|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
10 พฤษภาคม 2551
|
|
|
|
|
.+*+. เพียงความทรงจำ(เก่าแล้วแต่ดีมาก) .+*+.
ตัวหนังสือสามารถบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไปได้ดีกว่าคำพูดมากมายนัก จึงไม่น่าแปลกที่ฉันจะหลงใหลในเสน่ห์ของตัวอักษรมาหลายปีดีดักแล้ว ฉันมักจะเรียกตัวเองว่า "คนเขียนหนังสือ" อยู่เสมอ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันคงเพราะว่าฉันเขียนหนังสือไม่ดีพอที่จะเรียกตัวเองว่า "กวี" ได้ล่ะมั้ง โลกของตัวอักษรสวยงามนัก แค่มีปากกาสักด้าม เศษกระดาษสักแผ่น และมีเขาคนนั้นเป็นพระเอกของเรื่องสักคนก็คงเพียงพอ
เรื่องราวความรักของฉันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าในสมุดบันทึกประจำวันของฉัน มีชื่อเขาตั้งแต่วันมอบตัวทีเดียว… คงเพราะความบังเอิญที่ทำให้เราสองคนมักจะได้ทำอะไรด้วยกันเสมอ ได้เล่นละครด้วยกัน ได้นั่งคู่กันในห้องทดลองวิทยาศาสตร์ หรือแม้กระทั่งไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้ง… แต่เรากลับไม่ได้ใกล้ชิดกันเท่าที่ควร ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
…จนวันหนึ่ง… "มีนอยากวาดรูปเหรอ เราสอนให้ก็ได้นะ" นี่แหละประโยคสำคัญที่ทำให้เราสองคนได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากขึ้น เขารีบกระวีกระวาดไปหากระดาษกับดินสอมาวางไว้ตรงหน้าฉัน ไม่รู้ว่าวิญญาณครูไปสิงอยู่กับชายคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เขาลากเส้นเป็นตัวอย่างแล้วให้ฉันลองทำตามไปช้าๆ ลมที่พัดแรงทำให้ผมของฉันปลิวจนยุ่งไปหมด "ขอโทษนะ" เขาพูดแล้วเอื้อมมือมาหยิบปอยผมของฉันที่ปลิว เพื่อเหน็บหูของฉันไว้อย่างเดิม "ขอบคุณนะเฟิร์ส" ฉันพูดเขินๆ ใบหน้ากลายเป็นสีแดงระเรื่อ เขายิ้มบางๆเหมือนกับจะบอกว่าไม่เป็นไร หลังจากทนนั่งดูฉันลากเส้นที่ดูไม่ได้เอาเสียเลยมาเป็นเวลานาน เขาก็ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างหดหู่ "แย่กว่าเราตอนฝึกวาดใหม่ๆซะอีก" เขาทำท่าทางเหมือนครูที่กำลังดุนักเรียนอยู่ยังไงยังงั้น "ก็คนมันไม่เก่งนี่นาไม่ต้องสอนก็ได้นะ" ฉันบ่นเบาๆแล้ววางดินสอลงแรงๆ "เอาเหอะฝึกต่อไปละกัน วาดรูปน่ะไม่ยากหรอกถ้ามีคนสอนดีๆอย่างเรา" เขาบอกยิ้มๆ ฉันส่ายหน้ากับความหลงตัวเองของเขา…หลงตัวเองจริงๆนะนายเฟิร์สจอมเก๊ก…
เราสนิทกันมากขึ้นทุกที…สนิทท่ามกลางเสียงแซว และวิพากษ์วิจารณ์ของเพื่อนที่ไม่เว้นแม้แต่ในคาบเรียน "สวีทกันจังเลยคู่นี้" เสียงเพื่อนๆที่ดังมาจากด้านหลังห้องทำให้ฉันต้องวางดินสอลงอายๆ "เฮ้ย! เธออย่าแซวซิเราไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นสักหน่อย" เฟิร์สแก้ตัวให้ แต่เพื่อนๆ ทำสีหน้าไม่เชื่อ แต่พอเห็นหน้าตาเอาเรื่องของฉัน ก็เลยจำใจต้องสงบปากสงบคำแล้วเดินหนีไปคุยกันที่อื่นแทน "ช่างเขาเหอะ" ฉันพูดเบาๆแล้วก้มหน้าก้มตาวาดรูปต่อไป "มีน…เรามีอะไรจะบอก" เขาพูดท่าทางเขินๆ "อารายเหรออออ" ฉันเงยหน้าขึ้นมองแล้วพูดลากเสียงยาว "เราชอบผู้หญิงคนหนึ่งนะ" สีหน้าอายๆของเขา ทำให้ฉันแอบหวังอยู่ลึกๆ ว่านี่คงจะเป็นวิธีการบอกรักทางอ้อมของเขา แต่…. "คนนั้นไง" ว่าแล้วเขาก็ชี้ไปที่เพื่อนร่วมสถาบันคนหนึ่งที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ฉันหันไปยิ้มล้อบอกไม่ถูกเหมือนกัน ว่าทำไมไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลยจนนิดเดียว อาจจะเป็นเพราะว่าฉันไม่เคยหวังให้เขามารัก แค่รู้สึกรักเขาอยู่ฝ่ายเดียวก็พอ เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น ฉันวางดินสอลงโดยอัตโนมัติ "เรากลับแล้วนะ" ฉันบอกเบาๆ "ขอบคุณสำหรับการสอนวาดรูปและทุกๆอย่างนะ" "มีนพูดเหมือนสั่งลาเลย" เขาพูดติดตลก "อย่างกับเราจะไม่ได้สอนมีนอีกอย่างนั้นแหละ" "ใครจะไปรู้ล่ะ...ชีวิตมันไม่แน่หรอกเฟิร์ส" ฉันพูดทีเล่นทีจริง แล้วเดินไปปิดกระจกและประตูห้องเรียน เขาเดินมาช่วยอีกแรงหนึ่ง "วันเสาร์เจอกันที่เรียนพิเศษแล้วกันนะ บ๊ายบาย" เขาบอกลาแล้วโบกมือให้ ฉันยิ้มรับแล้วโบกมือตอบไป "กลับบ้านดีๆนะจ้ะหนูมีน" เสียงตะโกนของเขาที่ดังตามหลังมา ทำให้ฉันแอบอมยิ้มบางๆอย่างมีความสุข
ฉันนั่งคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเขา นับตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน ตลอดเส้นทางกลับบ้าน ไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่แสนจะธรรมดาคนนี้จะกลายมาเป็นคนสำคัญของหัวใจ ถึงจะรู้ว่าเขามีคนที่เขาชอบอยู่แล้ว แต่นั่นก็ไม่สำคัญอะไรเพราะฉันก็ยังคงมีความสุขที่จะรักเขา ที่จะได้เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะของเขา มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉันคนนี้แล้ว ฉันหยิบภาพเหมือนของฉันที่เขาวาดให้ตอนวันเกิดขึ้นมาดู "สุขสันต์วันเกิดนะครับ" ฉันยังจำเสียงใสๆของเขาที่บอกตอนเช้าตรู่ในวันสำคัญของฉัน "มีความสุขมากๆนะครับมีน" รอยยิ้มจริงใจของเขาในวันนั้นยังบันทึกอยู่ในความทรงจำของฉันเสมอมา ….ไม่เคยลบเลือน
"โครมมมมมมม!!!!!!" เสียงดังขึ้นที่ถนนสายหนึ่ง บรรดาไทยมุงต่างพากันมามุงดูเหตุการณ์รถคว่ำ ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งถูกหามออกมา กระดาษวาดเขียนตกลงมาจากมือที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดของเธอ ชายแก่คนหนึ่งหยิบขึ้นมาดูเห็นหยดเลือดเปรอะไปทั่วแผ่นกระดาษนั้น แต่ก็พอจะมองเห็นลางๆ ว่าเป็นภาพวาดของหญิงสาว ที่กำลังยิ้มสดใสในชุดนักเรียนโรงเรียนมัธยมปลายชื่อดัง มีลายมือที่เขียนไว้ใต้ภาพอย่างสวยงามว่า "เพียงความทรงจำ…เฟิร์ส" ชายแก่คนนั้นทิ้งภาพไว้ที่เดิมอย่างไม่ใคร่สนใจใยดีนัก ลมเริ่มพัดกระหน่ำแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้กระดาษแผ่นนั้นปลิวตกลงไปบริเวณลำคลองริมถนน และค่อยๆจมหายลงไปใต้ผืนน้ำนั้น…
ผมได้สมุดเล่มนี้มาจากเพื่อนสนิทของเธอ… ผมเลยขอเขียนเรื่องนี้ให้จบด้วยมือของผมแทน
เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมไปเรียนพิเศษก็นึกแปลกใจอยู่ตะหงิดๆว่าทำไมเธอถึงไม่มาเรียน เพราะปกติเธอไม่ใคร่จะชอบหยุดเรียนนัก ก็บังเอิญผมไปพบเพื่อนสนิทของเธอเข้าพอดิบพอดี "เฟิร์ส…รู้เรื่องมีนหรือยัง" เขาถามผมทันทีที่พบกัน สีหน้าของเขามีแววเศร้าๆปรากฏอยู่ ตาก็ดูบวมแดงผิดปกติ "ยังครับ มีนทำไมเหรอ" ผมถามยิ้มๆ เธอก็คงไม่สบายแต่อาจจะหนักหน่อยถึงยอมขาดเรียนวันนี้…ผมคิด "มีนรถคว่ำ ตอนนี้อยู่ห้อง ICU โรงพยาบาล…………." เขาบอก ผมอึ้งไปสักพักใหญ่ๆ พอได้สติอีกทีก็มายืนอยู่หน้าห้อง ICU โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ข้างๆเพื่อนสนิทของเธอคนเดิม เขาจัดการเป็นธุระไถ่ถามพยาบาลถึงเตียงของเธอเพราะไม่เห็นเธออยู่ที่เตียงเดิม "เสียใจด้วยนะคะ คุณมีนาหัวใจล้มเหลวเมื่อ 15 นาทีที่แล้วค่ะ" หูผมอื้อไปหมดจนไม่ได้ยินเสียงพยาบาลที่พูดอธิบายเรื่องราวต่อจากนั้น ถ้าจะถามผมว่าวินาทีนั้นผมรู้สึกเช่นไร ผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน รู้เพียงแต่ว่าน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาท่วมใบหน้าของผมตั้งแต่ได้รับรู้ว่า ........"เธออจากไปแล้ว"........
ผมอ่านบันทึกเล่มนี้หลังจากที่ร่างของเธอฌาปนกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว… ผมเพิ่งรู้ว่าเธอรักผม… แต่ทำไมเธอถึงไม่รู้เลยว่าคำพูดที่ผมพร่ำบอกกับเธออยู่บ่อยครั้งว่า "รักกับชอบแตกต่างกัน" มันคือสิ่งที่ผมอยากให้เธอรับรู้ ผู้หญิงคนที่ผมเคยชี้ให้เธอดูคือคนที่ผมชอบ แต่ผู้หญิงคนที่ผมรักคือ "เธอคนนี้"… เธอคนที่เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ผมอยู่เสมอ… เธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าผมคิดอย่างไรกับเธอ ถ้าผมสามารถขอพรวิเศษใดๆได้ ผมอยากจะขอแววตาคู่นั้นที่เคยจ้องมองผมด้วยความรู้สึกดีๆอยู่เสมอ รอยยิ้มที่เคยมีให้เวลาผมท้อแท้ เสียงหัวเราะที่เคยทำให้โลกทั้งโลกดูสดใส ..…ผมอยากจะขอให้เธอกลับคืนมา…..
เธอคือรักครั้งแรกของผม อาจต้องใช้เวลามากสักหน่อยในการทำใจว่า ต่อจากนี้จะไม่มีเธออยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว ไม่มีคนที่เข้าใจและคอยห่วงใยผมตลอดมา แต่ผมรู้เสมอว่าเธอจะคอยจ้องมองผมอยู่ห่างๆ เหมือนอย่างเคย เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอเรียกมันว่าความสุข และเธอจะรอผมอยู่ ณ ที่แห่งนั้น ตรงดินแดนแห่งความรักที่สร้างไว้สำหรับเราเพียงสองคน… สักวันผมจะไปหาเธอ… หลับให้สบายนะครับ…มีน… หลับตาเถอะนะ…แล้วเราก็จะพบกันอาจเป็นเพียงฝันก็พอใจ หลับตาเถอะนะ…ถึงตัวเราจะแสนไกลห่างกันเพียงไหนก็ใกล้เธอ ชีวิตขีดเส้นทางไว้ให้เราเจอกันขีดทางที่ผกผันให้มีวันห่างไกล หลับตานานนาน…คิดถึงวันเก่าจะยังมีเราสองคน…หลับตาเถอะนะเธอ…
ปล . เครดิต คุณ Neyriney
Create Date : 10 พฤษภาคม 2551 |
Last Update : 6 มิถุนายน 2551 9:55:13 น. |
|
0 comments
|
Counter : 247 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
zulander |
|
|
|
|