:: Interview .. the Blogger :: ~ ชีริว ~
ขึ้นแท่นให้อีกหนึ่งบล็อกค่ะ ซึ่งเป็นบล็อกที่น่าสนใจและน่าติดตามอีกบล็อกหนึ่ง ตะลึง !! ในความรู้ด้านประวัติศาสตร์ของเขาผู้นี้ที่ไม่ได้เกี่ยวกับการทำงานของเขาสักนิด แต่เขาสามารถมีความรู้ตอบประวัติศาสตร์ได้ทุกประเด็นด้วยการอ่าน การค้นคว้า ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่เขาสนใจเป็นอย่างมาก ช่างผิดกับความชอบวัยหนุ่มของเขายิ่งนัก แหม อิอิตะลึง !! กับคลังสมบัติการ์ตูนที่มีมากในหลักแสนบาท !! ถือเป็นความชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นตัวยง และสามารถวิเคราะห์ตัวการ์ตุนได้เป็นฉากๆในแต่ละเรื่องตะลึง !! เขาเป็นกูรูชอบฟุตบอลอีกเช่นกัน ที่คอฟุตบอลสามารถคุย วงการลูกหนังทีมดังๆ ได้อย่างฉะฉาน
ไม่ธรรมดา ที่ผู้ชายหนุ่มโสดคนนี้(แอบโฆษณาให้ด้วยนะ) จะมีความรู้ความสนใจ ศึกษา และค้นคว้าได้มากมายเช่นนี้ และวันนี้เราก็ได้สัมภาษณ์เขาสมใจแล้วล่ะค่ะ หลังจากที่เรารู้จักกันผ่านตัวหนังสือข้ามไปข้ามมาหลายบล็อก เจาะทุกประเด็นที่เพื่อนบล็อกอยากรู้ อยากให้รู้จักเขา คุณจะทึ่งเขามากยิ่งขึ้น เมื่อได้อ่านสัมภาษณ์ของบล็อกนี้จบลง **ชีริว** คือชื่อของบล็อกเกอร์หนุ่มคนนี้ ไปชมกันค่า ผมเลข ID 65561 สมัครพันทิปเมื่อปี พ.ศ. 2544 ครับ ก็ 12 ปี มาแล้ว ตอนนั้นยังอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 อยู่เลย พันทิปเป็นเว็บบอร์ดแรกที่ผมเล่น ห้องที่เข้าบ่อยที่สุดคือห้องการ์ตูน ส่วนห้องอื่นก็มีห้องศุภชลาศัยช่วงที่มีบอลโลกและบอลยูโร และห้องหว้ากอช่วงที่ไปเรียนต่อและอยากรื้อฟื้นฟื้นความรู้สมัย ป.ตรีครับ ตอนนี้ก็ยังเล่นอยู่ แต่ไม่ได้เข้าไปโพสต์บ่อยแบบเมื่อก่อน เดี๋ยวนี้เลขสมาชิกพันทิปทะลุหลักล้านไปแล้ว ผมคุ้นเคยกับห้องการ์ตูนมากที่สุด คนส่วนใหญ่จะรู้จักผมเพราะเกม FF7 ที่ผมทำข้อมูลไว้เยอะมาก กับการ์ตูนเรื่องเซนต์ เซย่า ที่ผมชอบเข้าไปตอบกระทู้ปัญญาอ่อนแบบเหมือนจะมีสาระ ส่วนบล็อกแกงค์สมัครครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2549 สมัยก่อนผมเคยทำเว็บเกี่ยวกับเกมๆหนึ่งไว้ ต่อมากระแส weblog ที่เป็นพื้นที่เว็บส่วนตัวก็เข้ามาแทนที่ ผมเลือกสมัครบล็อกแกงค์เพราะเล่นพันทิปอยู่แล้ว เลยใช้บล็อกในเครือเดียวกัน สะดวกตรงที่โลโก้บล็อกมันจะห้อยท้ายชื่อเราเวลาโพสต์บนพันทิปอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปแปะลิงค์ที่อื่นครับ แต่มีอยู่ช่วงนึงที่พันทิปบังคับให้สมาชิกทุกคนมีบล็อกเป็นของตัวเองด้วย ทีนี้คลิ๊กเข้าไปท้ายชื่อหลายๆคนก็จะเป็นบล็อกเปล่าๆไม่มีบทความอะไร โลโก้ท้ายชื่อเลยถูกลดความน่าสนใจลงไปเช่นนี้เอง... สมัยเขียนบล็อกใหม่ๆผมตั้งใจทำเป็นบล็อกรวม scanlation ซึ่งก็คือการนำแสกนการ์ตูนภาษาอื่นมาแปลเป็นภาษาไทยแล้วแต่งภาพเป็นภาษาไทยให้คนไทยเข้ามาอ่านได้เหมือนอ่านการ์ตูนแปลปกติ ผมเลือกเอาเรื่องที่ยังไม่มีลิขสิทธิ์ในประเทศไทยมาทำอยู่ 6 เรื่อง แต่พอมีสำนักพิมพ์ซื้อเข้ามาพิมพ์อย่างถูกต้องก็นำสแกน ออกจากบล็อกครับ อย่าง Kingdom Hearts เคยแปลไว้ 3 เล่ม พอบงกชนำลิขสิทธิ์เข้ามาพิมพ์อย่างถูกต้อง ผมก็เอาออกจากบล็อกหมดเลย บล็อกต้นแบบที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำ scanlation ก็คือบล็อกแปลการ์ตูนของคุณ Oceansage ครับ สมัยก่อนทำเป็นบล็อกร้างๆ อัพเดทไตรมาสละครั้ง แต่หลังจากรู้จักกับคุณต่อ toor36 (เพราะคุณต่อเข้ามาเม้นท์ในบล็อก การ์ตูนโป๊ ikittousen) ก็ได้รู้จักเครือข่ายชาวบล็อกแกงค์ที่ยังมีชีวิตอยู่เพิ่มขึ้นอีกหลายคน จน shiryu.bloggang.com มีหน้าตาเหมือนบล็อกจริงๆซึ่งเจ้าของบล็อกเป็นมนุษย์ที่มีตัวตนขึ้นมาครับ ผมคิดว่าจำนวนคนเล่นบล็อกแกงค์มากน้อยตามจำนวนคนเล่นพันทิปครับ หลังจากพันทิปเปลี่ยนระบบใหม่ตอนต้นปี รู้สึกว่ายอดเข้าชมบล็อกลดลงไปเหมือนกัน แต่ช่วงหลังๆก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว เปิดดู alexa ก็ได้ครับ ช่วงต้นปี 2556 จำนวนคนเข้าชมพันทิปลดลงน่าใจหาย แต่ก็ค่อยๆกลับมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันคนเข้าพันทิปมากกว่าปีที่ผ่านมาด้วยซ้ำ คิดว่าการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทำให้ผู้เล่นเดิมๆหายหน้าไปจากพันทิป แต่พอสมาชิกช่วยกันตบตีจนเข้ารูปเข้ารอย รวมทั้งหลายๆคนก็เริ่มคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงแล้ว สมาชิกก็กลับมาเล่นพันทิปกันอย่างคึกคักเหมือนเดิม
ผมชอบพันทิปใหม่นะที่พยายามทำฟังก์ชั่นให้เหมือนเว็บทั่วๆไปเขามีกัน อย่างการโชว์รูปโปรไฟล์หรือการตอบกลับความคิดเห็น แต่ก็พยายาม minimal ให้เป็นภาระในการเข้าชมน้อยกว่าที่อื่นๆ อย่างรูปประจำตัวก็โชว์ไว้เท่าขี้มด เห็นเป็นอะไรเลอะๆแปะอยู่ท้ายชื่อเท่านั้นเอง ส่วนระบบแท็กทีแรกเหมือนจะวุ่นวาย แต่สุดท้ายสมาชิกก็ช่วยกันกระทืบพวกแท็กมั่วจนแต่ละห้องมีระเบียบกลับสู่ธีมของห้องนั้นๆจนได้ครับ ผมชอบตรงที่กระทู้คลุมเครือไม่รู้จะตั้งห้องไหนก็ไม่ต้องแปะมันหลายห้องอีกต่อไปแล้ว และการแท็กหมวดที่เกี่ยวข้องจะได้ความเห็นจากคนแต่ละห้องที่เชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆเข้ามาช่วยกันตอบ ลดบารมีขาใหญ่ประจำห้องที่เคยมีไปได้เยอะเหมือนกันครับ ผมคิดว่าสิ่งที่กระทบกับยอดคนเข้าชมบล็อก มากกว่าการเปลี่ยนโฉมของพันทิปก็คือเว็บแย่งลูกค้าอย่างเฟซบุ๊ค และพฤติกรรมของบล็อกเกอร์ครับ ผมชอบตรงที่แต่ละห้องในพันทิปจะอัพเดทบล็อกที่มีหมวดเกี่ยวข้องกับห้องนั้นๆ อย่างบล็อกการ์ตูน จะเด้งขึ้นไปโชว์ในห้องเฉลิมไทยด้วย (แต่หลังๆแยกห้องการ์ตูนออกมาเป็นห้องต่างหากแล้ว) สมัยก่อนก็ได้ตรงนี้ละครับที่เป็นทางเข้าใหญ่ของคนเข้าชมบล็อก แต่หลังๆจำนวนบล็อกต่อวันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะบล็อกก้อปแปะบรรลือโลกที่ไม่รู้จะแพร่พันธุ์อะไรกันนักหนามันพ ลัดเข้ามาเบียดบล็อกดีๆกระเด็นล้มหายตายจากไปจากหน้าจออัพเดทหมด พวกนี้อัพวันละเป็นสิบบล็อก คนเข้าชมมากกว่าบล็อกอื่นแน่นอนอยู่แล้วครับ หลังๆคนเลยใช้วิธีนี้เยอะ ผมคิดว่าบล็อกแกงค์น่าจะหาวิธีจัดการบล็อกขยะพวกนี้ซะที การที่พันทิปแยกห้องการ์ตูนออกไปทำให้บล็อกการ์ตูนมีโอกาสได้โชว์ในหน้าบล็อกอัพเดทของห้องการ์ตูนนานกว่าห้องเฉลิมไทยซึ่งจะมีบล็อกละคร ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และอื่นๆ เบียดบล็อกเก่าลงไปอย่างรวดเร็ว แต่จำนวนคนเข้าก็ถูกหั่นออกจากห้องเฉลิมไทยไปด้วย ปกติคอการ์ตูนจะไปรวมตัวกันอยู่ใน exteen เสียมาก แต่ผมคิดว่าถ้าเราช่วยกันทำให้การ์ตูนสามารถอยู่ร่วมกับสื่อบันเทิงอื่นๆอย่างเพลง ละคร ภาพยนตร์ ได้อย่างไม่รู้สึกแปลกแยกก็คงจะดี ผมเลยเขียนบล็อกแกงค์มาจนถึงตอนนี้ และพยายามเขียนสิ่งที่น่าสนใจให้คนไม่อ่านการ์ตูนสามารถเข้าถึงได้ พยายามทำให้คนอ่านถนนสายนี้มีตะพาบอ่านได้สนุก แม้จะไม่เคยรู้จักการ์ตูนที่จับมาเล่นมาก่อน และคาดหวังว่าบล็อกนี้จะมีส่วนให้กลุ่มคนอ่านการ์ตูนกว้างขึ้นอีกแม้เพียงน้อยนิด นั่นทำให้ผมชอบที่การ์ตูนอยู่รวมกับสื่อบันเทิงอื่นๆในห้องเฉลิมไทย ทำให้คนที่ไม่อ่านการ์ตูนเผลอเหลือบหันมามองการ์ตูนหลายครั้ง เวลามีกระแสอะไรดังๆ หรือมีกระทู้แนะนำที่น่าประทับใจ ...แต่สุดท้ายการ์ตูนก็เด้งออกไปเป็นห้องเฉพาะทาง ไม่ต่างจากบอร์ดอื่น //www.suikofriend.com/finalreunion อันนี้เป็นเว็บที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 2545 ครับ เนื้อหาเกี่ยวกับรายละเอียดของเกม Final Fantasy VII (เรียกสั้นๆว่า FF7) หนึ่งในเกม RPG ที่โด่งดังที่สุดในช่วง 15 ปีก่อน สมัยนี้ก็ยังคงมีคนพูดถึงอยู่เรื่อยๆ เกมพวกนี้มีการดำเนินเนื้อเรื่องและสคริปต์มากมายมหาศาลพอๆกับหนังซีรี่ยส์เลยครับ ที่เมืองนอกมีบอร์ดเฉพาะทาง ตั้งกระทู้คุยเรื่องเกมๆเดียวนี้ได้เป็นพันเป็นหมื่นกระทู้ ทุกวันนี้ยังคุยกันไม่จบเลย ผมเคยทำประวัติตัวละครโพสต์ลงห้องเฉลิมไทย และเป็นกระทู้แรกที่ได้โหวตขึ้นกระทู้แนะนำ ด้วย หลังจากนั้นก็นำประวัติตัวละครและบทสรุปแบบละเอียดรวมทั้งแปลบทสนทนาทั้งหมดของเกมนี้ลงในเว็บส่วนตัว ตอนแรกใช้พื้นที่ geocities ที่ไม่ต้องเสียตังค์ แต่มันให้ bandwidth น้อยจัด เลยย้ายไปที่ 1asphost แต่เว็บก็เน่าเจ้าของเข้าไปแก้ไขเว็บไม่ได้ เลยย้ายไปฝากไว้กับ animemangagame ที่เพื่อนเปิดอยู่ แต่เว็บก็เบี้ยวต่ออายุขึ้นมาเฉยๆ (ใครจะทำเว็บอย่าไปฝากไว้กับ bangrakhosting นะครับ) พอดีผมกับเพื่อนๆเคยร่วมกันเปิดเว็บเกมซุยโคเด็นแห่งหนึ่งชื่อ suikofriend แต่ล่มไปเมื่อ 3 ปีก่อนเพราะโฮสต์ตุรกีย้ายเซิฟเวอร์ ก็เลยได้โอกาสนำเว็บ suikofriend มาเปิดใหม่บนโฮสต์ P&T Hosting แล้วก็ฝาก finalreunion เป็นหน้าหนึ่งของเว็บ suikofriend ไปด้วย ตอนนี้เลยมีพื้นที่เป็นของตัวเองแล้วครับ สามารถอ่านประวัติศาสตร์ finalreunion ฉบับเต็มได้ที่ //www.suikofriend.com/finalreunion/credit ช่วงที่ finalreunion เปิดใหม่นั้นๆบอกตามตรงว่าร้างครับ เพราะผมทำเว็บหลังจากเกมมันออกไปหลายปีแล้ว (แต่ผมเพิ่งได้เล่นแล้วก็เกิดชอบขึ้นมา) แต่พอผู้สร้างขุด FF7 มาทำภาพยนตร์ Advent Children และภาคเสริมอื่นๆ กระแส FF7 ก็กลับมาอีกครั้ง เว็บ finalreunion ที่เป็นเว็บภาษาไทยของ FF7 ที่ละเอียดที่สุดก็ดังขึ้นมาด้วย อันนี้ขอโอ้อวดแบบไม่อายใครครับ เพราะผมทำข้อมูลไว้ละเอียดจนตัวเองกลับไปอ่านแล้วยังตกใจว่าทำไมสมัยนั้นกูว่างขนาดนี้? ตอนนี้ก็ยังอัพเดทรายละเอียดภาคเสริมที่เพิ่มมาทีหลังอยู่เรื่อยๆนะ ผมไม่ได้เล่นเว็บเกมที่ไหนเลย เพราะตัวเองเล่นอยู่แต่เกมเรโทรจะไปคุยกับคอเกมสมัยใหม่ก็ไม่รู้เรื่อง แต่เพราะเว็บ finalreunion ก็เลยทำให้คนในวงการเกมบางคนพอจะรู้จักผมอยู่บ้าง แล้วก็ถูกชวนเข้าไปเขียนหนังสือของ TGN ซึ่งเอาผู้รู้ในเกมต่างๆมาออกหนังสือเกี่ยวกับเกมนั้นๆ ผมได้เขียนเล่ม FF: The Other Side ร่วมกับเซียน Final Fantasy อีกหลายท่าน และได้เขียนหนังสือ The Decoder of Final Fantasy VII เต็มๆทั้งเล่มเลย ตอนนั้นชวนเซียน FF7 ท่านอื่นๆอย่างคุณ Shinya และคุณ ULTIMAWEAPON มาช่วยกันปรู้ฟเนื้อหาด้วย สถานที่เที่ยวทางธรรมชาติที่ผมประทับใจที่สุดคือถ้ำธารลอดน้อย จ.กาญจนบุรี ธารน้ำไหลลอดผ่านถ้ำ ประดับไฟส่ององหินงอกหินย้อยสวยงาม อากาศเย็นสบาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุดเท่าที่เที่ยวมาแล้วครับ สถานที่ท่องเที่ยวแนวโบราณสถานที่ผมประทับใจที่สุดคืออุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เป็นเมืองเก่าสมัยสุโขทัยที่เต็มไปด้วยโบราณสถานขนาดใหญ่จำนวนมาก ที่ไม่ได้บูรณะเละเทะ เมืองกำแพงเพชรมีเอกลักษณ์ที่สร้างศาสนสถานด้วยศิลาแลง โบราณสถานจะใหญ่โตและมีความคงทนกว่าโบราณสถานที่อื่นมากๆครับ ผมชอบบรรยากาศเมืองโบราณในเขตอรัญวาสี ต้นไม้ขึ้นตามโบราณสถานหนาทึบ มีแสงแดดส่องลงมาอ่อนๆ อย่างกับอยู่ในนิยายแฟนตาซีเลยครับ แต่ถ้าภาพรวมของจังหวัดผมชอบเชียงรายมากที่สุด ครับ ถ้ามีโอกาสได้ไปตอนหน้าหนาว อากาศเย็นๆ ท้องฟ้าสวยๆ แล้วแม้แต่ริมทางของเชียงรายก็เป็นวิวที่สวยงามน่าจดจำยิ่ง ผมชอบที่เชียงรายมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยสร้างเมืองโยนก เมืองเงินยาง และเมืองเชียงแสน ในพื้นที่เชียงแสนบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ นอกจากจะเป็นแหล่งค้าฝิ่น เอ้ย! เป็นดินแดนสามแผ่นดินที่มีทิวทัศน์งดงามแล้ว ยังเป็นดินแดนประวัติศาสตร์ที่มีความทรงจำของผู้คนมากมายที่มาตั้งรกรากที่นี่สร้างเป็นเมืองตั้งแต่เมื่อพันกว่าปีก่อนด้วยครับ พญามังรายที่สร้างอาณาจักรล้านนาที่ยิ่งใหญ่ก็เริ่มต้นจากเชียงรายนี่ละครับ (ก่อนจะไปสร้างเมืองเชียงใหม่) ใครสักคนเคยบอกผมว่าเชียงรายเป็นจังหวัดที่สง่างาม ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นคำที่เหมาะสมกับจังหวัดนี้จริงๆนั่นแหละ นอกจากเนื้อหาทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแล้ว เชียงรายยังมีวัดที่สวยงามที่สุดอย่างวัดร่องขุ่น มีหอนาฬิกาที่สวยที่สุดในประเทศไทย มีตลาดชายแดนใหญ่โตสำหรับคอช้อป มีสวนดอกไม้งามที่ดอยตุง และยังมีเมืองเชียงแสนให้คอโบราณสถานเที่ยวด้วยนะ Chiang Rai
หลายคนที่ชอบอะไรที่อยู่นอกกระแสหลักส่วนใหญ่ล้วนเกิดจากความฝังใจในวัยเด็ก หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่า passion นั่นละครับ ผมชอบไดโนเสาร์ ชอบอวกาศ ชอบการ์ตูน ชอบเกม ชอบมวยปล้ำ ชอบประวัติศาสตร์ ก็ล้วนเป็นเพราะความสนุกที่ได้จากสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่เด็ก หนังสือแนวประวัติศาสตร์เล่มแรกของผมคือประวัติพระมหากษัตริย์ 50 พระองค์ ที่ซื้อจากงานหนังสือในโรงเรียนสมัยประถม เล่มละ 16 บาทเท่านั้นเอง สิ่งที่อยู่ไกลตัวมักมีเสน่ห์แบบลับๆครับ เชียงใหม่ก็มีเสน่ห์ ขั้วโลกใต้ก็มีเสน่ห์ ดาวพลูโตก็มีเสน่ห์ ประวัติศาสตร์ทั้งของไทยและต่างประเทศที่ย้อนอดีตไปไกลแสนไกลก็มีเสน่ห์เช่นกัน แต่ประวัติศาสตร์ไม่เหมือนกับดึกดำบรรพ์วิทยาตรงที่มันเป็นเรื่องราวของสังคมมนุษย์ ซึ่งมันยากสำหรับเด็กเล็กๆ สมัยก่อนผมเลยชอบไดโนเสาร์มากกว่าประวัติศาสตร์ วันหนึ่งกลางปี พ.ศ. 2555 ผมมีเวลาว่าง เลยขับรถออกจากบ้านไปเที่ยวเมืองเก่าอยุธยา ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านผมเพียง 20 กม. ผมไปถึงพระราชวังโบราณที่ตอนนี้รกร้างว่างเปล่า พอคิดว่าที่แห่งนี้ในอดีตมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายแล้วสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าก็ไม่ได้เป็นแค่กองอิฐปรักหักพังอีกต่อไป หากแต่มันคือบันทึกที่เชื่อมต่อเรื่องราวของอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกัน ต่างหาก ผมคิดว่าประวัติศาสตร์คล้ายกับดาราศาสตร์ตรงที่เวลามีคนถามว่าเราศึกษามันไปเพื่อประโยชน์อะไรก็ยากที่จะตอบได้นอกจากอ่านเพราะรู้สึกว่ามันสนุก แต่พอเรียนรู้ให้ลึกยิ่งขึ้นศาสตร์เหล่านี้ก็มีคำตอบให้ตนเองอย่างชัดเจนจนอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมพวกเราถึงไม่ให้ความสำคัญกับมันมากกว่า ตอนนี้ผมอ่านประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่แต่ก่อนไม่เคยได้เรียนรู้ ทั้งที่หลายพื้นที่ก็มีความหลังที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องของล้านนา แล้วจะลงลึกประวัติศาสตร์หลักของอยุธยาไล่มาจนถึงกรุงเทพต้นยุค พ.ศ.2500 ยิ่งอ่านก็ยิ่งมีเรื่องที่ยังไม่รู้เยอะขึ้นๆ คิดว่าอ่านยังไงก็ได้ไม่ถึง 1 ใน 100 ของคนที่ศึกษาเรื่องนี้เป็นอาชีพครับ แล้วมันพลิกความคิดของเราที่เคยเรียนมาแต่ประวัติศาสตร์สายหลักที่สอนในห้องเรียนไปเยอะเลย ผมคิดว่าจะเขียนบทความ เราศึกษาประวัติศาสตร์ไปทำไม? สักเอ็นทรี่หนึ่งหลังจากผมจัดเจนด้านประวัติศาสตร์มากพอที่จะเขียนบทความได้ solid พอครับ แต่ตอนนี้ผมสรุปความจำเป็นที่เราศึกษาประวัติศาสตร์ได้ 5 ข้อหลักๆดังนี้ 1. เพื่อให้เราเข้าใจสังคมในปัจจุบัน รากเหง้าของคนในแต่ละท้องที่ ที่มาที่ไปของกลุ่มอำนาจต่างๆ เราจะเริ่มเห็นว่าสังคมที่ถูกหล่อหลอมขึ้นมาด้วยตัวตนที่มั่นคง จะอยู่ยั้งยืนยงมากกว่าสังคมที่ถูกหล่อหลอมด้วยสิ่งที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมาในกระบวนการสร้างชาติ 2. เพื่อค้นหาอัตลักษณ์ของชาติ ร.4 และ ร.5 ได้ลงศึกษาประวัติศาสตร์ของชนชาติไทยอย่างจริงจัง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือแสดงให้ตะวันตกเห็นว่าเรามีอารยธรรมที่ยาวนาน ไม่ใช่คนป่าเถื่อน 3. เพื่อให้มีความรู้พอที่จะปกป้องตัวเองจากการถูกผู้ไม่หวังดี บิดเบือนประวัติศาสตร์ปลุกระดมผู้คนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และช่วยชี้แจงให้คนอื่นเข้าใจความเป็นจริง 4. เพื่อให้เราเข้าใจความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านรอบข้าง เข้าใจสิ่งที่เขาคิดกับคนไทย และเข้าใจว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น เพราะประวัติศาสตร์เราต่างถูกสอนมาคนละแบบกัน 5. ศึกษาความสำเร็จและความผิดพลาดของสังคมในอดีต เพื่อหาแนวทางที่ถูกต้องสำหรับปัจจุบันและอนาคตหนังสือ มีสาระบางทีก็ต้องเลือกอ่านนะครับ ถ้าเป็นหมวดประวัติศาสตร์ผมชอบของสำนักพิมพ์มิวเซียมเพรส ศิลปวัฒนธรรม สารคดี ในขณะที่บางสำนักพิมพ์มักหยิบยกบางท่อนของประวัติศาสตร์ที่อยู่ในกระแสมาเติมแต่งด้วยตรรกะวิบัติให้ไปสู่ข้อสรุปที่คนเขียนตั้งธงไว้ตั้งแต่แรก อ่านแล้วทำให้รู้น้อยลงๆ แบบนั้นอย่าไปอ่าน ยิ่งประวัติศาสตร์ที่เราเรียนๆกันในหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับนี่ตัวดีเลยครับ เพราะเราเรียนฉบับหลวงวิจิตรฯ ที่นักประวัติศาสตร์ยุคปัจจุบันต่างพากันส่ายหน้า ช่วงที่เริ่มดูบอลใหม่ๆ ผมเชียร์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ หรือที่เรียกติดปากกันว่าฮอลแลนด์ เพราะเสื้อสีสวยดี ตอนนั้นเป็นฟุตบอลโลก 1998 ฮอลแลนด์เก่งมากๆ พอบอลโลกจบ ผมดูพรีเมียร์ทาง true vision ก็เลยเชียร์อาร์เซน่อล ที่มีนักเตะฮอลแลนด์เต็มทีมไปด้วย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยุคของนักเตะฝรั่งเศสที่อาร์เซน่อลขึ้นจุดสูงสุดในปี 2003-2004 แล้วก็มายุคลูกผสมไร้แชมป์แบบในปัจจุบัน ช่วงหลังๆไม่ค่อยได้ดูฟุตบอลแล้วครับ เพราะย้ายมาทำงานที่ต่างจังหวัดไม่ได้ติดทรูวิชั่นส์ อาร์เซน่อลก็ไม่ได้สวยงามและเก่งกาจแบบสมัยก่อน ถ้ามีโอกาสดูบอลก็แค่เชียร์ตามหน้าที่ สำหรับพรีเมียร์ปีนี้น่าจะสูสีกันหลายทีม เพราะทีมอันดับ 1-3 ปีก่อนก็พากันเปลี่ยนผู้จัดการทีมเพื่อลดความเก่งของตัวเองกันหมดแล้ว แถมอาร์เซน่อลเพิ่งได้โอซิลมา ช่วยแอสซิสต์เป็นสุดยอดการซื้อตัวในช่วงหลายๆปีเลยครับ ถ้าสัมภาษณ์ผมซักเดือนที่แล้วผมคงไม่คิดว่าปีนี้น่อลมีโอกาสได้แชมป์แน่ๆ แต่คิดว่าซีซั่นนี้ทีมที่น่ากลัวที่สุดยังคงเป็นเชลซีนะครับ นักฟุตบอลที่ผมชอบที่สุดคือเดนิส เบิร์กแคมป์ ครับ ตอนเล่นวินนิ่ง 3 หัวเบิร์กแคมป์เหมือนหมวกกันน็อคสีทองดี #ไม่ใช่! ผมชอบเพราะลูกปลิดชีพอาร์เจนติน่าในฟรองซ์ 98 นี่ต่างหาก พวกเธอว์จงชื่นชมความงดงามของการแต่งลูกของดิไอซ์เบิร์ก
VIDEO
รองลงมาคือกาเบรียล บาติสตูต้าของอาร์เจนติน่าครับ บอลเข้าเท้าเป็นยิงแหลก
สมัยก่อนผมอ่านการ์ตูนไทยไร้พิษภัยอย่างหนูจ๋ากับเบบี้ ในบรรดาการ์ตูนญี่ปุ่นผมเริ่มอ่านโดราเอมอนตอน 5-6 ขวบ จากนั้นก็เริ่มอ่านเซย่าตอนประถมปลาย แล้วก็ต่อไลน์มาเรื่อยๆ จนตอนนี้อ่านอยู่ 4 ร้อยกว่าเรื่อง ครับ ตั้งแต่เดือน มี.ค. ปีที่แล้วที่ผมจัดบ้านและจัดระเบียบการ์ตูนใหม่ หลังการ์ตูนเก่าๆโดนมหาอุทกภัย สิ้นชีวิตใต้หนองน้ำไปหลายร้อยเล่ม ผมก็เช็คยอดการ์ตูนมาตลอด ทำฐานข้อมูลเป็น excel ไว้ พอซื้อการ์ตูนใหม่ก็อัพเดทเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ ปัจจุบันผมมีการ์ตูน 4,845 เล่ม แบ่งเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น 4,163 เล่ม การ์ตูนไทย 197 เล่ม นิตยสารการ์ตูน 354 เล่ม การ์ตูนภาษาต่างประเทศ 102 เล่ม หนังสือข้อมูลและอาร์ตเวิร์ค 29 เล่ม (ไม่รวมตระกูลขายหัวเราะและนิตยสารเกม) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 266,203 บาท (ลมแทบจับ!) สมัยก่อนมีคนบอกว่าผมเหมือนเฮนเบะ บ้างก็ว่าแคสเปอร์ บ้างก็ว่าสนูปปี้ ไม่รู้เป็นเพราะพวกมันน่ารักหรือพวกมันหน้าตาทุเรศกันแน่ แต่ถ้าเป็นนิสัยผมว่าตัวเองคล้ายๆชิริว...ไม่สิ อันนั้นหัวใจหล่อเกินไป ...ในบางอารมณ์ก็รู้สึกว่าตัวเองคล้ายๆ คุโรกิ โทโมโกะ จากเรื่อง watamote อยู่นิดๆเหมือนกัน (ย้ำว่านิดเดียวนะ) ตรงที่ไม่ค่อยจะทำหน้าเป็นผู้เป็นคน ในขณะที่คนอื่นดำรงชีวิตแบบมนุษย์ปกติ คุณเธอก็จินตนาการบ้าบอคอแตกอยู่คนเดียว ยัยนี่ไม่ไหวแล้ว ผมวาดการ์ตูนอ่านเองกับน้องชายสองคนมาตั้งแต่เด็กครับ สมัยก่อนก็วาดตัวก้างๆแบบที่เด็กทั่วไปวาดกันนี่แหละ จากนั้นก็เริ่มพัฒนามีเนื้อหนัง เขียนการ์ตูนเกี่ยวกับเกมที่ชอบอย่างร้อคแมน สร้างตัวละครเอง แต่ก็ยังเป็นแค่ใช้ดินสอวาดลงบนเศษกระดาษ ก่อนจะสร้างการ์ตูนที่มีเนื้อเรื่องออริจินอล แล้วบางทีก็เริ่มเขียนการ์ตูน/เกมเรื่องอื่นๆเป็นตอนสั้นๆ อย่างซุยโคเด็น เคนชิโร่หรือ FFVII ผมเริ่มหัดใช้ปากกาพิกม่าและการแต่งภาพบนคอมพิวเตอร์ ตอนนี้การ์ตูนออริจินอลที่ผมเขียนเองอ่านเองพุ่งไปตอนที่ 100 แล้ว และก็หยุดอยู่แค่นี้เพราะ 3 ปีให้หลัง ผมเริ่มอัพบล็อกถี่กว่าไตรมาสละครั้ง เลยไม่มีเวลาไปวาดการ์ตูนแล้วครับ ด้านงานภาพก็พัฒนาขึ้นตามลำดับครับ แต่ถ้าเทียบกับคนอื่นที่เขียนการ์ตูนมามากและนานพอกันถือว่าผมมีวิวัฒนาการที่เต่าถุยมาก (แล้วทำไมสุดท้ายมันกลับไปเป็นภาพเส้นดินสออีกแล้วฟะ???) มืออสูรล่าปีศาจเล่มสุดท้าย ตอนที่นูเบครูนักปราบปีศาจจะต้องจากพวกเด็กๆเพื่อย้ายไปโรงเรียนอื่น พวกเด็กๆรู้เข้าก็แกล้งทำเป็นถูกปีศาจปลอมๆเล่นงานเพื่อให้นูเบเห็นว่าพวกเขาอ่อนแอไม่สามารถทำอะไรได้ถ้านูเบไม่อยู่ แต่นูเบรู้ว่าพวกเด็กๆตอนนี้เติบโตเข้มแข็งมากพอที่จะอยู่ได้โดยไม่มีเขาแล้ว เขาตอบประโยคที่เด็กๆพูดว่า นูเบจะจากพวกเราไปแล้ว นูเบไม่รักพวกเรา ไม่เอ็นดูพวกเราแล้ว ด้วยประโยคนี้ครับ ตอนที่ตอนนี้ออกใหม่ๆเด็กรุ่นผมกำลังจะจบมหาลัยออกไปสู่โลกภายนอก (อันที่จริงก็ไม่เด็กแล้วหละ) แถมยังมาจบในเวลาไล่เลี่ยกับเคนชินด้วย แล้วจัมป์ก็ผลัดใบเข้าสู่ยุคของวันพีซ-ชาแมนคิง-นารุโตะ ตอนจบของการ์ตูนจัมป์ยุค 90s มักพูดถึงการเปลี่ยนแปลงยุคสมัย ราวกับจะเลี้ยงส่งเด็กโข่งรุ่นผมออกสู่โลกแห่งการทำงานเลยครับ บางทีเราก็ต้องเลือกว่าจะยอมอ่อนแอเพื่อรับความอ่อนโยนที่คนรอบข้างเคยมีให้ตลอดไป หรือจะเติบโตแล้วเข้มแข็งขึ้นเพื่อก้าวไปข้างหน้า ผมคุยเรื่องการ์ตูนกับคนที่อ่านการ์ตูนเท่านั้นครับ กับคนอื่นก็มีหัวข้อสนทนาอื่นๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องนินทาเพื่อนร่วมงาน ฟุตบอล ท่องเที่ยว ข่าวสาร การเมือง ฯลฯ แต่คนส่วนใหญ่ก็รู้ว่าผมอ่านการ์ตูนเพราะไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร และก็ไม่มีใครเคยพูดให้ฟังว่า โตแล้วยังอ่านการ์ตูนอยู่อีกเหรอ? ด้วย ผมทำงานเกี่ยวกับวิจัยทั้งสองที่ครับ ที่ทำงานเก่าอ่านการ์ตูนกันเกือบทุกคนอยู่แล้ว ส่วนที่ทำงานปัจจุบันไม่ค่อยมีคนอ่านการ์ตูน หลายคนบอกผมว่าที่เขาไม่อ่านการ์ตูนไม่ใช่เพราะมันดูปัญญาอ่อน แต่เขาอ่านไม่เป็น (ไล่ช่องไม่เป็น) มากกว่า การ์ตูนเป็นเพียงหนึ่งในสื่อบันเทิงเหมือนกับหนัง ละคร นิยาย เพลง และอื่นๆ แต่ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเข้าใจว่าการ์ตูน/เกม เป็นเรื่องของเด็กๆ? อันนี้เป็นเพราะกระบวนการในการนำการ์ตูนเข้าสู่สังคมไทยที่มุ่งกลุ่มเป้าหมายเด็กๆ มากกว่าจะเป็นเพราะเนื้อหาของการ์ตูนมันเหมาะสำหรับเด็กครับ การ์ตูนและเกมก็เป็นเหมือนสื่ออื่นๆที่ต่างประเทศมีการระบุเรตให้เหมาะสมกับผู้เสพย์ มีตั้งแต่การ์ตูนเนื้อหาเบาๆอย่างอิคคิวซัง โดราเอมอน โปเกมอน ไปจนถึงการ์ตูนเถื่อนๆอย่างเบลม ฤทธิ์ดาบไร้ปราณี เอเดน หรือการ์ตูนโอ้ชีวิตหนออย่างปรสิตเดรัจฉาน ป๋าอัจฉริยะยานางิซาว่า welcome to the N.H.K. ฯลฯ บางคนนั่งดูภาพยนตร์จากการ์ตูนอย่างสไปเดอร์แมน ดิ อเวนเจอร์ ราปันเซล อวาทาร์ กันเป็นกระแสหลัก แต่กลับมองคนอ่าน Say Hello to Black Jack เหมือนคนแก่มานั่งอ่านหนังสือติงต๊องซะงั้น เกมเองก็เช่นกัน มนุษย์เงินเดือนที่ชอบนั่งจิ้มเกมเรียงเพชรภาพสวยๆ เล่นง่ายๆ กลับคิดกันว่าเกมคอนโซลเป็นเครื่องบันเทิงสำหรับพวกเด็กๆ ทั้งที่คนเล่นพวก visual novel ก็ต่างตาแฉะกับเนื้อเรื่องที่เป็น text ยาวเหยียด หรือคนเล่น RPG บางเกมก็ถึงขนาดแกะ algorithm เกมทำสูตรคำนวณกันเลย ที่สำคัญคือการแบ่งเรตไม่ได้หมายความว่าผู้ใหญ่อ่านของเด็กไม่ได้นะครับ แต่หมายความว่าเด็กอ่านของผู้ใหญ่ไม่ได้แค่นั้นแหละ ที่ผมคุยถูกคอกับชาวการ์ตูนในเว็บพันทิปมากที่สุดเพราะพวกเราเป็นคนธรรมดาที่อ่านการ์ตูนเพื่อความบันเทิงมากกว่าอินเสียจนพร้อมตายไปกับตัวเอกในการ์ตูนหรือมุ่งมั่นจะเอาตัวการ์ตูนเป็นเมีย อันนี้ต้องยอมรับว่าคนอ่านการ์ตูนมีภาพลักษณ์ไม่ดีในสายตาของคนบางกลุ่ม เพราะมันมีส่วนที่แย่ๆให้เห็นครับ ผมเองเวลาไปร้านการ์ตูนหรืองานสัปดาห์หนังสือแล้วเจอพวกคิโม่ยโอตาคุมาตะโกนวิจารณ์การ์ตูนหรือสำนักพิมพ์อย่างออกรส พร้อมเอาพุงมาไถๆคนอื่น (แหวะ) ก็รู้สึกอับอายที่ตัวเองชอบการ์ตูนเหมือนกับไอ้พวกนี้ คนพวกนี้แหละที่ทำให้วงการการ์ตูนยังคงถูกตีอยู่ในกรอบแคบๆ คนนอกวงการไม่ต้องการก้าวเข้ามาเพราะรู้สึกว่าพูดกันคนละภาษา คนเราถูกหล่อหลอมขึ้นมาจากการเลือกนำสิ่งที่เรารับรู้ทั้งหลายมาเป็น mind set ของตนเอง สิ่งที่มีอิทธิพลกับความรู้สึกนึกคิดของผมมากที่สุดคือคนรอบตัว สังคมพันทิป และการ์ตูน ตามลำดับครับ ประเด็นจากการ์ตูนที่ถึงขนาดเป็นแรงบันดาลใจให้ชีวิตก้าวไปนั้นนึกไม่ออกจริงๆ แต่ตอนทำบทความเล่าชีวิตของโนบิตะตั้งแต่เล็กจนแก่ลงห้องเฉลิมไทยดีใจที่มีคนเข้ามาบอกว่าได้อ่านเรื่องราวของโนบิตะแล้วก็ได้กำลังใจให้เลิกคิดฆ่าตัวตาย เพราะโนบิตะเองก็เป็นเหมือนตุ๊กตาล้มลุก ไม่สมบูรณ์แบบและต้องล้มอีกหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็จะลุกกลับขึ้นมาพร้อมความเข้มแข็ง แล้วแต่แนวของแต่ละคนเลยครับ บางคนก็เริ่มจากขายหัวเราะ บางคนเริ่มมาก็มาจิกะมาโดกะเลย แต่ผมว่าการ์ตูนไทยของ cartoonthai studio ค่ายสยามอินเตอร์คอมิคส์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ เพราะทีมคนเขียนเข้าใจวิธีการเข้าถึงสังคมไทยอยู่แล้ว เดินไปร้านการ์ตูนหยิบเล่มไหนก็ได้ที่ปกมุมขวาบนเขียนว่า CARTOONTHAI STUDIO ครับ ส่วนการ์ตูนอนิเมชั่นมีการ์ตูนเข้าโรงลงแผ่นหลายเรื่องที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่อยู่แล้ว ผมชอบถ่ายรูปอาหารแต่ไม่ได้กินเก่งขนาดน้าน~ ที่ชอบที่สุดก็ต้องอาหารไทยแน่นอนครับ สมัยอยู่ต่างประเทศ 2 ปี ถึงจะทำกับข้าวกินเอง แต่วัตถุดิบมันไม่เหมือนบ้านเรา แทบจะเป็นโรคขาดพริกขี้หนูและใบกระเพราครับ วันนึงเดินไปห้าง Providence Place นั่งกินอาหารอินเดียแล้วก็เกิดความโหยหาเครื่องเทศสัญชาติเอเชียขึ้นมา ทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยชอบอาหารอินเดียเลยครับ หลังจากนั้นอาหารอินเดียก็เลยเป็นอันดับสองรองจากอาหารไทย ทุกวันนี้ก็ยังทำกับข้าวกินเองอยู่ครับ ฝึกทำกับข้าวตั้งแต่สมัยเตรียมตัวไปเรียนนอก ฝีมือก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังไม่ถึงขั้นทำบล็อกอาหารได้ครับ ช่วงนี้พ่อค้าแม่ค้าร้านข้าวแกงขึ้นราคากันหลายร้าน แต่ของสดไม่แพงขึ้นเท่าไหร่ เรามาทำกับข้าวกินเองกันเถอะ มารยาทในฐานะคนอ่าน ผมชอบคนที่อ่านสิ่งที่ผมเขียนครับ บางทีก็เกรงใจเหมือนกันเพราะบล็อกผมส่วนใหญ่จะยาวมาก แถมภาพก็เล็ก แต่ก็ยังมีคนอ่าน แค่อ่านให้รู้ว่าเป็นบล็อกเกี่ยวกับอะไรผมก็ฟินแล้วครับ แต่บางคนถึงขนาดอ่านทุกตัวอักษรกันเลย =o=" และแน่นอนว่ามันทำให้ผมตั้งใจอ่านสิ่งที่เขาเขียนแลกเปลี่ยนกันไปด้วย แม้บางทีจะไม่ใช่เรื่องถนัดของเราเลย สิ่งที่พวกเราบล็อกเกอร์ต้องการที่สุดก็คือเขียนบล็อกแล้วมีคนเข้ามาอ่าน ไม่ใช่เข้ามาแลกโหวต แปะรูป หรือชี้ทางให้เข้าไปอ่านบล็อกตัวเองอย่างเดียวโดยไม่สนใจว่าหน้าบ้านคนอื่นจะเป็นอะไร บางคนแว่บมาแปะ quote ประจำตัวแล้วหายสาบสูญไป อย่างกับมาส่งสาส์นท้าดวล แบบนี้ไม่ปลื้มจ้ะ แต่เพราะอยากอ่านสิ่งที่พวกเพื่อนๆเขียนให้ละเอียด ผมเลยพยายามไม่แตกไลน์เพิ่มเพื่อนๆเลยครับ เพราะเดี๋ยวนี้แค่ตอบกลับเพื่อน 20-30 คนที่มีอยู่ก็ใช้เวลาหมดคืนแล้ว อันที่จริงอยากเข้าไปอ่านอีกหลายๆบล็อกที่ยังไม่เคยเข้านะครับ แต่เวลามันไม่อำนวยจริงๆจ้า... มารยาทในฐานะคนเขียน ผมชอบคนที่เขียนบล็อกด้วยตัวเอง ไม่ได้ไปก้อปบทความหรือรูปภาพที่อื่นมาลงครับ ถึงจะให้เครดิต แต่มันก็ทำให้บล็อกรวมบทความพวกนั้นไม่ต่างไปจากเว็บขยะที่รวมคำค้นเลย เวลาเข้ากูเกิ้ลมันขึ้นเว็บพวกนี้จริง คนดูเยอะจริง แต่มันไม่มีประโยชน์ครับ บล็อกผมแบ่งเป็นกลุ่มก็จะมีบล็อกแสกนการ์ตูน, บล็อกแปลการ์ตูน, บล็อกวิเคราะห์การ์ตูน, บล็อกวิจารณ์การ์ตูน, บล็อกเกม, บล็อกท่องเที่ยว, บล็อกท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์, บล็อกตะพาบ และบล็อกอื่นๆ ซึ่งมีความยากแตกต่างกันไป บล็อกท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ยากที่จะต้องอ่านประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ จากหลายแหล่ง เลือกเอาส่วนที่ขัดกับหลักฐานอื่นๆน้อยที่สุด แล้วนำมาเรียบเรียงให้มีเนื้อหาเป็นหนึ่งเดียว ผมจะเขียนทริปหนึ่งให้จบภายในบล็อกเดียวเพื่อความสะดวกในการอ้างถึงภายหลัง มันเลยยากที่จะต้องคัดภาพและลดขนาดไม่ให้เกิน 5 MB ต่อเอนทรี่ ไม่งั้น คุณทุเรียนกวนฯ บางคนโหลดไม่ไหว ใช้เวลาทำภาพและเขียนเรื่องประมาณบล็อกละ 3 วัน ไม่รวมเวลานั่งอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ครับ บล็อกตะพาบยากตรงที่มีโจทย์กำหนดไว้ ไม่สามารถเขียนตามใจได้ แม้จะแถให้เข้าโจทย์จนเลือดไหลซิบๆอยู่หลายครั้งบางโจทย์ก็ยังยากอยู่ดี ใช้เวลาทำบล็อกละ 3-4 ชม. ไม่รวมเวลาคิด บล็อกแปลการ์ตูนยากตรงที่จะต้องสแกน แปล แล้วแต่งรูป หลายขั้นตอนกว่าจะเสร็จสักภาพนึง ภาพละประมาณ 5-10 นาที เอนทรี่ละ 10-30 ภาพครับ แต่บล็อกที่ยากที่สุดคือบล็อกวิเคราะห์การ์ตูนครับ เพราะจะต้องตีประเด็นที่ตั้งใจจะพูดถึงให้แตก โดยอาศัยองค์ประกอบจากการ์ตูนและบทสัมภาษณ์ต่างๆ ที่จะไม่ทำให้ตีความออกทะเล และต้องเป็นมากกว่าบทความที่พูดถึงเนื้อเรื่องการ์ตูนที่เห็นอยู่ทั่วไป แต่ละเรื่องที่จะเอามาวิเคราะห์ลงบล็อกได้จะต้องอ่านจนบรรลุเป็นเอกอุ จะได้ไม่ต้องมาเงิบภายหลัง ผมอยากเขียนบล็อกที่สามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่มีบทความการ์ตูนเรื่องนี้ที่ไหนในประเทศไทยจะเขียนดีไปกว่านี้อีกแล้ว ผมจึงเลือกแต่เรื่องที่คนอื่นไม่เขียนครับ //โดนถีบ บล็อกวิเคราะห์การ์ตูนใช้เวลาอ่านและเรียบเรียงเนื้อหาบล็อกละ 1 สัปดาห์เป็นอย่างน้อยครับ การ์ตูนที่ลงถนนสายนี้มีตะพาบผมไม่ได้เขียนเองนะครับ แต่เอาภาพการ์ตูนที่มีอยู่แล้วมาแต่งแล้วใส่เนื้อเรื่องฮาๆ ให้เข้ากับโจทย์ ช่วงที่เล่นบอร์ด suikofriend กับพวกบ้าบอคอแตกแฟนๆเกมซุยโคเด็น เป็นช่วงที่แข่งกันทำกระทู้ ทำบทความบ้าบอคอแตก ฝึกพลังไอเดียบรรเจิดกันกระฉูดครับ ทั้งที่บอร์ดมีคนเล่นอยู่ไม่กี่คนแท้ๆ ช่วงนั้นผมเลยมีคลังภาพฮาๆ และวัตถุดิบอื่นๆที่จะเอามาทำตลกมากมาย เวลาจะเขียนตะพาบแต่ไอเดียตีบตัน ผมจะมานั่งเปิดคลังพวกนี้ดูแล้วมันให้ไอเดียแปลกๆดีเหมือนกัน แต่ก็ต้องปรับมุขให้เป็นสากลมากขึ้นด้วย เพราะกลุ่มเป้าหมายตอนนี้คือคนที่ไม่ได้รู้มุขวงในแล้ว แต่จะต้องทำให้พวกเขาอ่านให้สนุกให้ได้ อย่างตะพาบล่าสุดแทนที่จะเลือกทำบทสัมภาษณ์เกมซุยโคเด็นที่ผมรู้จักดีและมีมุขให้เล่นเยอะ ผมก็เลี่ยงไปเขียนบทสัมภาษณ์เกมมาริโอ้ เพราะคนส่วนใหญ่รู้จักมากกว่า สิ่งที่ดีใจที่สุดตั้งแต่เล่นบล็อกแกงค์มาคือมิตรภาพ .... (เบื่อคำตอบแนวๆนี้แล้วเหรอ? งั้นเอาใหม่ๆ...) ผมดีใจที่ได้เขียนบล็อกหลายๆอันที่มีคนนำลิงค์ไปอ้างอิงหลายที่ครับ เช่นบล็อก S.E.Lain, มันอยู่ในกระเป๋า, พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา, สยามโอเชี่ยนเวิลด์ หรือโครงสร้างราคาน้ำมัน แสดงว่าบทความของเรามีประโยชน์หรือดีพอที่คนอื่นๆจะนำไปบอกต่อ ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆบนเน็ตนอกบล็อก สิ่งที่ดีใจที่สุดตั้งแต่เล่นพันทิปมาก็คือตอนตั้งกระทู้ไทม์ไลน์ชีวิตของโนบิตะ ได้รับโหวตขึ้นเป็นกระทู้แนะนำสามอาทิตย์ติดต่อกัน มีคนให้กีฟ 11,190 คะแนน สิ่งที่ดีใจที่สุดตอนเล่นเว็บนอกคือมีเซียน FF7 ของโลกคนนึงส่ง user note มาบอกว่า You know your FF7 (เรื่อง FF7 นี่แกแม่นโคตรเลยว่ะ) ส่วนเรื่องที่เสียใจที่สุดคือผมอัพเดทอมยิ้มไม่ได้สักที เลยดำรงสถานะประชากรด้อยสิทธิ์ครับ โพ๊ะ เอาแคเหราะ มาฝาก ♫ เอ้า เงิบค่ะพี่น้อง !!!
...ตะกี้ล้อเล่นจ้ะ ผมใช้ชีวิตบนเน็ตมา 12 ปี ตั้งแต่เล่นพันทิปห้อง tech exchange ห้องเฉลิมไทย เปิดเว็บ finalreunion ไปทำงานบ้านนอกไม่มีเน็ตใช้อยู่สามปี กลับมากรุงเทพเล่นห้องเฉลิมไทยอีกครั้ง เปิดบล็อกแห่งนี้ ร่วมกับเพื่อนๆเปิดเว็บ suikofriend คบหากับเพื่อนๆผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ก็หลายกลุ่มจากหลากหลายความสนใจ ตั้งแต่เพื่อนๆคอการ์ตูนในห้องเฉลิมไทยรุ่นดึกดำบรรพ์ (ซึ่งตอนนี้แอบไปตั้งกลุ่มห้องการ์ตูนโบราณในเฟซบุ๊คกันแล้ว) เพื่อนๆจากคอมมูนิตี้ suikofriend เพื่อนๆที่แม้ไม่เคยเล่นบอร์ดเดียวกันแต่ก็รู้จักกันด้วยเกม FF7 และเพื่อนๆในบล็อกตั้งแต่เพื่อนยุคแรกอย่างคุณ OceanSage ยันเพื่อนยุคตะพาบในปัจจุบันนี้ ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังคงติดต่อกับเพื่อนทุกกลุ่มอยู่แต่ความเข้มข้นเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เพื่อนแต่ละกลุ่มจะมีจุดร่วมที่เหมือนกัน เช่นคนที่เจอในบอร์ด suikofriend ก็มีจุดร่วมคือชอบเกมซุยโคเด็นเหมือนกัน คนที่เจอในห้องการ์ตูนก็มีจุดร่วมคือชอบการ์ตูนเหมือนกัน นั่นทำให้แต่ละคอมมูนิตี้ต่างก็มีคอนเน็คชั่นสามัญที่เชื่อมยึดผู้คนในสังคมนั้นไว้ แต่บล็อกแกงค์ผิดจากที่อื่น ตรงที่พวกเรามีความสนใจหลากหลายแตกต่างกัน ออกไป บางคนเน้นการ์ตูน บางคนเน้นเที่ยว บางคนเน้นถ่ายภาพ บางคนเน้นทำกับข้าว บางคนเน้นธรรมะ บางคนเน้นเลี้ยงลูก แต่จุดร่วมที่พวกเราเหมือนกันคือการเป็นคนชอบเขียน คอมมูนิตี้จะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคนสร้างสรรค์ผลงานให้มีคนสนใจเข้ามาอ่านอยู่เรื่อยๆ เว็บล็อกที่เป็นแหล่งรวมพวกชอบเขียน จึงมีแต้มต่อที่จะรับประกันได้ว่าคอมมูนิตี้นี้จะไม่ดับมอดไปในเร็ววัน และการได้อ่านเรื่องราวที่หลากหลายแลกเปลี่ยนกันมากกว่าการเล่นแต่บอร์ดเฉพาะทางอย่างที่ผ่านมาก็ทำให้โลกทัศน์พวกเรากว้างมากขึ้นไปเรื่อยๆด้วยครับ ที่อยากจะฝากก็คือสิ่งนี้ละครับ "ขอให้พวกเรามาช่วยกันเขียนและช่วยกันอ่านแบบนี้ต่อไปให้นาน~ชั่วกาลนานเทอญ..." อ่านมาจนบรรทัดสุดท้ายแล้วทึ่งนะคะ ไม่น่าเชื่อว่า บล็อกเกอร์หนุ่มคนนี้มีความสนใจประวัติศาสตร์มากมายถึงเพียงนี้ ในความคิดรินคือ คุณชีริว เป็นบล็อกเกอร์คนหนึ่งที่สนใจงานเพื่อนๆ แนวการเขียนของเขาจะมีมุขตลกแฝงมาด้วยเสมอๆ หากว่าใครสนใจอ่านเรื่องราวที่เขาเขียน ก็จะอ่านเพลินๆ ไม่ว่าบล็อกนั้นจะยาวสักแค่ไหน บล็อกคุณชีริว มีครั้งหนึ่งที่รินเคยเม้นแซวว่า โห ก็อปมาแปะเลยงี้ คุณชีริวคงจะปรี๊ดใส่ซะนั่น ทำให้รินต้องกลับเข้าไปอ่านใหม่ทั้งหมดทุกตัวอักษรนับตั้งแต่นั้นมา และเมื่อได้มาอ่านสัมภาษณ์ที่นี่อีกรู้เลยว่า กว่าจะได้มาแต่ละบล็อกนั้น คุณชีริวอ่านตำรา ทำการบ้านมาเยอะแค่ไหนกว่าจะมีได้สักบล็อกหนึ่ง มาถึงตอนนี้ถึงได้ใช้คำว่า "ทึ่ง" กับตัวบล็อกเกอร์คนนี้ ที่อย่างน้อยบล็อกเราก็มีบล็อกดีดีที่เรียกว่า "บล็อกคุณภาพ" อย่างเขาคนนี้ ขอขอบคุณที่ปรึกษาโครงการ
Interview .., the Blogger 2013 กะว่าก๋า น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
มัชชาร
**mp5**
เพื่อนบล็อกที่ช่วยกันร่วมตั้งคำถาม toor36 / ทุเรียนกวนป่วนรัก /กะว่าก๋า น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา ของแต่งบล็อกจาก เนยสีฟ้า และขอบคุณทุก ๆ กำลังใจจากเพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามาทักทายกันด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นบล็อกเกอร์ที่เป็นเพื่อนของผู้สัมภาษณ์ก็ดี หรือผู้ให้สัมภาษณ์ก็ดี สิ่งดีดีที่ทำให้ได้รู้เพิ่มขึ้นคือ บล็อกสัมภาษณ์นี้ ได้เป็นศูนย์กลาง และเป็นตัวเชื่อมที่ทำให้บล็อกเกอร์หลายคนได้รู้จักมากขึ้น จนอยากตามไปทักทายกันที่บล็อกในเวลาต่อๆ มา ^^ RinSa YoyoLive
Create Date : 01 ตุลาคม 2556
Last Update : 2 ตุลาคม 2556 21:12:01 น.
120 comments
Counter : 12009 Pageviews.
โดย: schnuggy วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:0:00:27 น.
โดย: schnuggy วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:0:02:09 น.
โดย: schnuggy วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:0:40:04 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:0:44:56 น.
โดย: schnuggy วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:0:51:48 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:1:00:32 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:1:27:06 น.
โดย: lovereason วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:1:41:59 น.
โดย: yyswim วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:1:48:29 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:6:12:15 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:6:30:07 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:10:52:35 น.
โดย: mambymam วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:10:54:42 น.
โดย: OceanSage วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:12:11:17 น.
โดย: น้องผิง วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:12:42:09 น.
โดย: NET-MANIA วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:13:04:54 น.
โดย: ตาลเหลือง วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:14:50:07 น.
โดย: vanish IP: 65.49.14.88 วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:16:00:51 น.
โดย: phunsud วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:18:19:52 น.
โดย: พรไม้หอม วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:21:21:51 น.
โดย: ชีริว วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:21:23:50 น.
โดย: **mp5** วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:21:58:33 น.
โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:22:16:36 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:22:52:02 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:22:53:36 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:23:17:20 น.
โดย: ชีริว วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:0:05:32 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:0:17:57 น.
โดย: anigia วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:0:20:47 น.
โดย: anigia วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:0:22:12 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:6:41:09 น.
โดย: mambymam วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:8:23:09 น.
โดย: แม่อาเดียว IP: 115.67.37.122 วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:9:09:22 น.
โดย: haiku วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:9:54:47 น.
โดย: haiku วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:9:57:03 น.
โดย: tayya tatar วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:10:16:46 น.
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:10:57:36 น.
โดย: ตาลเหลือง วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:11:38:42 น.
โดย: พรหมญาณี วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:12:03:26 น.
โดย: aenew วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:17:13:53 น.
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:20:24:13 น.
โดย: ชีริว วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:21:21:54 น.
โดย: JewNid วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:22:10:29 น.
โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 3 ตุลาคม 2556 เวลา:0:59:54 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 ตุลาคม 2556 เวลา:8:17:53 น.
โดย: **mp5** วันที่: 3 ตุลาคม 2556 เวลา:16:21:13 น.
โดย: mambymam วันที่: 3 ตุลาคม 2556 เวลา:16:33:43 น.
โดย: tayya tatar วันที่: 3 ตุลาคม 2556 เวลา:21:17:36 น.
โดย: tayya tatar วันที่: 3 ตุลาคม 2556 เวลา:21:18:46 น.
โดย: NENE77 วันที่: 4 ตุลาคม 2556 เวลา:11:55:33 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 4 ตุลาคม 2556 เวลา:12:41:45 น.
โดย: sawkitty วันที่: 4 ตุลาคม 2556 เวลา:15:24:11 น.
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 4 ตุลาคม 2556 เวลา:19:40:04 น.
โดย: mambymam วันที่: 5 ตุลาคม 2556 เวลา:10:14:45 น.
โดย: vanish IP: 171.101.90.108 วันที่: 5 ตุลาคม 2556 เวลา:12:25:26 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 ตุลาคม 2556 เวลา:12:47:35 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 5 ตุลาคม 2556 เวลา:13:25:56 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 5 ตุลาคม 2556 เวลา:21:12:32 น.
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 5 ตุลาคม 2556 เวลา:22:03:19 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 ตุลาคม 2556 เวลา:7:01:54 น.
โดย: mastana วันที่: 6 ตุลาคม 2556 เวลา:15:33:49 น.
โดย: mastana วันที่: 6 ตุลาคม 2556 เวลา:15:40:45 น.
โดย: tayya tatar วันที่: 6 ตุลาคม 2556 เวลา:18:16:33 น.
โดย: ชีริว วันที่: 6 ตุลาคม 2556 เวลา:21:00:59 น.
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 7 ตุลาคม 2556 เวลา:0:28:00 น.
โดย: schnuggy วันที่: 7 ตุลาคม 2556 เวลา:3:05:15 น.
โดย: พรหมญาณี วันที่: 7 ตุลาคม 2556 เวลา:10:19:04 น.
โดย: JinnyTent วันที่: 7 ตุลาคม 2556 เวลา:19:15:05 น.
โดย: anigia วันที่: 7 ตุลาคม 2556 เวลา:21:27:12 น.
โดย: schnuggy วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:1:24:21 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:6:21:20 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:11:17:58 น.
โดย: multiple วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:13:07:10 น.
โดย: tifun วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:14:41:16 น.
โดย: tanjira วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:17:58:58 น.
โดย: tui/Laksi วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:18:47:06 น.
โดย: anigia วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:20:19:01 น.
โดย: tayya tatar วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:21:33:11 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:21:53:46 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 9 ตุลาคม 2556 เวลา:16:24:07 น.
โดย: ชีริว วันที่: 9 ตุลาคม 2556 เวลา:21:13:41 น.
โดย: **mp5** วันที่: 9 ตุลาคม 2556 เวลา:22:17:57 น.
โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 9 ตุลาคม 2556 เวลา:23:06:30 น.
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 10 ตุลาคม 2556 เวลา:19:13:54 น.
โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 10 ตุลาคม 2556 เวลา:19:32:49 น.
โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 10 ตุลาคม 2556 เวลา:19:32:49 น.
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 15 ตุลาคม 2556 เวลา:8:39:47 น.
โดย: peeamp วันที่: 25 ตุลาคม 2556 เวลา:21:24:13 น.
โดย: vanish IP: 58.137.45.249 วันที่: 28 ตุลาคม 2556 เวลา:9:16:32 น.
โดย: AppleWi วันที่: 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา:0:01:07 น.
1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31
เจิม