กายสบาย...ใจปลอดโปร่ง...โล่งสะอาด...
Group Blog
 
 
กันยายน 2548
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
15 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
บันทึก - ว่าด้วยเรื่องธรรมชาติ ตอน 6

ธรรมชาติที่มีชื่อว่า "ใจ" เป็นสิ่งที่ซับซ้อน ละเอียดอ่อน รู้ได้ยาก เห็นได้ยาก

แต่ในโลกนี้ก็มีเรื่องราวของผู้ที่สามารถรู้ใจของผู้อื่นได้อยู่พอสมควร

การศึกษาใด ๆ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับความจริงของชีวิต จำเป็นต้องอาศัยความรอบคอบ และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมองข้ามรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อันใดไป เพราะประสาทสัมผัสของมนุษย์นั้นมีจำกัดมาก การที่เราเชื่อมั่นแต่สิ่งที่ตนคุ้นเคยและยอมรับมา จึงเป็นการปิดโอกาสที่เราจะได้รู้ความจริงของชีวิตเพิ่มเติมนั่นเอง และผู้ที่เดือดร้อนนั้นก็ไม่ใช่ใคร แต่ก็คือตัวของเราเอง

ดูอย่างในปัจจุบันนี้ ผู้คนมีแนวความคิดในเรื่องความจริงของชีวิตแตกแยกออกเป็นกลุ่มมากมาย ทั้งมีส่วนที่คล้ายกัน ทั้งมีส่วนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ทั้งหมดนั้น ต่างก็เชื่อมั่นในสิ่งที่ตนยึดถือกันอย่างเหนี่ยวแน่น เรื่องจะเปลี่ยนความยึดถือนั้นเป็นเรื่องยากทีเดียว (เฉพาะคนประเภทนี้) แต่ถามว่า ในบรรดาผู้คนที่ต่างยึดถือกันอย่างเหนียวแน่นนั้น เขามีอะไรต่างจากเรา เราว่าของเราถูก เขาก็ว่าของเขาถูก เราอาจจะมีประสบการณ์ที่ทำให้เราเชื่อในสิ่งนี้ แต่คนอื่น ๆ เขาก็มีเช่นกัน จุดร่วมตรงนี้เองที่ทำให้ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า อะไรกันแน่ที่เป็นความจริง

เพราะความจริง ย่อมไม่มีทางแตกเป็นสอง แน่นอนว่า ของสิ่งเดียวกัน คนเห็นมาคนละด้าน มาคุยกันด้วยความรู้ไม่ทั่วในของสิ่งนั้น ก็ย่อมจะตกลงกันไม่ได้ เหมือนคนตาบอดหลาย ๆ คน ต่างไปคลำถูกตัวช้างคนละส่วน แล้วมาคุยกัน ต่างคนก็ต่างเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองประสบ ถ้าเกิดจะลดความเชื่อมั่นของตนเองลงสักนิด แล้วลองกลับไปคลำดูใหม่ ก็อาจจะพบคำตอบที่มากขึ้นก็ได้ เพราะความสำคัญตัวเองผิดนี่เอง ทำให้ไม่คิดจะสอบสวนให้มากขึ้น แต่การที่ไม่เชื่อมั่นตนเองเลย พอคนอื่นเขาว่าไม่เหมือนเรา ก็เริ่มไม่มั่นใจ แล้วก็พลอยเชื่อตามคนอื่น คิดว่าตัวเองคงเข้าใจผิด โดยที่ไม่ได้หาทางพิสูจน์เพิ่มเติม ย่อมเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเช่นกัน ยิ่งถ้ารู้ตัวเร็ว ก็ไม่ต้องมัวเสียเวลามาทะเลาะกันนาน แล้วชวนกันไปพิสูจน์ให้รู้จริง จึงปรากฏว่า คนที่คิดจะค้นหาความจริงนั้น เป็นบุคคลที่น่ายกย่อง แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าจะค้นหาความจริงได้ที่ไหนก็ตาม ความจริงของชีวิตมีแต่จะรอผู้คนค้นพบมากขึ้นและมากขึ้น หาได้อยู่ที่ความเชื่อมั่นของใคร ๆ ไม่

อย่างคำของคนโบราณเราอาจจะใช้และจำความหมายกันมาด้วยความเคยชิน แต่มีหลาย ๆ คำที่ทำให้เรามองผ่านไม่ได้ทีเดียว แต่เพราะสมัยนี้มีการพิสูจน์และศึกษากันแบบจดจำมากมาย กรอบความคิดของทุกคนจึงอยู่ในวงจำกัดของการศึกษาเท่านั้น พอมีสิ่งใดที่คนโบราณพูดไว้ ด้วยความที่เราไม่เข้าใจเราก็มักจะดูหมิ่นว่าคนโบราณนั้นงมงายไร้สาระ เพราะว่าคนในยุคสมัยไหนก็เป็นเหมือนกัน คือมีทั้งผู้ที่งมงายและผู้ที่มีปัญญาแท้จริง การที่เราใช้วิธีเหมารวมว่า คนโบราณมีความคิดล้าหลัง จึงไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง เราต้องแยกให้ออกเป็นกรณี ๆ ไป

เช่นที่จะยกมานี้ เพราะว่าคำของคนโบราณบังเอิญไปตรงกับเรื่องราวบางอย่างที่คนสมัยนี้ไม่ค่อยรู้ จึงได้ยกมากล่าวไว้เป็นข้อสังเกตเล็ก ๆ น้อย ๆ มิใช่เพราะว่าอยู่ดี ๆ ก็นำคำของคนโบราณมานั่งคิด

อย่างคำง่าย ๆ ที่เราใช้กันอยู่นี่แหละ

"เห็นอกเห็นใจ"
"รู้เห็นเป็นใจ"
"ตั้งใจ"
"ดวงใจ"
ฯลฯ

หรือแม้แต่ที่นิยมนำมาใส่กันในเพลงด้วยความเคยชิน เช่น "จิตใจดวงกลม ๆ" ทั้ง ๆ ที่สมัยนี้เราได้ศึกษากันว่า หัวใจของมนุษย์นั้นมีลักษณะอย่างไร แต่คำพวกนี้ก็ยังคงอยู่ จนไม่รู้ว่าที่เรานำคำเหล่านี้มาใช้ ๆ กัน ที่มาของคำเหล่านี้นั้นเป็นอย่างไรกันแน่

หรือกระทั่งเรื่องราวของราหูอมจันทร์ กระต่ายบนดวงจันทร์ รามสูรกับเมขลา เราคงจะแปลกใจเป็นแน่ ถ้าได้รู้ว่า เรื่องราวเหล่านี้มีเขียนอยู่ในตำราสัจธรรมอันยิ่งใหญ่อย่างพระไตรปิฎก ที่เรามักจะเข้าใจกันแต่ว่า เป็นข้อคิด เป็นคำสอน เป็นปรัชญาชีวิต หรือเป็นหลักศีลธรรม

เราคงจะไม่พูดถึงกันว่า เรื่องเหล่านี้นั้น มีจริงหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องเหลือวิสัยไปมาก แต่นำมาประกอบกันเท่านั้นว่า มีความเป็นไปได้บ้างไหม ถ้าเกิดว่าเราใช้ทฤษฎีของมิติเข้ามาเกี่ยวข้อง

และก่อนที่จะเตลิดไปกว่านี้ เราก็มาดูต่อว่า สิ่งที่ละเอียดอ่อนอย่าง "ใจ" นั้น เป็นสิ่งที่มีตัวตนหรือไม่ หรือว่าเป็นแต่เพียงนามธรรมที่หาตัวตนไม่ได้

ต่อตอน 7 ...


Create Date : 15 กันยายน 2548
Last Update : 30 กันยายน 2548 18:59:14 น. 4 comments
Counter : 380 Pageviews.

 
สวัสดีคะ เข้ามาทักทายจ้า
ยังไม่ได้อ่านสักกะตอนเลยคะ
แต่ว่า เซฟ บล๊อคของคุณพักผ่อนเอาไว้แล้ว
ว่างๆ จะเข้ามาอ่านที่หลังนะคะ



โดย: ตะวันสีชมพู วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:2:45:21 น.  

 
ไม่คิดว่าคนโบราณมีความคิดล้าหลังค่ะ คิดว่ามีคนโบราณบางยุคที่เข้าถึงธรรมของ "ใจ" และสื่อสารด้วยใจค่ะ

อืม..บางทีก็รู้สึกว่ารู้ใจคนอื่นนะคะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: ป่ามืด วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:2:49:17 น.  

 

japaneseghost..อิอิ..


โดย: ป่ามืด วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:3:00:50 น.  

 
ใจหนอ...ใจ.....
...เฮ้อ...สำหรับบางคนยากที่จะเข้าใจ ...อยากที่จะรับรู้...
นี้แหละใจ.......


โดย: กำลังใจ^_^ IP: 202.142.219.16 วันที่: 18 กันยายน 2548 เวลา:13:45:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พักผ่อน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนธรรมดา
Friends' blogs
[Add พักผ่อน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.