กุนซือสิงโตคำราม ???

หลังจากฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับอนาคตว่าจะคุมทีมเพื่อลุยงานใหญ่ที่บราซิลในฟุตบอลโลกครั้งต่อไปหรือเปล่า คาเปลโล่ตอบว่า ไม่ ปีหน้าอายุ 66 ปีแล้ว คงพอจะเป็นเรื่องราวให้สมาคมฟุตบอลอังกฤษคิดเรื่องนี้

พร้อมกับตอบคำถามสื่อเช่นกันว่า คงจบกันแค่หลังยูโร 2012 นี้เท่านั้น เพราะวันหนึ่งคาเปลโล่บอกว่าจะอยู่กับทีมชาติอังกฤษไป 20 ปี อีกวันหนึ่งบอกว่าพอแล้วอายุเยอะแล้วหลังยูโรคงวางมือจากทีมชาติอังกฤษ

เข้าใจได้เลยว่าหลังยูโร 2012 ทีมชาติอังกฤษคงต้องมองหากุนซือคนใหม่ แต่ยังไม่คิดควานหากันตอนนี้ มันเป็นเรื่องเสียมารยาทและสร้างความวุ่นวายให้กับทีมเปล่าๆ

ทีมชาติอังกฤษใช้งานกุนซือต่างชาติมาระยะหนึ่งแล้วตั้งแต่ไปจูงมือสเวน โกรัน เอริคส์สัน มาคุมทีม จนครั้งหลังนี้ที่ให้โอกาสฟาบิโอ คาเปลโล่ พิสูจน์ฝีมือ

ในความเป็นจริงนั้นเป็นที่รู้กันว่า ทีมชาติอังกฤษต้องการกุนซือที่เป็นคนอังกฤษเข้ามาคุมทีม แต่ที่ผ่านมามันหาไม่ได้ ไม่มีใครเหมาะสมเลย ตั้งแต่ลองของให้สตีฟ แม็คคลาเรน มาคุมอยู่พักหนึ่ง พาทีมออกทะเลจนต้องเฉดหัวออกไป

แซม อัลลาร์ไดซ์ เป็นอีกคนหนึ่งที่มีบางคนลุ้นให้เข้ามาคุมทีมอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนเช่นกันที่แย้งว่า ถ้าให้บิ๊กแซมเข้ามาคุมทีมสิงโตคำราม คงเห็นการเล่นของทีมที่มีเพียงมิติเดียว คือโยนเข้าไปหน้าประตูตามสไตล์อังกฤษดั้งเดิม

เป็นแบบนั้นคู่ต่อสู้แค่ใช้นักเตะไม่กี่คนก็สามารถปิดทางปิดเกมทุกอย่างได้ในทันที พวกที่เหลือเอาเสื่อไปปูนอนในสนามได้เลย ไม่จำเป็นต้องไปวิ่งไล่อะไรมากมาย คอยสกัดลูกโด่งจากปีกก็พอ ค่อนตื่นขึ้นมาจับไม้จับมือตอนหมดเวลาการแข่งขัน

ฟาบิโอ คาเปลโล่ ยังมีออพชั่นอยู่หรือเปล่า เรื่องราวแบบนี้อย่าเพิ่งไปฟันธงว่าจบสิ้นกันแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่กุนซือสักคนจะวางมือไปจากงานแบบนี้ ถ้าคาเปลโล่คิดวางมือเพราะอายุมากแล้วต้องเจอความยากในการตัดสินใจแน่นอน

อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือผีแดงพูดมา 20 ครั้งแล้วว่าจะวางมือจนถึงทุกวันนี้ยังไม่อาจตัดใจได้เสียที เพราะมันติดหนักเข้าเส้นเลือด วางมือไปมันกลายเป็นความว่างเปล่าในชีวิตทันที

แต่ถ้าคาเปลโล่ยังคงมีงานระดับสโมสรรออยู่นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ความสำเร็จในยูโร 2012 เป็นอีกประเด็นที่ต้องหยิบยกเอามาพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นคาเปลโล่หรือสมาคมฟุตบอลอังกฤษ

เกิดจับพลัดจับผลูเป็นแชมป์ยูโรขึ้นมา คงหันมาจูบปากกันหวานชื่นแน่นอน นั่นจึงยังคงเป็นออพชั่นในการตัดสินใจของสมาคมฟุตบอลอังกฤษและตัวคาเปลโล่เอง

ในขณะที่หลายเสียงที่ส่งผ่านสื่อมาต่างพุ่งเป้าไปที่แฮร์รี่ เรดแนปป์ กุนซือของสเปอร์สในขณะนี้ ว่ากันว่าน่าจะถึงเวลาเสียทีสำหรับจ่าแฮร์รี่ เพราะนอกเหนือไปจากนี้คงไม่ต้องไปมองหากุนซืออังกฤษของแท้มาจากไหน หายังไงก็ยังคงไม่เจอแน่นอน

ว่ากันว่าถ้าได้แฮร์รี่ เรดแนปป์ เข้ามาคุมทีมชาติ สามารถเข้าใจนักเตะได้เป็นอย่างดี เป็นคนที่มีความสามารถในการจัดการได้เป็นอย่างดี

แต่คงไม่ต้องไปมองความสำเร็จที่ผ่านมาให้เสียเวลา ถ้าจะเทียบกับฟาบิโอ คาเปลโล่คงจะไม่ได้ ขานั้นพาทีมระดับสโมสรคว้าแชมป์เป็นว่าเล่นมาแล้วทั้งในอิตาลีและสเปน ผลงานการันตีได้เป็นอย่างดี

ในขณะที่แฮร์รี่ เรดแนปป์ ยังไปไม่ถึงไหนกับความสำเร็จดังกล่าว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถคุมทีมชาติอังกฤษได้ มีปัจจัยเยอะแยะไปหมดถ้าจะขุดกันขึ้นมา แต่เอาเป็นว่าหลักๆคือฝีมือตอนนี้ไม่มีใครที่เป็นกุนซืออังกฤษของแท้เทียบได้

ก็คงจะเป็นแบบนั้น หันไปทางไหนมันชักจะมืดมน อย่างไรก็ตามทีคงไม่ใช่เรื่องที่เอฟเออังกฤษจะปิดความคิดไว้เพียงแค่นั้น ถ้ามีกุนซือต่างชาติที่เหมาะสมจริงๆก็ควรเก็บมาขบคิดได้เหมือนกัน

อย่างรายของอาร์แซน เวนเกอร์ หลายคนหนุนหลังเหมือนกัน ถึงแม้จะเป็นกุนซือต่างชาติ แต่คลุกคลีกับฟุตบอลอังกฤษมายาวนาน จนแทบจะไม่ใช่ต่างชาติไปซะแล้ว

เรื่องฝีมือคงไม่ต้องการันตีอะไรกันมาก เพราะเห็นกันอยู่แล้ว เวนเกอร์สามารถสร้างรูปแบบการเล่นที่ควรจะเป็นให้กับทีมชาติอังกฤษได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องห่วงเรื่องบประมาณ เพราะสามารถเรียกตัวนักเตะคนไหนเข้ามาเล่นได้ทุกเมื่อ

ไม่ต้องห่วงเรื่องนโยบายเหมือนการทำงานให้อาร์เซนอล นักเตะอายุมากหรืออายุน้อย สามารถคิดเองทำเองว่าจะเลือกใครได้ทั้งนั้น

หลายคนต้องการแบบนี้ ก็ยังคงมีความเป็นไปได้เช่นกัน แต่มีสถานการณ์เดียวกับอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาเป็นตัวปิดกั้นเส้นทางก็ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเลือกไปคุมทีมชาติแทนสโมสร

อาร์แซน เวนเกอร์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้นานแล้วว่า ถ้ายังมีไฟก็ขอเลือกที่จะคุมทีมในระดับสโมสรดีกว่า เพราะต้องการทำงานแบบต่อเนื่อง ตื่นนอนมาก็เดินทางไปทำงานทุกๆวัน งานคุมทีมชาตินั้นมันเหมือนคนที่เกษียณอายุแล้ว

นั่นเพราะเกมทีมชาติไม่ได้เตะกันทุกสัปดาห์แถมมีเกมกลางสัปดาห์เข้ามาแทรกอีกต่างหาก แต่ถ้าเป็นกุนซือทีมชาติได้เพียงเดินทางไปสนามโน้นสนามนี้เพื่อดูเกม โดยที่ไม่ได้ทำอะไรมากมาย ไม่ได้ขลุกอยู่กับนักเตะ ทำงานแค่ไม่กี่วันในหนึ่งปี

เป็นแบบนั้นมันว่างมากเกินไป และมันเป็นลักษณะงานของคนไม่ค่อยมีไฟแล้ว หากไปถามอาร์แซน เวนเกอร์ ในตอนนี้อาจจะยังคงได้คำตอบเดิมอยู่ ยังมีงานอีกมากมายให้แก้ไขในทีมอาร์เซนอล

ยังคงค้างคาอยู่เพียบ จะให้ลุกเดินจากไปแบบหมดไฟคงเป็นไปได้ยาก ทว่าทุกอย่างไม่สามารถฟันธงได้อีกเช่นกัน เหมือนกับฟาบิโอ คาเปลโล่และแฮร์รี่ เรดแนปป์นั่นแหละ

โอกาสที่จะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นมันก็มีมากพอเท่าๆกัน แต่จะให้ไม่สนใจหรือไม่คิดอะไรเลยคงเป็นไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีข่าวคราวของเรดแนปป์หรือเวนเกอร์โผล่มาให้เราได้คิดตามกัน

ทีมชาติอังกฤษกำลังอยู่ในช่วงของการผลัดเปลี่ยน การผ่องถ่ายนักเตะรุ่นเก่าๆ เริ่มโดนโละทิ้งไปเรื่อยไม่ถูกแบกหามไว้บนบ่าให้เหนื่อยเปล่าอีกต่อไป

นักเตะรุ่นใหม่กำลังเข้ามาทดแทน อย่างริโอ เฟอร์ดินานด์ เป็นตัวอย่าง อายุอานามรวมทั้งเรื่องของความฟิตมีปัญหาจนเริ่มถูกมองข้ามไปแล้ว

สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ อยู่ในช่วงของโอกาสสุดท้าย ในขณะที่แฟรงค์ แลมพาร์ด,จอห์น เทอร์รี่หรือสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ก็จะทยอยกันไป

กุนซือคนใหม่จึงต้องสามารถคาดหวังกับงานใหม่ๆได้ด้วย แน่นอนว่าทั้งคาเปลโล่ที่ช่วงหลังบอลโลกเน้นเด็กเป็นพิเศษ อาร์แซน เวนเกอร์ ชอบอยู่แล้วกับเด็กๆ แฮร์รี่ เรดแนปป์ ก็เริ่มให้โอกาสดาวรุ่งในทีมมากยิ่งขึ้น แม้ว่ายังมีคนกังขาถ้าสเปอร์สขาดนักเตะต่างชาติอย่างฟาน เดอร์ ฟาร์ต,แกเร็ธ เบลหรือลูก้า โมดริชแล้วจะเค้นความสามารถของนักเตะอย่างเลนน่อน,เดโฟได้หรือเปล่า แถมยังโละนักเตะทีมชาติอังกฤษอย่างดาร์เรน เบนท์และปีเตอร์ เคราช์มาแล้ว

อลัน เชียเรอร์ เป็นอีกคนที่ชักจะให้ความสนใจกันมากขึ้น แต่ด้วยประสบการณ์แบบนี้เอฟเอจะกล้าพอหรือเปล่ากับคนรุ่นใหม่ๆ แค่เห็นเชลซีแต่งตั้งวิลลาส โบอาสเข้ามาคุมทีมสะดุ้งกันทั้งสมาคม

กุนซือทีมชาติอังกฤษจึงต้องรอดูกันอีกพักใหญ่เหมือนที่เอฟเอบอกไว้นั่นแหละ วิพากษ์วิจารณ์กันได้ตามสบายแต่อย่ารีบฟันธงลงไปในตอนนี้ว่าใครเหมาะสม รอหลังยูโร 2012 ค่อยว่ากัน

เรื่องโดย "ดามัน"

คอลัมน์ทดเจ็บ3นาที นสพ.กีฬาฮอตสกอร์