คิดถึง...พิษณุโลก

เท้าความ :


วันก่อน ขณะ round ward ICU อยู่ อาจารย์ ได้บอกผมว่า "เมื่อก่อนตอนเป็นนักศึกษาแพทย์ เราดูเป็นเด็กเรื่อยๆนะ แต่กลับมาเรียนต่อเป็นแพทย์ประจำบ้านแล้ว เก่งขึ้นเยอะเลย"  ผมจึงระลึกได้ว่า ช่วงเวลาที่ผมจบไปจนกระทั่งกลับมาเรียนนั้นเป็นอย่างไร ชีวิตการทำงานในช่วง 1 ปีก่อนมาเรียนนั้น ได้สอนผมอย่างไรบ้าง จึงนึกถึงบทความอันนี้ขึ้นมา ที่ผมเคยเขียนไว้ใน multiply เมื่อเกือบ 1 ปีก่อน



เมษายน 2552 แพทย์จบใหม่ ไฟแรงสูง คนหนึ่งกำลังง่วนอยู่กับการเลือกจังหวัดใช้ทุนของตนเอง





เป็นปกติของทุกปีในช่วงเวลานี้ ที่แพทย์จบใหม่ จะต้องเลือก "หนทาง" ของตนเอง 

ซึ่งรัฐบาลกำหนดไว้ว่าเป็นช่วงเวลา "ใช้ทุน" 

ทุนที่ว่านี้ก็คือ ทุนการเรียนนั่นเอง 

แน่นอนว่า ทุกคนไม่ได้ขอทุน แต่รัฐบาลแบ่งเบาภาระให้ เนื่องจากการเรียนแพทย์นั้น ใช้ทรัพยากรมากมาย

และแน่นอนว่า ไม่ได้ให้ฟรีๆ ต้องมีการชดใช้คืน ทั้งต้นและดอก !!



หนทางก็มีต่างๆกัน บางคนที่รู้แล้วว่าตัวเองจะเรียนอะไร ก็เลอกที่จะ fix ward หรือไปปฏิบัติงานในสายงานนั้นๆเป็นเวลา 3 ปี

บางคนยังไม่รู้ ก็เลือกไปใช้ทุนตามพื้นที่ต่างๆซึ่งมีโควตามาให้ ซึ่งก็ต้องไปเลือกกัน 

จังหวัดไหน มีคนเลือกมากกว่าตำแหน่ง ก็ต้องใช้วิธีจับฉลาก



"หนทาง" ของผม??? ผมอยากเป็นหมออายุรกรรมโรคเลือด (Hematologist)

ผมจึงเลือกที่จะอยู่โรงพยาบาลศูนย์ ซึ่งมีความพร้อมในด้านการเรียนการสอนมากกว่า มีคนไข้ให้ได้ศึกษาเยอะกว่า

และแน่นอน....งานหนักกว่าด้วย



"พวกกูไปกัน 4 คนแล้วนะ เหลือมึงคนเดียวแหละ กูไม่บังคับ แต่มึงต้องไปกับกู!!"

เอาแล้วสิ...เพื่อนๆผมอีก 4 คนนั้นเลือกที่จะไป fix ward ที่รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก ซึ่งถือว่าเป็นโรงพยาบาลศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนล่าง !!!

แต่ผมไม่ fix ward หนทางของผมคือ ใช้ทุนแค่ 1 ปีแล้วกลับไปเรียนต่อ



นับตั้งแต่วันที่โควตาจำนวนแพทย์ใช้ทุนออกมา ผมนั่งคิด นั่งคำนวณแล้ว...

"พิษณุโลก" รู้แค่ว่าเป็นจังหวัดที่ร้อนมากที่สุดจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย มีพระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง

นอกนั้น...ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับจังหวัดนี้เลย!!!!

มีข่าวลือว่างานหนัก...ไม่เป็นไร ผมสู้งาน

มีข่าวลือว่าเงินน้อย...ไม่เป็นไร ผมกินไม่เยอะ

เอาวะ...พิษณุโลกก็ได้



สุดท้ายผมได้มาเป็น "แพทย์ใช้ทุน" อยู่ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ในโควตาของกรมอนามัย



ตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมาที่พิษณุโลก จังหวัดที่ร้อนมากที่สุดจังหวัดหนึ่งแห่งนี้ ได้สอนผมให้รู้จักหลายๆอย่าง

ได้รู้ว่า...ชีวิตการทำงานจริงโหดร้ายเพียงใด เราจะต้องเจอกับเพื่อนร่วมงานที่หลากหลาย บ้างเอาเปรียบ บ้างช่วยเหลือ

ได้รู้ว่า...ชีวิตความเป็นแพทย์นั้น ความรู้ในตำราอย่างเดียวไม่เพียงพอ 

ได้รู้ว่า...ความห่างไกลไม่ได้เป็นอุปสรรคของความรัก

ฯลฯ

ทุกสิ่งทุกอย่างใน 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผมโตขึ้น เป็นแพทย์ที่ดีขึ้น ขี้โวยวายมากขึ้น ละเอียดมากขึ้น

หากจะกล่าวคำว่าขอบคุณ ผมคง list รายชื่อยาวเป็นหางว่าว



เมษายน 2553 วัฎจักรเดิมกลับมาอีกครั้ง 

แพทย์ใช้ทุนชุดใหม่มาถึงแล้ว คงถึงเวลาที่จะต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป

ผม...ก็คงกลับไปเรียนต่อตามที่ตั้งใจไว้

แต่เพื่อนๆหลายๆคน ยังทำงานต่อที่นั่นตามภาระงานที่ได้รับมอบหมาย




เวลา 1 ปี ช่างผ่านไปเร็วจริงๆ ตอนนี้ผมไม่ใช่แพทย์ใช้ทุนแล้ว ผมเป็น "แพทย์ประจำบ้าน" เพื่อตามหาความฝันตัวเองต่อไป 



นับจากวันที่ผมเขียนบทความนี้ ก็ผ่านไปอีกเกือบ 1 ปีแล้ว วัฎจักรเดิมๆ ก็ยังคงหมุนเวียนต่อไป คงจะมีแพทย์ใช้ทุนกลุ่มใหม่ หมุนเวียนไป มีแพทย์ประจำบ้านใหม่ มาอยู่ในที่ที่ผมเคยยืนอยู่เมื่อ 1 ปีก่อนเหมือนกัน







Create Date : 08 มกราคม 2554
Last Update : 8 มกราคม 2554 15:03:27 น.
Counter : 6232 Pageviews.

2 comments
  
บางครั้งในความไม่มีอะไร มันก็มีอะไร ๆ เยอะแยะเต็มไปหมด
โดย: rimpingringpim วันที่: 9 มกราคม 2554 เวลา:19:04:50 น.
  
โห...คอมเม้นท์ไว้ครบ 1 ปีพอดี ^^
โดย: rimpingringpim วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:22:29:38 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Remnant
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ไม่คาดหวัง...แต่ตั้งใจ...ไม่มั่นใจ...แต่ชัดเจน
มกราคม 2554

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31