ผมขอรณรงค์ให้คนถ่ายรูปแล้วเช็คอินครับ
ไม่รู้ทำไมนะ ช่วงหลังๆสี่ห้าปีมานี้ คนไทยหันมาให้ความสนใจกับการถ่ายรูปอาหารแล้วเช็คอินสถานที่กินผ่านโซเชียลเน็ทเวิร์คหลายๆค่าย ทั้งแฟซบุคเอย อินสตาแกรมเอย โฟร์สแควร์เอย อะไรอีกล่ะ เยอะแยะนะครับ ก่อนจะลงมือทานได้นี่ต้องผ่าน process ต่างๆมากมาย พี่โน็ส อุดมบอกว่ามันคือพิธีกรรมอย่างหนึ่ง แต่มันก็นะ มีอีกกระแสหนึ่งที่สวนกลับมา ประหนึ่งว่าข้าแตกต่างจากพวกเจ้านะ คือพวกแอนตี้การถ่ายรูปก่อนทานอาหาร ไม่เข้าใจว่าเกิดจากอะไร คนพวกนี้อาจจะมีได้หลายสาเหตุอาทิเช่น - ไม่อยากถ่ายเฉยๆนี่แหล่ะ ไม่ได้คิดอะไร
- ไม่มีมือถือที่สามารถถ่ายรูปได้
- แชร์ไปก็ไลค์น้อย ไม่แชร์หรอก อันนี้ออกแนวสร้างปมด้วยตัวเอง (อนึ่ง ไลค์น้อยไลค์มาก ไม่สามารถแลกเป็นร่มหรือโต๊ะปิกนิกเช่นเดียวกับแสตมป์เซเว่นได้)
- อยากถ่ายนะ แต่เพื่อนบนโต๊ะถ่ายเยอะแล้ว อยากแตกต่าง อยากให้เพื่อนถามว่า แก ไม่ถ่ายรูปเหรอ วางฟอร์ม (มือกำมือถืออยู่แล้วใจเฝ้าพร่ำบอกมือว่า อย่านะ อย่านะ อย่าหยิบมือถือออกมาถ่ายรูปนะ)
- กรูหิววววววววววววว
ผมมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัว เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ก็ไม่คิดนะว่าจะเกิดขึ้น เรื่องของเรื่องคือผมกับแฟนและะพี่สาวแฟนไปทานสปาเก็ตตี้กับข้าวผัดกับไอสครีมกับกาแฟกับเค้ก กับ อืมมม เยอะครับ ก็ตามประสาสาวๆแหล่ะครับ เราแค่คนพาไป ก่อนทานก็ตามประสาครับ ถ่ายรูปกันกับอาหารทุกจาน ยกจานขึ้นมาอังกับหน้า ให้รู้ว่าเรามาทานอะไร เส้นสปาเก็ตตี้นี่เหวี่ยงซ้ายเหวี่ยงขวา ฮันนี่โทสต์เนี่ย ก็ละลายจนจะเอาหลอดดูดได้ละ ยกย้ายไปเก้าอี้ตัวนั้นตัวนี้ กระถางดอกไม้แถวนั้นล้วนได้เข้าประกอบฉากกับสปาเก็ตตี้ทั้งสิ้น พิธีกรรมดังกล่าวใช้เวลาประมาณเกือบสิบนาทีได้ จึงค่อยถึงขั้นตอนทานอาหาร (จนถึงขั้นนี้ฮันนี่โทสต์ของแฟนกับพี่สาวแฟนกลายเป็นเพียงขนมปังทาเนยที่มีน้ำที่ก่อนเคยเป็นไอสครีมวนิลาราดมา) ก็ไม่ได้คิดอะไรก็ทานกันปกติ แล้วก็คิดเงิน ในตอนออกจากร้านมันจึงค่อยเกิดเหตุการณ์ขึ้น ระหว่างเดินผ่านโต๊ะๆหนึ่ง มีประชากรบนโต๊ะประมาณห้าหกคน ดูแล้วมีผู้ใหญ่เพศหญิงหนึ่งคน คาดว่าจะเป็นแม่ของใครสักคนบนโต๊ะ ที่เหลือเป็นเด็กหญิงและชายครึ่งหญิงครึ่ง(กะเทยนั่นแหล่ะ จะเขียนอะไรให้เข้าใจยาก)ในขุดนักเรียน ระหว่างที่เราเดินผ่าน ทันใดนั้น เสียงกะเทยเด็กคนเดียวในโต๊ะก็พูดขึ้นมาว่า "ดีนะ ที่พวกเราไม่ถ่ายรูปก่อนกิน" สิ้นเสียง เพื่อนในโต๊ะก็ร้องเรียกชื่อเด็กคนนี้ขึ้นมาประหนึ่งว่าปรามๆคำพูดเพื่อน พวกผมสามคนก็หันไปมอง แล้วก็เดินออกมาคุยกันอย่างงงๆว่า เอ๊ะ เค้าหมายถึงโต๊ะเรารึเปล่านะ(ก็คงใช่แหล่ะ ตอนนั้นมีกันสองโต๊ะ) จบเรื่องเล่า คือส่วนตัวแล้วผมเรียกว่าชอบเลยแหล่ะ กับการที่ได้เห็นรูปภาพอาหาร แต่ก่อนสมัยยังไม่มีเฟซบุค ผมเข้าบล็อกต่างๆในหมวดอาหารประจำครับ ทั้งหมวดทำอาหารหรือรีวิวร้านอาหาร ผมมีความคิดว่ารูปภาพอาหาร การจัดจาน สีสันของส่วนประกอบอาหารมันดูสดใส สร้างความรู้สึกกับคนดูรูปภาพได้มากกว่ารูปหลายๆประเภทนะ ลองคิดภาพตามนะ เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสีเหลืองตัดกับสีของไข่ลวกที่ออกแดงๆนะ มีสีขาวของไข่ขาวลอยอยู่ข้างๆนิดนึง จัดใส่จานสีขาวหรือสีดำนะ มีตะเกียบกับช้อนวางประกอบจานข้างๆนะ มันให้อารมณ์แบบ อยากจะล้วงเข้าไปในรูปหยิบมันออกมากินเดี่ยวนั้นเลย แล้วทีนี้พอเฟซบุคสามารถถ่ายรูปแล้วเช็คอินได้นิ่ บอกเลย ถือว่าเป็นสวรรค์ของผม (ความจริงโฟร์สแควร์เขาทำแนวนี้มาก่อนแล้ว) ผมว่ามันมีประโยชน์นะ คนนั้นถ่ายรูปปุ๊บกดแชร์ปั๊บ คนนี้รู้ได้เลยว่าอาหารหน้าตาเป็นยังไง น่าทานขนาดไหน ร้านอยู่ไหน แถมทางร้านนะ บอกเลย เขาชอบครับ มีลูกค้าถ่ายรูปแล้วเช็คอินร้านของเขา จะเห็นว่ามีหลายร้านที่มีโปรโมชั่นที่ว่าถ้าถ่ายรูปแล้วเช็คอินจะลดราคา 5% หรือ 10% ก็ว่ากันไป ผมถือว่า win-win ทั้งสองฝ่าย อย่างที่บอกครับ ผมชอบดูรูปภาพอาหาร พอได้ดูแล้วความรู้สึกต่อมาต้องอยากรู้ว่ามันอร่อยมั้ย ถ้ามีคนคอมเมนต์ว่าอร่อย ความรู้สึกต่อมาก็ต้องอยากไปลอง แค่รูปภาพอาหารมันให้ความรู้สึกต่างๆนานาได้ ถ้าคุณไม่เขื่อในศักยภาพของรูปอาหารนะ คุณลองคิดถึงเวลาตัวเองดูรายการเชฟกระทะเหล็กสิครับ เวลาดูจบคุณทำยังไง มีมั้ย ที่จะ เอ้า รายการจบแล้ว นอนได้ หรือก็ เอ้า อ่านหนังสือต่อได้ ไม่มีหรอก อย่างน้อยผมว่าคุณต้องหาอะไรลงท้องแหล่ะ ถ้าขี้เกียจหน่อยก็ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกิน ถ้าไม่ขี้เกียจก็ออกไปหาอาหารที่เหมือนวัตถุหลักประจำวันนั้น ถ้าเป็นพวกหมูหรือเนื้อก็หาง่ายหน่อย กะเพราหมู กะเพราเนื้อ หมูปิ้งก็พอแทนกันได้ แต่ถ้าวันไหนวัตถุดิบหลักเป็นของหายากอาจจะอย่างพวกเนื้อจระเข้จะให้ขับรถไปฟาร์มจระเข้ที่สามพรานตอนนั้นเลยก็กระไรอยู่ แนะนำว่าให้หาของตุนไว้ก่อนรายการจะมา ถ้าไม่เชื่อนะ คุณลองจ้องรูปข้างล่างนี้สิครับ
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2557 |
|
1 comments |
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2557 16:57:15 น. |
Counter : 2166 Pageviews. |
|
|