต่ตรูรู้น่ะเฟ้ยยยย ว่ามาชมแบบนี้น่ะ จะให้ตรูช่วยพูดกะป๋าเรื่องยืมเงินใช่มะ ไอ้เวงงงง
แต่อย่างว่านะคะ...เราเป็นคนอ่านก็ยิ้มได้
คนเป็นนายจ้างก็เหนื่อยนิดนึง
ชื่นชมคุณจขบ.และครอบครัวจริงๆค่ะ
ที่เปิดโอกาส ใจดีและมีเมตตา