1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
No.75 ดอยที่แสนเหงา กลางแสงจันทร์
รอบกระท่อมหลังเล็ก บนยอดดอย แสงจันทร์สาดแสง ไปทั่ว บางครั้งแสงสีแดง สลับเขียว วิ่งไปมาเรี่ย ๆ ดิน คงจะเป็นนัยตา อีเห็น หรือกระต่ายป่า ออกหากิน นั่งกันสองคนเงียบ ๆ จิตใจล่องลอยไปถึงบ้านที่กรุงเทพ ข้างหน้าไกลออกไปลิบ ๆ เห็นแสงไฟในหมู่บ้านที่อยู่ ในพื้นราบ วาววับแวม ช่างเป็นคืนที่แสนเหงา ก่อนหน้านี้เรา ลงทุนทำไร่ขิง 25 ไร่ ใช้รถไถ จนดินร่วน ซุย ยกแปลงคลุกเคล้าขี้วัวแห้ง ใช้คนงานวันละหลายสิบ คน ใช้จอบตักดินหยอด แง่งขิงมีตาอยู่ทุกอันที่ปาด แช่ ยากันเชื้อรา ตากในที่ร่มจนแห้ง เอาดินโป๊ะปิด คลุมด้วย ฟางกันความชิ้นระเหยพร้อมกันนั้น กันหญ้าไม่ให้งอกมาก ระยะที่ปลูกเสร็จใหม่ ๆ มีคนมาขอซื้อ ต่อให้ราคาไร่ละ สองหมื่นบาท ดูแล้วน่าจะดีไม่ต้องดูแล ทำหญ้าใส่ปุ๋ย มาคิดดูแล้ว เราลงทุนก็ไม่มาก ใช้พันธ์ขิงไม่เกินไร่ละ 400 กก. แต่ถ้ารอให้ขิงโต เก็บได้ไร่หนึ่งก็ 4-5 พัน กก. ถ้าขาย แค่ กก.ละ 12-14 ได้มากกว่า คงได้ล้านห้า แสนกว่าบาท แต่เสียดายเก็บไว้ขายเองดีกว่า ในระยะแรกที่ลงต้นพันธ์ใหม่ ข่าวว่า ไร่ขิงที่เลยไปดอย อีกลูก เจอแมงกระสอบ หมดไปเยอะ แทบเอาเท้านอน ก่ายหน้าผาก พวกผมเลยต้องผัดกันมานอนเฝ้า รอให้ แง่งขิง งอกมาได้สักนิ้วสองนิ้วก็พอปล่อยได้ นี่เลยมา เกือบห้าเดือน หัวขิงที่ลงไว้ก่อนเพื่อน หัวขิงเริ่มมี แง่งโต อวบเป่งแล้ว พอจะเก็บเป็นขิงอ่อนขายได้ แต่จะให้พอดีอายุขิงสัก 6 เดือนกำลังได้น้ำหนักและเสี้ยน ยังไม่มาก ตลาดต้องการ ในกระท่อมของเรา ยกพื้นขึ้นนิดใช้ไม้มะม่วงเลื่อยปูพื้น กะใช้ได้ 3 ปีก็คุ้มค่าแล้ว เพราะที่ดินบนดอยเช่าเขาไว้แค่ 3 ปี ไม่เช่านานก็ ขิง มันติดโรคเชื้อรา ง่าย คือปลูกซ้ำปีไม่ได้ นี่ก็กะว่าปีที่ 2 คงจะปลูกเผือกแทน รุ่งขึ้นพอตื่นขึ้นมารู้สึก โหวงเหวงไงไม่รู้ ล้างหน้าแปรงฟัน แต่ไม่อาบน้ำหรอก อากาศมันเย็น ชงกาแฟรสเข้ม นั่งกินกับ ไข่ดาว ขนมปังแครกเกอร์กันสองคนกับ เจ้าเสรี มองไปข้างล่าง ด้านซ้ายมือ โกสิน กับ น้องสาวกำลัง ขับรถพาคนงาน ขึ้นมาขุดขิง เตรียมส่งขึ้นรถสิบล้อ วันนี้เราใช้คนงาน เยอะทั้งชายและหญิง ขึ้นมาขุดขิงอ่อนอายุประมาณ 6 เดือนส่งโรงงานที่ติดต่อขายไว้ล่วงหน้าก่อนปลูก เราตะเวนซื้อถุงปุ๋ยไว้เป็นจำนวนมาก วิธีการซื้อขายไม่ ยาก เพียงแต่คนงานขุดขิงขึ้นมากอง แล้วตัดต้นขิงทิ้ง เหลือแต่แง่งขิง ไม่ล้างดินออกเหมือนที่ปลูกในพื้นราบ เดินดูคนงานขุดขิง ค่อนข้างง่าย เพราะดินบนเขาร่วน พองัดขิง ตัดลำต้นทิ้งกองไว้บนแปลงเป็นระยะ ฝ่ายเก็บ ขิงจะจับใส่เข่งหรือหลัวไปจนเต็ม สอดคานไม้ไผ่กลม แล้ว ช่วยกันหามไปกองรวมไว้ ตรงลานกว้าง กองสูง คนงานชายจะจับขิงค่อย ๆ ยัดลงถุงปุ๋ย ยกขึ้นตาชั่ง ให้ น้ำหนักได้ 33 กก. คือ เราต้องเกินให้โรงงานถุงละ 3 กก.เป็นค่าดินที่ติดไป เท่ากับเราได้ถุงละ 30 กก. ก็โอเค จัดการให้เรียงข้างรถ กอง ๆ ละ 50 ถุงไว้รอรถ รถสิบล้อมาตอนบ่าย คนงาน จะขนขึ้นรถเรียงตามแนวตั้ง นับจำนวนถุงไว้ เด็กสิบล้อ จัดการคลุมผ้าใบให้แน่น. เกือบมืดรถก็เคลื่อนตัววิ่งหาย ลับตาไปพร้อมกับความมืด แต่อีกไม่กี่วันเงินค่าขิงจาก โรงงานก็โอนเข้าบัญชีธนาคาร เมื่อวานตอนกลางวัน เจ้าเสกับ น้องมล แว๊ปไปช่วยกัน เก็บเห็ด ที่ขึ้นแถวชายป่าที่เราปลูกขิง ได้มาเยอะ ทีแรกไม่รู้หรอกว่าแถวที่เราปลูกขิง มีเห็ดเผาะหรือทางโน้น เรียกว่าเห็ดถอบ ถ้าไม่มีน้องมลแฟนเจ้าเส ขี่มอไซค์ขึ้น ไปเที่ยวหา อ้ายเส เจ้า ข้าเจ้าเสียดายขนาด(เสียดายมาก) เสียดายอะไรเหรอ เสียดาย ก็ ๆ ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวอ้ายเสจะว่าน้องมล อ๋อ อ้ายเสรู้แล้ว เสียดายที่ อ้ายกะน้องมล มาเจอะกันช้า ใช่เปล่า แหวะ ไม่ใช่สักกะหน่อย ข้าเจ้าว่า พบกันช้านี่ก็ดีเหมือนกัน ข้าเจ้าจะได้บ่าปุ๊ดตืน อ้ายเสชอบจับมือข้าเจ้า ม้นบ่าดี (บ่าปุ๊ดตืน ก็ จะได้ไม่ขาดทุน) ไม่ดี น้องมลหมายถึง.....อะไรเหรอ ก็.... อ้ายเส กับอ้ายตูน เอารถไถ มาไถ แหล่งดินที่ เห็ด ถอบขึ้น พอไถแล้วมันจะบ่าขึ้นแถมแล้วเจ้า. แต่อ้ายเสว่า พื้นที่เห็ดถอบยังมีอยู่เยอะ ไป เราไปหาเห็ด ชายป่าอีกหน่อยนะน้องมล ไม่เอาหรอก มลรู้นะว่าอ้ายเส จะพาไปทำไมจะพาไป แบบ ไปจับจักกะจั่นที่บ่อน้ำพุร้อน ข้าเจ้าปุ๊ดตืนไปเยอะ แล้ว เก็บพอแกงแล้ว แล้วจะให้ครูวิภาช่วย แกงมาให้อ้ายเส กับอ้ายตูนกินวันผู๊ก(วันรุ่งขึ้น) ระหว่างที่คนงานขน ถุงขิงขึ้นรถ วิภา กับน้องมล ขี่รถ มอไซค์เอาปิ่นโตมาแกงเห็ด กับข้าวมาให้กิน จริง ๆ มีเจ้าเส นี่ก็ดีไปอย่าง มันช่างพูดทำให้ได้กินของอร่อย กินเป็นประจำ หัวค่ำนี้ได้กิน นี่ไง มื้อเย็นนั้น เรานั่งกินข้าวกับแกงเผ็ดเห็ดเผาะ อร่อย โดย เฉพาะเจ้าเส ดูมีความสุขจริง ๆ ส่วนผมก็ได้แต่นั่งมอง วิภา บางครั้งก็ตักแกงใส่จานให้ตามมารยาทเจ้าบ้าน เพราะความรู้สึกบางอย่างมันขวางกั้น แกงที่วิภาแกงมา นั้นอร่อย แต่ผมเอง ก็ไม่อาจจะกล่าวชมมากนัก เพราะ ไม่อยากจะให้ ก้าวล่วงไปกว่านี้ เฮ้อ... คืนนี้ พระจันทร์ลอยขึ้นมาเยือนช้า ๆ สาดแสงขาวนวล วิภากับน้องมล ลงดอยโดยมีเจ้าเสรี ขับรถพิคอัพ ลงไป ส่ง ก็นำรถมอไซค์คันเล็กใส่ท้ายรถ เมื่อไฟท้ายรถสีแดง ลับหายไป อากาศบนดอย ยามที่นั่งบนม้านั่งไม้ ริมชง่อนหินปนดิน สีแดง มองลงไปข้างล่าง บ้านแม่ขะจาน เห็นแสงไฟริบ ๆ กระจายไปทั่ว ชาวบ้านต่างพักผ่อนหลังจากทำงานมา หนักทั้งวัน จิตใจผมก็ล่องลอย ไปถึงบ้านวิภา บางครั้งก็ไปที่ กท. อันแสนจะอบอุ่น จนทำให้ต้องสลัดความคิดออกไปให้ จิตอยู่ที่ เฉพาะบ้านกรุงเทพ. กลางวันระหว่างที่ คุมคนงานขุดขิง ได้รับโทรศัพท์จาก ไพโรจน์เพื่อนที่เคยทำงานบริษัทที่แถวเพลินจิต ด้วยกัน เพื่อน ๆ ยังจำ เรื่องที่ผมเคยเล่ามาตอนก่อน ๆ ได้หรือ เปล่า คนที่เป็นขมิ้น กะปูนกับผมนั่นแหละ ผู้บริหารมาใหม่ คงเห็นว่าพวกเรา เป็นตุ้มถ่วงเลยบีบ โดยวิธีการต่าง ๆ นานาจนเพื่อนหลายคน ทนอยู่ไม่ได้ ลาออก ไล่ ๆ กับผม รวมทั้งพี่ยงค์ ทำงานนานมีรายได้เดือนเกือบแสนบาท ก็ลาออก ไปทำงานส่วนตัว ได้ไม่กี่พันบาทต่อเดือนมั้ง แกมีความทุกข์มาก สุดท้ายผูกคอตายไปเดือนที่แล้ว ส่วนตัวผมกะเจ้าเสรี เอาตัวรอด หรือไม่รอดก็ยังไม่รู้มา ทำไร่ขิง กะไร่เผือกอยู่บนดอย อาศัยดิน น้ำฝน เป็นหลัก แต่ให้ตายเถอะ ข่าวที่ได้รับ กรรมการ ผจก.คนใหม่ที่ พยายามบีบพวกเราให้ลาออก หัวใจวาย ตายเมื่อวาน ส่วนคู่หู ผจกเจ้า พงศกร หัวล้าน เครียดตามไปด้วย เข้า รพ.เหมือนกัน 555 เลียนแบบ เจ้าประวัติเพื่อนผมเด๊ะเลย ยังสงสัยอยู่ว่า พวกเรา 60 คนอาจจะเคยก่อกรรมร่วมกัน มา แล้วถูกผู้บริหารใหม่ตามมาทวงหนี้แค้นในชาติ นี้ก็เป็นได้ เลยชักคิดว่า คนเราควรทำแต่ความดี ไม่เบียด เบียนใคร นั่น เริ่มเข้า ธรรมมะ บ้างแล้ว ไปดีกว่า
555 ขอขอบคุณ เพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ L. 6033
Create Date : 31 ตุลาคม 2554
104 comments
Last Update : 3 มกราคม 2562 11:52:38 น.
Counter : 6406 Pageviews.
โดย: kapeak 31 ตุลาคม 2554 13:31:39 น.
โดย: kapeak 31 ตุลาคม 2554 14:06:46 น.
โดย: คนชนบท IP: 110.171.54.131 31 ตุลาคม 2554 15:13:17 น.
โดย: tifun 31 ตุลาคม 2554 18:26:20 น.
โดย: อุ้มสี 31 ตุลาคม 2554 19:12:40 น.
โดย: kapeak 31 ตุลาคม 2554 19:41:21 น.
โดย: wicsir 31 ตุลาคม 2554 22:17:26 น.
โดย: pantawan 31 ตุลาคม 2554 23:15:28 น.
โดย: aof IP: 192.168.0.169, 115.87.102.189 31 ตุลาคม 2554 23:29:43 น.
โดย: กิ่งฟ้า 1 พฤศจิกายน 2554 6:24:48 น.
โดย: กิ่งฟ้า 1 พฤศจิกายน 2554 6:28:10 น.
โดย: กะว่าก๋า 1 พฤศจิกายน 2554 6:50:35 น.
โดย: กะว่าก๋า 1 พฤศจิกายน 2554 13:12:49 น.
โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) 1 พฤศจิกายน 2554 15:27:11 น.
โดย: couples (AIRRO01 ) 2 พฤศจิกายน 2554 0:45:00 น.
โดย: กะว่าก๋า 2 พฤศจิกายน 2554 6:18:40 น.
โดย: KeRiDa 2 พฤศจิกายน 2554 8:21:05 น.
โดย: panwat 2 พฤศจิกายน 2554 8:40:21 น.
โดย: มิลเม 2 พฤศจิกายน 2554 11:15:42 น.
โดย: กะว่าก๋า 2 พฤศจิกายน 2554 11:23:34 น.
โดย: ลุงแมว 2 พฤศจิกายน 2554 11:39:13 น.
โดย: kapeak 2 พฤศจิกายน 2554 12:51:46 น.
โดย: วนารักษ์ 2 พฤศจิกายน 2554 14:15:13 น.
โดย: เนินน้ำ 2 พฤศจิกายน 2554 14:44:19 น.
โดย: kapeak 2 พฤศจิกายน 2554 16:25:46 น.
โดย: kapeak 2 พฤศจิกายน 2554 16:37:17 น.
โดย: กิ่งฟ้า 2 พฤศจิกายน 2554 19:33:30 น.
โดย: กะว่าก๋า 3 พฤศจิกายน 2554 6:33:39 น.
โดย: kapeak 3 พฤศจิกายน 2554 8:47:57 น.
โดย: KeRiDa 3 พฤศจิกายน 2554 9:19:48 น.
โดย: กิ่งฟ้า 3 พฤศจิกายน 2554 9:24:03 น.
โดย: kapeak 3 พฤศจิกายน 2554 12:33:22 น.
โดย: กิ่งฟ้า 3 พฤศจิกายน 2554 15:43:28 น.
โดย: kapeak 3 พฤศจิกายน 2554 16:09:25 น.
โดย: pantawan 3 พฤศจิกายน 2554 19:20:26 น.
โดย: กะว่าก๋า 4 พฤศจิกายน 2554 6:21:35 น.
โดย: KeRiDa 4 พฤศจิกายน 2554 8:31:38 น.
โดย: นักล่าน้ำตก IP: 101.109.95.43 4 พฤศจิกายน 2554 9:43:33 น.
โดย: กิ่งฟ้า 4 พฤศจิกายน 2554 20:43:39 น.
โดย: กะว่าก๋า 4 พฤศจิกายน 2554 20:56:07 น.
โดย: pantawan 5 พฤศจิกายน 2554 0:04:37 น.
โดย: กะว่าก๋า 5 พฤศจิกายน 2554 6:23:25 น.
โดย: kapeak 5 พฤศจิกายน 2554 8:23:09 น.
โดย: KeRiDa 5 พฤศจิกายน 2554 8:35:41 น.
โดย: บ่งบ๊ง 5 พฤศจิกายน 2554 10:56:27 น.
โดย: tifun 5 พฤศจิกายน 2554 19:26:25 น.
โดย: โสดในซอย 5 พฤศจิกายน 2554 23:37:06 น.
โดย: กะว่าก๋า 6 พฤศจิกายน 2554 6:06:27 น.
โดย: pantawan 6 พฤศจิกายน 2554 14:22:44 น.
โดย: pn51d550 (AIRRO01 ) 6 พฤศจิกายน 2554 21:09:07 น.
โดย: กะว่าก๋า 7 พฤศจิกายน 2554 6:16:14 น.
โดย: กิ่งฟ้า 7 พฤศจิกายน 2554 9:38:22 น.
โดย: ป้าโซ 7 พฤศจิกายน 2554 14:14:56 น.
โดย: kapeak 7 พฤศจิกายน 2554 15:33:57 น.
โดย: มิลเม 16 พฤศจิกายน 2554 15:08:48 น.
อยากกินแกงเห็ดถอบจัง ชีวิตนี้มิเคยได้ชิมสักดอกเลย อยากรู้ว่ารสชาติเป็นเช่นใด