มารู้จักคนตาบอดกันดีกว่า
คำว่า คนตาบอด แม้จะเป็นคำง่ายๆ สั้นๆ พูดกันติดปากทั่วไป แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำความเข้าใจ ต่อความหมาย และนัยแห่งการดำรงตน ที่แท้จริงของคนตาบอด
แม้ว่าในสังคมปัจจุบัน คนตาบอดนับเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ต้องอยู่ร่วมกัน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากแต่ความรู้ คงวามเข้าใจ ตลอดจนความรู้สึก นึกคิดเกี่ยวกับคนตาบอด ของผู้คนในสังคม นั้นได้ส่งผลสะท้อนในการปฏิบัติต่อพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ ความเข้าใจ และความรู้สึกนึกคิดที่มีแนวโน้มเป็นไปในเชิงลบ ( ไม่สร้างสรรค์ ) ที่ได้รับการถ่ายทอด เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ฝังรากสืบต่อกันมา หลายชั่วอายุคน
ทำให้การปฏิบัติต่อคนตาบอด เป็นไปในทางที่ไม่สร้างสรรค์ ปิดกั้นโอกาส สำหรับคนตาบอด ผลที่ปรากฏก็คือ กว่า 90%ของคนตาบอด หรือมากกว่า 100,000 คน ไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในจำนวนที่เหลืออยู่น้อย นั้น มีคนตาบอดไม่ถึง 1% ที่สามารถ อ่าน-เขียน อักษรเบรลล์ได้ มิต้องพูดถึงการได้รับโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษา ซึ่งมีอยู่จำนวนไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น มีคนตาบอดเพียงจำนวนน้อยนิดที่สามารถประกอบอาชีพ มีช่องทางทำมาหากิน โดยไม่ต้องเป็นภาระอันหนักอึ้งของครอบครัว และสังคม ในทางกลับกัน อย่างน้อยที่สุด คนตาบอดก็ได้พิสูจน์ให้สังคมได้ประจักษ์ถึงความรู้ ความสามารถความตั้งใจ และความไม่ย่อท้อ
นับแต่โลกการศึกษาสำหรับคนตาบอดได้เปิดกว้าง โดย Ms.Genevieve Caulfield สตรีตาบอดชาวอเมริกัน ผู้ริเริ่มก่อตั้งโรงเรียนสอนคนตาบอดแห่งแรกในแผ่นดินสยาม เมื่อปี พ.ศ. 2482 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลากว่า 60 ปีแล้ว ที่คนตาบอดไทยส่วนหนึ่งได้ก้าวเข้าสู่ระบบการศึกษา มีหลายคนเรียนถึงขั้นปริญญาตรี ปริญญาโท และกำลังศึกษาในระดับปริญญาเอกก็มี
แม้จะพียงจำนวนน้อยนิดก็ตาม แต่บุคคลเหล่านี้ ก็ได้ประสพความสำเร็จ ในหน้าที่การงาน นำความภาคภูมิใจมาสู่ตนเอง ครอบครัว และชุมชนในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็รับราชการ เป็นครู อาจารย์ เป็นพนักงานตามบริษัท ห้างร้าน เป็นพ่อค้า / นักธุรกิจ และประกอบอาชีพอิสระอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งๆที่จริงแล้ว คนตาบอดเหล่านี้ มิได้แตกต่างจากบุคคลทั่วไปแต่อย่างได มิได้มีพรสวรรค์พิเศษ จึงสามารถอ่านออก เขียนได้ หรือทำงานได้ เพียงแต่กรอบความคิด และโลกทัศน์ของผู้คนในสังคม ที่มีต่อคนตาบอดเท่านั้นที่มีความแปลกแยก ยกตัวอย่างเช่น
นักร้องเพลงลูกทุ่งผู้ล่วงลับไปแล้ว คนตาบอดน่าจะหมายถึง คนที่ไม่มีชีวิต จิตใจ ไม่รู้สึก รู้สมอะไร เพราะตอนที่ผมแต่งเพลง ผมยังเขียนไปว่า สาวตาบอด กอดได้ก็บ่อุ่น
พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนารูปหนึ่ง หมายถึงผู้ที่ได้ก่อกรรมทำเข็ญมาแต่ในอดีตชาติ จึงต้องเกิดมาชดไช้กรรมในชาตินี้
หมอดูชื่อดัง เป้นพวกที่มีหูทิพย์ ตาทิพย์ ดูท่าทางพวกเขาจะรู้ เห็นในสิ่งที่คนดีๆอย่างพวกเราไม่เห็น
รัฐมนตรีท่านหนึ่ง เป็นเสมือนโต๊ะ เหมือนเก้าอี้ สอนไปก็คงไม่ได้ประโยชน์ อะไรขึ้นมา
อาจารย์มหาวิทยาลัยท่านหนึ่ง เป็นผู้ที่มีความน่าสงสาร ไม่ควรต้องมาลำบากกับการเรียนหนังสือใน มหาวิทยาลัย
หมอตาผู้มากด้วยประสบการณ์ คือคนที่มีสายตาข้างที่ดีกว่า มีระดับการมองเห็น 20 ต่อ 200 ฟุต ขึ้นไป หรือมีขนาดความกว้างของลานสายตา ที่ 30 องศาลงมา
นักจิตวิทยาชื่อก้อง คือผู้ที่อาจเสี่ยงต่อการมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เนื่องจากได้รับความกดดันทางจิตสูง
นี่เป็นเพียงไม่กี่ตัวอย่างที่สะท้อนถึงความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับคนตาบอด ซึ่งความเห็นเหล่านี้ ล้วนได้รับการบ่มเพาะ และสะสมอยู่ในบริบทของสังคม อย่างไม่ต้องสงสัย และเป็นสิ่งแสดงออกจากผู้คนที่ไม่เคยรับรู้ และทราบถึงประสบการณ์ และความหมายที่แท้จริง ของ คนตาบอด
จนกระทั่งแม้คนตาบอดก็พลอยมีความเห็นเป็นไปในทางเดียวกันกับที่ผู้อื่นคิดเห็น และเชื่อ อาทิ คนตาบอดไม่น้อยเชื่อว่าตัวเขาเอง และคนตาบอดทั่วไป เป็นคนที่ไร้ความสามารถ หรือมีข้อจำกัดอย่างร้ายแรง ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ไม่อาจเรียนรู้ ทำงาน หรือร่วมกิจกรรมต่างๆในสังคม และ ไม่อาจแข่งขันกับใครได้ กระทั่งไม่อาจอยู่ได้โดยปราศจาก ความช่วยเหลือจากผู้อื่น
เรายังคงพบว่าคนตาบอดอีกจำนวนมากถูกเก็บไว้ในบ้าน เราจึงยังพบคนตาบอดอีกไม่น้อย ขอทานอยู่ตามที่ต่างๆ ทั้งโดยสมัครใจ และโดยการถูกบังคับ หรือหลอกลวง เราจึงยังพบว่า คนตาบอดถูกผู้คนนำไปเปรียบเทียบคนที่โง่เขลา หรืองมงาย ลุ่มหลงในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
หมายเหตู ข้อเขียน เรื่อง มารู้จักคนตาบอดกันดีกว่านี้ เขียนโดย นาย มณเทียร บูญตัน นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เป็นข้อเขียนที่เผยแพร่ ในหนังสือ คู่มีอาสาสมัครร่วมพัฒนา คูณภาพชีวิตคนตาบอด โดย สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย
ข้อเขียนชิ้นนี้มีความยาวพอประมาณ ผมจึงได้แบ่งออกเป็น 3 ตอน ที่ผ่านมานี้เป็นตอนแรก
ส่วนตอนที่ 2 จะชื่อว่า อย่างไร จึงเรียกว่าคนตาบอด
และตอนที่ 3 คือ ข้อสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของคนตาบอด
ผมจะได้พิมพ์ และนำมาเผยแพร่ใน blog ของน้องโรสนี้ เพื่อท่านที่สนใจจะได้ทราบครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ได้อ่านมา ทวีศักดิ์ ถาวรรัตน์
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2549 |
|
10 comments |
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2549 11:59:07 น. |
Counter : 3169 Pageviews. |
|
|
|