แมนฯ ยูฯ ความล้มเหลวแบบเบ็ดเสร็จโดย เดวิด มอยส์
จากสูงสุดคืนสู่สามัญ วลีนี้คงเหมาะสมที่สุดกับ ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ยอดทีมอดีตเคยแรงเจ้าของแชมป์ลีกสูงสุดแห่งเมืองผู้ดี 20 สมัย เพราะจากความสำเร็จที่มีมากมายตลอดหลายทศวรรษภายใต้่การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั้นสร้างปรากฎการณ์ที่ยิ่งใหญ่บนหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังไว้มากมาย แต่ช่วงระยะเวลาเพียง 6 เดือนให้หลังจากการอำลาตำแหน่งของ เซอร์ อเล็กซ์ ความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่แฟนบอล เร้ด เดวิลส์ ไม่อาจคาดคิดก็เกิดขึ้นโดยน้ำมือของ เดวิด มอยส์ เดวิด มอยส์ กุนซือชาวสก็อตแลนด์ที่ได้รับความไว้วางใจโดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์ฺกูสัน ที่หมายมั่นมารับช่วงต่อพร้อมกับสานต่อความสำเร็จที่กุนซือวัย 70 ได้สั่งสมเอาไว้ แต่ความฝันที่ เซอร์ อเล็กซ์ วาดเอาไว้ก็พังทลาย เพราะกุนซือคนบ้านเดียวกัน เดวิด มอยส์ โชว์ความกากทำลายสถิติอันดีงามของ เซอร์ อเล็กซ์ ซะย่อยยับติดต่อกันแบบกองเชียร์ตั้งตัวไม่ทัน ติช เต ฉ่อ ขอเริ่มที่ผลการแข่งขันนัดล่าสุดที่ีเพิ่งจบไปชนิดที่กลิ่นความกากยังคละคลุ้งไม่จางหายเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ยกพลไปเยือนทีมโอลิมเปียกอส ทีมแกร่งจากเมืองเทพนิยาย ประเทศกรีซ โดยก่อนเกมไม่กี่วัน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เพิ่งเสียเงินหลายร้อยล้านปอนด์เซ็นสัญญา นักเตะหน้าเงิน เวย์น รูนี่ย์ ไป หมายจะให้กอบและกู้ชัยชนะเรียกความศรัทธาให้ เดวิด มอยส์ บาง แต่เปล่าเลยตลอด 90 นาทีกับ โอลิืมเปียกอส แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงห่วยแตกพ่ายเจ้าบ้านแบบบอลไม่มีทรง 2-0 พร้อมกับเดินหน้าสร้างสถิติอันเลวร้ายแพ้ทีมจากกรีซเป็นครั้งแรกในรอบ 41 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1972 แต่หากมองในแง่ดี แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ตกรอบเพราะยังมีคิวกลับมาเตะในถิ่นโอลด์ฺแทรฟฟอร์ด อีกนัด ที่ตอนนี้ได้ฉายาต่อท้ายเป็น โอลด์ฺแทรฟฟอร์ด รีสอร์ทแอนด์สปา เพราะระยะหลังมานี้จัดโปรโมชั่นแจกแต้มคู่แข่งเป็นว่าเล่น และในฐานะสื่อตัวเล็กๆ ติช เต ฉ่อ (แม่นระดับพระกาฬ) ขอฟันธงด้วยใจเป็นกลางตั้งแต่เินิ่นๆว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะเก็บชัยชนะเหนือ โอลิมเปียกอส ได้ 3-1 แต่สุดท้ายก็ต้องตกรอบเพราะกฏ Away Goal ไปตามระเบียบ นี่ยังไม่ได้กล่าวถึงศึกฟุตบอลถ้วยภายในประเทศที่มีอีกสองถ้วยก็ล้วนกระเด็นตกรอบสูญพันธุ์ไม่เหลือน้ำเชื้อให้ลุ้นอีกแล้ว เริ่มตั้งแต่แพ้ สวอนซี ซิตี้ 2-1 คารังโอลด์แทรฟอร์ด ในช่วงต้นเดือนมกราคม และต่อด้วยความกากแบบ Continue ปลายเดือนมกราคม ดวลจุดโทษพ่าย ซันเดอร์แลนด์ ปลิ๋วร่วงศึกลีกคัพไปในสุด และสุดท้ายกับศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่กำลังขับเคี่ยวเข้าโค้งสุดท้ายกับโปรแกรม 11 นัดที่เหลืออยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด หลุดวงโคจรลุ้นแชมป์ไปตั้งแต่เดือนมกราคมหลังจากพ่าย เชลซี 3-1 ต่อด้วยแพ่ สโต๊ค ซิตี้ 2-1 และตามมาติดๆ เสมอฟูแล่ม 2-2 ในบ้านตัวเอง เรียกได้ว่า เรื่องแชมป์พรีเมียร์ ลีก ลืมไปได้เลยและส่อแววชวดไปเล่นศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซํ่นหน้าเสียอีก หลังจากมีแต้มตามหลัง อริตลอดกาล ลิเวอร์พูล อยู่ 11 แต้ม ถึงแม้ว่าความเป็นไปได้จะมีหาก แมนฯ ยูฯ ชนะรวด และลุ้นให้ ลิเวอร์พูล แพ้ 4 เกม แมนฯ ยูฯ ก็จะมีแต้มแซงทันที แต่ เดวิด มอยส์ และลูกทีมคงทำไม่ได้ (ไม่เชื่อลองกรอกตาไปทางขวาแล้วพิจารณาซะว่า ตารางคะแนนไม่เคยโกหก) ถึงตรงนี้ก็ผ่านไป 6 ย่อหน้าแล้ว (ไม่เชื่อลองเลื่อนเม้าส์นับดู) แฟนบอลหลายท่านคงเกิดคำถามว่าทำไมล่ะ? ทำไม? บอร์ดบริหารถึงไม่ปลด เดวิด มอยส์ ออกจากตำแหน่งกุนซือเสียทีทั้งๆทีพาทีมร่วงหล่นเป็นสาละวันเตี้ยลงอยู่แบบนี้ เหตุผลประการแรกคือ 1.เดวิด มอยส์ คือกุนซือที่ เซอร์อเล็กซ์ เลือกเข้ามา 2.บอร์ดบริหารยังยำเกรงต่อเซอร์ อเล็กซ์ 3.เซอร์ อเล็กซ์ ไม่อยากเสียหน้ากับการตัดสินใจที่ผิดพลาดเลือก มอยส์ เข้ามารับช่วงต่อ แต่ในทางการแพทย์ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าหากปล่อยเนื้อร้ายให้แพร่กระจายฝังรากลึกก็มีแต่จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นเน่้าเฟะไม่เหลือชิ้นดี สรุปสุดท้ายนี้ ติช เต ฉ่อ ขอจบด้วย พุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า ยงฺกิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมฺมํ แปลว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา ผู้เล่นไม่ต่างจากซีซั่นที่แล้วแต่ผลงานต่างกันราวฟ้ากับเหว
Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2557 20:56:50 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1023 Pageviews. |
|
|
|