ใช้งานได้แล้ว! เฟซบุ๊คไทย คสช.ปัดปิดระบบ เร่งตรวจสอบสาเหตุ
วันนี้(28 พ.ค.) มีรายงานข่าวว่าเฟซบุ๊คของประเทศไทยไม่สามารถเข้าใช้งานได้ทั้งการโพสต์ข้อความและการเข้าระบบ แต่ในต่างประเทศยังคงใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้มีรายงานว่ายังมีบางผู้ใช้งานที่สามารถใช้เฟซบุ๊คได้แต่ทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟนไม่สามารถเข้าได้แล้ว ล่าสุดเวลา 16.30น. เฟซบุ๊คสามารถใช้งานได้แล้ว ซึ่งเมื่อเวลา 16.45น. ทางคสช.ได้ทวิตข้อความเผยว่า คสช.ยืนยันไม่มีนโยบายปิดระบบเฟสบุ๊ค มอบICTตรวจสอบแก้ไขแล้วปรากฏเกิดจากข้อขัดข้องทางเทคนิคที่gateway ขณะนี้กำลังแก้ไข คาดว่า17.00น.เปิดใช้ได้
ทั้งนี้ พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่มีคำสั่งเกี่ยวกับการบล็อกเฟซบุ๊ค หลังจากเกิดเหตุที่ประชาชนเข้าใช้บริการไม่ได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.50 น.ของวันนี้ คสช. ไม่มีความจำเป็นต้องบล็อก และหากจะบล็อกก็คงต้องมีคำสั่งออกมาก่อนรองโฆษกกองทัพบก กล่าว ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ระบุว่า คสช.ไม่ได้มีคำสั่งระงับการใช้เฟสบุคในขณะนี้ และมีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ขอตรวจสอบข้อมูลก่อน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ยืนยันว่าคสช.ไม่ได้สั่งระงับการใช้เฟสบุคทั่วประเทศ เพราะเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่จะตามมา เบื้องต้นเข้าใจว่าน่าจะเป็นการป้ายสี เข้าใจว่าน่าจะเป็นความขัดข้องจากระบบ IT โดยขณะนี้กำลังตรวจสอบสาเหตุอยู่ - ICT ประสานเฟซบุ๊ก-ไลน์-ยูทูป ระงับเนื้อหาขัดกฏหมายเป็นรายบุคคล ไอซีที ปิดแล้วกว่า 200 เว็บไซต์ เตรียมประสาน เฟซบุ๊ก-ไลน์-ยูทูป ระงับเนื้อหาขัดประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นรายบัญชี นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เผยว่า ขณะนี้ปิดเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาขัดต่อประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปแล้ว 219 เว็บไซต์ และเตรียมประสานความร่วมมือไปยังต่างประเทศเพื่อขอปิดบัญชีผู้ใช้งานเป็นรายบัญชีกรณีพบการนำเสนอเนื้อหาที่ผิดกฏหมายในสื่อออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ และยูทูป โดยตั้ง 3 คณะทำงานเพื่อกำกับดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ในระดับที่เข้มข้นมากขึ้น ประกอบด้วย 1. คณะทำงานด้านการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล มีหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ การใช้เว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อพบการฝ่าฝืนสามารถระงับการเผยแพร่ข้อมูลนั้นๆ ได้ทันที โดยมีหัวหน้าคณะทำงาน คือ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ และมีคณะทำงานที่มาจากภาคส่วนต่างๆ เช่น ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักข่าวกรอง สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 2. คณะทำงานด้านด้านสืบสวนสอบสวนและปรามปราม มีอำนาจสอบสวน สืบสวน และจับกุม ผู้ที่กระทำผิดนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมาย โดยมีผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และมีผู้แทนจากกองทัพบกร่วมทำงาน และ 3. คณะทำงานอำนวยการ นอกจากคณะทำงานแล้ว ไอซีที ได้เร่งหารือแนวทางการจัดทำเนชั่นแนล อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ (National internet gateway) หรือ ช่องทางสำหรับเชื่อมต่อข่ายงานคอมพิวเตอร์ที่ต่างชนิดกันให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ เพื่อเพิ่มความสามารถในการตรวจสอบและปิดกั้นเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายทำได้ดีขึ้น โดยจะให้บริษัท กสท โทรคมนาคม เป็นตัวหลักในการดำเนินงาน ร่วมกับบริษัท ทีโอที และจะเรียกผู้ให้บริการที่มีเกตเวย์จากต่างประเทศเข้าร่วมหารือ ซึ่งอาจเห็นเป็นรูปธรรมได้ภายใน 1-2 เดือน -
Create Date : 28 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 28 พฤษภาคม 2557 21:01:15 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1073 Pageviews. |
|
|
|