------- เรื่องไม่จริง.....จตุคามรามเทพ ------
แม่.. เดี๋ยวคืนนี้ผมขอไปนอนค้างบ้านเพื่อนนะ
เด็กชาย ซุปคนอร์ บอกกับแม่ห้วนๆ เพื่อขอในสิ่งที่เขาต้องการ แม่ทิพรส มองหน้าลูกชายจอมแสบแว๊บนึง พลางนึกในใจ
ไอ้เด็กสมัยนี้ อะน้า...จะบอกอะไรมันก็ไม่ค่อยเชื่อฟังหรอก ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ จะด่ามัน อีลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน ก็กลัวโดนย้อนกลับมาเข้าตัวเอง
เอ๊าะ! ถ้างั้นก็ตอบตกลงมันไปแล้วกัน จ้า! ตกลงจ๊ะลูก อย่าเที่ยวกลางค่ำกลางคืนดึกนักนะ เอ้อ!..แม่ ผมขอไอ้ที่แม่ห้อยคอไปด้วยนะ เผื่อเอาไปไว้คุ้มครอง พลางชี้นิ้ว มายังจตุคามรามเทพที่แขวนอยู่
จะดีเหรอลูก ของมันหายากนะ แต่ถ้าลูกจะยีมก็ตามใจ แต่ขอปลดจากสร้อยคอก่อนจ๊ะ แม่ทิพรสสุดแสนทัดทาน ต้องจำใจมอบสิ่งอันเป็นมงคล จากคอสู่กำมือลูก ก่อนจะมองตามมอเตอร์ไซค์แว๊น ที่บึ่งออกไปพร้อมเหรียญล้ำค่า ...........ตอนตั้งท้อง ตรูไม่น่าเติมแก๊สโซฮอลล์เลย พับผ่าสิ
ยามพลบค่ำ ณ.ป่าช้าวัดบ้านดอน ที่ทุกคนยกย่องว่า มีผีดุเลื่องลืออันดับ 1 ในวงล้อมด้ายสายสินธุ์ ท่ามกลางแสงจันทร์ เราพอมองเห็น กลุ่มคนที่กระจุกอยู่ในนั้น 4-5 คน หนึ่งในนั้นคือ เด็กชายซุปคนอร์ ที่ว่าจ้างหมอผีชื่อดัง มาคุ้มกะลาหัวตัวเอง เฮ้ย! เอ็งว่าวันนี้ผีจะมามั้ยว่ะ ?
เพื่อนวัยซนคนนึงพูดโพล่งออกมา ยังไม่ทันขาดคำ ก็บังเกิดกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง พลอยทำให้บรรดาขาโจ๋ทั้งหมด มองหน้ากันเหลิกลัก พร้อมขนหัวลุกแบบขนเม่นทีเดียว หมอผีเองก็มีเหงื่อผุด ท่วมใบหน้าเช่นกัน พร้อมหลับตา บริกรรมพรึมพลำอะไรไม่รู้ แรงขึ้นเรื่อยๆ
และแล้วก็ตาเหลือกโพลง โอ้ย! ทนไม่แล้วแล้ว ปวดขี้ฉิบหาย ก่อนจะกระโดดแพล้ว ข้ามด้ายสายสินธุ์ มุดเข้าไปในพงหญ้า
เสียงขี้อัดลม บรรเลงสลับกันไปหลายวินาที ก่อนจะสิ้นสุดด้วย... อ๊ากกกกกก....ไอ้ผีร้าย มึงอย่าบีบคอกู !!!!!! นั่นคือเสียงร้องสุดท้าย ของจอมขมังเวทย์ที่ได้ยิน
โบ๊วๆ.......โบ๊ววู๊.......................... ( สร้อย ) เฉพาะหมาเท่านั้น โปรดร้องซ้ำๆ 3 รอบ สุนัขเห่าหอน ประสานเสียงคอรัสกันขรม เหมือนจะบอกใบ้ว่า ผีจะมาแล้วนะเฟ้ย
อีกไม่นานนัก ก็มี..เงาปีศาจคลุมโปงสีขาว ปรากฏกายลอยออกมา สะแหย่ะยิ้ม เห็นฝูงหนอนชอนไชทั่วร่างกาย ผะๆๆ ผี เฮ้ย! เอาไงดีเว้ย ? หนีหรือสู้ดีหวะ เด็กชายซุปคนอร์ พูดไปสั่นไป
พลางหยิบข้าวสารเสกของหมอผี ปาใส่แบบไม่ยั้งมือ รวมทั้งอาวุธต่างๆของเพื่อน ประเคนใส่ผี ทั้งไม้กางเขน พระเครื่อง ใบหนาด ใบข่อย ฯลฯ ก็ถูกนำมาใช้ทั้งสิ้น
แต่ไร้ผล
เฮ้ย! ถ้างั้นเจอ จตุคามรามเทพมั่งสิ นั่นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชิ้นสุดท้ายที่มีอยู่ พลางชูมือที่กำของขลังแน่นเพื่อแสดง ปา ติ หาน (สะกดไงฟระ)
กรี๊ดดด.......กรูยอมแล้ว วิญญาณร้ายโอดโอยก่อนจะแตกสลายร่างเป็นลูกไฟหายตัวแว๊บ เร็วเหมือนหลานยายจุลโดดเรียน
เฮ้ย! กูปวดท้องหวะ โอ้ย! อย่าบิดใส้กู เด็กชายซุปคนอร์ร้องโอดโอยบิดตัวไปมา ทรมานอย่างนั้นทั้งคืน กลุ่มเพื่อนเองไม่รู้จะช่วยอย่างไรได้ นอกจากทุกคนต่างอยู่ในด้ายสายสินธุ์และปลอบใจกัน จนกว่าจะถึงรุ่งเช้าอีกครั้ง
06.00 น. จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ผ่าตัดด่วนที่สุด 08.00 น. หมอหนุ่มเดินออกมาจากห้องผ่าตัด พร้อมชุดที่ปิดใบหน้าอำพรางเหมือนโจรใต้
ดีใจด้วย ดช.ซุปคนอร์ปลอดภัยแล้วครับ เพื่อนผมเป็นอะไรครับหมอ ? ทุกคนต่างกรูเข้ามาถามความเป็นไป
หมอหนุ่มพูดอธิบายพร้อม ดึง mask เปิดหน้าออกมา ในท้องแกมีของแปลกปลอมหนะ ไม่รู้สิ หมอเคยแต่ผ่าตัดเอาหนังควาย เอาตะปูเสก ออกจากท้องนะ ครั้งนี้ครั้งแรกที่.... หมายถึงเพื่อนผม ถูกเสกของเข้าท้องเหรอครับ เพื่อนถามสวนขึ้นมาทันที
หมอกล่าวต่อด้วยใบหน้าฉงนแปลกใจ
ไม่ไช่หรอกครับ เผอิญหมอผ่าตัดไปเจอ จตุคามรามเทพในท้อง แต่ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมมือขวามันต้องกำ OREO ไว้แน่นปานนั้นด้วยเนี่ย
---------------------------------------------------------
ปัจฉิมลิขิตก่อนจบบล๊อค : อย่าได้สงสัยว่าผมหายไปไหนบ่อยๆ ในวันศุกร์- เสาร์ อาทิตย์ มันไม่ว่างเลยจริงๆ คงเหลือเวลาว่างแค่ตอนดึก จันทร์ พฤหัส เท่านั้น ยกเว้นจะโชคดีไม่มีงาน ในกลางวัน ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนนะครับ ---------------------------------------------------------
Create Date : 12 มิถุนายน 2550 |
|
49 comments |
Last Update : 21 เมษายน 2551 23:46:41 น. |
Counter : 727 Pageviews. |
|
|
|
นึกว่า จขบ. จะมุขว่า
ถ้าผมหายไป
คงเพราะฤทธิ์ของโอริโอ เอ๊ย จตุคาม ซะอีก
อ่านแล้ว ขำมากค่ะ
เห็นด้วย ว่า เหมือนมั่ก ๆ