พ่อของฉัน
ยามที่ฉันลืมตาขึ้นดูโลก ถึงจะโศกเนื่องจากมองไม่เห็น แต่ชีวิตของฉันไม่ลำเค็ญ เพราะมีพ่อใจเย็นคอยดูแล
ยามฉันซักฉันถามพ่อตอบให้ ช่วยแก้ไขปัญหายามทุกข์เข็ญ อธิบายคำตอบอย่างใจเย็น จนฉันเห็นภาพตามในทันใด
ทุกคืนพ่อจะกอดอย่างอบอุ่น ดุจนอนหนุนหมอนนุ่มบนสวรรค์ อยู่กับพ่อมีสุขทุกคืนวัน เพราะว่าฉันติดพ่อใช่อื่นใด
ขอขอบคุณคุณพ่อเป็นอย่างยิ่ง ที่ไม่ทิ้งลูกพิการไปไหน ลูกจะอยู่จะสู้ทนต่อไป ด้วยหัวใจแข็งแกร่งและเบ่งบาน
กลอนบทนี้ ฉันแต่งขึ้นเพื่อเทิดทูนบูชา และขอบคุณพ่อ ที่ดูแลฉันดุจแม่คนหนึ่งตั้งแต่จำความได้ เพราะนับตั้งแต่ฉันเกิดมาในครอบครัวเล็ก ๆ ที่แสนอบอุ่นครอบครัวนี้ และเป็นสมาชิกคนเดียวที่มีความพิการทางสายตา แต่พ่อและแม่กลับเลี้ยงดูฉันเหมือนเด็กปกติทั่วไป ราวกับฉันไม่ใช่เด็กตาบอด ( ขอใช้คำนี้เลยนะคะ จะได้สั้นลง ไม่เยิ่นเย้อ )
จนบางครั้งฉันรู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนปกติคนหนึ่ง มิได้พิการอะไรเลย ในบรรดาสมาชิกทุกคนในครอบครัวนี้ ฉันสนิทสนมกับคุณพ่อมากที่สุด เพราะ คุณพ่อเปรียบเสมือนอินเตอร์เน็ตเคลื่อนที่ ถามอะไรตอบได้หมด ยิ่งคำศัพท์ภาษาอังกฤษหรือเรื่องราวใด ๆ ก็ตาม ที่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ พ่อเก่งที่สุดจนเทียบเท่ากับฝรั่งคนหนึ่งได้เลย เพราะฉันสังเกตดูเวลาพ่อคุยกับฝรั่งเพื่อนพ่อ สำเนียงพ่องี้โอ้โห ยกนิ้วให้เลยค่ะ
จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ฉันก็ถอดแบบการชอบพูดคุยกับฝรั่งจากพ่อมาเต็ม ๆ คือ ยามได้ยินเสียงฝรั่งมาจากไหนหรือมีฝรั่งคนใดอยู่ใกล้ตัว เป็นต้องทักทายให้ได้เลยเชียว จนเริ่มรู้สึกว่า อยู่ห่างพ่อเราก็สามารถมีเพื่อนหรือลุงป้าน้าอาที่เป็นฝรั่งที่เราไม่รู้จักมาคุยได้แล้ว หรือเรียกง่าย ๆ คือ สามารถสร้างมนุษย์สัมพันธ์ได้แล้ว โดยไม่ต้องมีพ่ออยู่ข้าง ๆ ค่ะ แต่ ถ้านึกคำศัพท์ไหนที่จะตอบโต้กับฝรั่งไม่ออกนี่ คิดถึงพ่อทันทีเชียว
พ่อชอบพาฉันปั่นจักรยานไปเที่ยวแหลมสมิหลายามเย็น เป็นกิจกรรมที่เราสองคนทำกันไม่บ่อยนัก แต่ก็มากพอดู ทำกันจนชินแล้วก็ว่าได้
หากฉันสามารถปั่นได้เองก็จะปั่นเอง ( ตรงทางโล่ง ๆ ไม่มีรถพลุกพล่าน ) แต่ถ้ามีรถจอแจละก็ พ่อจะปั่นจักรยานของพ่อเข้ามาจับจักรยานของฉันไว้ แล้วปั่นไปด้วยกัน แต่หากไม่มีรถแล้ว พ่อก็จะปล่อย หรือเรียกอีกอย่างว่า ตัวใครตัวมัน
เมื่อมีรายงานวิชาต่าง ๆ เข้ามา หรือมีการให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต พ่อจะช่วยหาให้ ฉันเคยบอกพ่อหลายครั้งแล้วว่า ให้เอาเสียงสังเคราะห์สำหรับคนตาบอดมาใส่ในคอมพิวเตอร์ ฉันจะได้ไม่เป็นภาระพ่อมากนัก พ่อจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่น ไม่ต้องมานั่งค้นหาให้ฉัน เวลาฉันบอกพ่อว่า
พ่อ วันนี้ครูสั่งให้หาเรื่องนั้นนะ เรื่องนี้นะ ส่งวันจันทร์นี้ ปากพูดไป ใจห่อเหี่ยวมาก ( ไม่ได้เวอร์นะคะ พูดจริง ๆ ) คิดแต่ว่า สั่งพ่ออยู่นั่นแหละ เมื่อไรจะหาเองได้สักที แต่งานนี้ต้องโทษพ่อนะ ที่ไม่เอาเสียงสังเคราะห์มาใส่ให้ อ้อ แต่คงทำได้ตอนเรียนมหาวิทยาลัยแล้วละ คราวนี้หนูจะไม่ยอมให้พ่อต้องมานั่งลำบากเพราะหนูอีกเด็ดขาด เพราะไม่อยากได้ชื่อว่า ไม่พึ่งตัวเองค่ะ
การเดินทางไปกลับจากโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยมายังบ้านซึ่งอยู่กันคนละอำเภอ โดยรถโดยสารนี่ พ่อก็อนุญาตให้ฉันฝึกตอนม. 5 นี่เอง เคยขอพ่อครั้งหนึ่ง แต่แม่นั่งรถตู้มารับที่โรงเรียน บอกว่าให้ศึกษาเส้นทางก่อน เลยอดไปโดยปริยาย แต่ครั้งหลังนี้ หนูแอบขึ้นรถเมล์มาคนเดียว แล้วโทรศัพท์บอกพ่อ สั่งกำชับพ่อว่าห้ามบอกแม่เด็ดขาด และแล้ว หนูก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพค่ะ
ตอนฉันออกเรียนร่วมกับเด็กปกติตั้งแต่อายุ 9 ขวบ พ่อก็พาฉันไปฝากเรียน กับโรงเรียน อ้อ ไม่ใช่สิ ไปสมัครเรียน โถ พูดผิด ฉันเรียนอยู่ที่โรงเรียนแรก 2 ปีอย่างมีความสุข คุณครูเข้าใจ เพื่อน ๆ สนุกสนาน ดีกับฉันทั้งชายและหญิง เล่นไล่จับกันทุกวันโดยฉันจะอาสาเป็นผีแล้วไล่จับเพื่อน ๆ โอ้โห ยังจำช่วงเวลาอันแสนสุขนั้นได้ไม่ลืมเลย
แล้วฉันก็ถูกย้ายมาเรียนโรงเรียนต่อไป เรียน 4 ปี จนจบป. 6 ปีแรกที่เข้าเรียนเจออุปสรรคมากมาย ทั้งคำเยาะเย้ยถากถาง ด่าพ่อล่อแม่ โดนหยิก โดนทำร้ายสารพัดทั้งร่างกายและจิตใจ แต่อยู่มาได้จนจบป. 6 เลยนะ
ตลอดเวลาที่เรียนร่วมกับเด็กปกติจนขณะนี้อยู่ม. 6 แล้ว พ่อจะอธิบายเสมอว่า เพื่อนล้ออะไรให้เราโกรธ พูดอะไรให้เราไม่สบายใจ เราก็ทำหูทวนลมซะบ้าง มันอยู่ที่ใจเราต่างหาก เพื่อนทำร้ายเราทางร่างกาย เราจะเจ็บ แต่ถ้าเพื่อนทำร้ายเราทางจิตใจนี่สิ จะเจ็บหรือไม่เจ็บมันอยู่ที่ตัวเรา
ฉันอยู่กับพ่อแล้วรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น สนุกสนาน พ่อกับแม่จะสอนให้ฉันคิดถึงหลักความเป็นจริง เรื่องบุญกรรมนั้น พ่อกับแม่จะไม่ค่อยพูดให้ฉันฟังมากนัก
พ่อกับแม่บอกว่า แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน เพราะฉันชอบเล่าบ่อย ๆ ว่า ฉันเคยได้ยินคนพูดให้ฉันฟังโดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ ไม่ก็เด็ก ๆ ที่ยังไม่รู้เรื่องว่า ฉันตาบอดเพราะชาติที่แล้วฉันไปจิ้มลูกตาปลา พ่อจึงอธิบายว่า เกิดจากอะไร ซึ่งมีบอกไว้แล้วในประวัติของฉัน เรื่อง ตาพิการ แต่ใจยังสู้
เนื่องในโอกาสวันพ่อ ฉัน ( นางสาว นุ่นนิจ ถาวรรัตน์ ) ในฐานะลูกพิการสายตา ที่รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนคนพิการ ขอขอบคุณที่พ่อดูแลอย่างดี และขอให้พ่อมีความสุขตลอดไปค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เรื่องของพ่อทวีศักดิ์ ในเวป tnnthailand เนื่องในวันพ่อปีนี้
Create Date : 06 ธันวาคม 2553 |
|
16 comments |
Last Update : 6 ธันวาคม 2553 3:48:49 น. |
Counter : 1104 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ลุงแว่น 6 ธันวาคม 2553 8:11:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 6 ธันวาคม 2553 15:53:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: หน่อยอิง 6 ธันวาคม 2553 16:02:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 6 ธันวาคม 2553 18:48:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 6 ธันวาคม 2553 21:32:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 6 ธันวาคม 2553 21:34:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทวีศักดิ์ IP: 118.173.156.196 6 ธันวาคม 2553 21:58:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 8 ธันวาคม 2553 20:12:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 9 ธันวาคม 2553 15:07:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 14 ธันวาคม 2553 11:46:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 17 ธันวาคม 2553 23:48:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สงขลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]
|
คนตาพิการ
ชื่อจริง นุ่นนิจ ถาวรรัตน์ ชื่อเล่น โรส
ปัจจุบัน อายุ 23 ปี ตาพิการทั้ง 2 ข้าง กำลังเรียนหนังสือ ณ สถาบันราชภัฏ สงขลา คณะ ครุศาสตร์ ปีที่ 3 โปรแกรมภาษาไทย
โรส ชอบเขียนเรื่องราวต่างๆที่ได้ประสบ พิมพ์เป็นตัวอักษรปกติบนคอมพิวเตอร์ แล้วพ่อจึง copy นำมา Post ที่นี่
ข้อความต่างๆส่วนใหญ่เป็น ความคิด ความเข้าใจ และจินตนาการ บนพื้นฐานของความเป็น คนตาพิการ ของ น้องโรส ทั้งหมด
E-mail คุยกับน้องโรส คนตาพิการ
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|