KEEP WALKING
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
11 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
ข่าวฝากนักอยากเขียน

งานสัปดาห์หนังสือ วันที่ 11 – 23 ตุลาคม 2551

เหมือนเดิม ต้องไปเชียงใหม่ และไปพิษณุโลก ตั้งแต่มีผลงานกับเขา ไม่เคยว่างไปงาน ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ไปลูบคลำหนังสือที่อยากได้ น้ำลายไหลยืด แต่พอเริ่มเขียนนิยาย กลับไม่เคยได้ไปงานอีกเลย

ข่าวคราวจากเมืองนิยาย ข่าวร้อนข่าวแรกที่คนเขียนสนใจเพราะใกล้เคียงตัวเอง นี่ไม่ใช่การสปอยล์ใคร แต่เห็นว่ามีประโยชน์กับรุ่นน้อง ๆ เลยนำมาเล่าข่าวกึ่งวิพากษ์วิจารณ์แบบกว้าง ๆ เพราะเห็นว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวนิยายแต่อย่างใด

คือข่าวจากเว็บคนอ่านมีชื่อเว็บหนึ่ง ที่มีประเด็นฮอตกับนักเขียนเรื่องการวิจารณ์ผลงาน

ตอนแรก ความเห็นของคนอ่านหลายท่าน เหมือนแส้ฟาดกระหน่ำบนหลังคนเขียนป้าบ ๆ

“หยิ่ง...อหังการ...อีโก้จัด...”

นั่นมันฉัน!!

“นักเขียนรุ่นใหญ่ เขายังไม่เป็นแบบนี้เลย...” อันนี้คุ้นตาอยู่นะ หึ ๆ

แต่พออ่านละเอียด อ้าว...คำวิจารณ์โฟกัสไปที่การใช้ภาษาของผู้เขียน สะกดผิด ใช้คำผิด...

ไม่ใช่ฉัน...

หากการโต้ตอบจากนักเขียน ทำนองว่า “ใครใคร่อ่านก็อ่าน...ใครไม่ก็ไม่”

นั่นก็ฉัน!!

สิริรวมแล้วใกล้ตัวฉัน เลยเอามาเขียนบล็อกเสียเลย คนเขียน กับนักเขียนท่านดังกล่าว มีความเหมือนและแตกต่างกัน เป็นประเด็นน่าสนใจจึงนำมาเขียนบล็อก ถือว่าเป็นประสบการณ์ให้น้อง ๆ ที่อยากเป็นนักเขียนได้อ่าน

ประการแรก หยิ่ง อหังการ อีโก้จัด เราเหมือนกันตรงนี้ แต่คนละประเด็น

ฝ่ายนั้นถูกกล่าวหาว่า เพราะนิยายตัวขายดี พิมพ์ซ้ำหลายครั้ง จึงไม่ง้อคนอ่าน อหังการว่าถ้านิยายไม่ดีจริง จะขายดีแถมพิมพ์ซ้ำอีกหรือ

ส่วนคนเขียน หยิ่ง อีโก้จัด เพราะอะไร เพราะเรารู้ว่าตัวเรามีความพยายามในการเขียนนิยายให้มันต่าง ให้มันสร้างสรรค์ ไม่เป็นพิษภัยสอดไส้ยาสวาท ใครก็อ่านได้ สำนวนภาษาพอไปวัดไปวา ให้คนอ่านไม่รู้สึกว่าเสียดายเงิน เราพยายามใส่คุณค่าลงไปในงาน เราจึงหยิ่ง เพราะเราถือตัวเหลือเกินว่ายังไง ๆ เราก็พยายามเขียนงานที่มีคุณภาพ เรามีความรับผิดชอบต่อสังคม แม้จะเป็นแค่แมงป่อง แต่ก็มีพิษร้ายเหมือนกันล่ะน่า อย่างน้อยก็ทำจริง ทำได้อย่างพูด ไม่ใช่สักแต่คุย หรือคอยวิจารณ์เรื่องส่วนตัวชาวบ้านให้ตัวเองดูสูงส่งขึ้น

ประการที่สอง มารยาทของคนเขียนและนักเขียนคนนั้น ที่มีต่อความคิดเห็นของคนอ่าน อันนี้ต้องแบ่งเป็นสองประเด็น

หนึ่ง นิสัยของมนุษย์ทุกคนไม่เหมือนกัน คุณจะไปคาดหวังว่านักเขียนจะต้องวางตัวดี มีภาพลักษณ์งดงามน่าเชื่อถืออยู่ตลอดนั้นเป็นไปไม่ได้

ตัวอย่างเช่น คุณกล่าวชมใครสักคน เขาอาจถ่อมตัว หรืออาจขอบใจ หรือาจยิ้ม ๆ พยักหน้ารับ หรือาจตีปีก พูดกลับว่า “ก็แน่ล่ะ ฉันเจ๋ง” เห็นไหม แค่นี้ก็บ่งบอกว่าคนเรานั้นต่างกัน

คนเขียนเอง นิสัยไม่ดีแบบนี้ จะให้มาเปลี่ยนเป็นอ่อนน้อมถ่อมตัว เอาอกเอาใจคนอ่าน หรืออย่างน้อย ๆ เวลาโกรธให้พูดหยาบน้อย ๆ หน่อย...ก็ทำไม่ได้ นี่คือคนเขียน จะเรียกสันดานหรือจิตวิญญาณก็แล้วแต่ มันเป็นเช่นนี้ ไม่ชอบปั้นหน้า ดัดจริตเสแสร้งเอาใจเพื่อรักษาเรตติ้ง ใครชมก็พยักหน้ารับ ไม่ถ่อมตัว เพราะไม่รู้จะทำไปทำไม ใครมาแดกดันจิกกัด ก็กัดจิกตอบ จะให้ตอบไปนุ่ม ๆ ว่า “ไม่เป็นไร...เดี๋ยวกรวดน้ำไปให้...” ไม่ใช่คนเขียนแน่

เข้าใจนักเขียนท่านนั้นดี อย่าว่าแต่พวกเราที่มีงานออกสู่สายตาประชาชีเลย คนทุกคน เวลาถูกวิจารณ์ในทางไม่ดี ก็รู้สึกโกรธหรือใจเสียทั้งนั้น เพียงแต่วิธีการรับมือกับคำวิจารณ์ และการแสดงออกเพื่อโต้ตอบมันต่างกัน

ประเด็นที่สอง สำหรับโรบินฮู้ด การวิจารณ์เรื่องการใช้ภาษา และการสะกดคำ เป็นเรื่องที่สบายบรื๋อสะดือโบ๋มาก เพราะถ้ามีผิด แสดงว่าคนเขียนพิมพ์ผิด หรือไม่ได้ตรวจสอบการสะกดคำนั้นก่อน และใช้ภาษาผิดเอง ใครติงสิดี ก็เราไม่เห็น เขาเห็นเขาช่วยชี้ เวลารีไรต์จะได้สะดวกขึ้น

แต่หากเป็นการวิจารณ์เนื้อหาของนิยาย คนเขียนก็บ่ยั่น เพราะนิยายของคนเขียน เป็นนิยายที่อ่านแล้วต้องคิดต่างหลากมุมมองอยู่แล้ว ใครจะวิจารณ์ยังไงก็แล้วแต่ ตามสบาย จะมาว่าตัวละครเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่สมเหตุสมผล คนเขียนพร้อมรับฟังด้วยความเข้าใจ นิยายของคนเขียนซับซ้อนในเรื่องความรู้สึก ถ้าไม่ชอบใจอาจเพราะแปลเจตนาคนเขียนผิด แต่ก็โอเค เพราะมันเป็นเรื่องของคนอ่าน ที่อ่านแล้วมีความคิดยังไงกับเนื้อหาของเรื่อง

โรบินฮู้ดกับนักเขียนท่านนั้น ต่างกันตรงนี้

คนเขียนหนังสือ “ขาย” ต้องเป็นคนที่ใช้ภาษาได้ถูกต้องในระดับหนึ่ง ที่ผ่านมาเห็นนักเขียนบางคนใช้ภาษาไทยผิด ๆ ถูก ๆ ชวนให้นึกไปถึงมาตรฐานของบก.และสำนักพิมพ์ แต่กระนั้นเลย เอาแค่ตัวนักเขียนก่อน

คุณมีจินตนาการสร้างสรรค์นิยายออกมาได้หลายเรื่อง บางเรื่องเป็นที่นิยม บางเรื่องขายดีเหมือนเททิ้ง แต่ทำไมคุณยังใช้ภาษาไทยผิด ๆ สะกดผิด?

นี่เป็นความกังขาที่โรบิ้นเฝ้ามองมาตลอด เนื้อหาของนิยายคุณถูกใจคนอ่าน แต่ขณะเดียวกันก็ได้รับคำวิจารณ์เรื่องการใช้ภาษาผิด ๆ ถูก ๆ พอ ๆ กันควบคู่ไปด้วย ทำไมล่ะ? คนเขียนนิยายควรเริ่มต้นจากการใช้ภาษาให้ถูกต้องก่อนมิใช่หรือ? หรือคุณเน้นที่เนื้อหาดูดคนอ่านไว้ก่อน เรื่องภาษาเอาไว้ทีหลัง?

ถ้านิยายขายดีของคุณ เป็นวงกลมสีขาวที่ขยายใหญ่ขึ้นตามยอดขายมหาศาล การใช้ภาษาผิด ๆ สะกดผิดของคุณก็เหมือนจุดสีดำเล็ก ๆ ที่แต้มอยู่ในสีขาวนั้น

สินค้ามีตำหนิ และลูกค้าตาแหลมจะไม่ซื้อ

เป็นคนเขียนนิยาย แต่คำว่า คะ ค่ะ ยังใช้ไม่เป็น สะกดคำผิดซ้ำซาก เวลาเขียนนิยายรีบร้อนปั่นงานจนไม่เคยคิดเปิดพจนานุกรมหรือไร? กลัวส่งต้นฉบับไม่ทัน? กลัวไม่มีงานออกขายเยอะ ๆ?

โรบิ้นขอล่อบก.หน้าไหนก็ตามสักดอกเถอะ คุณปล่อยงานชุ่ย ๆ ออกมาได้ยังไง หนังสือที่มีคำผิดนั้นประจานคุณ คุณรู้ตัวไหม จะโทษนักเขียนทั้งหมดก็ไม่ได้ ในเมื่อมันผิดและมาถึงมือคุณ คุณก็ยังปล่อยมันไปแบบผิด ๆ หรือคุณเองก็ไม่รู้ ผิดหรือถูก ไม่เคยเช็ก ไม่เคยเปิดพจนานุกรม ฉันไม่ได้จบสาขาภาษาไทยนี่...

ตอนนี้โรบิ้นกำลังอ่านนิยายตัวเอง เช็กคำผิดและจุดบกพร่องต่าง ๆ แล้วขีดฆ่า วงกลมสารพัด รู้สึกว่าตัวเองทุเรศที่งานออกมายังไม่ถูกใจเท่าไร คุณนักเขียนทั้งหลายเคยมีไหมความรู้สึกแบบนี้?

เราสะกดผิด...บก.ปล่อยผ่านได้ไงหว่า...สรุป ทั้งเราทั้งบก.ทั้งพิสูจน์อักษร ผิดกันหมด

คนอ่านบางคน เขาเขียนนิยายไม่เป็น แต่เขายังไม่เคยสะกดผิดหรือใช้คำผิด นี่คนเขียนนิยายออกขายเอาเงินแท้ ๆ อายไหมเล่านั่น? เอ๊ะ...หรือไม่อาย?

เป็นบทเรียนสำหรับนักอยากเขียนรุ่นน้อง ๆ เริ่มต้นที่ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเสียก่อน อ่านแล้วสบายตา แม้เนื้อหาไม่โดนใจดึงดูด แต่คนอ่านชื่นชมว่าใช้ภาษาไทยได้ดีไม่มีวิบัติ ก็ถือเป็นก้าวแรกที่สวยงาม

เขาวิจารณ์เนื้อหา อาจหมายถึงเขาแปลเจตนาคนเขียนผิด แต่ถ้าวิจารณ์การใช้ภาษาไทย ก็จบเห่ สิ้นท่าแน่นอน

โรบินฮู้ดเองก็จะพยายามมิให้มีจุดบกพร่องเรื่องนี้อีก จะทำให้ดีที่สุด แม้วันที่นิยายทั้งเล่มไร้คำสะกดผิดจะอีกยาวไกล แต่สัญญาว่าจะพยายาม

ข่าวต่อไป กับนิยายท๊อปเท็นในบางเว็บ

ประเด็นร้อนเริ่มต้นที่ตัวอย่างเนื้อหานิยาย อ่านแล้วรู้สึกว่าคนเขียนน่าจะหันไปเอาดีทางการขายหนังสือปกขาว หนังสือปลุกใจเสือป่า พี่เชียร์เต็มที่จ้ะ ขายดีแน่นอน ไม่ได้ประชด

ไม่รู้เว็บมาสเตอร์ปล่อยไว้ได้ยังไง เห็นเรื่องนี้น้อง ๆ ในเว็บทักท้วงกันมานาน ก็ยังเห็นนิยายแนวนี้ติดอันดับฮอตฮิตอยู่เสมอต้นเสมอปลาย พลอยให้นักอยากเขียนรุ่นใหม่ ๆ ถือเป็นค่านิยมที่ว่า ไม่มีเลิฟซีน ก็ไม่ดัง!

แฟนคลับเหนียวแน่นด้วยนะ อย่าแตะเชียว คนอ่านแยกแยะได้หรอก เขียนไปเลย เอาอีก...

ใครเรียกร้องเรื่องนี้อยู่ คนเขียนไม่อยากบอกคุณว่ามันป่วยการ เสียเวลาเปล่า ๆ ฮะ ตราบใดที่คนยังนิยมซื้อผลงานแบบนี้ มันก็ยังมีคนเขียนแนวนี้ออกมา

แต่รุ่นน้องที่ไม่ได้เขียนงานแนวนี้ อย่าท้อ และอย่าโกรธ ถ้าท้วงใครเข้าแล้วถูกเขากล่าวหาว่าเราอิจฉา

นิยายของน้องอาจไม่มีคนนิยมอ่าน ยอดวิวไม่ถล่มทลายมหาศาล แต่นิยายของน้อง “ใส สะอาด และบริสุทธิ์” ข้อนี้น้องรู้อยู่ในใจ น้องภูมิใจไหม?

นิยายของน้องไม่ติดท็อป เพราะไร้บทสยิวดึงดูดคนอ่าน แต่น้องไม่ต้องเผชิญกับอาการหน้าร้อนผ่าว เมื่อมีใครสักคนตั้งกระทู้ว่านิยายของน้องเป็นนิยายไร้ค่า ขยะ สมควรโดนแบน อนาจาร อยากดัง ไร้ความรับผิดชอบ ไปเขียนหนังสือโป๊ขายดีไหม? บลา ๆ ๆ ๆ นิยายติดท็อปแล้วโดนด่าแบบนั้น น้องเอาไหม? คนเขียนแนวนั้น ปากบอกว่าไม่แคร์ ๆ น้องคิดหรือว่าเขาไม่แคร์จริง ๆ มีใครชอบที่ตัวเองโดนด่า หรือว่ามี?

แต่ต้องวางคอไว้บนบ่าต่อไป เพราะขี่หลังเสือแล้วลงไม่ได้ เสียหน้าแย่...น้องคิดว่าเขามีความสุขไหมเล่า?

ทำดีไม่อายใคร คำนี้ใช้ได้ผลเสมอจ้ะ วันนี้น้องอาจยังไม่เห็น แต่อนาคตน้องได้เห็นแน่ ๆ ทุกอย่างล้วนมีจุดอิ่มตัว หรือจุดจบของมัน

เขียนนิยายใส ๆ น่ารัก ๆ แม้ไร้คนอ่าน แต่งานของหนูผู้ปกครองปลื้ม หนูไม่โดนด่า ชอบใจไหม? เวลามีกรณีวิพากษ์วิจารณ์นิยายแนวนี้ หนูไม่ต้องรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ หรือต้องปั้นหน้าว่าไม่แคร์ ไม่สนใจให้เมื่อยตุ้ม

จบข่าว ความจริงยังมีเรื่องลอกงานคนอื่นมาขาย แต่เรื่องทำนองนั้นโหลไปหน่อย หลักฐานก็โจ่งแจ้งไปนิด เลยไม่ได้เอามาลง คนเขียนชอบข่าวของพวกทำเนียน ๆ ลอยหน้าลอยตาหนา ๆ อยู่ในวงการอย่างไร้สำนึกมากกว่า

จะว่าไป วงการนี้ก็พัฒนาขึ้น (หรือลงไม่ทราบ) เงินทอง ชื่อเสียง หอมฟุ้ง บันไดก็มีให้ขึ้นง่าย ๆ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่วัดกันด้วยฝีมือจริง ๆ ผลงานไร้ที่ติ และเต็มเปี่ยมด้วยจรรยาบรรณ มาจากความพยายามและความรับผิดชอบของนักเขียนรุ่นใหญ่เหล่านั้น

จนกลายเป็นตำนาน เป็นสิ่งทรงคุณค่าที่คงอยู่ทุกวันนี้

อีกนิด...เพื่อนร่วมวงการคนใด ที่เป็นนักอ่านตัวยง อยากฝากกระซิบว่า การแสดงความคิดเห็นของตนเองต่อนิยาย “ของคนอื่น” ในที่สาธารณะนั้นมิใช่มารยาทที่ดีนัก

ในเมื่อคุณเองก็ขายหมู แต่ไปวิจารณ์หมูเขียงข้าง ๆ ว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้กับลูกค้า แม้ไม่ได้ใช้ถ้อยคำรุนแรง แต่คุณก็กำลังอยู่ในที่แจ้ง คุณคิดหรือว่าเจ้าของหมูคนนั้นเขาไม่มาอ่าน หรืออ่านแล้วไม่โกรธ

โอเคว่าคุณเองก็เป็นคนอ่าน มีสิทธิ์วิจารณ์งานที่อ่านได้เต็มที่ แต่อย่าลืมว่าคุณก็เป็นนักเขียนเหมือนกัน ถ้าเจ้าของเรื่องมาเห็นคุณวิจารณ์ล้อไปกับคนอ่าน ว่าเรื่องนั้นเป็นอย่างนี้ ๆ ...นั่นไปนิด...นี่ไปหน่อย...เจ้าของเรื่องเขาอาจเคืองในใจ คิดว่ายายนี่ใคร? เป็นนักเขียนเหมือนกัน แต่สะเออะมาวิจารณ์งานฉัน ตัวเองเขียนดีกว่าฉันงั้นหรือ?

เสียวไส้แทนว่ะ ถ้าเป็นไปได้ อยู่เฉย ๆ ดีกว่าไหม ถึงวิจารณ์ไม่รุนแรงแต่เขาอาจคิดว่าคุณดิสเครดิต เพราะเป็นที่สาธารณะด้วย ยังไงก็นึกถึงใจเขาใจเราบ้าง ขายหมูเหมือนกัน อยากคุยผูกมิตรกับคนอ่านมีหลายวิธี ไม่ใช่การแจมกระทู้วิจารณ์นิยายคนอื่น คนอ่านอาจชอบพอคุณ แต่คนเขียนที่คุณไปวิจารณ์งานเขา คงชักไม่ค่อยพอใจคุณแล้วล่ะ

หรือคุณไม่แคร์ เพราะแคร์แต่คนอ่าน (ลูกค้า)






Create Date : 11 ตุลาคม 2551
Last Update : 11 ตุลาคม 2551 14:40:01 น. 4 comments
Counter : 379 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ
แวะมาอ่านได้ข้อคิดดี ๆ เยอะดี
เห็นด้วยที่เว็ปบางเว็ปนิยายติดอันดับออกจะเรต x ทั้งนั้น และก็รุนแรงขึ้นทุกที นิยายที่อิมาอิแต่งก็ลงที่นั่น แม้คนจะอ่านไม่มาก ไม่ค่อยมีเม้นต์แต่มั่นใจว่านิยายตัวเองสะอาดพอค่ะ


โดย: อิมาอิซัง วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:16:40:28 น.  

 
หนังสือเล่มแรกของตัวเองที่ตีพิมพ์
เป็นอะไรที่มีคำผิดจนไม่น่าให้อภัย
ในที่นี้คือไม่ให้อภัยตัวเองที่ปล่อยให้มีคำผิดหลุดรอดไปเยอะขนาดนั้น
เอาหนังสือเล่มแรกมาอ่านทีไร เหนื่อยใจกับคำผิดทุกที
ตอนนี้เลยพยายามที่จะตรวจเช็คด้วยตัวเองก่อนที่จะส่งให้สนพ.พิจารณาเสมอ
เพราะกลัวว่าคนอ่านจะอ่านไปด่าไปอ่ะจ้ะ



โดย: ปาณิกดา IP: 61.19.66.132 วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:19:36:16 น.  

 
ชอบใจมากที่คุณโรบินฮู้ดนำประเด็นนี้มาเขียน ครั้งแรกที่ได้อ่านเรื่องนี้ในเวปนั้น เชื่อมั้ยชั้นคิดถึงคุณเป็นคนแรก เพราะสังเกตุความเหมือนที่แตกต่างระหว่างคุณกับนักเขียนคนนั้น โดยเฉพาะเรื่องความหยิ่ง อหังการ อีโก้จัด ซึ่งคุณประกาศมาตลอดว่าคุณเป็นจริงๆและชั้นก็เห็นด้วยที่คุณจะออกอาการดังกล่าวเพราะจากผลงานของคุณที่ออกมา เป็นชั้น ชั้นก็คงภูมิใจเหมื่อนคุณ เชื่อชั้นเถอะคุณโรบินฮู้ด ชั้นชอบ style คุณจริงๆ
ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง แต่ตลาดหนังสือกลับโตวันโตคืนมูลค่าตลาดมหาศาลจริงไม่น่าแปลกใจที่มีสำนักพิมพ์และนักเขียนหน้าใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นทุกปี ทุกคนเร่งผลิตผลงานออกมาให้มากที่สุดโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ สุดท้ายผู้บริโภคอย่างชั้นจึงเสียเปรียบเพราะหลายครั้งเสียเงินไปกับงานเขียนที่ไม่มีคุณภาพ
เอาละเขียนมามากมาย จริงๆแล้วแค่อยากย้ำกับคุณว่าอีกครั้งว่า ชอบ style คุณจริงๆ

พรทิพย์


โดย: พรทิพย์ IP: 58.8.216.251 วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:20:01:44 น.  

 
เบื่อนิยายที่มีแต่บท x เหมือนกันค่ะ
ซื้อมาบางเล่มอ่านแต่ปกหลังคร่าวๆ เนื้อเรื่องดูน่าอ่าน
แต่พอมานั่งอ่านข้างในเล่ม แค่สองสามหน้าก็ไม่อ่านต่อแล้ว มีตั้งแต่หน้าแรก
เลยขนไปขายต่อให้ขายร้านหนังสือมือสอง
ชอบอ่านคำบรรยายความรู้สึกของตัวละคร หรือคำพูดกินใจมากกว่า


โดย: noi-parisa IP: 58.97.35.130 วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:15:21:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BAHAMAS
Location :
อุทัยธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




 "Robinhood : คนที่จับพลัดจับผลูมาเขียนนิยาย และมีอุ้งมืออบอุ่นของคนอ่านรองรับ  ไม่มีอะไรจะตอบแทน   นอกจากจะพยายามเขียนนิยายที่คนอ่านชอบไปเรื่อยๆ"


จำนวนผู้เข้าชม



Friends' blogs
[Add BAHAMAS's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.