Photobucket

หักหอกเป็นดอกไม้......ตอน พระอาจารย์กับฝน

พระอาจารย์กับฝน








อาตมานั่งอยู่ในกลด จิตทะเลาะกันเอง บอกให้มันเงียบมัน

ไม่เงียบ ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เปิดกลดออกไป ไปนั่งตากฝนอยู่ข้าง

นอก ข้างในมันตกใจ มันถามว่า

" แกทำอะไร "


อาตมาบอกว่า " อย่ามายุ่ง " ฉันอยู่

ในกลดดีๆ แล้วแกบ่นฉันมากนัก ฉันก็

เลยออกมานั่งตากฝนซะเลย

พอนั่งตากฝนแล้วจิตมาบอกว่า กลับเข้าไปข้างใน

เถอะ ฉันไม่บ่นแล้ว ตากฝนนี่เดี๋ยวไม่สบาย เราก็บอก

" อย่ามายุ่ง "

เราก็นั่งเฉยๆ พอนั่งอยู่ท่ามกลางสายฝนสักพัก จากที่ได้ยินเสียงกบเสียง

เขียดร้องกันตอนแรก ที่เราหงุดหงิดนั้น แต่ตอนหลังมันเกิดวูบขึ้นมา

โอ้ ตอนนี้กบ เขียด ชาวไร่ ชาวนาที่คอยฝนกันมานานคงดีอกดีใจ

เราแค่เปียกนิดเดียวทำไมต้องหงุดหงิด ชาวไร่ ชาวนาดีใจ กบ เขียด

ดีใจ ทำไมเราไม่พลอยดีไปกับเขาด้วยล่ะ พอนึกได้แค่นี้จิตมันเปลี่ยน


หลังจากนั้นอนุโมทนา สาธุ มีความสุข ฝนตกก็ดี

ฉะนั้นชีวิตคนเรา จริงๆ แล้วเขาบอกว่า

' ไม่มีอะไรจะมาทำร้ายเราเท่ากับใจเราเอง '

ใจที่ประกอบไปด้วยมิจฉาทิฐิ ตัวนี้เป็นตัวที่ทำให้ทุกข์

คนเราที่เป็นทุกข์ทุกวันนี้ ทุกข์เพราะคิดผิด

จริงๆ แล้ว.....เราอยู่ของเราอย่างนี้ มันน่าจะสุข

ที่เราทุกข์เพราะอะไร เพราะเราไปแบกมันไว้

แบกทางกาย.....ก็หนักกาย แบกทางใจ.....ก็หนักใจ

แล้วพวกเราล่ะ!..... แบกอะไรกันอยู่หรือเปล่า?










มีนักปราชญ์สามคน กำลังยืนคุยกันอยู่ในป่า ขณะที่คุย

กันอยู่นั้น พอแหงนหน้าขึ้นไป

ก็เห็นเสือมันคำรามอยู่ข้างบน พอทั้งสามเห็นเช่นนั้น ต่างก็หันหน้าเข้าหา

กัน แล้วพากันหัาเราะอยู่ตรงนั้น

พร้อมทั้งเอ่ยว่า.... ." เฮ้ย...ดูสิใครจะตายก่อน

กัน "
คือท่านมองเป็นเรื่อง

ตลก เห็นการเกิด การตาย เป็นของธรรมดา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่

ตกใจ ไม่หวั่นไหวกับเหตุการณ์ที่เกิด

การมาอยู่ในโลกนี้เราไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ

ต่างๆ ข้างนอกได้

ถ้าบอกว่า ชีวิตเราเปรียบเสมือน นาวาลำน้อยที่แล่นออก

สู่ทะเล

เขาเรียก " นาวาชีวิต "

เราจะไปเปลี่ยนทิศทางของลมไม่ได้

เพราะเดี๋ยวก็พัดมาทางซ้าย เดี๋ยวก็พัดมาทางขวา

นั่นเป็นเรื่องของลม

แต่เราสามารถปรับใบเรือของเราได้

ฉะนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้น

เราคอยปรับใบเรือของเราก็แล้วกัน มองสิ่งต่างๆ ในแง่ดี

ให้ได้


จิตใจก็จะเป็นสุข เพราะ 'มองแต่ดี มีแต่ได้ ไม่มีเสีย '









จะสุขหรือทุกข์ก็ขึ้นอยู่กับ 'การ

มอง'
หรือ 'ความคิด'

ของแต่ละคน



" สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม

คนหนึ่งตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่แพรวพราย"


Two men look out through the same bars;

one sees the 'mud;' the other sees the 'stars.'
















โปรดคอยติดตามตอน.....โยมคุ้นเคย











 

Create Date : 07 สิงหาคม 2553
2 comments
Last Update : 7 สิงหาคม 2553 11:12:12 น.
Counter : 1121 Pageviews.

 

เดินตามคำนี้เข้ามาค่ะ..."หักหอกเป็นดอกไม้"

ชอบมากเลยค่ะ..

พระอาจารย์กับฝน อ่าน แล้วยิ้มได้แต่เช้าเลย..ขอบคุณนะค่ะที่นำมาให้อ่านกันรู้สึกดีมาก ๆ

แล้วจะแวะมาอีกจร้า...

 

โดย: พี่อันดา (ทบทวน ) 7 สิงหาคม 2553 7:10:55 น.  

 


สวัสดีตอนสายๆของ เนเธอร์แลนด์ จ้า



ดอกไม้น้อยแฝงใจส่งไปหา
ความห่วงหาแทนใจที่ห่วงใย
แทนสัมพันธ์ไมตรีมีต่อกัน
แทนความคิดถึงไว้ให้แด่เธอ

* ขอให้มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะจ้า *

วันนี้เข้ามาอ่านก็ได้รับข้อคิดกลับไปอีกแล้ว
อ่านของท่านพระอาจาร์ยท่านี้แล้วดีจัง คือ เวลาที่เราอ่านเนี่ย มันไม่เบื่อกับการเขียนของท่าน
และอ่านง่าย เข้าใจดี และที่สำคัญ สนุกกับการอ่านและได้ข้อคิดไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันของเราได้เลย

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 7 สิงหาคม 2553 16:11:08 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


cvJ;
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]












Google























เพื่อนที่กำลังเข้าชมบล็อก TOP
โหลดเพลง
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cvJ;'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.