|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เลือกอะไรดีระหว่าง LTF กับ RMF ?
สมมตินะครับว่าคุณมีเงินอยู่จำกัด เพราะในเดือนๆหนึ่งเราต้องเก็บเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อมาซื้อกองทุนรวมเพื่อลดภาษี ถ้าสมมติว่าคุณมีเงินไม่พอที่จะซื้อทั้งคู่ ทั้ง LTF และ RMF และคุณเป็นคนที่กลัวการขาดทุน คุณเพียงอยากได้ผลประโยชน์ด้านภาษีเท่านั้น คุณควรจะซื้ออะไรดี?
ใช่ครับหลายคนคิดถึง RMF เพราะว่า keyword ของคำถามคือ กลัวการขาดทุน ดังนั้นนักลงทุนหลายคนจึงโฟกัสไปที่ RMF และเลือกการลงทุนในกองทุนประเภทตราสารหนี้ แต่คำตอบของผมคือLTF ครับ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?.
สมมติว่าคุณเป็นนักลงทุนอายุ 30 ปี และฐานภาษี 30% ถ้าคุณซื้อ RMF วันนี้ คุณจะต้องรอจนถึงอายุ 55 ปี คุณถึงจะขายกองทุนและได้เงินคืน ซึ่งหมายความว่าเงินลงทุนของคุณจะถูกเก็บไว้เป็นระยะเวลา 25 ปี ในระหว่างนี้จะถอนมาใช้ประโยชน์ไม่ได้ แต่คุณจะไม่ต้องกลัวความเสี่ยงเรื่องการขาดทุน แต่ถ้าเป็นผมถ้าต้องเลือกแค่อย่างใดอย่างหนึ่งผมเลือก LTF เพราะในปีแรกที่คุณซื้อ LTF คุณได้เงินสดกลับมาทันที 30% เมื่อคุณถือครบ 5 ปี คุณก็สามารถทำการขายและนำเงินที่ได้คืนมานั้นไปซื้อ LTF ของปีที่ 5 ในการซื้อครั้งนี้คุณจะได้เงินคืนกลับมาอีก 30% หลังจากที่คุณทำครบสามครั้ง นั่นคือในปีที่ 9 คุณจะได้เงินคืนภาษีครั้งที่ 3 จำนวน 30% รวมเงินคืนภาษีสามครั้งได้คืนรวมเท่ากับ 90% และเนื่องจากตลาดหุ้นจ่ายปันผลปีละประมาณ 3% รวม 9 ปีจะได้ปันผลเท่ากับ 27% ดังนั้นรวมเบ็ดเสร็จแล้วคุณได้เงินคืนกลับมาเท่ากับ 90+27%= 117% ซึ่งมากกว่าที่คุณได้ลงทุนไป(ลงทุนไป 100บาท ได้มา 117 บาท) ดังนั้นไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงคุณก็ไม่ขาดทุนในเงินที่คุณลงทุนไปแล้ว เห็นมั้ยครับ เพียงแค่ 9 ปีเท่านั้น LTF ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า RMF แล้ว
และถ้าเราทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆจนครบ 25 ปี ซึ่งเท่ากับระยะเวลาที่เราจะขาย RMF พอดีเราจะได้ผลตอบแทนดังนี้ครับ เนื่องจากกระแสเงินสดไหลเข้ามาคนละปีกัน เราจะใช้วิธีคำนวณแบบ IRR ซึ่งวิธี LTF จะพบว่าเงินลงทุนครั้งแรกครั้งเดียวนั้นให้ผลตอบแทน IRR=9.33% (โดยยังไม่นับเงินปันผล และสมมติว่าขายหุ้นคืนได้ที่ราคาเดิม) ในขณะที่ RMF ให้ผลตอบแทน IRR= 1.5% เท่านั้น(โดยยังไม่นับดอกเบี้ยจากกองทุนตราสารหนี้) นอกจากนั้นผมกล้าฟันธงได้อีกว่าในอนาคตอีก 25 ปีข้างหน้านั้น ราคาหุ้นก็คงจะปรับตัวสูงกว่าในปัจจุบันมากนัก ซึ่งจะยิ่งทำให้ผลตอบแทนของ LTF สูงขึ้นไปอีก เห็นมั้ยครับว่าการลงทุนแบบไหนดีกว่ากัน แม้ว่าคุณจะกลัวการขาดทุนก็ตาม
ในกรณีฐานภาษี 20% นั้น ก็ยังให้ผลตอบแทน IRR สูงถึง 5.74% ซึ่งกลายเป็นว่าในระยะยาวแล้ว ฐานภาษี 20% ถ้าลงทุนใน LTF กลับให้ผลตอบแทนสูงกว่า ฐานภาษี 30% แต่ลงทุนใน RMF (ประเภทตราสารหนี้) !!
ดังนั้นถ้าผมต้องเลือกระหว่างกองทุน LTF กับ RMF แล้วล่ะก็ ผมเลือกซื้อ LTF ก่อนครับ แต่ว่าถ้าคุณมีเงินเก็บมากพอที่จะซื้อได้ทั้งสองประเภท ผมแนะนำให้ซื้อทั้งคู่ครับ นอกจากประหยัดภาษีแล้ว การลงทุนก็เป็นเรื่องที่ดี จริงมั้ยครับ ^_^
Create Date : 25 ธันวาคม 2552 |
|
7 comments |
Last Update : 18 มิถุนายน 2558 6:51:38 น. |
Counter : 1830 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: chabori 25 ธันวาคม 2552 18:26:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: Wave Rider IP: 115.67.66.81 30 มกราคม 2553 22:47:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: Dr.TON IP: 114.128.47.247 28 กุมภาพันธ์ 2553 21:35:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: yagle 1 มีนาคม 2553 15:06:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|
มีร่างกายที่ล้นเปี่ยมพลังมากมาย
ไม่มีโรคร้ายใดใดกวน
ที่ผ่านมาถือว่าฟาดเคราะห์เสียงดังเปราะให้จงหาย
ต้อไปนี้ทรัพย์ที่มีจะเพิ้มขึ้นอีกมากมาย
ไม่มีภัยอันตรายมาเยี่ยมเยียน
ที่เคยรักจะพานพบกับคนแท้จริง
ให้ได้อิงเอียงแอบแนบชิดใจ