We Luv Review ^^
 
เมษายน 2553
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
9 เมษายน 2553
 
 
SK II ^^ ภาค 1

ประเดิมไปด้วย Chanel ก็ขอต่อด้วย SK II เลยละกัน

<<ขอแอบบอกก่อนว่าเราเป็นแฟนพันแท้ของ SK II เลย>>

ก่อนจะรีวิวต้องแนะนำก่อนว่าจริงๆผลิตภัณฑ์ของ SK II จะแบ่งเป็น 7 อย่าง

<<1>> Essential Care ก็จะเป็นครีมบำรุงทั่วๆไป และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า มอยเจอไร เซอร์ กันแดดอะไรเทือกนั้น ทุกตัวจะขึ้นต้นด้วย Facial Treatment

ต่อมา<<2>> Pitera Heritageจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นส่วนผสมของพิเทร่า ซึ่งก็รวม Essence ด้วย กลุ่มนี้ก็จะขึ้นต้นด้วย Facial Treatment เช่นเดียวกัน
2 กลุ่มนี้บรรจุภัณฑ์จะเน้นแก้ว หรือพลาสติกขาว หรือใส ใช้กะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน

กลุ่มถัดมาจะเป็น <<3>> Whitening/Tone Careก็จะเน้นหน้าขาว
จะมีทุกตัวคล้ายๆกะ Essential Care แต่จะเน้นขาว ลดรอยดำ รอยหมองคล้ำ
ทุกตัวของกลุ่มนี้จะมีชื่อ Whitening Source นำหน้า บรรจุภัณฑ์จะเน้นสีเทาๆ หรือเงินๆ ใช้กะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน เน้นคนที่ต้องการเน้นหน้าขาว ลดรอยดำ รอยสิว

ตัวถัดไป เป็นผลิตภัณฑ์ออกใหม่ป้ายแดง
<<4>> Cellumination/ Aura Care ตัวนี้จะเน้นความกระจ่างใสจากภายใน สำหรับทุกวัยที่ต้องการกระจ่างจากภายใน ตอนไปมาเล BA โฆษณาว่า More than white, (radiant) ผลิตภัณฑ์จะ เน้นสีมุข นวลๆให้ดูไฮโซ ทุกตัวจะขึ้นด้วย Cellumination

ถัดไป<<5>> Beautify Agingตัวนี้ชื่อก็บอกละว่า Aging ก็จะมีผลิตภัณฑ์คล้ายๆ กะ Essential Care แต่จะเน้น Aging พวกลบรอยตีนกา หน้าย่น หน้าเหี่ยวไรงั้น ((กลุ่มนี้คาดว่า คงได้ใช้ในอนาคต)) เพราะมีคนแนะนำมาว่า พวก Aging นั้นควรใช้เมื่อถึงวัย อย่าไปใช้ก่อน ไม่งั้นพอถึงวัยละจะไม่มีครีมที่ช่วยเราได้แล้ว บรรจุภัณฑ์จะเน้นสีแดง กระปุกแดง ขวดแดง จะมี 2 ชื่อ คือ Skin Signature กะ Signs

ถัดไปอีก <<6>> LPX ตัวนี้ก็ไม่เคยใช้ แต่คาดว่าน่าจะเกินกว่า Aging ด้วยบรรจุภัณฑ์จะเน้นสี ทอง เลยเดาว่าน่าจะของวัยทอง คือต้องเอามากระชากหน้าไรงั้น ตัวนี้ชื่อก็ จะขึ้นเลยว่า LPX


กลุ่มสุดท้าย<<7>> Foundation ก็เน้นพวกแป้งผสมรองพื้น รองพื้น ละก็แป้งฝุ่น สีของแป้งกะความต้องการ ของคนใช้ก็ตามสีที่บอกมาเลย

ว่าแล้วก็ขอเล่าความเป็นมาของการ รู้จักกะ SKII
เท้าความนิดนุงว่าที่ได้ใช้มาตั้ง แต่พฤษภา 2008
ที่ได้ ใช้เพราะว่าช่วงนั้นกะลังอยากหาอะไรมาบำรุงหน้า
คุณป๊าที่รักเห็นโฆษณาก็ เลยถามว่าอยากลองไหม เห็นเค้าว่าจะดีขึ้นใน 28 วัน
ก็เลยลอง (ป๊าออกตังค์ให้ด้วย อิอิ) เลยไปซื้อ SK II ครั้งแรกที่ Zen, Central World

((จะบอกว่า BA SK II กะ BA Chanel ต่างกันเว่อร์ๆ ))

ตั้งแต่ ครั้งแรกที่เข้าไป เพราะ BA @ Zen ไม่จิกด้วยสายตา ไม่กัด แนะนำดี ให้ลองด้วย
ก็เลยจัดไป เอา "นางเอก" ขนาด 150 ml มา 1 ขวด กะ Sign Totality มา 1 กระปุกใหญ่
เอาทีละตัวเลยละกัน เริ่มด้วย

นางเอกของเรา
SK-II Facial Treatment Essence


ขวดนี้เป็น A must จริงๆ ที่ขาดไม่ได้จริงๆ
(เคยงอนคุณแฟนไปทีนึงที่ไม่ยอม ซื้อ SK II ที่สิงคโปร์มาให้
ทำเค้าน้อยใจเลยว่ามันต้องได้ขนาดนั้นเลยหรอ ซึ่งก็ขาดไม่ได้จริงๆ)

จากที่หน้าสิวเห่อมากกก เน้นว่าจริงๆ ก็ไปหาหมอกดสิว พอกหน้าสมุนไพร
จบด้วยหมอคลินิค ก็ยังมีสิวมากมาย ทั้งแสบหน้า ทั้งรอยแดง หน้าลอก

แต่พอใช้ตัวนี้แล้ว หน้าค่อยๆดีขึ้น
รู้สึกได้อย่างแรงในช่วงแรกๆว่าหน้าขาวขึ้น รอยดำจางลง

((แต่ช่วงหลังหน้าอาจจะขาวถึงขีด สุดแล้วก็เลยไม่รู้สึกขนาดนั้น))

ใช้ตอนกลางคืน ทาไปแล้วเช้ามาหน้าเด้งสวย จนพี่อ้อมที่ร้านสุทธาสินีที่แต่งหน้าให้ ประจำทักว่าไปทำอะไรมา หน้าดีขึ้นมากๆๆๆๆ

ขวดนึงก็ใช้ได้นานด้วย ครั้งแรกที่ซื้อมา 150 ml 3,900 บาท (ตอนนี้ 4,200แล้ว) ใช้ได้ประมาณ 1 ปี ถือว่าประสิทธิภาพคุ้มค่า คุ้มราคามากๆ


สำหรับคนที่ใช้แรกๆอาจจะไม่ ชอบกลิ่น
((ซึ่งเพื่อนเราเรียกว่าน้ำหมัก อาจจะเหมือนอะไรซักอย่างที่บูด))
แต่ใช้ไปสักพักก็ติดนะ ตอนนี้เราว่ากลิ่นมันก็โอ หรือจมูกเฝื่อนไปแล้วหว่า

สำหรับราคาและสถานที่ซื้อ ก็ขอแนะนำเลย
ราคาตาม เคาท์เตอร์ทั่วไป
75 ml 2,800 บาท ขวดนี้ไม่เคยใช้เลยไม่รู้ว่าน่าจะใช้ได้นานขนาดไหน
150 ml 4,200 บาท ใช้ได้ 8 - 10 เดือน
215 ml 5,300 บาท ใช้ได้ 12 - 15 เดือน
และขวดใหญ่สุด 250 ml 6,200 บาท ตอนนี้ใช้อยู่ ไม่น่าจะหมดง่ายๆ
แต่แนะนำว่า SK II ลดบ่อยมาก รอซื้อช่วงลดจะได้ลด 10%
ขอแนะนำนิดนึง ว่าถ้าซื้อเคาเตอร์ จะดีกว่า Duty free ตรงที่เราเก็บแต้มได้
สำหรับสมาชิกจะสามารถแลกของได้ ซึ่งก็ค่อนข้างเวริ์คเพราะของที่ได้ไม่ใช่ขนาดทดลอง

อีกทางเลือกหนึ่ง ที่ King Power ก็จะถูกกว่า 400 - 800 บาท เพราะเคยซื้อ 75 ml 2,320 บาท

อีก 2 ที่ที่recommend มากๆ สำหรับผู้ที่มีโอกาสไป

ที่แรก มาเลเซีย ทุกห้าง ทุกเคาเตอร์เก็บแต้มได้ (สนามบิน KLCC ไม่มี SK II อ่ะ T_T)
ราคา จะถูกกว่าเมือง ไทยมากๆๆ ประมาณ 500 - 1,200 บาท

อีกที่คือ สิงคโปร์ เก็บแต้มได้เช่นเดียวกัน แต่ต้องเป็นเคาเตอร์ในห้าง
ราคาจะถูกกว่า มาเล อีก 100 - 500 บาท อย่าง 250 ml คิดเป็นเงินไทยแล้ว 4,xxx
โดย เฉพาะที่สนามบินจะถูกมากๆๆๆๆ

ที่มา เก๊า ก็ถูก แต่เก็บแต้มไม่ได้ ถ้าอยากได้ถูกมากๆ ต้องที่ Bonjour

แต่ถ้าตามเว็บ นี่ต้องแล้วแต่วิจาณญาณ แต่เราไม่กล้าอ่ะ

!! สำหรับการแพ้ มีเพื่อนเราแพ้ Essence นะ !!
ถ้าจะลอง ก็แนะนำให้ลองขวดทดลองใช้ หรือลองมาสกที่เป็นessence ก่อนจะดีก่า อ้อ อีกอย่าง เราว่าอย่าไปคาดหวังมากว่าใช้ตัวนี้แล้วจะไม่มีสิว มันขึ้นอยู่กับการล้างหน้า การพักผ่อน ความเครียด อาหารการกิน และมลภาวะที่เราเจอด้วย Essence เป็นแค่ตัวช่วย

คะแนน 10/10 รักสุดๆ

อีกชิ้นที่ซื้อรอบนี้
Signs Treatment Totality
(ปล ขอบคุณรูปจาก Google นะคะ ของเราหมดไปแล้ว)


ตัวนี้จริงๆเรายังๆไม่ต้องใช้ แต่ BA คงจะมั่ว
เพราะเรา ถามไปว่ามี Moisturizer ไหม เจ๊แกก็แนะนำตัวนี้มา
((ตอนนั้นเพิ่งจบตรี _ _*))

มารู้ทีหลังว่าของคนแก่ แต่ซื้อมาแล้วทำไงได้ ก็ใช้ดิ
เราว่าตัวนี้โอมากๆๆๆ กะว่าถ้าตีนกาเริ่มมาจะใช้ทันที เพราะใช้แล้วหน้าเด้งจริงจัง
เนื้อครีม นุ่มละมุน ซึมซาบเร็ว แอบเหนอะนิดนึง เหมาะแก่การทาก่อนนอน
กระปุกนึงใช้ได้ 4 - 6 เดือน ราคาตอนนั้น 4,600 แต่ตอนนี้ 5,100 แล้ว ตัวนี้จะมีช้อนตักครีมในตัวด้วย

คะแนน 10/10
ปล. สำหรับคนที่เริ่มมีริ้วรอยนะคะ

ครั้ง นี้ BA แถมครีมมาให้ 4 อย่างค่ะ มี Essence ขนาดทดลอง 30 ml
Oil ขนาดทดลอง 34 ml Facial Lift Emulsion ขนาดทดลอง 30 ml
และก็ Signs Eyes Mask 1 ชิ้น ตัว Oil นี่ขอ review ทีหลังนะคะ ส่วน 2 ตัวหลัง
ให้คุณป๊ากะคุณแม่แบ่งกันใช้ค่ะ

ถัด มา ด้วยความที่อยากลองอีกสักอย่างหลังจากการลองใช้ประสบผลสำเร็จก็เลยลองใช้
Whitening Source Derm Definition



ตัวนี้ขอบอกว่าเลือกถูกจริงๆ เป็นอีกตัวที่ Cleo และ Cosmo ยอมรับว่าเป็น The Best ซึ่งเราก็เห็นด้วยจริงๆ เพราะใช้แล้วจากที่เคยมีรอยสิวทั้งแดง และดำก็ค่อยๆ เลือนหายไป น่าใสเด้ง ไร้ริ้วรอยจริงๆ เนื้อครีมตัวนี้ก็ เนียนละเอียด ครีมซึมซาบเร็ว ไม่เหนอะ ถ้าทากลางคืน เช้ามาหน้าจะเด้งมาก

ตัวนี้มี 2 ขนาด 30 ml 4,200 แล้วก็ 50 ml 6,200 ((หนึ่งขวดเล็ก BA ที่มาเก๊าแนะนำให้ใช้ 1 เดือน คือสูบมาเต็มหลอดแล้วโปะหน้า)) แต่ด้วย ราคา เราคงทำอย่างนั้นไม่ได้ ก็กระมิดกระเมี้ยนใช้ได้เกือบๆ 3 เดือน

คะแนน 10/10
ของ เค้าดีจริงๆ

หลังจากนั้นสักระยะ มีงานทำ มีเงินเดือนก็มีตังค์ไปซื้อ SK II ด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง คราวนี้ลองไปที่ Central Chidlom ไม่เข้าใจว่า BA จะหยิ่งไปไหนsrc=//www.bloggang.com/emo/emo24.gif>

ไปถึงถามนิดๆหน่อยๆก็เลยชี้เลยเอา 4 ตัว พร้อมยื่นบัตรสมาชิกของ SK II ที่เพิ่ง up มาเป็น Silver ก็ทำเอา BA เหวอไปเลย <<สะใจจริงๆ>>

4 ตัวที่ว่าก็มี SK-II Facial Treatment Essence 215 ml,
Whitening Source Derm Brightener , Facial Treatment Cleansing Gel
และ Whitening Source Clear Lotion

ขอแนะนำWhitening Source Derm Brightenerก่อน


ตัวนี้แรกๆ เสียใจที่ซื้อมา เพราะช่วงนั้นกะลังเห่อ Derm Def มากๆ ตัวอื่นๆจะดูกระจอกงอกง่อยหมด แต่พอ Derm Def หมดก็พบข้อดีของตัวนี้ ว่า จริงๆก็ช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้รอยดำลดลง แต่เป็นการช่วยการผลัดเซลล์อย่าง เป็นธรรมชาติ เลยจะเห็นผลช้าไปสักหน่อย เป็นครีมที่ให้ผลดีในระยะยาว ใช้ตัวนี้ต้องใจเย็นๆ ไม่เห็นผลได้ใน 1 เดือน

ต้องใช้ไปเรื่อยๆ ตัวนี้ก็ค่อนข้างราคาสูง คือ 4,600 บาท
แต่ปริมาณก็เยอะ กระปุกใหญ่ 75 ml ใช้ได้นาน

สำหรับเนื้อครีมก็เป็นครีมละเอียด ซึมซาบค่อนข้างช้า และเหนอะ เหมาะสำหรับทาก่อนนอน สำหรับเราก็ถือว่าตัวนี้ก็โอที่จะเป็น night cream

คะแนน 8/10
-1 ราคาสูง และเห็นผลช้า -1 ครีมซึมซาบช้า และค่อนข้างเหนอะ

อีกตัว Facial Treatment Cleansing Gel



ตัวนี้เป็นตัวแรกที่เราเราผิดหวัง กะผลิตภัณฑ์เพื่อการทำความสะอาดใบหน้าของ SK II มากๆ

เพราะคิดว่าใช้แล้วหน้าจะสะอาดเก ลี้ยงกริ๊บ แต่พอป้ายเนื้อเจล แล้วกูถูๆๆ เพื่อล้างเครื่องสำอาง พอเช็ดออก กลับยังเหลือคราบเครื่องสำอางค์อยู่ เนื้อครีมก็ค่อนข้างเหนียว วิธีใช้เราก็ต้องเอาเนื้อครีม มาป้ายที่หน้าแล้วก็ถูวนเรื่อยๆ จนเนื้อครีมแปลงสภาพเป็นออยล้างหน้า และ เมื่อเป็นออยแล้วก็ต้องเช็คออกด้วยทิชชู เพราะสำลีไม่สามารถเช็ดออกได้ เนื่อง จากสำลีจะยุ่ยติดหน้า

ราคาก็ค่อนข้างแพงอยู่ที่ 1,900 แม้จะกระปุกใหญ่เบ้ง 100 ml แต่ขนาดที่ใช้ก็เยอะเช่นกัน สำหรับเราถือว่าแพงไปสำหรับการลงทุนซื้อออย ล้างเครื่องสำอางค์

คะแนน 6.5/10

-1 ใช้ล้างเครื่องสำอางค์ได้ไม่หมดจด โดยเฉพาะคนที่กรีดตา และแต่งหน้าหนาๆ
-1 เช็ดออกลำบาก ต้องใช้ทิชชู่เช็ด ซึ่งเราว่าทิชชู่มันจะบาดหน้า ก่อนที่เนื้อออยมันจะหมดไหม
-1 ราคาแพงเกินความจำเป็น และปริมารที่ต้องใช้ก็ค่อนข้างเยอะ
-0.5 กว่าที่เนื้อเจลจะเปลี่ยนเป็นออย ใช้เวลาค่อนข้างนาน


และWhitening Source Clear Lotion



ตัวนี้ก็เป็นอีกชิ้นที่ประทับใจ ตอนแรกที่ซื้อไม่ได้ตั้งใจ แค่จะลองดูว่ามันเวริ์คไหม พอใช้ละเวริ์ค มากมาย ตัวครีมเป็นน้ำสีขาวขุ่นๆ เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว
พอใช้กะสำลี ละมาเช็ดหน้าเราแล้วรู้สึกว่าหน้าสะอาดขึ้น พร้อมจะลงครีมอื่นๆละ

ราคา ตัวนี้อยู่ที่ 2,400 บาท ปริมาณ 150 ml
สำหรับเรา เราว่าก็โอนะ เพราะว่าใช้ได้ 3-5 เดือน ก็นานอยู่

คะแนน 10/10
ไม่มีที่จะหักง่ะ


ของแถมรอบนี้ รู้สึกว่าจะได้มา 5 อย่างถ้าจำไม่ผิด
มี Essence ขนาดทดลอง 30 ml ,Oil ขนาดทดลอง 34 ml
Facial Treatment Clear Lotion ขนาด ทดลอง 20 ml,
Facial Treatment Cleanser ขนาดทดลอง20 g
แล้วก็ Signs treatment Totality ขนาดทดลอง2.5 g

ก็ขอรีวิวเฉพาะFacial Treatment Clear Lotionนะคะ


ตัวนี้จะมีหน้าที่คล้ายๆกับ Whitening Source Clear Lotion
จะ ต่างกันแค่ว่าตัวนี้จะไม่เน้นช่วยเรื่องหน้าขาว เน้นเช็ดทำความสะอาดเฉยๆ

ตัว นี้น้ำโทนเนอร์จะใสๆ ซึมซับเร็ว เช็ดแล้วก็สะอาดดี

((ขอกระซิบนิดนึง ว่าตัวนี้มักจะแถมเวลาที่ซื้อหลายชิ้น หรือครบยอด))

ตัวนี้ราคาเต็ม อยู่ที่ 1,900 บาท 150 ml
แต่ ไม่แน่ใจว่านานแค่ไหน เพราะว่าเราไม่เคยใช้ขวดใหญ่

คะแนน 10/10
ไม่รู้จะหักอะไร เพราะใช้โอ ขวดใหญ่ น่าจะใช้นาน คุ้มราคา

แหะๆๆ จากที่ดูมา รีวิวนี้ยาวมากแล้ว ไว้ต่อภาค 2 นะคะ




Create Date : 09 เมษายน 2553
Last Update : 9 เมษายน 2553 23:53:32 น. 0 comments
Counter : 496 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

ichbinyossy
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับนะคะ ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมบล็อกนี้ นะคะ หลังจากช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิต เปลี่ยนจากงานบริษัทมารับราชการ แต่ด้วยความล่าช้าของระบบ หรือ ด้วยความอดรนทนไม่ไหวของเราเอง ก็เลยมีเวลานั่งว่างงานหลายวัน ได้มีโอกาสอ่านรีวิวเครื่องสำอางค์จากหลายๆที่ และด้วยความที่เป็นคนชอบความสวยความงามเช่นกัน ก็เลยคิดว่าถ้าเราทำบล็อกรีวิวเครื่องสำอางค์ที่เราใช้บ้างก็คงจะเป็น ประโยชน์ต่อคนอื่นไม่น้อย ก็เลยเป็นที่มาของบล็อกนี้ ก็หวังว่าทุกคนจะให้การต้อนรับนะคะ
[Add ichbinyossy's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com