มื้อเช้าค่ะ กินตรงที่รับเช็กอิน มีที่นั่งรับคนได้ประมาณ 4-5 คน ตอนแรกก็กลัวว่าคนจะแน่นหรือเปล่า แต่เราลงมาตอน 8 โมงกว่า ไมเจอใครเลย ข้าวต้มมีก้นหม้อแล้ว ก็กินไปเรื่อย ๆ อิ่มแล้วก็ขึ้นไปเก็บของและอาบน้ำ พอใกล้ 11 โมงก็ลากกระเป๋าลงมา แล้วเดินไปซื้อข้าวกล่องไว้กินตอนเที่ยง ...เพิ่งกินไปเมื่อกี้จะกินอีกละ 555
คราวนี้รถที่ไปส่งเราเป็นรถเฟอร์จูนเนอร์ มีเรากับน้องสาวและคู่รักเกาหลี 1 คู่ เขาจะไปส่งเราที่ รร. อมารี (ขาไปรับ เราก็ต้องลากกระเป๋าตามเขามาที่ รร.นี้เหมือนกัน เพราะเขาขับเส้นใน ไม่ต้องรถติด ไม่ต้องเสียเวลากลับรถ) ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงสนามบินแล้ว
หมดค่าห้องไป 960 บาท หาร2กับน้องแล้วเหลือคนละ 480 บาท ค่าแท๊กซี่ไม่เสีย ถือว่าถูกมากทีเดียว...จริง ๆ คือจองไป 1,000 บาท แต่เราชอบเข้าไปดูห้องพักเรื่อย ๆ เผื่อจะเจอดีลพิเศษ ราคา 960 ก็ได้ดีลพิเศษมา คือตัดบัตรเครดิตก่อนเข้าพัก 5 วัน เราไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะถึงยังไงก็ต้องเข้าพัก เลยยกเลิกห้องเดิมแล้วจองใหม่ ได้ถูกกว่าเดิม 40 บาทก็ยังดี :)
ผู้ร่วมทริปเดินมหาโหดในครั้งนี้
ก่อนผ่านตม.ไทย เราจัดการข้าวเที่ยงให้เรียบร้อยกันก่อน แนะนำให้พกปากกาไปด้วย ตอนกรอกเอกสารจะได้ไม่เสียเวลา จากนั้นก็เดินเรื่อย ๆ ไปเรียง ๆ ไม่รีบร้อน
14.15 น. ตรงเวลา เครื่องก็ได้เวลาออก สัก 4 โมง เขาก็เริ่มเสิร์ฟอาหาร น้องสาวมีบัตร BBL ที่ผูกกับแอร์เอเชียเลยได้น้ำฟรีมา 1 แก้ว...จริง ๆ จะเรียกเป็นแก้วก็ไม่ถูก เรียกว่าได้น้ำมา 1 อย่างดีกว่า น้องสาวเลือกชาเขียวพร้อมขอน้ำแข็งมา 3 แก้ว :)
หลับ ๆ ตื่น ๆ จน 2 ทุ่ม เวลาญี่ปุ่น (หรือ 6 โมงกว่าตามเวลาไทย) กัปตันก็บอกให้นั่งประจำที่เพื่อเตรียมลดระดับ ตอนแรกคิดว่าถึงเร็วจัง เหลือเวลาอีกตั้งเป็นชั่วโมง บอกให้นั่งประจำที่ละ ตอนนั้นเครื่องก็ค่อย ๆ ลดระดับลงเรื่อย ๆ ก็คิดว่าคงต้องใช้เวลาแหละ เพราะตอนนั้นบินอยู่ที่ 30,000 กว่า จะให้ลดวูบทีเดียวคงมึนแย่ จน 3 ทุ่ม 40 นาที ล้อก็แตะพื้นสนามบิน ตรงเวลาดีจริง ๆ
เรานั่งกลาง ๆ ลำใกล้ห้องน้ำ ถือว่าออกมาเป็นกลุ่มแรก ๆ ก็ว่าได้ ทันรถไฟเที่ยวที่ 2 เดินตาม ๆ กันไป จน 4 ทุ่มก็ถึงตม. ตอนนั้นคนค่อนข้างเยอะ มีเปิดแค่ 1 ช่อง คิดว่าต้องรอเป็นชม.แน่ ๆ แต่สักพักก็เปิดเยอะขึ้นเป็น 6 ช่อง พอใกล้ถึงคิวเรา ตม.ที่ตรวจเฉพาะคนญี่ปุ่นก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าตรวจด้วย เราได้เข้าช่องนั้นอีกแล้ว คราวก่อนก็เข้าห้องนี้เหมือนกัน ตม.เป็นผู้หญิง ไม่ตรวจอะไรเลย อุตส่าห์ยื่นแผนการเดินทางให้ แต่ถึงดูไปก็ไม่รู้เรื่องหรอกเพราะเราทำแผนเป็นภาษาไทย 5555 มองกล้อง แสกนนิ้ว โอเค...ผ่านแผ่นดินญี่ปุ่นแล้ววววว
4 ทุ่ม 20 นาที ก็ออกมารับกระเป๋า เดินผ่านช่องแลกตั๋วเจอาร์ไปก่อน เพื่อไปจองที่นอนที่ตึก Aeroplaza โล่ง ๆ ค่ะ จับจองที่นอนกันเรียบร้อยก็เดินไปแลกตั๋ว JR พรุ่งนี้เช้าจะได้ไม่ต้องรีบตื่น
ตั๋วคราวนี้มาแปลก เขาไม่ได้เอาตั๋วติดในแผ่นพับเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะคะ
(รูปจากอินเทอร์เนตค่ะ)
เมื่อก่อนจะอยู่ในแผ่นพับแบบนี้ มีชื่อของเราด้วย เวลาหายก็ตามถูกว่าเป็นของใคร แต่คราวนี้คือให้มาแบบโล่ง ๆ ใช้วิธีการสอดเข้าช่องผ่านแทน ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเป็นของเราเลย ก็ดูแลรับผิดชอบกันไป เราทำหายด้วย ช็อกมาก แต่ก็ได้คืน ดีใจสุด ๆ เดี๋ยวจะมาเล่าค่ะว่าทำไมถึงหายได้
อ๋อ เวลาเข้าช่องผ่าน ให้สอดตั๋วเข้าเครื่องไปเลยนะคะ เอาหน้าขึ้น แต่จะเอาด้านไหนเข้าไปก่อนก็ได้ เครื่องรับได้หมด แต่สอดเข้าเครื่องของชินกันเซ็นไม่ได้นะคะ ต้องเอาไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู คิดว่าที่เขาทำแบบนี้คงเพราะขี้เกียจให้เจ้าหน้าที่มาดูแล้วมั้ง ให้สอดเข้าเครื่องไปเลย ตัดปัญหา
นอกจากนี้เขายังให้รหัสเล่น Wifi ทั่วโอซาก้ามาให้ด้วย (หรือทั่วญี่ปุ่น จำไมได้) แต่ละคนจะได้รหัสไม่เหมือนกันนะคะ จับสัญญาณได้เป็นพัก ๆ เวลาเข้าจะต้องเข้าไปยืนยันที่หน้าเว็บเข้าก่อน เข้าไม่ยากค่ะ ลองเปิดเว็บขึ้นมาก่อน เดี๋ยวมันขึ้นหน้าเว็บให้ยืนยันเอง
แลกพาสเรียบร้อย เราก็ไปเดินเล่นที่อาคารเทอมินอล เพราะเคยอ่านเจอ หลายคนจะนอนที่ชั้น 2 หน้าแฟมิลี่ เลยอยากเดินไปดูหน่อยว่าทำเลดีไหม ก็โล่ง ๆ ค่ะ คนน้อย อาจเพราะหลายคนพอจะเข้าเมืองได้หรือเปล่า คนนอนก็เลยน้อยลง จากนั้นเราก็ไปที่ชั้น 3 เพราะเห็นว่ามีร้านราเมงเปิด 24 ชม. แต่เดินไปแล้วไม่เห็นมีเลย ทุกร้านปิดหมดแล้ว
เห็นเขาจัดแสดงไว้ เลยถ่ายรูปมา
เดินจนเริ่มหิว เลยกลับไปตึกAeroplaza เพื่อหาอะไรกิน