|
ส่งออกผวาไม่ได้ต่อGSPมะกัน
ส่งออกผวาไม่ได้ต่อGSPมะกัน หวั่นถูกตัดสิทธินาทีสุดท้ายจากไทยไม่ยากจน ผู้ส่งออกยังไม่ไว้ใจไทยจะได้ต่อจีเอสพีสหรัฐฯโครงการใหม่จริง หวั่นโอบามาใช้เกณฑ์รายได้ประชาชาติ ไทยพ้นประเทศยากจน ถูกตัดสิทธินาทีสุดท้าย ขณะชี้หากไทยยังคงได้สิทธิช่วยเพิ่มขีดแข่งขันไม่มาก เพราะคู่แข่งขันต่างก็ได้รับสิทธิเช่นกัน ชี้ระยะยาวอันตรายไทยไม่มีเอฟทีเอ-เจรจาทีพีพีกับสหรัฐฯ จากที่นายแพทริค เมอร์ฟี่ อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้เข้าพบ และหารือกับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ถึงการขยายการค้า การลงทุนในไทยเมื่อ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ในการนี้ได้แจ้งข่าวว่าร่างกฎหมายต่ออายุการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(จีเอสพี)แก่ประเทศกำลังพัฒนาของสหรัฐฯ (ที่ได้หมดอายุลงมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม2556)ได้ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่าน ขณะนี้รอรัฐสภาสหรัฐฯให้ความเห็นชอบ ล่าสุดสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) หรือสำนักงานทูตพาณิชย์ไทย ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา เผยถึงความคืบหน้าว่า หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐฯได้ผ่านกฎหมายต่ออายุจีเอสพีแล้วเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2558 สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯก็ได้พิจารณากฎหมายต่อจีเอสพีเช่นกัน และได้ผ่านกฎหมายฉบับของตนเองด้วยคะแนน 397 ต่อ 32 เสียง ซึ่งกฎหมายต่ออายุจีเอสพีของทั้ง 2 สภามีเนื้อหาสาระส่วนใหญ่คล้ายคลึง แต่แตกต่างกันในเรื่องค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการจีเอสพี ซึ่งฉบับของสภาผู้แทนฯไม่ต้องการใช้ประมาณรัฐมาดำเนินการ หรือการหารายได้มาใช้ในการบริหาร ดังนั้นกฎหมายจึงยังไม่สามารถมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ อย่างไรก็ดีคาดว่าสภาจะสามารถแก้ไขข้อแตกต่างได้โดยเร็ว และนำเสนอต่อประธานาธิบดีบารัก โอบามา ลงนามเพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ก่อนปิดสมัยประชุมสภาในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2558 นี้ นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก กล่าวว่าหากสหรัฐฯ ใช้เกณฑ์คุณสมบัติของประเทศที่อยู่ในข่ายยังคงได้รับสิทธิจีเอสพีเช่นเดียวกับสหภาพยุโรป(อียู) โดยหนึ่งในหลักเกณฑ์ที่สำคัญคือระดับการพัฒนาประเทศ โดยพิจารณาจากรายได้ต่อหัวประชากรของธนาคารโลกปี 2553 กำหนดไม่เกิน 12,196 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อคนต่อปีเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันไทยไม่ถือเป็นประเทศยากจน จะต้องถูกตัดสิทธิ ซึ่งไทยก็อยู่ในข่ายนี้ โดยปัจจุบันไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง (Upper Middle Income Countries) "หากยึดตามเกณฑ์เดียวกับอียูไทยคงไม่ได้ต่อจีเอสพีสหรัฐฯ ยกเว้นจะมีการเจรจากันเป็นพิเศษ ดังนั้นโอกาสได้หรือไม่ได้ตอนนี้อยู่ที่ 50 : 50 หากได้ต่อก็ดี แต่คงไม่ช่วยให้การส่งออกของไทยไปสหรัฐฯปีนี้ขยายตัวมาก เพราะประเทศคู่แข่งอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์เขาก็จะได้ต่อสิทธิจีเอสพีเช่นกัน ทั้งนี้การส่งออกของไทยไปสหรัฐฯปีนี้น่าจะขยายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วได้ 5% หากเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวดีขึ้นจริง" ด้านนายบัณฑูร วงศ์สีลโชติ ประธานคณะกรรมการความยั่งยืนทางธุรกิจ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวหากไทยได้ต่ออายุจีเอสพีสหรัฐฯจะมีผลให้ผู้นำเข้าสินค้าไทยได้ภาษีย้อนหลังนับตั้งแค่ถูกตัดสิทธิตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2556 และเมื่อการได้สิทธิจีเอสพีโครงการใหม่มีผลบังคับใช้สินค้าไทยและสินค้าจากประเทศที่ได้รับสิทธิ ในกลุ่มสินค้าที่ยังได้สิทธิจีเอสพีจะได้ลดภาษีเป็น 0% อาจทำให้ส่งออกไปสหรัฐฯได้ดีขึ้น แต่ระยะต่อไปไทยคงแข่งขันลำบาก เพราะไทยไม่มีการเจรจาเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)กับสหรัฐฯ รวมถึงไม่ได้เข้าร่วมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(ทีพีพี)ที่มีสหรัฐฯเป็นผู้นำ ทำให้เสียเปรียบคู่แข่งขัน ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
Create Date : 23 มิถุนายน 2558 |
Last Update : 23 มิถุนายน 2558 9:11:29 น. |
|
0 comments
|
Counter : 286 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|