★ หนังที่ได้ดู ... (10)



Title :: Iron Man (2008)
Director :: Jon Favreau
Country :: USA

เป็นการกลับมาคืนโลกเซลลูลอยด์ได้อย่างงามงด หลังจากที่ก่อนหน้านี้เดินเข้าเดินออกคุกตารางเป็นว่าเล่นและผลงานการแสดงแม้จะมีออกมาให้ชมอยู่อย่างเนืองๆอย่าง Zodiac (Paul Avery ,2007) ,Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus (Lionel Sweeney ,2006) หรืออย่าง A Scanner Darkly ( James Barris ,2006) แต่ เรื่องเมาแล้วขับ, มีสารเสพติดไว้ในครอบครอง ขึ้นโรงขึ้นศาล ดูจะมีคนพูดถึงและจดจำได้มากกว่า..ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึง โรเบิร์ต ดาวน์นี่ จูเนียร์ ซูเปอร์ฮีโร่ในชุดเกราะสีแดงและทอง และเป็นฮีโร่พันธ์กวนโอ๊ยภายใต้ชุดสูทแพงระยับใน Iron Man (ขอนับเฉพาะครึ่งหลังของหนังละกัน 55)

Iron Man เล่าเรื่องได้สนุก กระชับไม่เย่นเย้อ การแปลงร่างในช่วงชุดแดงทองนี่ก็น่าประทับใจจริงๆ พาลนึกไปถึง Transformers (2007) ตอนที่รถยนต์แปลงร่างถอดประกอบเป็นหุ่นยนต์ที่ทำเอาตื่นตาตื่นใจมากๆเหมือนกัน (หรือจริงๆแล้วเป็นคนที่คลั่งไคล้เสียงของระบบไฮโดรลิคมั๊ง..คิดว่านะ) บท โทนี่ สตาร์ค หนุ่มอภิมเศรษฐีเจ้าสำราญของ โรเบิร์ต ดาวน์นี่ จูเนียร์ นั้นมันทั้งยียวนกวนประสาทและน่าสมน้ำหน้านักเมื่อต้องไปตกอยู่ในดงสินค้าที่ตัวเองผลิตออกมา แต่กระนั้นเราก็ยังเอาใจช่วยให้เขาเอาตัวรอดออกไปให้ได้ทั้งเพราะเราเริ่มเห็นว่าเขาพอจะมีสำนึกดีอยู่บ้าง และทั้งเพราะเรารู้ว่าเขาเป็นพระเอก ^_^

กวินเนท พัลโทรว์ ในบทของ เวอร์จิเนีย “เพพเพอร์” พอทส์ เป็นผู้ช่วยและเป็นเลขาประจำตัวของ โทนี่ สตาร์ค ก็เรื่อยๆมาเรียงๆ ไม่โดดเด่นเกินไปแต่ก็ยังพอจะมีความหมายและความสำคัญอยู่บ้างในยามที่พระเอกต้องการคู่หู (เกือบๆจะเป็นคู่ใจ) บุคลิคลักษณะรูปร่างของเธอไร้ที่ติในการเป็นผู้ช่วยและเลขาให้พระเอก ติดแค่ว่าสีหน้าเธอออกจะเนือยๆเหมือนคนไม่ค่อยอยากจะสุงสิงกับใคร (แต่ชื่อแปลว่าพริกไทยที่เผ็ดร้อนเนี่ยนะ 555)

สรุปแล้วว่า สนุก(กว่าที่คาด 555)





ชื่อเรื่อง :: สี่ แพร่ง (2551)
ผู้กำกับ :: ยงยุทธ ทองกองทุน / ปวีณ ภูริจิตปัญญา /บรรจง ปิสัญธนะกุล และ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ
แดนดิน :: ถิ่นไทย

** หมายเหตุ :: ทีแรกกะจะเขียนยาวๆโดยใช้ชื่อว่า (ฉัน, หนังผี...) สี่แพร่ง (และ เธอ...) แต่เกิดเปลี่ยนใจเอามาลงในหมวดหนังยาวแต่เล่าสั้นแทน เพราะมันมีแต่น้ำ 555

สมัยเด็กๆ ชอบอ่านนิยายหรือเรื่องสั้นประเภทผีผี ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นหนังสือเก่าของพ่อที่อยู่ติดบ้านมาหลายปีแล้ว ช่วงปิดเทอม(ที่ไม่มีเรียนพิเศษ) ก็จะอยู่ติดกับบ้านนอนอ่านหนังสือประเภทเรื่องราวลึกลับ มัมมี่ เบอร์มิวด้า เรื่องราวสยองขวัญและ ผี โดยเฉพาะเรื่องสั้นผี อ่านแล้วก็กลัวจับจิต นอนอ่านเหยียดยาวที่โซฟา แต่เวลาจะลงจากโซฟา ก็หวั่นว่าจะมีมือยืดยาวแขนเหวอะโผล่ออกมาฉุดคว้าข้อเท้า บางวันอ่านไปก็นึกภาพไปว่าจะมีอะไรนอนเหยียดยาวเหมือนเราอยู่ใต้โซฟาหรือเปล่า จนบางครั้งเพื่อเอาให้ชัวร์ ก็จะก้มลงดูให้แน่ใจ ว่ามีหรือไม่มี กลัว...แต่ก็ไม่อยากกลัวอยู่นาน (ฮา)

จริงๆแล้วก็ไม่ใช่คนชอบดูหนังผีนะ ประมาณแบบว่าตาหลุด หน้าเละ ปากเหวอะ ท้องเปื่อย อะไรอย่างนี้ เพราะเวลามีฉากเหล่านี้ทีไร สายตาที่เคยโฟกัสอยู่กลางจอก็จะย้ายตำแหน่งไปอยู่ขอบๆจอทันที นัยว่ายังขอให้เห็นแค่อะไรไหวๆก็พอ ถ้าปิดตา เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะมาจะไป แต่จากสถิติของตัวเองเวลามีหนังผีเข้าฉายทีไร (กรณีหน้าหนังโอเคด้วยนะ) ก็จะหาโอกาสไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทดสอบความกล้าอยู่บ่อยๆแม้เทียบกับเปอร์เซนต์ของหนังผีผีหลายตระกูลที่เทกระจาดเข้าโรงฉายอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็ยังอยู่ในเปอร์เซนต์ที่ต่ำกว่าชาวบ้านเขา

อย่าง ลองของ ทั้ง 2 ภาคนั้นต้องขอยกธงขาวแบบเร็วๆเลย ทนเห็นไม่ไหว ทั้งเจาะทั้งกรีดทั้งเย็บทั้งสอย !!! หรืออย่างตุ๊กแกผี ก็เลือกที่จะไม่ดู “บอดี้สแลมเอ้ย บอดี้ ศพ#9” ก็พลาดไป “อาจารย์ใหญ่” ก็ไม่ได้ดู ฯลฯ

ว่ากันถึงหนังผี สี่แพร่ง กันดีกว่า

เรื่องย่อทั้ง 4 อ่านได้ ที่นี่


“เหงา” ของ คุณสิน ยงยุทธ ทองกองทุน
หนังใช้ข้อจำกัดหลายอย่างเป็นตัวบังคับให้คนดู (เป้าหมายอันดับหนึ่ง)อยู่ติดกับเนื้อเรื่องได้ยอดเยี่ยมมากๆ ทั้งการให้ตัวละครอยู่ในห้องบรรยากาศทึมๆเสมือนห้องปิดตาย หรือการช่วยเหลือตัวเองได้ยาก(อุปสรรค)และการได้ลุ้นกับข้อความ SMS ที่ ปิ่น ทั้งส่งและได้รับจากชายนิรนาม

คนดูถูกหลอกล่ออารมณ์ให้ตายใจไปกับข้อความที่ทั้ง 2 ฝ่ายส่งถึงกันอย่างอบอุ่นใจ แล้วก็ทำลายแบบจริงจังด้วยภาพถ่ายในมือถือที่เรียกให้ขนหัวลุก ขนแขนก็ลุกกันถ้วนหน้า และยังกระตุกขวัญกันสุดๆเมื่อตอนชายนิรนามขึ้นมาพบเธอถึงห้อง ยัง..ยังไม่พอ หนังยังทุ่มความช็อคด้วยภาพก่อนสุดท้ายและภาพสุดท้ายที่เป็นที่มาที่ไปของปิ่นและชายนิรนาม ...(ตายกันไปข้าง....)

ขอชื่นชมในเหตุและผลของบทหนัง รวมทั้งบรรยากาศที่ชวนอึดอัดสยองในจิตที่มาจากฝีมือการกำกับของ ผกก.ที่กำกับ สตรีเหล็ก, แจ๋ว, แก็งชะนีกับอีแอบ !!!


“ยันต์สั่งตาย” ของ กอล์ฟ ปวีณ ภูริจิตปัญญา ( บอดี้ ศพ#9 )
เป็นตอนที่สนุกและตื่นเต้นน้อยที่สุด ด้วยเพราะความพยายามจะทำให้หนังมันกระชับ จึงตัดต่อและตัดสลับเหตุการณ์กันวุ่นวายอย่างที่คนดูยังไม่ทันจะมีส่วนร่วมและเห็นใจตัวละครเลย มาถึงก็ว่า ว่า ว่า กันเป็นชุดด้วยคำพูดที่ตั้งใจให้ดราม่า ให้มีปม แต่..มันผิวเผินเกินไป เทคนิคดึงภาพวูบเข้าวูบออกก็สร้างความขุ่นเคืองในดวงตามากกว่าที่จะรู้สึกว่ามันเจ๋ง CG ถูกนำมาใช้ได้พอแปลกอารมณ์แต่คุ้นตา

บอดี้ ศพ#9 เป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของ ปวีณ ภูริจิตปัญญา ที่เสียดายยังไม่ได้ดู ไม่เช่นนั้นคงพอจะได้รู้ทางของ ผกก.คนนี้มาล่วงหน้า (รู้แค่ว่าใน บอดี้ ศพ#9 ก็มีผีมีวิญญาณที่เป็น CG อยู่หมือนกัน)


“คนกลาง” ของ โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกุล (ชัตเตอร์ , แฝด)
ผองเพื่อนทั้ง 4...เต๋อ, เอ, เผือกและชิน ต่างทำหน้าที่ในการเป็นตัวละครในหนังได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยไดอะลอคที่เป็นธรรมชาติ ความเนียนในการแสดงสีหน้าท่าทางและน้ำเสียง ทั้งสถานการณ์ที่คับขัน ชวนให้เราปักใจว่าทั้ง 4 กำลังตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันจริงๆ และชวนขบขันเรื่องการนอนกลางนอนริม เรื่องการยกเอาหนังฝรั่งเรื่องโน้นเรื่องนี้มาสปอยล์ (เผยใจความสำคัญ/จุดหักมุม) และสุดท้ายตลบหลังคนดูด้วยการหักมุมในท้ายเรื่องจริงๆ

ไม่เสียชื่อผกก. ที่เคยทำให้เราอกสั่นขวัญแขวนมาแล้วจาก ชัตเตอร์ และ แฝด

ได้รับคะแนนชนะ 3 คะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์จากเสียงโหวต 3 คนในกลุ่มของเรา ที่เมื่อดูครบทั้ง 4 เรื่องแล้วสรุปว่าชอบเรื่อง คนกลาง มากที่สุด เพราะเป็น 1 ใน 4 ของหนังสยองขวัญชุดนี้ที่ทั้งตลก ฮาและชวนขนหัวลุกได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน


“Last Fright” ของ โอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (ชัตเตอร์ , แฝด)
หนึ่งใน 2 ผู้กำกับ ชัตเตอร์และ แฝด ได้นักแสดงหญิงมากฝีมือและสวย อย่าง พลอย ไลลา บุญยศักดิ์ มาเป็นแอร์โฮสเตสสาวที่ต้องต่อสู้กับความหลอนอันมาจากเรื่องเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นเหนือพื้นดินสูงขึ้นไป...บนเครื่องบิน...(พื้นที่จำกัด) ซึ่งทีแรกดูเหมือนหนังจะทำเป็นว่าหลอนจิตไปเอง แต่ผลลัพท์ในท้ายเรื่องบอกกับเราว่า นี่ยังเป็นหนังผีไทย และไม่ต้องการหักมุม

พลอย แสดงได้ยอดเยี่ยมกับบทของสาวจิตประหวั่น หนังเพิ่มน้ำหนักให้เธอมีมิติด้วยมีสาเหตุน่าเชื่อถือที่ทำให้เธอต้องบินไฟล์ทนี้ และต้องรับ “ผลตอบแทน” ที่เธอได้เคยทำไว้ทั้งเมื่อครั้งก่อนนู้นและหนนี้ บรรยากาศของหนังก็ชวนอึดอัด บวกทั้งบุคลิกของเจ้าหญิงที่ดุดันขึงขัง ก็ช่วยเสริมให้หายใจไม่ทั่วท้องไปด้วย

“ Last Fright ” เป็นได้ทั้ง ความกลัวหนสุดท้ายและ Last Flight – เที่ยวบินเที่ยวสุดท้ายของเธอ




I'd like to hear your voice.

ขอเชิญ ทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นต่อหนังหลากเรื่องหลายแนว ทั้งชนโรง ทั้งหนังแผ่น ได้ที่ //vreview.yarisme.com ค่ะ และเรายังมีกิจกรรมให้ทุกท่านมีสิทธิลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท ฟรี!!!! จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน
.
.





 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2551
16 comments
Last Update : 10 มิถุนายน 2551 10:34:31 น.
Counter : 1555 Pageviews.

 

ขออภัยเพื่อนบล็อคทุกท่าน ที่ จขบ.ทำตัวเหลวไหลไม่ยอมอั๊พบล็อคซะนาน
แล้วจะเร่งไปเยือนทุกท่าน asap ค่ะ

 

โดย: renton_renton 5 พฤษภาคม 2551 15:51:53 น.  

 

ทางบ้านให้อภัย เอ้ย เพื่อนบล็อคให้อภัยแล้ว กลับมาเถอะ

เอ้า เจิมเหรอเนี่ย

 

โดย: บลัดดี้โม IP: 124.120.72.46 5 พฤษภาคม 2551 17:59:39 น.  

 

ไม่ได้เข้าโรงหนังเลย

 

โดย: merveillesxx 5 พฤษภาคม 2551 23:35:29 น.  

 

ยังไม่ได้ดูมนุษย์เตารีดเลย
ส่วน สี่แพร่ง ชอบ เที่ยวบินฯ มากที่สุดแฮะ
รู้สึกว่ายัยเจ้าหญิงหลอนดี พลอยก็สติแตกสุดขั้วโลกมากๆ
(ไม่คิดว่าหนังจะหาเหตุผลเรื่องพลอยต้องบินคนเดียวได้แบบนี้ 55+)

 

โดย: nanoguy IP: 125.24.74.87 6 พฤษภาคม 2551 3:45:34 น.  

 

ช่วงนี้ไม่ได้ดูหนังเลยคับ บอลก็หมดลุ้นไปซะแล้ว

 

โดย: The Kop Civil 6 พฤษภาคม 2551 13:06:12 น.  

 

^_^ นานทีจะได้ดู ตรงกะบล็อกที่เขียนซะที..
เห็นด้วยกะอารมณ์กวนๆ ของ โทนี่ แต่ โรเบิร์ต บางอารมณ์สีหน้า
ดูจะซีเรียส(เกินไป) ไม่เหมาะกะบทนี้ (บางฉากเท่านั้น)ซะเท่าไหร่นะ
ทั้งเรื่อง ก็โอ นะ เหมาะกับที่เป็นฮีโร่ หลายๆ ฉากเล่นลุ้น ตัวโก่ง
แต่ตอนที่สู้กัน กะเจ้าตัวยักษ์ ดูเฉยๆ แฮะ ไม่มันส์เอาซะเลย - -*

เรื่องที่สอง สี่เเพร่ง ในหัวคิดว่าเรื่องน่าจะเกี่ยวดองกัน โยงหากันซักหน่อย แต่ไม่ยักกะ เห็นพูดถึงเลย (นอกจากเรื่องสุดท้าย !)
- เหงา เป็นเรื่องที่ชุดที่สุด อารมณ์อุดอู้ ที่ไม่มีบทพูดของเธอผู้สุดแสนจะเหงา บอกตามตรงเลยว่า ทั้งอ่าน และดูตัวอย่างนิดๆ มาบ้างเลยทำเอา ดูไม่หนุกเลยฮะ รู้ก่อนหนังอีก เซ็ง แต่ก็ชอบที่สุด อยู่ดี

-ยันต์สั่งตาย แค่ได้เห็นชื่อเรื่อง (ในหนัง)ดันนึกถึง ลองของ แล้วมันก็เป็นเช่นที่คิด ...เหนื่อย ! กับภาพมักมากฮะ ถ้าเรื่องยาวกว่านี้ น่าจะออกมาดีกว่านี้ก็ได้ (เรื่องนี้ไม่ชอบที่สุด- -")

- คนกลาง หลายคนชอบ เพราะฮา แตก กับมุขสปอยด์หนัง ! อีกมุขที่ทำเอานึกถึงหนังไทยในอดีต (บ้านผีปอบ) ที่วิ่งหนีผี ! กับฉากเก็บแว่น ใครที่ชอบหนังผี คงเดาไมยาก แต่ตอนจบสิ เจ๋งชิบเผงเลยฮะ.. อ่อ.! สังเกตุ มั้ยฮะ ที่ตั้งแต่เริ่มแรก กับ มุขสปอยด์ หนังน่ะ.. จำนาย "เผือก" ได้ไหม ที่เขาใส่เสื้อยื้ด สีกรมฯ เป็นเสื้อ "สปอยด์ หนังชิบหาย" ถ้าได้ดูใกล้ๆ แล้วล่ะก็ คอหนังที่ยังไม่ได้ดูเรื่องที่นำมาสปอยด์ในเสื้อ คงจี๊ดขึ้นสมอง เลยล่ะ

- เที่ยวบิน เที่ยวสุดท้าย เห็นในหนังเค้าขึ้นชื่อไว้ว่า "เที่ยวบิน 224" กับตอนที่เห็นหน้า เจ้าหญิง ครั้งแรก ดูแล้วน่ากลัวกว่าเป็นผีอีกฮะ 555 พลอย (เรื่องนี้ก็สวยอีกนั่นแหละ อิอิ ) เธอเล่นได้ยอดมักมาก ฮะ แล้วก็ชอบผี ในเรื่องนี้ด้วย น่ากลัว ขนลุกซู่ไปหดมด ..

 

โดย: haro_haro 6 พฤษภาคม 2551 13:38:07 น.  

 

อ่านเครดิตคนกำกับ สี่แพร่งแล้วน่าดูมากๆครับ

 

โดย: Nutty Professor 6 พฤษภาคม 2551 19:56:47 น.  

 

ช่วงนี้มันนี่ขัดสน ไม่ได้ซื้อหนังใหม่ๆเลย เลยขอเขียนถึงหนังเก่าๆก่อนละกันนะ แหะๆๆ


มนุษย์เหล็กถือว่าเปิดซัมเมอร์เมกาได้สวยอยู่เหมือนกัน แต่มีลางสังหรณ์อยู่ว่า Speed Racer จะเป็นความผิดหวังแรกประจำปีอ่ะ (ต้องรอดูๆ)

 

โดย: BloodyMonday 6 พฤษภาคม 2551 20:46:13 น.  

 

BdMd
จะพยายามจ่ะ... (-_-) "

นั่นดิ Speed Racer จะไหวมั๊ยอ่ะ
แต่เราก็เฉยๆนะ ถ้าดูก็คงเพราะน้อง อีไมล์ เฮิร์ช ^_^

merveillesxx
เราก็พึ่งได้ไปโปรแกรมนี้แหละ ^_^"

nanoguy
ให้ พลอย มาเล่นหนังจิตหลอนก็เข้าท่านะ
เห็นเธอถือขวานแล้วก็..ทะมัดทะแมงใช้ได้ 55

The Kop Civil
คราวนี้ก็รอให้เปิดฤดูกาลใหม่...
แล้วระหว่างนั้น เราจะทำอะไรดีน้อ...

haro_haro
ทีแรกดูไม่ออกว่าแกจะเป็นฮีโร่ได้ในอีท่าไหน
แต่พอเห็นกับตาแล้วก็..โอเค ไม่ขี้เหร่เลย

อ่ะเรื่อง คนกลาง เราไม่ได้สังเกตุเลยว่าเสื้อยืดของ เผือก สกรีนอะไร
เห็นแต่เสื้อของ เอ ตัวสีส้มสกรีน BULLSHIT ...

เราชอบมุก ไททานิค กับ ชัตเตอร์นะ..อย่างฮา...

Nutty Professor
หนังน่าสนใจค่ะ..คนมีฝีมือทำทั้งนั้น
มีโอกาสก็ลองดูนะคะ..

- - - - -



อัลบั้มใหม่ของ Coldplay จะวางแผงแล้ว Album:: Viva la Vida or Death and All His Friends
จะวางแผงวันที่ 12 มิถุนายน 2551 ใน UK และ 17 มิถุนายน 2551 ที่อเมริกาเหนือ ส่วนไทยแลนด์....ยังไม่รู้เหมือนกัน แหะๆ

ตัดเพลง Violet Hill เป็นซิงเกิ้ลแรก...
สนใจแวะฟัง แวะ PLAY ได้ที่ ที่นี่ ค่ะ

 

โดย: renton_renton 6 พฤษภาคม 2551 21:26:31 น.  

 

iron man หนุกดีครับ
ยกเว้นฉากไคลแม็กซ์มั่วๆ สั้นๆ ทำเสียอารมณ์
แล้วก็ไม่ได้รอดูฉากหลังเครดิต

โรเบิร์ตก็พอไปไหวนะ
แต่กวินเน็ตสิ เอาคนอื่นมาเล่นจะดีกว่า

 

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ 7 พฤษภาคม 2551 3:28:31 น.  

 

^
^
น้าเอ้
นั่นน่ะสิคะ กวินเน็ตเธอ..ซีด จืด ไร้อารมณ์มากกก

- - - - -

ภาพลักษณ์ใหม่ล่าสุดของ Coldplay ...





ขอขอบคุณภาพจาก :: //www.nme.com

 

โดย: renton_renton 7 พฤษภาคม 2551 18:55:53 น.  

 

พึ่งไปดูสี่แพร่งมา

ชอบเรื่องแรกมากที่สุดน่ะ รู้สึกว่าเป็นหนังผีที่ใช้ไอเดียจริงๆ ไม่ต้องลงทุนแต่งหน้า ปลิ้นตา ใช้ CG ให้มากความ เล่นคนเดียวไม่มีบทพูดก็ทำให้สยองได้

ตะกี้กดๆไปอ่านใน Net พึ่งรู้ว่า 4 เรื่องนี้มันเนื้อเรื่องผูกกันด้วย กำลังจะดูอยู่ว่าผูกกันยังไง

ปล.น้องที่ Office บอกว่าเรื่องแรก จริงๆเป็นหนังสั้น Remake จากหนังสั้นที่ส่งเข้าประกวดหนังสั้น Halloween จากผลงานนักศึกษา (โอ้ว จอร์จ เจ๋งจริงๆ)

 

โดย: Tony Koon IP: 58.9.191.243 7 พฤษภาคม 2551 20:03:12 น.  

 

Violet Hill ..ทางวงปล่อยให้โหลดฟรีด้วยหนิ
แต่มันโหลดยังไงหว่า เข้าไปดูแล้ว งงๆ
แต่เพลง เท่ดี

 

โดย: haro_haro 7 พฤษภาคม 2551 22:34:25 น.  

 

+ จริงๆ ผมก็ทิ้งความเห็นตัวเองไว้แถวๆ เว็บยาริสหมดแล้ว ... มาเขียนประเด็นอื่นๆ เพิ่มเติมที่นี่แล้วกัน

+ อ่านมาแว้บๆ ว่า 4 เรื่องนั้น มีโยงกันอยู่จุดนึงตรงที่ เพื่อนพลอยต้องไปงานศพน้องชายกะทันหัน ... น้องชายคนที่ว่าก็คือ เจ้าฟรอยด์ ที่จมน้ำตายในตอนที่ 3 นั่นเอง อ่ะครับ

+ แง้ๆ จะบอกว่าที่ให้คะแนน 4 แพร่งซะน้อยขนาดนั้น ... สงสัยเป็นเพราะผม 'ด้านชา' กับหนังผี (โดยเฉพาะที่ 'ตามขนบ') ไปซะแล้วอ่ะครับ ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหน (แต่เพื่อนที่นั่งดูข้างๆ ปิดหน้าปิดตากันใหญ่เลย ) ... อย่างเรื่องแฝด ผมก็ยังค่อนข้างเฉยๆ นะ
+ หนังผีไทยยุคใหม่ๆ ที่ผมชอบก็จะมี
... หลอนด้วยสถานการณ์ และมีปมลึกๆ ซ่อนอยู่ อย่าง ชัตเตอร์
... หลอนด้วยบทที่ซับซ้อน หลอกล่อคนดู และมีประเด็นทางจิตวิทยา อย่าง Body ศพ#19
... หลอนด้วยบรรยากาศ และมีบทสรุปที่ลงตัว อย่าง เปนชู้กับผี
อ่ะครับ

 

โดย: บลูยอชท์ 8 พฤษภาคม 2551 14:06:04 น.  

 

แผ่นสงสัยจะมีคนอื่นรับให้แหะๆๆ

ไปประมาณสักอาทิตย์นึงครับ เปิดเป็นตั๋ว open เอาไว้ หวังว่าตัวเองจะมีโอกาสเล่นคอม...

 

โดย: BloodyMonday 9 พฤษภาคม 2551 22:44:59 น.  

 

วันนี้นัดสุดท้ายแล้วคับ

 

โดย: The Kop Civil 11 พฤษภาคม 2551 16:09:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


renton-renton
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photobucket.Just wait until night then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ “เด็ก” ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add renton-renton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.