==>>มนุษย์ถูกสร้างให้มีหูและตาอย่างละสอง แต่มีปากเพียงหนึ่ง เพื่อให้เรา 'มอง' และ 'ฟัง' มากกว่า 'พูด'<<==
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2559
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
28 ตุลาคม 2559
 
All Blogs
 

[ ทริปสั้น ๆ ที่คันไซ ] วันที่ 2 : ศาลเจ้าอินาริ & อุจิ









วันที่ 10 ตุลาคม 2559


หลับ ๆ ตื่น ๆ คัน ๆ จนสักตีสี่ก็ไม่นอนล่ะ เอามือถือ เอา power bank ไปชาร์จพอสักตี 5 ครึ่งก็ล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อ เปลี่ยนกางเกง พร้อมทาโลชั่นด้วย เพราะรู้สึกผิวเป็นริ้ว ๆ ขาว ๆ ยังไงไม่รู้ พอ 6 โมงก็ได้เวลาออกเดินทาง เพราะเช็กเวลาแล้ว ขบวนฮารุกะที่ยิงยาวไปเกียวโตจะมาตอน 06.40 




ชอบนั่งขบวนนี้รองจากนั่งชินกันเซ็น ความรู้สึก เราว่าฮารุกะเนี่ย นั่งสบายแบบน้อง ๆ ชินกันเซ็นเลยนะ ระยะห่างกว้างกว่าเครื่องบินอีก เสียที่ไม่มีโต๊ะพับไว้กินอะไรหนัก ๆ (แต่มีที่วางแก้วและของเล็ก ๆ ได้ อยู่ด้านข้างเก้าอี้) และไม่มีปลั๊ก ถ้ามี 2 อย่างนี้ก็ชินกันเซ็นเลย  เรานั่งขบวนนี้ตลอดเวลาไปเกียวโตและชิน-โอซาก้า (เราพักแถวเทนโนจิ)




มื้อเช้าบนรถไฟ กินอิ่มกำลังพอดีในราคาประหยัด นม 113Y แซนวิส 215Y รวม 328Y x .34 = 112 บาทโดยประมาณ 

08.02 น. ถึงเกียวโตแล้ว ตรงเวลามาก

 จากนั้นเราก็เดินไปฝากกระเป๋าที่ล็อกเกอร์ ใกล้ ๆ กับป้ายบอกแทร็ก 30 31 ฝั่งตรงข้ามล็อกเกอร์จะเป็นบันไดเลื่อน ถ้าเดินขึ้นไปทางนั้น จะเป็นรถไฟสายนารา รู้สึกจะเป็นแทร็ก 8-10 


ใครเพิ่งไปครั้งแรก ไม่ต้องกลัวหลงหรือไปไม่ถูก แนะนำให้ดูป้ายเข้าไว้ ถ้างง ๆ ไม่รู้จะไปทางไหนดี ให้มองหาป้ายก่อนเลย ตรงป้ายจะมีบอกว่า for อะไร ที่สถานีเกียวโต ค่อนข้างใหญ่ เขาก็มีป้ายบอกชัดเจนว่า for Nara ให้ไปทางไหน หน้าที่ของเราก็คือต้องรู้ว่าจุดหมายของเราจะต้องนั่งรถขบวนไหน

แล้วจะรู้ได้ยังไง?...ไฮเปอร์เดียวโลดเลยค่ะ 



เหมือนอันนี้ เราจะไป Inari ต้องไปขึ้นที่แทร็ก 8 หรือ 10 ซึ่งเป็นสาย For NARA เวลามองป้ายก็หาช่องที่เป็น for NARA ไว้ แล้วเดินตามไปเลย จะขึ้นแทร็กไหนก็ดูเวลาจากไฮเปอร์เดีย ถ้าไม่แน่ใจให้ดูที่แถบไฟหน้าประตู หรือข้างรถ มันจะมีตัววิ่งบอกว่าขบวนนี้เป็น For อะไร ขึ้นรถไฟไม่ยากแต่ต้องรู้จักสังเกตสักนิด


ใช้เวลานิดเดียวก็มาถึงสถานีอินาริ คนลงเกือบหมดขบวนเลย เยอะมากมายมหาศาลล้านแปด ใครเคยไปจะรู้ว่าสถานีที่นี่เล็กนิดเดียว แล้วคิดดูว่าคนเป็นร้อยอ่ะค่ะ เต็มสถานีมาก ๆ 





ครั้งก่อนเรามาตอน 11 โมง คนไม่เยอะขนาดนี้ แต่คราวนี้มาเช้า ประมาณ 9 โมงได้ คนเยอะจริงอะไรจริง 











งวดนี้เพื่อนตั้งใจจะเดินไปให้ไกลที่สุด เราก็เผื่อเวลาให้เลย 2-3 ชม. คือเดินตั้งแต่ 9 โมงถึงก่อนเที่ยง ก็เดินไป เดินไป เดินไป มีหยุดถ่ายรูปเล่นเป็นบางครั้งเพราะเหนื่อย อากาศค่อนข้างเย็น แต่เดินมากก็เหงื่อออกเหมือนกัน เล่นเอาหอบ 


จนสัก 11 โมง เดินมากเริ่มหิว 555 เลยบอกเพื่อนว่ากลับเถอะ ไปหาข้าวกิน

ถ่ายจากมุมสูงค่ะ









ใช้เวลาประมาณ 20 กว่านาที เราก็เดินทางมาถึงเมือง อุจิ เวลาจากไฮเปอร์เดีย เราไม่ได้ไปแบบเป๊ะ ๆ หรอกนะคะ แต่ทำลงในแผนเดินทาง เพื่อจะได้รู้ระยะเวลาเดินทางค่ะ เพราะพอไปถึงหน้างานจริง เราก็ต้องเช็กจากไฮเปอร์เดียอีกทีก่อนเพื่อความแน่ใจ





เที่ยงแล้ว เที่ยงแล้ว หิว ๆ ๆ จังเลย อากาศที่อุจิ แดดค่อนข้างแรงค่ะ แต่มีลม เวลาอยู่ในที่ร่มจะเย็น

เมืองชาเขียวเนี่ย อะไร ๆ ก็ชาเขียวทั้งนั้นเลย













มื้อเที่ยงของวันนี้ ซื้อจากซุปเปอร์มาร์เกตระหว่างทางเดินไปวัดเบียวโดอิน ชื้อจากห้าง Appro หรืออะไรทำนองนั้น ของเราเป็นข้าวปั้นหน้าปลาซาบะย่างซีอิ๋ว น้องสาวเป็นข้าวหมูทอดชุบไข่ ของเพื่อนเป็นข้าวปั้นหน้าต่าง ๆ  ราคาถือว่าถูกเลยค่ะ ราคาตามนี้และบวกค่าน้ำดื่มเข้าไปอีกไม่เกิน 200Y ก็อิ่มแน่นท้องเลยค่ะ

เรานั่งกินที่หน้าร้าน เพราะไม่รู้จะกินที่ไหน พอท้องอิ่มก็มีแรงเดินต่อ


และเมื่อเรามาเมืองชาเขียวก็ต้องซื้อและกินชาเขียว

ชาเขียวแบบผง ชงได้ในน้ำเย็น รสชาติดีมาก ใส่ 3 ช้อนชากับน้ำเย็น ปริมาณแก้วโดเรมอนของโลตัสกำลังโอเคเลย แต่ถ้าจะใส่น้ำแข็งก็ชงปริมาณแก้วกาแฟ พ่อกับแม่บอกว่ามันแรงมาก กินแล้วนอนไม่หลับ แต่เรากินไม่เห็นเป็นอะไร ชอบ กินได้วันละหลายแก้ว Smiley




แวะร้านแถว ๆ นั้นด้วย กินชาเขียวสักหน่อย คือ...แวะตลอดทาง เดินเป็นชั่วโมงละ ยังไม่ถึงวัดเลย


น้ำแข็งใส่ใส่วิปครีมโรยผงชาเขียว


ของเพื่อนเป็นไอศกรีมวานิลลาใส่ถั่วแดงโรยผงชาเขียว
ถ้วยละ 702Y





ขนมชาเขียวใส่ถั่วแดง ... ที่นี่เขาเน้นชาเขียวกับถั่วแดงนะ เล็ก ๆ ขนาดเท่าซาลาเปา ราคา 150Y มั้ง






แวะตลอดทาง ในที่สุดเราก็มาถึงวัดเบียวโดอินจนได้






ค่าเข้า 600 Y แพงนะ เข้าไม่ถึงตัววัดด้านในด้วย ต้องจ่ายเพิ่ม







อันนี้ด้านหลัง ด้านหน้าถ่ายไม่ได้เพราะย้อนแสง 


จากนั้นก็ไปกันต่อที่แม่น้ำอุจิ












คือ...เราพยายามหารูปปั้นอีกรูปที่มีเฉพาะผู้หญิงแต่หาไม่เจอ เดินจนเมื่อยก็ไม่เจอ








ศาลเจ้าอูจิกามิ





พอละ กลับดีกว่า 

เราออกจากอุจิตอน 5 โมงกว่า แวะซื้อสปาเก็ตตี้เส้นชาเขียวกลับบ้านด้วย
เรากลับถึงเกียวโตก็รับกระเป๋าและนั่งขบวนฮารุกะไปเทนโนจิ นั่งไป 45 นาทีก็ถึงแล้ว จากนั้นก็นั่งอีกขบวนไปอีก 1 สถานีไปลงที่บิโชเอง (แต่ทางที่พักแนะนำให้ลงที่เทนโนจิแล้วเดินไป แม่เจ้า กิโลกว่า ๆ ใครจะไปเดิน ลงที่นี่ใกล้กว่าตั้งเยอะ (เดินประมาณ 350 ม.) น่าแปลกที่เขาไม่แนะนำ


เราไม่ได้กลับขบวนนี้ รู้สึกว่าจะกลับตอน 6 โมงเย็น เดี๋ยวบล็อกหน้าจะรีวิวห้องพักค่ะ ชอบมากที่สุด ปลื้มที่พักมาก




 

Create Date : 28 ตุลาคม 2559
4 comments
Last Update : 31 มีนาคม 2560 13:31:11 น.
Counter : 1859 Pageviews.

 


มาเที่ยวด้วยค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog

latics1 Travel Blog ดู Blog

 

โดย: newyorknurse 29 ตุลาคม 2559 0:40:21 น.  

 

ตามมาเก็บข้อมูลค่ะ กะจะซื้อ ICCOCA & Haruka ด้วยเหมือนกันมาเจอข้อมูลพอดี ค่าเช่าล๊อกเกอร์แพงไหมคะ กะว่าถ้าถึงฝากของไว้ที่พัก หรือล๊อกเกอร์ดี

 

โดย: mariabamboo 29 ตุลาคม 2559 8:31:37 น.  

 

คุณ newyorknures : ขอบคุณมากค่ะ

คุณ mariabamboo : ค่าฝากที่เกียวโต ล็อกเกอร์ใหญ่ 600- 700Y จำไม่ได้ หาร ๆ กับเพื่อนค่ะ ของเราใส่ได้ 3 กระเป๋าเลย ล้อลาก 20" 2 ใบกับกระเป๋าทรงยาว 60 ซม. อีก 1 ใบ

 

โดย: latics1 29 ตุลาคม 2559 13:39:28 น.  

 

ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันชม

 

โดย: Kavanich96 30 ตุลาคม 2559 2:32:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


latics1
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]











ผลงานเป็นรูปเล่ม


บ้านของหัวใจ
(โพรเจกต์หอมลมหวน)
ปาลินี พิมพ์คำสำนักพิมพ์
v
v



คือแสงแห่งใจ
ปาลินี สนพ.อรุณ
v
v



กลลวงบ่วงหัวใจ
รีชณัีฐ สนพ.ธราธร
v
v



แทนใจด้วยรัก
ปาลินี สนพ.อรุณ
v
v



จัดหัวใจให้ลงรัก
ปาลินี สนพ. อรุณ
v
v



ในดวงตามีความรัก
รีชณัฐ สนพ. กรีนมายด์
v
v



เมื่อหัวใจได้เจอรัก
รีชณัฐ สนพ. กรีนมายด์
v
v



ซ่อนรักลวงใจ
รีชณัฐ สนพ.โซฟา
v
v



สองหัวใจแห่งรัก
รีชณัฐ สนพ.ชูการ์เรน
v
v


Friends' blogs
[Add latics1's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.