‘เพซ’ปั้น‘ดีล แอนด์ เดลูก้า’ เป็นธุรกิจเรือธงแทน‘อสังหาฯ’

  ต้นเดือนมิถุนายน 2558  บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  (PACE) ได้พาสื่อมวลชนเยี่ยมชมร้านดีล แอนด์ เดลูก้า (D&D ) ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 4 สาขา  พร้อมกันนี้"สรพจน์ เตชะไกรศรี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารPACE ได้แถลงข่าวถึงแผนธุรกิจของD&Dและภาพรวมของ PACE 

สรพจน์ เตชะไกรศรี     เดือนพฤศจิกายน 2557 PACE ได้ทุ่มเงิน 4.5 พันล้านบาท ซื้อกิจการD&D ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับไอคอนของนิวยอร์กมายาวนาน 38 ปี ปัจจุบัน D&D มีรายได้จากการดำเนินธุรกิจใน 2 รูปแบบ คือ 1. รายได้จากการลงทุนของบริษัทเองในสหรัฐอเมริกา และประเทศไทย และ 2. รายได้จากการจำหน่ายสิทธิ์การใช้แบรนด์ D&D ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ คูเวต และ ฟิลิปปินส์
    "สรพจน์" กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าขยายสาขา D&D ให้ครบ 500 สาขาทั่วโลกภายใน 3-5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันมี 44 สาขา  คาดว่าใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 6-7 พันล้านบาท พร้อมย้ำกับผู้ถือหุ้นPACEว่าไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนหรือกู้เงินมาลงทุนอีกแล้ว เนื่องจากตั้งแต่ปี 2558-2561 บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่ารวม 3.5 หมื่นล้านบาท เข้ามาต่อเนื่อง ทำให้มีเงินลงทุนเพียงพอที่จะนำมาขยายสาขา D&D ในทุกๆปี
    "ในอนาคตตั้งเป้าจะขยายสาขาD&Dให้ได้ถึงระดับ 1,500-3,000 สาขา หรือคิดเป็นสัดส่วน 5-10% ของจำนวนสาขา"สตาร์บัคส์"ที่มีอยู่กว่า 30,000 สาขาทั่วโลก
สำหรับการขยายสาขาทั่วโลกนั้นจะเน้นเปิดสาขาที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุด อีกทั้งเป็นแหล่งกำเนิดแบรนด์ D&D ส่วนในไทยจะเปิดสาขาที่ 5 สิ้นเดือนมิถุนายน หรือต้นเดือนกรกฎาคมนี้ที่ ดิ เอ็ม ควอเทียร์ และตั้งเป้าเปิด 2-3 สาขาต่อปี เพื่อให้มีสาขาในไทยเพิ่มเป็น 25-30 สาขา เพราะตลาดในไทยมีศักยภาพที่จะเติบโต  ส่วนสาขาที่จะเปิดต่อไปนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา 2-3 แห่ง อาจจะเป็นในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ,ไอคอนสยาม และเอ็มโพเรียม
    ส่วน D&D ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูงเช่นกัน "สรพจน์" บอกว่าตั้งเป้าขยายปีละ 4-5 สาขา จากปัจจุบันมี 21 สาขา  สำหรับปีนี้ได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้น 3 สาขา และเน้นทำเลที่มีศักยภาพสูงตามเมืองสำคัญต่างๆ อาทิ ฟุกุโอกะ และ โอซากา ซึ่งเป็นแฟล็กชิพสโตร์ขนาดใหญ่ พื้นที่ประมาณ 300-800 ตารางเมตร
    "กลยุทธ์การลงทุนของD&D คือ ถ้าเป็นประเทศใหญ่ๆเราจะลงทุนเอง และตอนนี้มี 20 ประเทศทั่วโลกที่มาขอแบรนด์ D&D ไปเปิด ส่วนตลาดบ้านเราจะเป็นประตูสู่เออีซี"
    เขากล่าวว่า ล่าสุด เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้มีการเปิดสาขาใหม่ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีการขยายตัวของเมืองและประชากรมีกำลังซื้อและมีไลฟ์สไตล์แบบชาวตะวันตกมากขึ้น
    ด้านรูปแบบสาขา D&Dที่จะลงทุนส่วนใหญ่เน้นแบบคาเฟ่ เพราะใช้เงินลงทุนต่ำเฉลี่ยสาขาละ 350,000-1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่จะสร้างรายได้ได้ปีละ 1.5-3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อสาขา และให้ EBITDA 12-15% ซึ่งจะใช้ระยะเวลาคืนทุนเพียง 3 ปี  ซึ่งถือว่าให้ผลตอบแทนสูงกว่าธุรกิจอสังหาฯเมื่อใช้จำนวนเงินลงทุนเท่ากัน
    "สรพจน์"ดีดลูกคิดให้ดูว่า หากD&Dสามารถขยายสาขาได้ตามเป้าที่ 500 แห่ง จะทำให้รายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม แซงหน้าธุรกิจอสังหาฯภายในปี 2561 หรือหากขยายสาขาได้ 1,000 แห่งทั่วโลก ก็จะทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาทต่อปี 
    นอกจากนี้D&D จะช่วยส่งเสริมธุรกิจหลักของ PACE ทั้งด้านความสม่ำเสมอของรายได้ที่จะเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดปี อีกทั้งรายได้จากหลายประเทศทั่วโลกของ D&D ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการกระจายความเสี่ยงของบริษัทที่มีรายได้หลักจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเพียงอย่างเดียว         
    "หลังปี 2561 เป็นต้นไป คาดว่า D&D จะเป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้หลักของPACE ที่มีมูลค่าแซงหน้าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนใน 3 ปีข้างหน้า รายได้จาก 2 ธุรกิจ คือ อสังหาฯ อาหารและเครื่องดื่ม จะมีสัดส่วน 50:50 จากปัจจุบันอยู่ที่ 70: 30"
     "สรพจน์"ขยายความว่าPACE จะรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี ส่วนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจะมีรายได้เฉลี่ย 4 พันล้านบาทต่อปี โดยรายได้ส่วนใหญ่หรือประมาณ 3 พันล้านบาท จะมาจากยอดขายของ D&Dในสหรัฐอเมริกา และไทย 1 พันล้านบาท สำหรับปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้จาก D&D 3.3 พันล้านบาท โดยไตรมาสแรกทำได้แล้ว 623 ล้านบาท
    มาที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันมียอดขายรอโอน(backlog)มูลค่ารวมประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท จาก 2 โครงการ คือ  มหานคร และนิมิต หลังสวน โดยโครงการมหานครจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป  
    เมื่อปั้น D&D ถึงระดับหนึ่งแล้ว "สรพจน์" กล่าวว่าก็มีแผนนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯภายใน 3 ปี (2561) และก่อนหน้าที่ผู้ถือหุ้นเดิมได้เคยยื่นไฟลิ่งไปแล้ว  โดยเชื่อว่าจะได้รับราคาไอพีโอสูง เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตอย่างรวดเร็ว คู่แข่งน้อย โดยเบื้องต้นคาดว่า PACE อาจขายหุ้น D&D ในสัดส่วน 10-30% 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

Create Date : 24 มิถุนายน 2558		1 comments
Last Update : 24 มิถุนายน 2558 6:51:28 น.
Counter : 620 Pageviews.
Share Tweet