อย่างไรก็ดี ช่องทางการซื้อ iPad mini (ไอแพด มินิ) ในไทยนั้น ตอนนี้มีทั้งการสั่งออนไลน์จาก Apple Store Thailand ประเทศไทย และการเปิดจำหน่ายจาก iStudio เมื่อวันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่า มีจำหน่ายเฉพาะ iPad mini (ไอแพด มินิ) รุ่น Wi-Fi อย่างเดียวเท่านั้น ส่วน iPad mini (ไอแพด มินิ) รุ่น Wi-Fi + Cellular จะต้องรอไปอีกระยะหนึ่งครับ

ส่วน iPad mini (ไอแพด มินิ) เครื่องหิ้ว มาบุญครองนั้น เริ่มมีจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันนี้ (2 พ.ย.55) โดยเป็น iPad mini (ไอแพด มินิ) เครื่องหิ้ว 3 ขา คาดว่า เป็นเครื่องหิ้ว จากประเทศสิงคโปร์ กับฮ่องกง นั่นเอง เนื่องจาก 2 ประเทศนี้ อยู่ในรายชื่อประเทศที่เปิดจำหน่าย iPad mini (ไอแพด มินิ) ในรอบแรกนั่นเอง มาอัพเดท ราคา iPad mini (ไอแพด มินิ) จากมาบุญครอง เครื่องหิ้ว กันครับ

บทวิเคราะห์ ราคา iPad mini (ไอแพด มินิ)

จากราคาในด้านบนนั้น จะเห็นว่า iPad mini (ไอแพด มินิ) เครืี่องศูนย์ Apple Store มีราคาที่ถูกกว่า iPad mini (ไอแพด มินิ) เครื่องหิ้ว มาบุญครอง ประมาณ 2,000 บาทเลยทีเดียว แต่ข้อได้เปรียบของ iPad mini (ไอแพด มินิ) เครื่องหิ้ว มาบุญครอง ก็คือ มีสินค้าทันทีนั่นเองครับ ในขณะที่ iPad mini (ไอแพด มินิ) จาก Apple Store จะต้องรอสินค้าไประยะหนึ่ง อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็น iPad mini (ไอแพด มินิ) เครื่องหิ้ว มาบุญครอง หรือ iPad mini เครื่องศูนย์ Apple Store ต่างก็ได้รับการประกันตัวเครื่องจาก Apple Store เป็นระยะเวลา 1 ปีเช่นเดียวกัน

อยากได้ iPad mini (ไอแพด มินิ) ซื้อรุ่น Wi-Fi หรือรุ่น Wi-Fi + Cellular ดี ?

เป็นปัญหาที่หลายๆ ท่านลำบากใจในการซื้อ ไม่ว่าจะเป็น ipad หรือ iPhone ว่า จะซื้อความจุเท่าไหร่ดี ซื้อรุ่น Wi-Fi หรือรุ่น Wi-Fi + Cellular ดีกว่า จริงๆ แล้ว คำตอบของปัญหาเหล่านี้ ท่านจะต้องรู้ใจตัวเองครับว่า ซื้อมาเพื่ออะไร ใช้งานอะไรบ้าง เพราะสุดท้ายแล้ว ความคุ้มค่าจะขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักนั่นเอง

อย่างไรก็ดี ความแตกต่างของ iPad mini รุ่น Wi-Fi และ iPad mini รุ่น Wi-Fi + Cellular อยู่ที่การเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั่นเอง ถ้าหากใช้งาน iPad mini อยู่แค่ภายในบ้าน ไม่ได้พกพาไปไหน ซื้อแค่ iPad mini รุ่น Wi-Fi ก็เพียงพอแล้วครับ ส่วน iPad mini รุ่น Wi-Fi + Cellular จะเหมาะกับการพกพาไปข้างนอก เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ตามแพ็กเกจที่ใช้งานได้นั่นเอง

แต่ถ้าหากท่านมีสมาร์ทโฟน ที่สามารถปล่อยสัญญาณแบบ hotspot ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่น Wi-Fi + Cellular ครับ เพราะคงไม่คุ้มเท่าไหร่ ถ้าหากจะต้องจ่ายค่าแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต 2 ต่อ ส่วนจะซื้อ iPad mini (ไอแพด มินิ)) ความจุเท่าไหร่นั้น อย่างที่กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่า ขึ้นอยู่กับพื้นฐานการใช้งานของเราเป็นหลักนั่นเอง ถ้า หากไม่ได้ใช้งานอะไรมากมาย แค่ท่องเน็ต เล่นเฟสบุ๊ค ถ่ายรูป ใช้แอพพลิเคชั่นบ้าง ความจุ 16GB ก็เพียงพอแล้วครับ แต่ถ้าเน้นการใช้งานแบบฮาร์ดคอร์ ต้องเป็นความจุ 32GB - 64GB ขึ้นไปเท่านั้น

ขอบคุณ เนื้อหา และภาพประกอบ: techmoblog